จอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 258
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 258: เดินทางสู่ดินแดนแห้งแล้ง
เมื่อผู้เล่นฝ่ายเผ่าพันธ์กำลังต่อสู้กับมอนเตอร์อยู่ จะมีอะไรบ้างนะที่ผู้เล่นฝ่ายพันธมิตรจะสามารถทำได้?
พวกเขาสามารถขโมยฝูงมอนเตอร์ได้ไงล่ะ!
แน่นนอนว่ามันคือการ PVP!
ในคราวนี้ การดรอบทุกอย่างของมอนเตอร์พวกนี้จะเหมือนกับบอสป่าทั่วไป หากมีใครสักคนที่หยิบไอเท็มขึ้นมาและถูกฆ่าตายภายในสามนาที จะดรอบไอเท็มนั้นลงมา และผู้เล่นจะไม่สามารถกลับไปยังเมืองได้ภายใน 5 นาทีหลังจากหยิบไอเท็มที่ดรอบนั้นขึ้นมา
หากคุณกำลังหยิบไอเท็มขึ้นมา คุณก็อ่อนแอในทันที
ในตำนานของเกมรุ่งอรุณ เหล่าเซนทอร์นั้นมักจะโหดร้ายและหงุดหงิดได้ง่าย พวกเขาสามารถพบได้เนื่องจากอยู่กระจายไปทั่วทวีปคาลิมดอร์ใน ดินแดนแห้งแล้ง มัลกอร์และดูโรตาร์
โดยทั่วไปแล้วพวกเขาคิดว่าพวกเขาเป็นลูกหลานของ ซีทาร์และธาตุที่ชั่วร้ายที่สุด เจ้าหญิงเทราธัส
ซีทาร์เป็นเทพและเป็นลูกชายของเซนาเรียส เขาและภรรยาของเขาเจ้าหญิงเทราธัสได้สร้างการแข่งขันของเหล่าเซนทอร์ขึ้นมา และในท้ายที่สุดซีทาร์ก็ได้ถูกฆ่าตายโดยลูกชายเซนทอร์ของเขา แต่เจ้าหญิงเทราธัสก็ได้นำวิญญาณของเขาเข้ามาสู่ร่างกายของเธอ
อย่างไรก็ตามการทำเช่นนั้นกับเทพ ก็เหมือนกับการดูหมิ่นเซนาเรียสด้วย
หลังจากเกิดเหตุการณ์นั้น ไนท์เอลฟ์และเซนทอร์ก็ได้เป็นศัตรูกัน
นี่เป็นเรื่องที่ส่งผลอย่างยิ่งกับทารัส ความเกลียดชังของพวกเขาต่อเหล่าเซนทอร์นั้นได้ฝังรากลึกลงในใจของพวกเขา เช่นนั้นแล้วเมื่อเผ่าพันธุ์ทั้งสองได้เห็นหน้ากันและกัน พวกเขานั้นจะฆ่าอีกเผ่าพันธถ์อย่างไร้ความปราณี
อย่างไรก็ตามคราวนี้กองทัพเซนทอร์เดินเข้าไปในเมืองดูโรตาร์ด้วยความตั้งใจที่จะทำลายเมืองออกิมมาร์ นี่คือการแก้แค้นของหัวหน้าซาร์เพื่อช่วยให้เหล่าทารัสสามารถฆ่าศัตรูของพวกเขาได้
ตอนนี้ดินแดนแห้งแล้งกำลังจะเป็นสนามรบหลัก ผู้เล่นต่างก็ต้องซุ่มโจมตีกองทัพอยู่ที่นี่
เมื่อเหล่าเซนทอร์ได้เข้าสู่ออกิมมาร์ เควสนี้จะถือว่าล้มเหลว และหลังจากนั้นผู้เล่นจะไม่สามารถเข้าเมืองของตัวเองได้ด้วย
เซนทอร์มีเลเวลอยู่ในช่วง 20-23 ซึ่งถือว่าสูงกว่าฝูงมอนเตอร์ที่เคยมาโจมตีในด่านหน้าเมอิสร่าในระดับหนึ่ง
ส่วนค่าสถานะของเซนทอร์ (เลือด พลังโจมตี พลังป้องกัน) สูงกว่ามอนสเตอร์ทั่วไป แต่จมันะให้ EXP เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า ซึ่งนั้นเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้เล่นมากมายกำลังบ้า
