จอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 262
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 262: ปลาที่เล็ดลอดผ่านตาข่าย
ลูหลี่นั้นไม่เคยมีความคิดที่จะสนุกในความทุกข์ทรมานของคนอื่น
แต่ที่สำคัญที่สุดคือทุกคนจะเชื่อเขาไหม?
ผู้เล่นทุกคนที่อยู่ในสายตาของเขานั้นมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ในการฆ่ามอนเตอร์ ด้วยค่าประสบการณ์มากมายและแม่พิมพ์ที่หายากต่างก็ทำให้พวกเขานั้นบ้าคลั่งขึ้น
ลูหลี่ลังเลเล็กน้อยก่อนที่เขาจะส่งข้อความถึงแฟรี่น้ำและแตนเน็ท
เขาไม่ได้อธิบายถึงรายละเอียดว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่เขาก็กล่าวว่า เขาได้ค้นพบการเคลื่อนไหวที่น่าสงสัยของผู้เล่นฝ่ายเผ่าพันธุ์และ NPC ของฝ่ายนั้นโดยบังเอิญ
ปาร์ตี้ที่มีสมาชิกสิบคนของเขานั้นก็ได้ทิ้งสถานที่ฟาร์มที่สำคัญของพวกเขาไปและในไม่ช้าก็ได้มีคนอื่นมายึดสถานที่ของเขาแทน
"นี่เป็นสถานที่ที่ดีมากเลย ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคนโง่เหล่านั้นจะยกพื้นที่นี้ให้ " ผู้เล่นที่คิดว่าตัวเองนั้นโชคดีมากที่ได้สถานที่แห่งนี้เป็นของตัวเองก็ไม่รู้สึกขอบคุณเลย แต่กลับรู้สึกผิดหวังด้วยซ้ำ
"พวกเขาอาจใช้เสบียงไปทั้งหมดแล้วก็ได้ ถ้าไม่เช่นนั้นแล้วพวกเขาจะเป็นผู้เชี่ยวชาญได้ยังไงงั้นเหรอ? บางทีพวกเขานั้นยึดสถานที่แห่งนี้ไว้นานพอแล้ว มันคงจะเป็นเรื่องของเวลาก่อนที่คนอื่นๆที่อยู่แถวนี้จะโกรธเรื่องนี้ ไม่เช่นนั้นพวกเขาคงจะไม่หนีออกไปหรอก "สหายของคนอีกคนได้ตอบกลับมา
"ไม่ใช่ว่าเรานั้นแข็งแกร่งน้อยกว่าพวกเขา ทั้งเรื่องระดับและอุปกรณ์งั้นเหรอ"
"บางทีลูหลี่คนนั้นคงจะต้องจินตนาการถึงสิ่งต่างๆอยู่แน่ๆเลย"
แตนเน็ทนั้นเห็นข้อความของลูหลี่ แต่ก็ไม่ได้เก็บมาคิดอะไรมาก
เขาเคารพผู้ที่สามารถชนะเขาได้ แต่ความภาคภูมิใจและความหยิ่งยโสยังคงอยู่
แต่เมื่อแฟรี่น้ำได้เห็นข้อความนั้น เธอก็ระมัดระวังมากขึ้น เธอทั้งหยุดการฆ่ามอนเตอร์และออกจากอาณาเขตของสมาคมของตัวเธอเอง
นอกจากนี้เธอยังเป็นโจรที่มีความคล่องแคล่วสูงซึ่งมีรองเท้าที่มีบัพความเร็วอีกด้วย ดังนั้นเธอจึงใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีในการวิ่งไปยังจุดหมายปลายทาง
