จอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 240
ติดตามอ่านนิยายเพิ่มเติมของผู้แปลและนิยายทุกตอนได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 240: การเคลียร์ครั้งแรกที่เกิดขึ้นในวันนี้
ถึงแม้อาวุธของลูหลี่จะอยู่ในระดับต่ำ แต่ก็ยังคงมีเอฟเฟคพิเศษที่ค่อนข้างดี
อย่างไรก็ตามปัญหาที่เกิดขึ้นกับอาวุธที่มีความต้องการระดับต่ำกว่าเลเวลของผู้ถือ ก็คือความเสียหายที่สร้างออกมาจากการโจมตีจะต่ำ และไม่นานนักก็จะไปถึงจุดๆหนึ่งที่โจมตีออกมาและไม่สร้างความเสียหายใดๆเลย
การต่อสู้กันที่ด่านหน้าเมอิสเนร่าเมื่อวานนี้ได้มอบรางวัลให้กับเขาคือ กริชระดับเงิน LV20 แต่น่าเสียดายที่มันมาพร้อมกับเอฟเฟคพิเศษที่ไม่ค่อยดีนัก หลังจากลังเลใจไปซักพัก ลูหลี่ก็ได้ส่งจดหมายไปยังเชน วันเซนเพื่อให้เขาจัดการกับมันแทน
แม่พิมพ์: เขี้ยวแห่งความวิบัติ (เงิน)
สูตร: ตีเหล็ก
ความต้องการ: เชี่ยวชาญตีเหล็ก (100)
เมื่อใช้: เรียนรู้การตีเหล็ก "เขี้ยวแห่งความวิบัติ"
เขี้ยวแห่งความวิบัติ: ไม่ทราบคุณสมบัติ
เมื่อไอเท็มนี้ยังอยู่ในแม่พิมพ์ มันก็ยากที่จะทราบว่าไอเท็มชิ้นนี้ที่พวกเขากำลังจะสร้างขึ้นมานั้นจะดีหรือไม่ดีก่อนที่จะได้ทำ
อย่างไรก็ตามลูหลี่รู้คุณสมบัติของไอเท็มชิ้นนี้ดี
ทุกดันเจี้ยนจะดรอบไอเท็ม "คลาสสิค" ของตัวเอง ซึ่งไอเท็มชิ้นนั้นจะกลายเป็นไอเท็ม "คลาสสิก" หรือไม่ก็เนื่องจากคุณสมบัติ รูปร่าง เอฟเฟคพิเศษอื่นๆ ไอเท็มบางชนิดก็อาจจะมีคุณสมบัติที่อยู่ในตำนาน
เขี้ยวแห่งความวิบัติ เป็นไอเท็มชิ้นแรกๆของชุด 'คลาสสิก' มันมีชื่อเสียงมากเพราะมีคุณสมบัติที่อยู่ในตำนาน
มันมาพร้อมกับเอฟเฟคเจาะเกราะ อัตราเพิ่มคริติคอลและน้อยมากที่จะได้รับทักษะของจอมโจรระดับตำนาน หลบหนี
หลังจากใช้ หลบหนี ผู้เล่นจะสุ่มปรากฏที่ใดก็ได้ภายในรัศมีแปดหลา
นี่เป็นเอฟเฟคพิเศษที่หาได้ยากมาก แม้กระทั่งคนอย่างลูหลี่ที่มีประสบการณ์การเกิดใหม่ นอกจากนั้นแล้วพลังโจมตีของเขี้ยวแห่งความวิบัตินี้ยังมีพลังโจมตีมาก เมื่อเทียบเท่ากับไอเท็มโจร LV40-50 ที่มีคุณภาพสูง
ลูหลี่ยังคงกังวลเรื่องคุณสมบัติของไอเท็ม นั้นเพราะว่าเขาไม่แน่ใจว่าเมื่อสร้างเสร็จแล้วแม่พิมพ์จะให้อะไรให้เขา
"ไม่มีอะไรอีกแล้ว" ความฝันที่เหลืออยู่คุ้ยซากศพอีกนิดหน่อยและรู้สึกผิดหวังที่ไม่มีอะไรดีๆเหลืออีกเลย
"ยัยโลภเอ้ย" ลูหลี่กล่าวขณะที่ไม่สามารถระงับเสียงหัวเราะของเขาได้ "วัสดุหายากและไอเท็มระดับเงินสองชิ้นจากบอสที่มีความยากระดับฮีโร่ เธอยังไม่พอใจอีกงั้นเหรอ?"