นอกจากนี้อัตราการดรอบลงของพวกมันถือว่าเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์
ไอเท็มระดับเหล็ก ไอเท็มระดับเงินและแม่พิมพ์ทั้งหมดสามารถดรอบได้จากฝูงมอนเตอร์เหล่าีน้โดยตรง ซึ่งมันไม่เหมือนกับที่ด่านหน้าเมอิสเนร่า ที่ระบบจะเป็นคนให้รางวัลเอง
ถ้าไม่ใช่เพราะอีเวนท์นี้แล้ว การที่จะเห็นมอนสเตอร์ที่สามารถดรอบแม่พิมพ์ระดับเงินคงจะไม่สามารถจินตนาการเห็นได้
เมื่อมีการประกาศเรื่องนี้ออกมา มันไม่ใช่แค่ผู้เล่นฝ่ายเผ่าพันธุ์เท่านั้นที่ตื่นเต้นกับเรื่องนี้ ผู้เล่นของฝ่ายพันธมติรก็ไม่สามารถนิ่งนอนใจได้เช่นกัน
เราอาจสามารถขโมย EXP และอุปกรณ์บางอย่างมาได้จากอีเวนท์นี้ อีกทั้งบริษัทเกมยังไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับการที่ว่าเราซึ่งเป็นผู้เล่นของฝ่ายพันธมิตรไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมกิจกรรมของฝ่ายเผ่าพันธุ์ นอกจากนี้เมื่อตอนที่เรากำลังปกป้องด่านหน้าเมอิสเนร่าอยู่ พวกฝ่าเยผ่าพันธุ์ก็ยังวิ่งวุ่นเข้ามาและมาร่วมในเหตุการณ์นั้นด้วยไม่ใช่เหรอ?
ขณะที่ข่าวดังกล่าวได้แพร่กระจายออกไปดั่งสายลม ผู้คนจำนวนมากต่างก็รีบวิ่งมายังหุบเขาวอซองแห่งนี้
"ลูหลี่ ไปกันเถอะ เราทุกคนกำลังรอคุณอยู่ "อาเซอร์ซีบรีสตะโกนออกมาอย่างกระตือรือร้น "ไปทำให้พวกมันเห็นกันเถอะ!"
"ฮ่าฮ่า! " ลูหลี่ยิ้มกลับไปที่เขาด้วยความดูถูก
"เว้นเสียแต่ว่ามีรายละเอียดบางอย่างที่เราพลาดไปใช่ไหม?" เมื่ออาเซอร์ซีบรีสได้ถูกมองแบบนั้นโดยลูหลี่ เขาจึงไม่รู้สึกกังวลอะไรอีก [เพราะว่าลูหลี่รู้ว่าจะมีปัญหาอะไรจะเกิดขึ้น]
"ฉันไม่รู้ว่าพวกนายเคยไปที่อีกฟากหนึ่งของหุบเขาวอซองไหม แต่นายเคยเห็น NPC ออร์คหรือทารัสหรือเปล่า? " ลูหลี่ถามกลับไป
"ไม่เชิง พวกเขามีเลเวลที่สูงงั้นเหรอ? " แม้แต่มูนไลท์ก็ไม่เคยเห็นมาก่อน
"พวกเขาเป็น NPC ระดับหัวหน้ามีเลเวล 30 ดังนั้นถ้าเราไปและโจมตีใส่พวกเขา ไม่ใช่ว่าเรากำลังจะถามหาความอยู่อย่างงั้นเหรอ? " ลูหลี่ตอบกลับไปด้วยความโกรธ
ในหมู่ออร์คนั้นมีกลุ่มนักรบคลั่งจำนวนมาก เหล่านักรบคลั่งสามารถพบได้ทั่วทั้งทวีปอาเซรอธ อีกทั้งทักษะลมกรดซึ่งเป็นหนึ่งในทักษะของนักรบคลั่งก็สามารถทำให้ผู้เล่นคนอื่นๆตกอยู่ในความกลัวได้
อีกทั้งกองกำลังออร์คเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของอัศวินเหล็ก ครั้งสุดท้ายที่ลูหลี่ได้เห็นพวกเขา พวกเขามีเลเวล 20-30 แต่ตอนนี้พวกเขาควรจะมีเลเวลอย่างน้อย 30 นอกจากนี้ยังมีนักบวชสงครามและนักธนูปีศาจซึ่งมีเลเวล 40 อีกด้วย [นักบวชสงคราม คลาสผสมระหว่างนักรบและนักบวช]