"ทีมหนึ่งถึงทีมยี่สิบออกจากการต่อสู้และกลับไปที่เมืองเดียวนี้" แฟรี่น้ำได้สั่งออกไปในทันที หลังจากมองไปที่การเคลื่อนไหวของผู้เล่นฝ่ายเผ่าพันธุ์
ในฐานะหัวหน้าใหญ่ที่อยู่ในฉากเบื้องหลัง เธอก็สามารถสั่งการออกได้โดยไม่ต้องแจ้งให้หัวหน้าสมาคมทราบ
ดาวตก ซึ่งเป็นหัวหน้าสมาคมของสมาคมดิสซี่คอส ก็ได้ถามถึงเหตุผลเบื้องหลังของการกระทำของแฟรี่น้ำ เพราะว่าเธอนั้นรู้สึกสงสัยว่ามีบางสิ่งบางอย่างที่ถูกปิดบังไว้
ดาวตกนั้นได้ติดตามแฟรี่น้ำมามาหลายปีแล้วและพวกเธอก็รู้จักกันและกันในโลกความเป็นจริง อย่างไรก็ตามดาวตกนั้นไม่เคยเห็นแฟรี่น้ำปฏิบัติตามคำแนะนำของใครบางคนเช่นนี้และเธอก็ได้แต่สงสัยว่าลูหลี่สะกดเวทย์มนต์อะไรใส่เธอหรือเปล่า
ทีมหนึ่งถึงยี่สิบทีมนั้นมีสมาชิกจำนวนรวมสองพันคน พวกเธอต่างก็เป็นถึงกองกำลังระดับกลางของสมาคมดิสซี่คอส ตราบเท่าที่ทีมหนึ่งถึงยี่สิบนั้นยังคงอยู่ สมาคมนี้ก็จะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก แม้ว่าทีมอื่นๆหรือสมาชิกคนอื่นๆจะถูกกวาดล้างไปก็ตาม
ซึ่งพวกเธอต่างก็เอาไอเท็มที่ลูทได้มานั้นไปพร้อมกับพวกเธอเอง
ที่สูญเสียมากที่สุดก็คงจะเป็นค่าประสบการณ์ของพวกเธอเองและอาจจะคิดได้ว่ามันเป็นเพียงแค่โชคร้ายเท่านั้นเอง
ในตอนนี้สมาคมดิสซี่คอสได้มอบหมายให้ทีมจำนวนหกสิบทีมลงสู่สนามรบในดินแดงแห้งแล้ง ซึ่งแต่ละทีมประกอบด้วยผู้เล่นนับร้อย แต่มีเพียงยี่สิบทีมเท่านั้นที่ถูกสั่งให้ถอยกลับไป นั้นเพราะแฟรี่น้ำไม่ได้ไว้วางใจการตัดสินของลูหลี่ทั้งหมด แม้ว่าเธอจะเห็นความสับสนของฝ่ายเผ่าพันธุ์ด้วยสายตาของตัวเองก็ตาม
ในความเป็นจริงผู้เล่นฝ่ายเผ่าพันธุ์กำลังแสดงท่าทางกระสับกระส่ายด้วยตัวของพวกเขาเองต่างหาก
สมาคมเมืองหลวงแห่งเกียรติยศนั้นเป็นผู้นำสูงสุดเหนือทุกคน ทุกสมาคมต่างก็ทำตามคำสั่งของพวกเขาโดยไม่คำนึงถึงชื่อเสียงของพวกเขาเอง
ประมาณหนึ่งชั่วโมงที่ผ่านมา ซอโรวเลสได้เริ่มแปรขบวนของผู้เล่นฝ่ายเผ่าพันธุ์จากสมาคมใหญ่ต่างๆ เขาขอให้พวกเขาเคลื่อนย้ายไปทางทิศใต้แล้วกลับมา จากนั้นก็ทำไปมาอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีที่สิ้นสุด