"ยังมีบอสเหลืออีกสองตัว ใช่ไหม?" อาเซอร์ซีบรีสรู้สึกขาดทุนไปเล็กน้อย เนื่องจากบอสไม่ได้ทิ้งอุปกรณ์ใดๆที่เขาสามารถใช้งานได้
เช่นเดียวกันอาจกล่าวได้ว่าเรื่องนี้มันก็เกี่ยวกับพเนจรเช่นกัน นั้นก็เพราะเขาตายเร็วจนเกินไป เขารู้สึกเหมือนว่าเขาไม่สามารถแข่งขันกับทักษะการเป็นผู้นำของลูหลี่ได้
"เราจะสู้ต่อไหม?" ลูหลี่ถามขณะที่เขาตรวจสอบเวลาในตอนนี้
พวกเขาใช้เวลาประมาณห้าถึงหกชั่วโมงในดันเจี้ยนนี้ ซึ่งมันยังไม่ถึงตอนเที่ยงวันของเกมเลย
"ไปกันต่อเถอะ เพื่อการเคลียร์ครั้งแรก" อาเซอร์ซีบรีสกล่าวอย่างกระตือรือร้นและพร้อมอยู่เสมอ
มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่แปลกประหลาดมาก พวกเขามักจะกลายเป็นคนที่เหนื่อยได้อย่างง่ายดายหากพวกเขาอยู่ในสถานการณ์ที่เสียเปรียบ แต่ผู้คนก็มักจะตื่นเต้นมักด้วยความปรารถนาที่ไม่สามารถจินตนาการได้
เมื่อมองไปที่ใบหน้าที่ตื่นเต้นของคนทั้งหมดที่อยู่ข้างหน้าเขา ลูหลี่ก็โบกมือและพูดว่า "แน่นอน ไปข้างหน้ากันเถอะ วันนี้เราจะเอาการเคลียร์ครั้งแรกของดันเจี้ยนกัน"
ยังคงมีบอส LV25 อีก 2 ตัวที่เหลืออยู่ แต่ส่วนใหญ่ของพวกเขาก็ได้เข้าสู่ LV23 ดังนั้นพวกเขาจะไม่โดนความเสียหายจากบอสมากกว่าปกติ อีกทั้งพวกเขายังมีอุปกรณ์ที่ดีมาก ซึ่งนั้นอาจทำให้การเคลียร์ดันเจี้ยนครั้งนี้เป็นไปได้
บอสตัวอื่นนั้นต่างก็แตกต่างจากเซอเพนทิส เซอเพนทิสนั้นถือว่าเป็นบอสที่ท้าทายมาก บอสทั้งสองที่เหลืออยู่จึงลำบากเพียงเล็กน้อยเมื่อต้องเทียบกับเซอเพนทิส
บอสตัวที่ 7 หาได้ง่ายมากเพราะมันไม่ได้อยู่ไกลจากเซอเพนทิสและแทบจะไม่มีมอนสเตอร์ใดๆอยู่ตามทาง
"น่าเกลียด!"