หากผู้เล่นธรรมดาทุกคนวิ่งเข้าไปที่นั่น พวกเขาอาจจะระเหยกลายเป็นไอเลือดในทันที
ผู้เล่นนั้นจะไม่สูญเสีย EXP หากตายในหุบเขาวอซอง แต่ผลพิเศษดังกล่าวนั้นจะหายไป เนื่องจากในเหตุการณ์นั้นจะไม่ถือว่าพวกเขาอยู่ในหุบเขาวอซองอีกต่อไป นอกจากนี้หากตายไอเท็มของพวกเขายังตกลงได้อีก ซึ่งตามจริงแล้ว ลูหลี่นั้นก็ไม่ได้คิดที่จะรีบวิ่งไปข้างหน้าและกลายเป็นทหารเนื้ออยู่แล้ว
"แล้วยังไงล่ะ? เราควรจะยืนมองอยู่ข้างๆแค่นั้นเหรอ? " อาเซอร์ซีบรีสถามก่อนที่จะคิดได้ว่า "โอ้เดียวก่อนนะ เราสามารถเทเลพอร์ตไปยังเมืองหวายได้นี้หน่า"
"หยุดฝันได้แล้ว" พเนจรตอบกลับมาโดยที่หยุดความคิดของอาเซอร์ซีบรีสอย่างสมบูรณ์ "ช่องทางเทเลพอร์ตถูกปิดแล้ว นายคิดว่าระบบโง่เหมือนนายงั้นเหรอ? "
"พวกเราจะทำอะไรกัน? พวกเราจะทำอะไรกันล่ะ?" ด้วยค่าประสบการณ์และอุปกรณ์ที่มีเป็นเดิมพัน อาเซอร์ซีบรีสก็ได้พยายามคิดแผนอย่างจริงจัง
"เราทำได้เพียงแค่รอ ตอนนี้ผู้เล่นคนอื่นๆกำลังกังวลมากกว่าที่เราเป็นอยู่ด้วยซ้ำ "
ในที่สุด ลูหลี่ก็ได้เดินเข้ามาและเจอกับทีมของเขาในจุดนัดพบเสียที
ในเวลานี้ผู้เล่นหลายคนที่ได้ถูกฆ่าตายก็ได้กลับมาเกิดใหม่อีกครั้ง บริเวณจุดเกิดของด่านหน้าปีกเงินก็ได้เต็มไปด้วยผู้เล่นที่สาปแช่ง NPC ที่มีพลังมากจนเกินไป ทั้งหมดนี้จึงได้พิสูจน์ว่าคำกล่าวของลูหลี่นั้นเป็นเรื่องจริง
"อีกไม่นานสมาคมใหญ่ๆก็จะเริ่มรวบรวมปาร์ตี้เพื่อกำจัดอุปสรรคนี้ออกไป" มูนไลท์กล่าวออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ
"แต่พวกเขายังไม่ได้ทำอะไรเลยสิน่ะ" ในตอนนี้อาเซอร์ซีบรีสเพิ่งทราบว่าท่ามกลางผู้เล่นที่อยู่ในหุบเขาวอซองมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ใส่สัญลักษณ์ของกิสมาคม
"พวกเขากำลังรอดูว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับผู้เล่นธรรมดาๆ พวกนี้ต่างหาก" พเนจรกล่าวพร้อมเสียงหัวเราะ "พวกเขาอาจจะมีแนวโน้มที่จะเชื่อว่าผู้เล่นธรรมดาทั่วไปนั้นอ่อนแอ แต่ความคิดนี้ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงมาหลายปีแล้ว "
ลูกชิ้นงานั้นตกอยู่ในความเงียบ เขาต้องการที่จะปฏิเสธทั้งสองประโยคว่ามันไม่จริง แต่เขาพบว่าตัวเขาเองนั้นเชื่อมั่นในตัวพวกเขา
"เราจะไปเป็นกลุ่มของเราเอง"
แม้ว่าอาเซอร์ซีบรีสเป็นนักเล่นเกมที่มีประสบการณ์ แต่เขาก็ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย บางทีเขาอาจจะขี้เกียจเกินไปที่จะนึกถึงเรื่องนี้ เพราะเวลาที่เขาใช้ส่วนใหญ่ในแต่ละวันมีแต่การ เพิ่มระดับและการเพิ่มระดับ....