ถ้าเจ้ามังกรโลกผู้ซึ่งเป็นบอสใหญ่ของสมาคมธงสงครามสีเลือดสั่งผู้เล่นฝ่ายพันธมิตรด้วยกัน แม้แต่สมาคมขนาดกลางก็คงจะไม่เชื่อฟังคำสั่งของเขา
มีบางคนถามถึงเหตุผลของการสั่งแบบนี้ของซอวโรวเลส แต่เขาก็ไม่ได้สนใจพวกเขา ในความเป็นจริงเขาแปรขบวนคนของเขาบ่อยยิ่งกว่าของคนอื่นเสียอีก
เนื่องจากการถามถึงเหตุผลในการทำแบบนี้ไม่ได้ผล ทุกคนจึงเงียบและทำตามที่ได้สั่งมา
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาสมาคมเมืองหลวงแห่งเกียรติยศได้เติบโตขึ้นทั้งด้านอำนาจและอิทธิพล ทุกคนที่กล้าที่จะต่อต้านพวกเขาก็ได้หายไปทีละคนโดยไม่มีความเมตตา
หลังจากผ่านชั่วโมงแห่งความพยายามไปแล้ว ก็ยังไม่มีใครสามารถคิดได้ว่าซอวโรวเลสกำลังพยายามทำอะไรกันแน่
ดั่งเช่นธงที่โบกสะบัดไปมา ผู้เล่นที่ทำเช่นนี้มีจำนวนถึง 700,000-800,000 คน ซึ่งต่างก็มาจากทีมระดับสูงของสมาคมขนาดใหญ่และขนาดกลาง แต่จริงๆแล้วมันคือการล้อมรอบดินแดนแห้งแล้งด้วยการสร้างภาพที่เหมือนกับกำลังสับสนอยู่ต่างหาก
นี่คือแผนการของเขาตั้งแต่เริ่มแรก การเปลี่ยนแปลงสถานที่และผู้คนไปเรื่อยๆอย่างต่อเนื่องก็เป็นไปเพื่อการนี้
เมื่อแผนการได้ดำเนินการเริ่มต้นแล้ว การเคลื่อนย้ายทัพทั้งหมดก่อนหน้านี้จะดูเหมือนจะเป็นการเคลื่อนไหวที่ชาญฉลาดและมีวิสัยทัศน์ที่ดีมากหากสังเกตุดีๆ
พวกเขาใช้เวลาเพียงยี่สิบนาทีในการล้อมรอบดินแห้งแล้งซึ่งเป็นแผนที่ขนาดใหญ่ที่มีความจุผู้เล่นสูงสุดไม่กี่ล้าน การวิ่งจากปลายด้านหนึ่งของแผนที่ไปอีกมุมหนึ่งจริงๆแล้วจะต้องใช้เวลาถึงหลายชั่วโมง
ซึ่งแม้แต่ NPC ยังร่วมมือกับซอโรวเลสและแปรขบวนทัพพร้อมกับเขา
ลูหลี่นั้นไม่ใช่คนขี้ขลาดตาขาว เขาจะไม่ถอยออกไปโดยทันที หากการสู้รบนี้มีเพียงผู้เล่นเท่านั้นที่เข้าร่วม
อย่างไรก็ตามในคราวนี้มี NPC ถึง 100,000 คนเข้าร่วมกองกำลังกับฝ่ายเผ่าพันธุ์
หรือในอีกความหมายหนึ่ง มีออร์คไรเดอร์มากกว่าหนึ่งแสนตัวที่ได้เข้าร่วมด้วย นี่คือกองกำลังที่สำคัญที่สุดของอัศวินเหล็ก
ถ้าหากจะใช้ความรู้ที่ลูหลี่รู้มาจากชาติก่อน เพียงแค่หน่วยเดียวจากอัศวินเหล็ก อย่างน้อยจะมีระดับเป็นระดับหัวหน้าที่มีเลเวลถึง 50 อีกทั้งรองหัวหน้ายังเป็นถึงบอสและทหารทุกคนในกองกำลังนั้นยังมียศด้วย ......