ฮาชิจังกล่าวในสิ่งที่อยู่ในใจของทุกคนออกมา บอสตัวที่เจ็ดของถ้ำโหยหวนนั้นมีชื่อว่า เวอร์แดนผู้อยู่อาศัย ด้วยรูปลักษณ์ของมัน มันจึงดูเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจอย่างแท้จริง
ก่อนที่นาวารัคจะมายังถ้ำโหยหวนแห่งนี้ คนส่วนมากต่างก็มีข้อมูลของสัตว์ตัวนี้เพียงเล็กน้อย เวอร์แดนผู้อยู่อาศัยนั้นถูกมองว่าเป็นผู้ปกป้องดั้งเดิมของถ้ำแห่งนี้ จนกระทั่งฝันร้ายปกคลุมทั่วถ้ำที่มันอาศัย
อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่ได้ปฏิเสธพลังของฝันร้าย มันทั้งได้รับพลังชีวิตที่แข็งแกร่ง ไม่เพียงแค่นั้นมันยังได้รับพลังอำนาจอันยิ่งใหญ่ ซึ่งแค่นั้นก็ทำให้มันมีชีวิตอยู่ได้ตลอดไปแล้ว
ขณะที่ฝันร้ายได้แทรกซึมไปยังร่างกายของมันลึกยิ่งขึ้น ร่างกายของเวอร์แดนผู้อยู่อาศัยก็โตขึ้นและแข็งแกร่งมาก
ตอนนี้ เขาสูงถึงสี่เมตรและกว้างสองเมตร อีกทั้งยังมีแขนที่เหมือนต้นไม้ยักษ์ซึ่งเกือบจะแตะพื้นเมื่อเขาก้มตัวลง ผิวของเขาถูกปกคลุมด้วยยางสนซึ่งแข็งกระด้างตามอายุของมันเอง ในขณะที่ใบหน้าของเขานั้นไม่มีอยู่เลย ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมฮาชิจังถึงเรียกเขาว่าน่าเกลียด
ในปัจจุบัน เวอร์แดนได้กลายเป็นพันธมิตรกับดรูอิดแห่งฝันร้านและเขาก็ได้กลายเป็นบอสคนที่ 7 ของถ้ำโหยหวน
"บอสตัวนี้ไม่ใช่เรื่องยากเท่าไหร่ แต่ก็อย่าลืมสิ่งหนึ่งเหมือนกัน"
สำหรับทีมทั่วไปแล้ว พวกเขาจะต้องถูกกวาดล้างอย่างน้อยหนึ่งถึงสองครั้ง ถึงจะรู้เทคนิคในการเอาชนะบอส ไม่ว่าพวกเขาจะเซนส์ดีขนาดไหนก็ต้องเป็นแบบนั้น
"พูดออกมาเลย! พวกเราทุกคนฟังอยู่ " พเนจรอยากรู้อยากเห็นมากว่าที่ลูหลี่รู้เรื่องเหล่านี้ทั้งหมด แต่เขานั้นก็เป็นคนฉลาด
ถ้าลูหลี่นั้นไม่เลือกที่จะกล่าวขึ้นมาแล้ว ทำไมเขาจะต้องพยายามที่จะทำให้ลูหลี่คายออกมาด้วย? บางทีความสัมพันธ์ของพวกเขาอาจไม่แน่นแฟ้นพอที่จะผ่านการทดสอบในเรื่องดังกล่าว
ในโลกนี้มักจะมีคนพิเศษอยู่เสมอ ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาได้ข้อมูลพวกนั้นมาได้อย่างไร ตราบเท่าที่ฉันจำได้เกมนี้ได้ถูกออกแบบและถูกสร้างโดยคน ดังนั้นข้อมูลของเกมอาจจะรั่วไหลไปได้
แม้เกมรุ่งอรุณจะทำได้ค่อนข้างดีในด้านนี้ แต่นี้ก็ไม่ได้หยุดให้ผู้เล่นปกติกล่าวหาเกมโดยใช้สมมติฐานของพวกเขาเอง
"เขาจะโยนดีบัพ 2 ชนิดมาให้ผู้เล่นแบบสุ่ม ดีบัพทั้งสองนั้นเป็นประเภทที่ติดต่อกันได้ แต่พวกมันนั้นมีวิธีการรับมือที่แตกต่างกันออกไป "ลูหลี่อธิบาย "ดีบัพแรกมีชื่อเรียกว่า ภัยพิบัติแห่งฝันร้าย และอีกชนิดหนึ่งมีชื่อเรียกว่า โรคภัยไข้เจ็บแห่งฝันร้าย"
"ถ้านายถูกดีบัพภัยพิบัติแห่งฝันร้าย นายต้องยืนออกห่างจากคนอื่นๆ ตราบเท่าที่ฮีลเลอร์รักษานาย นายจะไม่ตาย อย่างไรก็ตามหากนายไม่ได้เดินออกจากสมาชิกปาร์ตี้ของตัวเอง คนที่ยืนอยู่ใกล้นายจะได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมากและสมาชิกในปาร์ตี้ทั้งหมดจะถูกกวาดล้างในทันที "
"ในทางตรงกันข้ามถ้านายถูกดีบัพโรคภัยไข้เจ็บแห่งฝันร้าย จะต้องมีคนๆหนึ่งมาช่วยแชร์ความเสียหาย ไม่มีทางใดเลยที่ฮีลเลอร์จะสามารถรักษาความเสียหายที่เกิดขึ้นจากดีบัพนี้ได้หากนายยืนอยู่เพียงคนเดียว ...... "
"เข้าใจไหม?" ลูหลี่ถามหลังจากอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับดีบัพของบอสออกไป
"นี่คือสิ่งที่นายบอกว่ามันง่ายๆงั้นเหรอ?" ตอนนี้ใบหน้าเล็กๆของฮาชิจังดูขมขื่น ในขณะที่ความฝันที่เหลืออยู่ก็มีสีหน้าเดียวกัน ทุกๆคนที่เหลือต่างก็ไม่ค่อยมั่นใจเหมือนกัน เมื่อได้ยินลูหลี่อธิบาย
ในช่วงขณะหนึ่งพวกเขาต้องแยกตัวออกจากกันเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่กระจายของดีบัพและอีกช่วงขณะหนึ่งพวกเขาต้องยืนร่วมกันเพื่อแชร์ความเสียหาย ...
"ทำตามคำแนะนำของฉันและมันจะง่ายเอง เดียวฉันจะจัดวางตำแหน่งให้ "ลูหลี่กล่าวขณะที่เขาวาดเครื่องหมายลงบนพื้น "เอาล่ะ ทุกคนจะต้องยืนอยู่ที่นี่ ส่วนซีบรีส นายจะต้องดึงบอสและอยู่ข้างหน้าของทุกๆคน มันเป็นเรื่องง่ายใช่ไหมล่ะ "
"เราทุกคนต้องยืนติดกันงั้นเหรอ?" พเนจรแสดงความสงสัยของเขาออกไป เพราะว่าเกมรุ่งอรุณนี้ไม่ใช่เกมที่ผู้เล่นสามารถยืนซ้อนทับและเดินผ่านกันไปได้
"ใช่ อาชีพโจมตีระยะประชิดควรยืนที่ด้านหน้า ในขณะที่อาชีพโจมตีระยะไกลควรจะยืนอยู่ในครึ่งวงกลมด้านหลังของอาชีพโจมตีระยะประชิด การวางตำแหน่งแบบนี้ถือว่าธรรมดามาก เมื่อฉันบอกใครบางคนให้ออกไปจากตำแหน่ง คนๆนั้นก็ต้องออกจากตำแหน่งนั้นในทันทีและฮาชิจังจะเป็นคนฮีลให้เอง "
"ได้แน่นอน แต่จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคนที่จะต้องออกไปจากตำแหน่งเป็นฉัน?"
"ถามมากเกินไปแล้ว มาสเรน ไม่มีทางที่เธอจะตายหรอก แม้ว่าเธอจะวิ่งไปด้วย เธอก็ไม่สามารถรักษาตัวเองได้งั้นเหรอ? " ลูหลี่รู้สึกกังวลเรื่องสมองของเด็กหญิงตัวน้อยคนนี้ เธอนั้นดูโง่มาก ฉันเดิมพันได้เลยว่าที่โรงเรียนนั้นเธอจะต้องมีเกรดที่ไม่ดีเท่าไหร่นัก
บางทีนั่นจึงอาจเป็นเหตุผลว่าทำไมระบบจึงคอยดูแลเธออย่างดี
อาเซอร์ซีบรีสดึงบอสเพื่อเริ่มการต่อรู้และมันเป็นเวลาไม่นานนักที่ดีบัพที่ลูหลี่ได้พูดถึงได้เริ่มออกฤทธิ์
เหยื่อรายแรกที่โดนดีบัพคือ ซากุระ เธอดูเหมือนว่าจะมีโชคร้ายอยู่เสมอ
“ซากุระ! ซากุระ รีบถอยออกไปเร็ว”ลูหลี่ตะโกนออกไป
"ขอโทษ" ซากุระกล่าวออกมาด้วยความรู้สึกผิด
"ฮาชิจังรักษาซากุระ มาสเรนเพิ่มเลือดให้กับทุกๆคนที ทุกคนดื่มโพชันเลือดด้วย " ลูหลี่นั้นได้คาดการณ์ว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นอยู่แล้ว เขาจึงรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่คนแรกที่ได้รับดีบัพคือ ซากุระ ถึงแม้ว่าแม่สาวคนนี้จะดูฟุ้งซ่านไปบ้าง แต่ปฏิกิริยาในการตอบสนองของเธอก็ยังค่อนข้างดีอยู่
ถ้าเป้าหมายครั้งแรกของดีบัพนั้นเป็น ความฝันที่เหลืออยู่หรือฮาชิจังแล้วละก็ พวกเธอคงจะยืนอยู่ที่จุดๆเดิมโดยที่ไม่ได้ทำอะไร