จอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 243
ติดตามอ่านนิยายเพิ่มเติมของผู้แปลและนิยายทุกตอนได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 243: ความสามารถในการโคลนนิ่งของบอส
"โอ้ว้าว เขามีความสามารถในการรักษาตัวเองด้วย" อาเซอร์ซีบรีสกล่าวออกมาด้วยความสิ้นหวัง
หลังจากกินลูกสมุนของตัวเองไปเพียงสามตัวบอสก็ได้ฟื้นฟูเลือดถึง 6% มูทานัสไม่รอให้ใครโจมตีก่อนที่จะเริ่มต้นรักษาตัวเองอีกครั้ง
นี่คือสิ่งที่มีพลังอย่างไม่น่าเชื่อในเกมรุ่งอรุณ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องพิเศษที่จะมีเพียงแต่บอสเท่านั้นที่จะทำแบบนั้นได้
แต่ว่าทักษะฮีลนี้จะรักษาตัวของบอสเองได้แค่ไหนกัน?
3% งั้นเหรอ? หรือบางทีก็อาจจะ 5%? หนึ่งในบอสที่พวกเขาเจอก่อนหน้านี้ เซอเพนทิสก็สามารถรักษาตัวเองได้เพียงแค่ 3% เท่านั้น นี่คือบอสตัวสุดท้ายของดันเจี้ยน ดังนั้นเขาจึงต้องแข็งแรงกว่าบอสตัวที่ 6 ใช่ไหม?
พวกเขาได้ทำให้ HP ของมูทานัสลดลงไป 8% เมื่อพวกเขาเริ่มโจมตีมันครั้งแรก หลังจากที่มันได้กินลูกสมุนของตัวเองเพื่อฟื้นฟูเลือด 6% ตอนนี้มันก็มีเลือดอยู่ที่ 98% ด้วยความสามารถของทักษะฮีลของมันอีก มันจะกลับมาเลือดเต็มอีกครั้งหนึ่ง
ทำไมพวกเขาถึงต้องทำอะไรที่สูญเปล่าแบบนั้นด้วย?!
"นี้มันอะไรกัน? ฉันไม่เคยเห็นบอสที่มีทักษะฮีลแบบนี้มาก่อน "ลูหลี่กล่าวขณะที่เขาวิ่งออกไปพร้อมกับใช้สกิลเตะและขัดจังหวะการร่ายฮีลของบอส
ใช่แล้วสกิลของมันสามารถถูกขัดจังหวะได้ ...
"นายเชี่ยวชาญดันเจี้ยนนี้มาก ทำไมก่อนหน้านี้นายถึงไม่บอกเราว่าสามารถขัดจังหวะสกิลนี้ของบอสได้?" อาเซอร์ซีบรีสกล่าวอย่างเสียใจในขณะที่บอสเปลี่ยนความสนใจไปที่เขาเนื่องจากการที่เขาใช้ทักษะกู่ร้องออกมา
"โอ้ ตอนนี้นายก็รู้แล้วนี้" ลูหลี่กล่าวหยอกล้อทุกๆคนและเขาก็ไม่รู้สึกสำนึกผิดอะไรเลย
อย่างไรก็ตามเพื่อนร่วมทีมของเขาไม่สามารถแก้แค้นโดยการตีเขาได้ พวกเขาต่างก็เอาความขุ่นเคืองของพวกเขาไปลงที่บอส
หลังจากนั้นสักครู่หนึ่ง บอสก็ได้เรียกอีกสมุนอีกแปดตัวขึ้นมา คราวนี้ทุกคนต่างก็เน้นทุกการโจมตีไปที่พวกมันโดยที่ไม่ต้องรอลูหลี่สั่งหรือพเนจรดึงพวกมัน
เมอร์ล็อคทั้งแปดตัวผู้น่าสงสาร ตามปกติพวกมันแข็งแกร่งมาก เนื่องจากพวกมันถูกเรียกออกมาจากฝันร้ายของนาวารัค ก่อนที่พวกมันจะเข้าใจถึงสิ่งที่เกิดขึ้น พวกมันก็ได้ถูกกำจัดโดยนักผจญภัยจำนวนหนึ่ง