"ในสายตาของพวกเขา กลุ่มผู้เล่นที่มีสามารถสนับสนุนพวกเขาได้ ก็คงจะมีแต่กลุ่มผู้เล่นระดับสูงของพวกเขาเอง ส่วนผู้เล่นทุกคนที่อยู่นอกสมาคมนั้นก็... "ลูกชิ้นงากล่าวด้วยความสับสนขณะนั่งขัดสมาธิอยู่บนพื้น
"ในสายตาของพวกเขาเราเป็นเพียงทหารเนื้อ แต่ฉันไม่รู้ว่าใครเป็นคนที่ทำให้พวกเขามีความรู้สึกมั่นใจว่ามันเป็นเช่นนั้นกันแน่ "ดอกไม้อ้างว้างกล่าวออกมาโดยไม่ได้คาดคิดไว้เลยว่าใบหน้าของเขาตอนนี้นั้นน่ารังเกียจมาก
นับตั้งแต่ที่เขาได้รับการเคลียร์ครั้งแรกมาหลายครั้ง ความไม่แยแสของเขาก็ได้ขึ้นไปถึงระดับที่สูงขึ้น ยกเว้นน้องของเขาแล้ว ทุกคนล้วนเป็นเพียงแค่ขยะในสายตาของเขา
"ดอกไม้ นายพูดถูกนะ แต่ผู้เล่นเหล่านี้ก็เป็นทหารเนื้อสำหรับพวกเราเช่นกัน ดูท่าว่าพวกเขาจะไม่สามารถอดทนรอได้อีกต่อไปแล้ว"ลูหลี่กล่าวขณะที่ชี้ไปยังจุดที่อยู่ไกลๆเขา
กลุ่มผู้เล่นจากสมาคมต่างๆก็กำลังเดินทัพเข้าสู่หุบเขาวอซอง
"ฝ่ายเผ่าพันธุ์ก็ดูเหมือนเตรียมพร้อมที่จะรับมือกับสงครามครั้งนี้อยู่เช่นเดียวกัน ดูท่าว่าพวกเขาคงจะไม่สามารถอดทนรอได้อีกต่อไปแล้ว เรามาลองตามพวกเขาเข้าไปกันเถอะ"
มูนไลท์หยิบขวานของเขาขึ้มานและดวงตาของเขาก็เริ่มเรืองแสงสีแดงที่ดูน่ากลัว
คนๆนี้กำลังกระหายการต่อสู้ เลือดของเขากำลังเดือดพล่านด้วยความตื่นเต้น
อย่างไรก็ตามไม่ใช่เพียงแค่เขาเท่านั้น ทั้งกลุ่มผู้เล่นระดับสูงของสมาคมก็ได้ส่ายดาบไปมาด้วยความคาดมุ่งหมายเดียวกัน
ระดับเลเวล อุปกรณ์และความห่างระหว่างจำนวนของพวกเขานั้นได้สร้างความแตกต่างของการต่อสู้ระหว่างออร์คและผู้เล่นขึ้น โดยแตกต่างจากเหตุการณ์เมื่อกี้แล้วอย่างสิ้นเชิง แม้ว่าจะมี ทารัสซึ่งเป็นนักบวชสงครามเลเวล 40 แต่หลอดเลือดของเขาก็ได้ลดลงไปอย่างรวดเร็วราวกับท่อน้ำแตก
ถ้าหากถ้ำโหยหวนไม่ได้จำกัดให้มีผู้เล่นเพียง 10 แล้วละก็ บอสทุกตัวคงจะเจอเหตุการณ์ที่เลือดไหลราวท่อน้ำแตกเช่นเดียวกับเหตุการณ์นี้ ซึ่งนั้นจะทำให้บอสทุกตัวไม่มีอันตรายใดๆ
ลูหลี่และคนอื่นๆต่างก็ตามหลังกองกำลังขนาดใหญ่นี้ ขณะที่พวกเขาเดินข้ามแนวป้องกันของหุบเขาวอซองและเดินเข้าไปในดินแดนแห้งแล้ง
พวกเขาไม่รู้ว่าซอโรวเลสกำลังคิดอะไรอยู่ แต่ไม่มีผู้เล่นคนใดจากฝ่ายเผ่าพันธุ์ที่ซุ่มโจมตีกองกำลังนี้เลย ดังนั้นผู้เล่นนับร้อยนับพันของฝ่ายพันธมิตรจึงสามารถเข้ามายังดินแดนแห้งแล้งโดยไม่มีอะไรมากขัดขวาง
การรุกรานของเหล่าเซนทอร์ได้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว