จอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 247
ติดตามอ่านนิยายเพิ่มเติมของผู้แปลและนิยายทุกตอนได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 247: พบแคโรไลน่าอีกครั้ง
"นายพูดถึงนี้งั้นเหรอ" ลูหลี่กล่าวขณะที่ดึงค้อนแห่งการสร้างสรรค์ออกมา
เขาไม่มีเหตุผลที่จะต้องซ่อนมัน ผู้เล่นทั้งหลายนั้นมักจะถูกฆาตกรรมเพราะอุปกรณ์อยู่เสมอ แต่ไม่มีใครที่จะสามารถฆ่าช่างตีเหล็กเพื่อค้อนได้
โดยทั่วไปผู้เล่นคนอื่นๆจะไม่พยายามก่อกวนผู้เล่นที่มีค้อนแห่งการสร้างสรรค์ การฆ่าผู้เล่นอย่างนั้นจะไม่มีประโยชน์เนื่องจากค้อนจะไม่ถูกนำมาใช้งาน ผู้เล่นส่วนมากจึงมักจะเก็บค้อนไว้ในโกดังและจะเอาออกมาเฉพาะตอนที่พวกเขาจะใช้มัน
"โอ้ว้าว ไม่น่าแปลกใจเลยที่นายสามารถสร้างอุปกรณ์ที่ดีแบบนั้นได้ ฉันคาดว่าเกราะและอาวุธในอนาคตของเราคงจะขึ้นอยู่กับนายทั้งหมด "พเนจรกล่าวอย่างตรงไปตรงมา
คนอื่นๆอาจจะไม่เข้าใจ ยกเว้นก็แต่พเนจรผู้ซึ่งเคยศึกษาทักษะตีเหล็กมาอย่างคร่าวๆ
ถ้าค้อนตัวนี้สามารถขายได้ก็คงจะเรียกราคาที่ขายได้ว่าเป็นราคาที่ท้าทายสวรรค์ เพราะว่านี้เป็นถึงค้อนที่สามารถสร้างไอเท็มแบบประณีตได้
"พวกนายทุกคนมีหินลับมีดและนายก็ยังมีวัสดุที่ฉันต้องการอีกด้วย หากนายต้องการให้ฉันตีเหล็กและมีวัสดุที่ต้องการครบถ้วน ฉันจะทำมันให้นายเอง" ลูหลี่นั้นไม่คิดที่จะใช้เวลาให้เสียเปล่าในการทำอุปกรณ์ให้กับสมาชิกในปาร์ตี้ของเขา
นี่คือสิ่งที่ปาร์ตี้ทั่วไปควรจะเป็น ทุกๆคนต่างก็พยายามอย่างเต็มที่เพื่อบรรลุเป้าหมายร่วมกัน
ความแข็งแกร่งของปาร์ตี้ไม่ได้ถูกกำหนดขึ้นโดยความแข็งแกร่งของแต่ละคนเพียงเท่านั้น แต่มันขึ้นอยู่กับความสามัคคีของสมาชิกในปาร์ตี้อักด้วย
"นายช่วยเราสร้างอุปกรณ์โดยที่จะต้องแลกกับวัสดุหายากงั้นเหรอ? ทั้งหมดที่นายต้องการก็แค่ค้อนนั้น ... "ดวงตาของพเนจรสว่างขึ้นในขณะที่เขากำลังคิดถึงวัสดุหายากที่มีอยู่ในปัจจุบัน
"หยุดฝันได้แล้ว"ลูหลี่ปฏิเสธอย่างเด็ดขาด "ฉันไม่ได้มีเวลามากพอและใครมันจะไปรู้กันว่าอุปกรณ์ที่ได้รับมานั้นจะต้องการวัสดุอะไรบ้าง?"
"ฉันได้ข่าววงในจากสมาคมดิสซี่คอส ฉันได้ยินว่านายและแฟรี่น้ำมีอะไรกันสักอย่าง ฉันแน่ใจว่านายจะต้องทำอุปกรณ์ให้เธอใช่ไหม? " พเนจรถามกลับมามาถามด้วยรอยยิ้ม
"เราคุยกันเพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้น" ลูหลี่กล่าวในขณะที่การแสดงออกของเขานั้นเปลี่ยนไป
ผู้หญิงสวยๆอย่างแฟรี่น้ำมักจะถูกปฏิเสธไม่ใช่เพราะเธอนั้นไม่สวยพอ แต่เพราะเธอสวยมากเกินไป ผู้คนมักจะรู้สึกแปลกแยกเวลาอยู่ใกล้กับเธอ
"จะทำอย่างไรงั้นเหรอ ถ้าเธอมีวัสดุที่เราต้องการอย่างช่วยไม่ได้?" พเนจรกล่าวกดดันเขาไปอีก
"ฉันจะตีเหล็กได้สูงสุดสามครั้งต่อวัน แต่นายต้องเป็นคนจัดหาวัสดุของตัวนายเอง" ลูหลี่ได้คิดอย่างรวดเร็วว่าการตีเหล็กไอเท็มสามชิ้นนั้นจะใช้เวลาถึงหนึ่งชั่วโมง เขาคิดว่านี่เป็นความสูญเสียที่สามารถยอมรับได้
"ก็ฉันบอกอยู่นี่ไง! มันจะไม่คุ้มค่าเลยถ้าไอ้การตีเหล็กนี้มันง่าย"ในที่สุดพเนจรก็พยักหน้าและตกลง
หลังจากที่แยกตัวออกมาจากสมาชิกทีมไปแล้ว ลูหลี่ก็ได้เริ่มกลับไปที่เมืองและเดินทางไปยังสถานที่ๆแรกที่เขาได้เข้ามาในเกมนี้ หุบเขาแห่งความมืดมิด
ต้นไม้ของหุบเขาแห่งความมืดนั้นมีสีดำเหมือนกับท้องฟ้า ส่วนใบของพวกมันส่วนใหญ่ก็เป็นสีม่วงแดง
พื้นดินถูกปกคลุมไปด้วยหญ้าหยกสีเขียว ซึ่งมันก็ถูกปกคลุมไปด้วยเม็ดสีแดงเข้มและดอกลาเวนเดอตาม หมูป่าและเสือดำนั้นสามารถถูกมองเห็นได้ทั่วบริเวณพื้นที่สีเขียวนี้ มันเป็นภาพที่ดูกลมกลืนกันอย่างแท้จริง
ในระยะไกลนั้น หมอกสีม่วงได้ย้อมสีของภูเขาและป่าจนทำให้มันดูเหมือนเป็นสีเหลืองอำพันแปลกๆ
นี้คือยามเย็นของเกมรุ่งอรุณ ที่มีแสงแดดสาดส่องผ่านหมอกสีม่วง
ผู้เล่นนับไม่ถ้วนได้ออกไปจากสถานที่แห่งนี้อย่างต่อเนื่อง บางคนก็พึ่งออกไปจากที่นี้เป็นครั้งแรก ในขณะที่บางคนได้ออกไปจากที่นี้ก็เพราะเสียชีวิตในป่า บางคนก็รู้สึกสับสน ตื่นเต้นหรือผิดหวัง มันช่างเป็นรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของชีวิตเสียจริงๆ
ชุดเกราะที่มีสีดำของลูหลี่รวมถึงแหวนและสร้อยคอได้ทำให้คนรอบๆรู้ได้เลยว่าเขาไม่ใช่ผู้เล่นใหม่ เมื่อเห็นดังนั้นแล้ว คนกลุ่มหนึ่งก็เริ่มรวมกลุ่มรอบตัวเขาทันที
"ผู้เชี่ยวชาญพาฉันไปฟาร์มที ฉันจะจ่ายเงินให้คุณ 100 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง มันพอได้ไหม? "
"ผู้เชี่ยวชาญคุณพอมีอุปกรณ์เสริมพอที่จะให้ฉันได้หรือไม่? ฉันต้องการมันด่วนมาก"
"ผู้เชี่ยวชาญฉันขอยืมเหรียญทองเพื่อซ่อมแซมอุปกรณ์ของฉันได้หรือไม่? ฉันจะคืนให้คุณแน่ๆเมื่อฉันมีเงิน "
ลูหลี่ได้สำรวจสภาพแวดล้อมรอบๆตัวของเขา ก่อนที่จะค่อยๆหายตัวไปโดยใช้ทักษะย่องเบาและเดินออกไป
"ฮึม เขามาที่นี้เพื่ออวดเบ่ง เขาช่างไม่มีความเมตตาเลย "
"มันอาจเป็นเพราะข้างนอกนั้นเขาไม่เก่งเลย นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เขากลับมายังหมู่บ้านเริ่มต้น "
"เมื่อฉันอยู่ในระดับสูง ฉันจะต้องฆ่าคนแบบนี้เมื่อใดก็ตามที่ฉันเห็นพวกเขาอย่างแน่นอน"
กลุ่มของผู้เล่นโห่ร้องกันเองและกระจัดกระจายกันออกไป ลูหลี่ได้แต่เพียงยิ้มอย่างขมขื่น เขาจะไม่มีวันที่จะลดตัวไปโต้เถียงกับคนเหล่านี้ จากนั้นเขาก็กลายร่างเป็นเสือดาวและวิ่งออกไปท่ามกลางทุ่งหญ้าสีเขียว
แคโรไลน่า ผู้นำเหล่าทหารยามยังคงขี่เสือดำใบมีดหิมะของเธออยู่เสมอ อีกทั้งยังมีทหารยามอีกสองคนคอยติดตามเธออย่างใกล้ชิดเพื่อปกป้องเธอจากการโจมตีใดๆที่มาจากเบื้องหลัง
เช่นเดียวกับครั้งก่อนนั้น ผู้เล่นจำนวนมากยังคงไล่ติดตามเธอมา เพราะความงดงามของเธอ
อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่กล้าที่จะเข้าใกล้เธอ ดังนั้นพวกเขาจึงทำได้เพียงแต่จ้องมองและน้ำลายไหลจากระยะไกลได้เพียงเท่านั้น
เธอนั้นเป็นเช่นเดียวกันกับเมอิสเนร่า แคโรไลน่านั้นดูเหมือนกับพระราชินีที่ดูสง่างาม นั้นจึงทำให้ผู้เล่นมากมายต่างก็หลงไหลในตัวเธอ
ลูหลี่ไม่กล้าจะดูต่ออีก แม้ว่าเขาจะต้องการก็ตาม เขาโผล่ขึ้นมาที่ด้านหน้าของแคโรไลนาและก้าวไปข้างหน้าพร้อมกล่าวคำทักทาย "สวัสดี ท่านแคโรไลน่าผู้ยิ่งใหญ่ ข้าได้เดินทางมาโดยล่องหนเพื่อมายังที่นี้ ข้าหวังว่าเทพธิดาแห่งดวงจันทร์จะส่องสว่างแก่เส้นทางของเรา "
แคโรไลน่าหยุดยามที่กำลังจะไล่ลูหลี่ออกไปและลุกขึ้นยืนจากสัตว์พาหนะของเธอ "สวัสดีผู้บุกเบิกถ้ำโหยหวน พวกเราเจอกันอีกครั้งแล้วนะ" เธอตอบกลับมา
ขณะที่ปาร์ตี้ของลูหลี่ประสบความสำเร็จในการเคลียร์ถ้ำโหยหวนในครั้งแรก เขาก็ได้รับตำแหน่งเพิ่มเติมขึ้นมานั้นก็คือ ผู้บุกเบิกถ้ำหอน
"ข้าดีใจที่ท่านจำข้าได้" ลูหลี่รู้สึกมีความสุขมาก
มันจะเป็นเรื่องที่มีความสุขเสมอเมื่อผู้หญิงจำคุณได้ แม้ว่าเธอจะเป็นแค่โค้ดบางส่วนของเกม แต่เขาก็รู้สึกเหมือนกับว่าเธอนั้นเป็นมนุษย์ผู้หญิงจริงๆ
"ในครั้งก่อน ปาร์ตี้ของเจ้าได้ทำการกวาดล้างถ้ำแมงมุมและในตอนนี้เจ้ายังได้นำข่าวดีของการกวาดล้างถ้ำโหยหวนมาให้ข้าฟัง ข้าอยากจะขอบคุณเจ้าในนามของน้องสาวอีลูน่า " แคโรไลนาได้เผยรอยยิ้มออกมาและผู้เล่นในบริเวณใกล้เคียงก็ทำได้แต่เพียงอิจฉาลูหลี่