ความคิดสุดท้ายของพวกมันก็คือ "โลกนี้มันเป็นแบบไหนกันเนี้ย? มันช่างอันตรายเหลือเกิน... "
บอสเฝ้ามองไปที่พวกเขาอย่างไม่เต็มใจ เมื่อลูกน้องของมันถูกสังหาร มันก็กลืนกินน้ำลายของตัวเองอย่างเงียบๆเพราะว่าไม่ได้กินแม้แต่ตัวเดียว
สำหรับการขัดจังหวะทักษะฮีลของมันนั้น กลุ่มทหารรับจ้างซินซินมีสกิลขัดจังหวะโดยเฉพาะถึงสามสกิล ดังนั้นพวกเขาจึงไม่เคยให้มันได้ร่ายทักษะฮีลแม้แต่ครั้งเดียว
"นี่มันสมบูรณ์แบบเลย ทำเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆนะ ซากุระวางโทเทมมานาที ใครที่ต้องการมานาก็ให้ยืนอยู่ในรัศมีก็แล้วกัน " ลูหลี่กล่าวคำชมของเขาออกมา
โทเทมมานาของซากุระนั้นมีระยะเวลาคูลดาวน์ที่นานมาก ดังนั้นการต่อสู้ครั้งหนึ่งจึงสามารถใช้ได้เพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้น หากใช้มันเร็วเกินไปอาจจะไปซ้อนทับกับคูลดาวน์ของทักษะอื่นๆได้ เมื่อถึงเวลาที่จำเป็นที่จะต้องใช้จริงๆ มันอาจเพิ่มอัตราการรอดชีวิตของทั้งปาร์ตี้เลยก็ได้
การต่อสู้ในครั้งนี้ดำเนินไปเป็นรอบๆ
มูนาทัสจะจะเรียกสมุนออกซึ่งจะถูกฆ่าโดยพเนจรและคนอื่น ๆ หลังจากนั้นทักษะการฮีลของของบอสจะถูกขัดจังหวะทันทีที่มันกำลังร่าย
แม้ว่าบอสตัวนี้จะแข็งแกร่ง แต่ก็ยังง่ายกว่าการต่อสู้กับเซอเพนทิส เมื่อต่อสู้ด้วยเทคนิคที่ถูกต้อง
แม้จะช้าแต่ก็ชนะอย่างแน่นอน HP ของมูนาทัสเริ่มลดลงเรื่อยๆ ในขณะที่มาสเรนและฮาชิจังพยายามจัดการกับ MP ของพวกเธออย่างระมัดระวัง
นอกเหนือจากแท๊งค์หลักแล้ว ลูหลี่และคนอื่นๆนั้นแทบจะไม่ได้การรักษาใดๆเลย พวกเขาสามารถทำได้เพียงแค่ต้องพึ่งพาโพชันของพวกเขาเองเท่านั้น
"ทุกคนระวังตัวด้วย บอสกำลังจะโคลนร่างกายของตัวเอง ซีบรีสและพเนจร พวกนายต้องแบ่งหน้าที่กันดึงคนละตัว ซีบรีสนายดึงตัวด้านซ้ายและพเนจรนายดึงตัวทางด้านขวา ดึงพวกมันให้ออกห่างจากกันด้วย ทำให้แน่ใจทีนะว่าอย่าให้พวกมันยืนอยู่ติดกัน " เมื่อลูหลี่เห็น HP ของบอส เขาก็ได้คาดการณ์ว่าตอนนี้กำลังจะเข้าสู่ช่วงสำคัญของการต่อสู้แล้ว
ลักษณะตามธรรมชาติของมูนาทัสนั้นเป็นเรื่องที่น่ารังเกียจ
มันเพิ่งกินเนื้อของลูกสมุนของมันเองในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่และตอนนี้มันก็กำลังแบ่งร่างของตัวเองออกจากกัน
แน่นอนว่ามันไม่สามารถฉีกผู้เล่นเป็นสองส่วนได้ เกมนี้ไม่ได้รุนแรงถึงขนาดนั้น
ร่างกายของมันกำลังฉีกขาดออกจากกัน มันทำอย่างนี้ได้ยังไงกัน ตามปกติแล้วจะไม่มีใครคนไหนที่มองมูทานัสในสถานการณ์ตอนนี้ว่ามันกำลังทำอะไรอยู่
ทั้งสองส่วนของมูทานัสที่ฉีกขาดออกจากกันก็เริ่มบิดเบี้ยวเล็กน้อยและค่อยๆสูงขึ้นเรื่อยๆ ไม่นานหลังจากนั้น พวกมันก็ได้กลายเป็นเหมือนกับร่างเดียวกัน
อาเซอร์ซีบรีสและพเนจรได้เตรียมตัวพร้อมมานานแล้ว พวกเขาแต่ละคนต่างก็ดึงบอสด้วยสกิลยั่วยุไปคนละทาง
"ดอกไม้ มูนไลท์และความฝัน พวกนายจะต้องไปต่อสู้กับมอนเตอร์ของทางพเนจร มาสเรนฮีลพเนจรด้วย ส่วนคนที่เหลือให้ไปต่อสู้กับมอนเตอร์ของทางอาเซฮร์ซีบรีส ฮาชิจัง เธอจะต้องฮีลแท๊งค์หลักให้แข็งแรงอยู่เสมอด้วยล่ะ "ลูหลี่ได้ออกคำสั่งอย่างรวดเร็ว
ไม่มีความแตกต่างระหว่างบอสทั้งสองตัว พวกมันทั้งสองตัวต่างก็มีความแข็งแรงของบอสเท่าเดิม แต่มันน่าจะเป็นเรื่องยากสำหรับพเนจรที่จะต้องรับความเสียหายจากมูทานัส ดังนั้นลูหลี่จึงได้ส่งมาสเรนไปรักษาเขา
"ทำไมเราไม่ฆ่ามันตัวหนึ่งก่อนแล้วค่อยไปฆ่าอีกตัวกันล่ะ?" อาเซอร์ซีบรีสกล่าวออกมาเพื่อพยายามที่จะทำความเข้าใจกับการกำจัดบอส
"นายจะต้องฆ่าบอสทั้งสองตัวในครั้งเดียว มิฉะนั้นตัวที่ยังมีชีวิตอยู่จะกินศพของร่างโคลนของมันและฟื้นฟู HP ของมันเองไปถึงจุดที่แม้แต่ฉันเองก็ยังจะต้องรู้สึกหมดหวัง"
เขาเข้าร่วมเกมหลังจากที่เกมปล่อยตัวมาหลายปีแล้ว ดังนั้นกลยุทธของถ้ำโหยหวนจึงมีให้พูดคุยกันทั่วไป
บอสทั้งสองตัวต้องตายพร้อมกัน
อย่างไรก็ตามมีสิ่งหนึ่งที่เขาต้องรู้ไว้ เกมตอนนี้แตกต่างออกไปจากช่วงที่เขาเล่นอยู่ในชีวิตที่แล้ว ดังนั้นการกำจัดบอสมันอาจจะแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง
มีกรณีหนึ่งที่หนึ่งที่บอสตัวหนึ่งได้ตายก่อน ขณะที่อีกตัวมี HP เหลืออยู่ 5% และก่อนที่ผู้เล่นจะสามารถทำอะไรได้บอสตัวที่ยังมีชีวิตก็ได้กระโจนตัวเองลงไปบนซากศพของอีกตัวหนึ่งและหมอบลงไปกับพื้น
55!
ตอนนี้พวกเขาสูญเสียเวลาไปกว่าครึ่งวันกับบอสตัวนี้
ปัญหาที่แท้จริงก็คือพวกเขาไม่สามารถฮีลได้เป็นเวลานานนัก พวกเขานั้นไม่สามารถต่อสู้กับบอสที่มี HP 50% ได้แน่ๆ
"ถ้าเราไม่ฆ่าบอสในเวลาเดียวกันแล้วละก็ ความพยายามทั้งหมดที่เราทำมาสูญเปล่าไป นั่นหมายความว่าเราจะต้องสูญเสียการเคลียร์ครั้งแรกของเราด้วยเช่นกัน ... "ลูหลี่กล่าวออกมา เห็นได้ชัดว่าเขากำลังกังวลและยังคงกล่าวย้ำเตือนคำเดิมออกมา
"นี้นาย นายนี้น่ารำคาญจริงๆเลยนะ" ฮาชิจังพูดและขมวดคิ้วไปพร้อมกัน เธอไม่สามารถทนต่อการพูดย้ำไปย้ำมาของลูหลี่ได้อีกแล้ว