ไม่มีทางที่เขาจะสามารถต่อสู้กับมันได้เลย
ถ้าไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่าระบบต้องการให้โบนัสแก่ผู้เล่น ไม่มีทางใดเลยที่กองกำลังเซนทอร์ที่มี LV เพียงแค่ 20 จะสามารถขัดขืนกองกำลังอัศวินเหล็กได้ ความแตกต่างระหว่างความแข็งแกร่งของกำลังทั้งสอง นั้นไม่ใช่สิ่งที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้โดยจำนวน
เมื่ออัศวินเหล็กได้ออกมาจากเมืองดูโรตาร์ ชะตากรรมของเหล่าเซนทอร์นั้นจะจบลงตรงที่นั้น
อย่างไรก็ตามผู้เล่นก็ยังไม่มีเงื่อนงำใดที่จะบอกได้ว่าซอวโรวเลสรับเควสลับจากออร์ค NPC แล้ว เขาจะถูกขอให้ร่วมมือกับอัศวินเหล็กในการขับไล่ผู้บุกรุกทั้งหมดออกจากดินแดนแห้งแล้ง
ซึ่งฝ่ายพันธมิตรเองยังอยู่ในรายชื่อของผู้บุกรุก
ณ บนยอดเขาสูง ลมได้พัดผ่านลูหลี่ไปขณะที่เขามองดูควันสงครามที่เกิดขึ้นในดินแดนแห้งแล้ง
ผู้เล่นระดับสูงไม่กี่แสนคนจากฝ่ายพันธมิตรพร้อมกับผู้เล่นธรรมดามากมายนับไม่ถ้วนต่างก็ถูกสังหารลงไปเช่นปศุสัตว์
เมื่อเขาอ่านบทความจากอดีตที่บรรยายเหตุการณ์นี้ เขาก็คิดว่าพวกเขาพูดเกินจริงและดูสับสนมากเพราะรุ่งอรุณเป็นเกมที่ยอดเยี่ยม ไม่มีทางที่พวกเขาจะสร้างให้สงครามข้างเดียวแบบนี้เกิดขึ้นมาได้
อย่างไรก็ตามตอนนี้เขาได้เห็นเรื่องนี้ด้วยดวงตาของตัวเองแล้ว
สิ่งนี้ทำให้เขาเข้าใจหลายสิ่งที่เขาไม่สามารถเข้าใจได้จากในอดีต
รางวัลจาก 'การบุกรุกของเหล่าเซนทอร์' นั้นไม่ได้ดีเท่ากับของรางวัลจากการสู้รบที่ด่านหน้าเมอิสเนร่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งค่าประสบการณ์ ณ ตอนนั้น อาเซอร์ซีบรีสเกือบจะได้รับค่าประสบการณ์ที่มากพอที่จะทำให้เขาเพิ่มระดับได้ถึง 2 ระดับ
แต่ค่าประสบการณ์ที่ได้รับจากอีเวนท์นี้น้อยเป็นอย่างมาก
ส่วนแม่พิมพ์ระดับเงินพวกเขานั้นได้มามากพอสมควร ซึ่งมันไม่เหมือนกันสำหรับผู้เล่นคนอื่นๆ โดยรวมแล้วเกมนี้จึงยังคงค่อนข้างสมดุลอยู่
อย่างไรก็ตาม!