นี่คือรอยยิ้มที่ทุกคนเห็นแล้วจะต้องหลงไหล มันเป็นรอยยิ้มที่อาจจะทำให้โลกทั้งใบหายไปได้เลย
คนที่ออกแบบตัวละครตัวนี้เป็นคนที่อัจฉริยะอย่างแท้จริง
"ลอร์ดนาวารัคเป็นนักเวทย์ที่ยอดเยี่ยม แต่ช่างโชคร้ายที่ข้าไม่ได้รับความโปรดปรานใดๆจากเขา ข้ามีคำถามสองสามข้อที่ข้าหวังว่าท่านจะสามารถบอกข้าได้ "ลูหลี่กล่าวและบอกความตั้งใจจริงของเขาออกไป
"ข้ารู้ว่าเขานั้นจมปลักอยู่กับการเปลี่ยนแปลงดินแดนแห้งแล้ง แต่ดูเหมือนว่าเขาจะจำไม่ได้แล้วว่าต้นนอร์ดดราซิลตอนนี้มันเป็นอย่างไร"
แคโรไลน่าดูเหมือนจะไม่ค่อยพอใจกับนาวารัค ในขณะที่ลูหลี่ยังคงเงียบอยู่ เพราะว่าเขานั้นไม่ต้องการที่จะใส่ร้ายป้ายสี อาร์คดรูอิดผู้น่ายกย่อง
การคุยกับ NPC นั้นเป็นสิ่งที่ดี แต่ในตอนนี้จะเป็นการดีที่สุดสำหรับผู้เล่นที่จะไม่ต้องพูดอะไรเลย
แน่นอนว่ายกเว้นไปหนึ่งคน นั้นก็คือ ฮาชิจังที่ซึ่งเป็นลูกสาวของระบบ
"เจ้าจะถามอะไรข้ากันล่ะ?" แคโรไลน่าถอนหายใจและปรับอารมณ์ ก่อนที่จะกลับไปที่หัวข้อเริ่มต้น
"ข้าบังเอิญได้เจอแหวนลึกลับนี้ ซึ่งมันได้ให้ลมหายใจแห่งป่าแก่ข้า แต่ในการพยายามสำรวจความลับของแหวน ข้าก็ได้ประสบพบเจอเหตุการณ์บางอย่าง ตอนนี้ข้าทั้งสับสนและข้าก็ยังไม่ทราบทางที่จะไปต่อ " ลูหลี่ยกมือขึ้นและเผยแหวนที่อยู่บนนิ้วมือเขา
แคโรไลน่าในตอนนี้มีใบหน้าที่ดูเคร่งเครียด ความขี้เกียจก่อนหน้านี้ของเธอหายไปอย่างสิ้นเชิง
เธอเอื้อมมือออกและแหวนก็ได้ลอยออกไปจากนิ้วมือของลูหลี่ จากนั้นแหวนก็ลอยไปที่ฝ่ามือที่ดูราวกับหยกขาวของเธอ
บ้าเอ้ย คุณสมบัติของมันไม่ได้บอกว่ามันไม่สามารถดรอบหรือสูญหายได้งั้นเหรอ?
"เป็นแหวนนี้เอง" เธอพูดพร้อมเขย่าหัว "แต่มันไม่ใช่ของเขา"
แม้แต่ลูหลี่ก็ยังรู้สึกสับสนเกี่ยวกับเรื่องนี้
อย่างไรก็ตามในฐานะที่เป็นคนที่มีประสบการณ์การเกิดใหม่และใช้เวลานับไม่ถ้วนในการอ่านหนังสือในห้องสมุด เขารู้เรื่องเกี่ยวกับตำนานของเกมมากกว่าคนอื่น เขารู้ได้อย่างรวดเร็วว่าคำพูดของแคโรไลน่าที่พูดออกมาหมายถึงอะไร
เธอจำได้ว่าแหวนวงนี่คือแหวนซูพรีมและยังจำได้อีกว่าแหวนวงนี้ไม่ใช่แหวนที่มัลฟูเรียนมีอยู่
"ท่านรู้หรือไม่ว่าข้าจะต้องทำอย่างไรให้มันแข็งแกร่งขึ้น?" ลูหลี่ถามอย่างระมัดระวัง
ถ้าแคโรไลน่าไม่รู้จัก เขาก็ไม่รู้แล้วว่าจะหันไปพึ่งพาใคร เขาไม่ใช่ดรูอิด ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถเข้าไปสู่ฝันมรกตในตำนานเพื่อหามัลฟูเรียนได้
ผู้สร้างแหวนเซนาเรียสนั้นหายไปโดยไม่มีร่องรอยใดๆ เช่นนั้นแล้ว การที่จะหาเขาให้เจอนั้นความหวังก็แทบจะริบหรี่เช่นกัน