โดยปกติลูหลี่จะให้คำแนะนำในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดเท่านั้น โดยจะใช้ช่วงเวลาที่เหลือในการสร้างความเสียหาย ไม่อย่างนั้นแล้วในกราฟแสดงความเสียหายที่สร้างเขาคงจะไม่อยู่ถึงอันดับ 1 ของปาร์ตี้
อย่างไรก็ตามสไตล์ที่แสนเย็นชาและสันโดษของเขา ก็ได้เปลี่ยนไปเป็นสไตล์เป็นมนุษย์ป่า ทุกคนต่างก็กำลังพยายามดิ้นรนเพื่อปรับตัวให้เข้ากับมันกัน
"เอาล่ะ พเนจร นายจะต้องรับผิดชอบต่อการขัดจังหวะการรักษาของบอสอีกตัวด้วย ฉันจะทิ้งซากุระไว้ที่นี้กับนาย ทำให้แน่ใจด้วยนะว่านายจะขัดจังหวะการใช้สกิลของบอสได้ถูกเวลา ฉันจะจัดการกับสมุนของมันเอง "ลูหลี่กล่าวอย่างช่วยไม่ได้
"จริงๆแล้ว มันเป็นกลุ่มเล็กๆงั้นเหรอ? ไม่ใช่ว่ามันจะ ... เรียกสมุนออกมาถึง 16 ตัวงั้นหรือ? " ใบหน้าของทุกคนต่างก็เปลี่ยนเป็นสีเขียวเล็กน้อย
พวกเขาต่างก็เริ่มจินตนาการถึงเหตุการณ์ที่บอสกำลังเรียกสมุนออกมา
"ผ่อนคลายไว้ มันไม่ได้มีถึง 16 ตัวหรอก"
ลูหลี่เหลือบมองไปที่ใบหน้าที่ดูตลกของพวกเขา พวกคนเหล่านี้ไม่มีความคิดงั้นเหรอ? บริษัทเกมจะทำให้บอสสามารถเรียกสมุน 16 ตัวได้ยังไงกัน?
ถ้าเป็นอย่างนั้นแล้ว แม้กระทั่งปาร์ตี้ที่แข็งแกร่งมากก็ไม่มีทางที่จะสามารถชนะมันได้หรอก
อย่างไรก็ตามมันยังคงมีฝูงสมุนเมอร์ล็อคอยู่เหมือนเดิม แต่พวกมันก็ถูกเรียกขึ้นมาเพียงครั้งเดียวเท่านั้น อีกทั้งทุกๆสิบนาทีฝูงมอนเตอร์จะโผล่ออกมาจากแม่น้ำ
ลูหลี่สามารถจัดการกับพวกมันได้อย่างง่ายดาย แต่เขาก็ต้องมีความช่วยเหลือเพิ่มเติมจากดอกไม้อ้างว้างและลูกชิ้นงาช่วยด้วย
"ฝั่งพเนจรช้าลงหน่อย ความฝันที่เหลืออยู่ไปโจมตีช่วยอาเซอร์ซีบรีส อย่าทำให้บอสมี HP ลดลงเหลือ 5% ละ" แม้ว่าลูหลี่จะกำลังเผชิญหน้ากับการต่อสู้ที่แตกต่างกัน แต่เขาก็ยังคงเฝ้ามองบอสที่คนอื่นๆกำลังต่อสู้อยู่เสมอ
HP 5% เป็นช่วงเวลาสำคัญที่บอสจะเข้าสู่สถานะบ้าคลั่ง บอสแทบทุกตัวจะเข้าสู่สถานะบ้าคลั่งเมื่อเลือดเหลือ 5%
อีกทั้งมูทานัสจอมเขมือบยังได้โผล่ออกมาจากฝันร้าย นั้นก็เป็นไปได้สูงว่าเขามีโอกาสที่จะเข้าสู่สถานะบ้าคลั่ง
8%, 7% ...
แถบ HP ของบอสทั้งสองตัวลดลงเกือบเท่าๆกัน ความรุนแรงของสถานการณ์ต่อจากนี้จะมากกว่าเก่า เนื่องจากบอสมีโอกาสที่จะเข้าสู่สถานะบ้าคลั่ง ดังนั้นตอนนี้ไม่มีใครเลยที่จะกล้าไม่สนใจสิ่งที่เขาพูด
5%!
ร่างกายของบอสทั้งสองตัวเปลี่ยนเป็นสีแดงและเข้าสู่สถานะบ้าคลั่งในเวลาเดียวกัน!