ในระหว่างเหตุการณ์สู้รบที่ด่านหน้าเมอิสเนร่าเกิดขึ้น ผู้เล่นของฝ่ายพันธมิตรได้ใช้อุปกรณ์ทั้งหมดไป แต่ในการบุกของเหล่าเซนทอร์ ไอเท็มแลค่าประสบการณ์นั้นได้รับทั้งสองฝ่าย
นี่จึงเป็นช่องว่างที่มองไม่เห็นระหว่างฝ่ายต่างๆ
เพื่อที่จะลดช่องว่างนี้ออกไป ระบบจึงได้ทำการสร้างเควสพิเศษออกมา
ผลที่ตามมาคือการร่วงหล่นของผู้เล่นฝ่ายพันธมิตรนับไม่ถ้วนในดินแดนแห้งแล้ง
ลูหลี่มองไปทั่วๆและรู้สึกว่าเขานั้นไร้กำลัง ไม่มีอะไรแล้วที่เขาสามารถทำให้สถานการณ์ในตอนนี้ดีขึ้นได้ ดังนั้นเขาจึงกลับไปที่เมือง
ที่ด้านล่างนั้นมีออร์คระดับสูงมากเกินไป ซึ่งได้ทำให้เขาไม่สามารถได้รับไอเท็มอะไรจากข้างล่างได้
อีกทั้งเขายังไม่สนใจที่จะลอบสังหารซอวโรวเลสอีกด้วย
ซอวโรวเลสไม่เคยทำร้ายลูหลี่ ดังนั้นเขาจึงไม่มีความสนใจในการฆ่าเขา
เพื่อให้ผ่อนคลายลง ลูหลี่ก็ได้คิดว่าตัวเขานั้นทำได้ดีที่สุดแล้ว
อย่างน้อยที่สุดสมาคมดิสซี่คอสก็ได้ลดการสูญเสียของพวกเธอด้วยคำเตือนของเขา ไม่เพียงแต่พวกเธอสามารถเก็บแม่พิมพ์ของพวกเธอไว้ได้ แต่พวกเธอยังสามารถรักษาสมาชิกกว่าสองพันคนไว้ได้
ในตอนแรกนั้นแตนเน็ทไม่เชื่อคำแนะนำของเขาแต่อย่างใด แต่เมื่อสายลับของสมาคมสวรรค์ชั้นเจ็ดที่อยู่ในสมาคมดิสซี่คอส ได้รายงานข่าวเกี่ยวกับการล่าถอยของแฟรี่น้ำ เขาก็เริ่มประเมินความสำคัญของคำเตือนของลูหลี่
ไม่ได้มีเพียงแต่สมาคมสวรรค์ชั้นเจ็ดเท่านั้นทีมีสายลับในสมาคมดิสซี่คอส พวกเขายังมีสายลับที่อยู่ในฝ่ายตรงข้ามอีกด้วย นี้ทำให้พวกเขาต้องมีผู้เล่นในโลกความเป็นจริงที่เล่นเป็นฝ่ายเผ่าพันธุ์ด้วย ซึ่งพวกเขาก็ต้องได้รับเงินเดือนเช่นกัน สิ่งที่พวกเขาต้องนำมาแลกกับเงินก็คือข้อมูล
สายลับเหล่านี้อยู่ในฝ่ายเผ่าพันธุ์และได้รายงานสถานการณ์ดังกล่าวกลับมา ซึ่งทำให้แตนเน็ทเริ่มรู้สึกกังวลว่ามีบางอย่างผิดปกติเกี่ยวกับซอวโรวเลส
ตามหลักความปลอดภัยที่ต้องมาก่อน สมาคมสวรรค์ชั้นเจ็ดก็ได้ให้กลุ่มผู้เล่นระดับสูงสิบทีมของพวกเขาล่าถอยออกไป
แน่นอนว่าทีมระดับสูงเหล่านี้ได้นำไอเท็มที่ลูทมาได้กลับไปพร้อมกับพวกเขา
ซึ่งสมาคมๆหนึ่งจะมีสายลับอย่างน้อยหนึ่งคนในสมาคมอื่น ทุกๆคนต่างก็ได้ตระหนักถึงการกระทำที่สมาคมสวรรค์ชั้นเจ็ดและสมาคมดิสซี่คอสได้ทำ และเมื่อพวกเขาได้ล่าถอยกลับไป สมาคมต่างๆก็ได้ถามว่าทำไมถึงทำเช่นนั้น
แตนเน็ทละแฟรี่น้ำไม่ได้กล่าวถึงอะไรที่เกี่ยวกับลูหลี่เลย ทั้งหมดที่พวกเขากล่าวก็คือ พวกเขาได้สังเกตเห็นถึงการกระทำแปลกๆของฝ่ายตรงข้าม
เช่นนั้นแล้วผู้เล่นจากสมาคมต่างๆจึงทำตามการกระทำของพวกเขาและมีบางส่วนของทีมระดับสูงของพวกเขาล่าถอยออกมา
