จอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 229
ติดตามอ่านนิยายเพิ่มเติมของผู้แปลและนิยายทุกตอนได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 229: กล่องสมบัติในดันเจี้ยน
ฟ้าผ่า คือทักษะที่ถือว่าเป็นตำนานในเกมรุ่งอรุณ
มันจะสร้างความเสียหายให้กับผู้เล่นทุกคนในรัศมี 10 หลาทั้งยังเพิ่มเวลาร่ายสกิลอีก 40% และลดความเร็วการเคลื่อนที่ลง 40% ระยะเวลาของดีบัฟนี้ยาวนานถึง 30 วินาที
ทักษะนี้เป็นทักษะหมู่ที่ดีที่สุดในเกมแล้ว
ทีมที่พยายามที่จะเคลียร์ดันเจี้ยนถ้ำโหยหวนนั้นมักต้องการอาชีพที่โจมตีระยะไกล เพื่อหลีกเลี่ยงทักษะฟ้าผ่าโดยเฉพาะ
โดยปกติบอสจะใช้ทักษะที่ดีที่สุดของพวกเขาเมื่อผ่านไปนานๆ อย่างไรก็ตามไพทัสนั้นใช้ทักษะฟ้าผ่าทันทีที่อาเซอร์ซีบรีสสัมผัสตัวเขา
ลูหลี่ ซากุระ อาเซอร์ซีบรีส พเนจรและมูนไลท์ได้รับความเสียหายอย่างมาก ซึ่งนั้นทำให้ความเสียหายรวมที่พวกเขาได้สร้างมาลดลง พวกเขาเพียงแต่นั่งและรอดีบัฟนี้จะหายไป
"ฉันจะคำนวณว่าการใช้ฟ้าผ่าของมันจะใช้บ่อยแค่ไหน มันจะต้องมีแบบแผนการใช้แน่นอน ไม่ต้องกังวลหรอกพรรคพวก ระบบเกมไม่มีทางที่จะออกแบบบอสที่เป็นไปไม่ได้ที่จะฆ่าหรอก " พเนจรเช็ดเหงื่อออกจากหน้าผากของเขาและพยายามให้การสนับสนุนทุกคน
ลูหลี่รู้สึกเสียใจกับความหวังของพเนจรมาก เพราะทักษะ 'ฟ้าผ่า' ของไพทัส นั้นไม่ได้มีแบบแผนที่ตั้งค่าไว้
หลังจากผ่านไปสองนาที ทุกคนก็ถูกกวาดล้าง
พวกเขาทั้งหมดยังคงเงียบขณะที่พวกเขานั่งและฟื้นฟู HP ของพวกเขาด้วยขนมปัง
"ทีมที่พยายามจะจัดการไพทัสนั้นอาจจะต้องมีผู้เล่นที่โจมตีระยะไกลมากกว่านี้" อาเซอร์ซีบรีสกล่าวขณะที่เขามองไปที่บอสในระยะไกล
"ต้องการลองอีกครั้งไหม?" พเนจรถอนหายใจ เนื่องจากพวกเขาเป็นเพียงกลุ่มทหารรับจ้างและไม่ใช่สมาคม ตัวเลือกของพวกเขาจึงถูกจำกัดเพราะอาชีพของสมาชิก
ลูหลี่ไม่คิดเช่นนั้น ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น
"พูดออกมาเลย ลูหลี่ นายรู้เกี่ยวกับข้อมูลภายในไหม? ถ้านายรู้ ก็บอกเราเถอะ "อาเซอร์ซีบรีสถาม
เขาไม่ได้รับความเงียบโดยสมบูรณ์จากลูหลี่ ความประทับใจของเขาเกี่ยวกับตัวของลูหลี่คือผู้เชี่ยวชาญด้านการเคลียร์ดันเจี้ยน ทุกคนที่ถามคำถามกับลูหลี่มักจะได้รับคำตอบกลับมาเสมอ
"ฉันจะรู้อะไรงั้นเหรอ?" ลูหลี่ส่ายหัว
เขารู้เคล็ดลับเพื่อหลีกเลี่ยงทักษะฟ้าผ่า แต่ก็ได้ตัดสินใจว่าจะไม่บอกพวกเขา
ก่อนที่บอสจะใช้ทักษะฟ้าผ่านั้นจะมีการเคลื่อนไหวที่เฉพาะมาก ซึ่งจะสามารถสังเกตุเห็นได้ถ้ามองดูดีๆ
พเนจรนั้นยังคงขาดจุดนี้ในฐานะผู้นำ ดังนั้นตอนนี้จึงเป็นประสบการณ์การเรียนรู้ที่ดีสำหรับเขา
ความพยายามครั้งที่สองยิ่งเลวร้ายยิ่งกว่าครั้งแรก ทุกคนรู้ว่ามันไม่มีทางที่จะจัดการบอสตัวนี้ได้และแรงผลักดันของพวกเขาก็น้อยกว่ารอบแรก
ก่อนที่จะพยายามครั้งที่สาม พเนจรกล่าวอย่างเข้มงวดว่า "มองไปที่ตัวของพวกนายเองสิ นี่เป็นท่าทางเดียวกันกับก่อนที่จะเข้ามายังดันเจี้ยนงั้นเหรอ? "
แม้ว่าเขาจะมีนิสัยที่แปลกนิดๆ แต่เขาก็ยังคงเป็นหัวหน้าปาร์ตี้ที่อ่อนโยน และไม่เหมือนผู้นำทั่วไป ที่มักจะหาแพะรับบาปและโยนความผิดให้คนอื่นเมื่อเกิดข้อผิดพลาด
ลูหลี่ไม่ชอบเข้าดันเจี้ยนกับผู้เล่นคนอื่นในชีวิตที่ผ่านมาของเขาเพียงเพราะเขาเกลียดผู้นำปาร์ตี้แบบนั้น
ทุกครั้งที่พวกเขาโกรธ พวกเขาก็มักจะข่มขู่คนอื่น พวกเขามักจะกำหนดเป้าหมายไปที่ผู้เล่นมือใหม่และมองหาโอกาสที่จะตำหนิเสมอ
ผู้เล่นมือใหม่นั้นไม่สามารถแก้แค้นได้ เนื่องจากมีผู้คนนับไม่ถ้วนเข้าร่วมปาร์ตี้ด้วย
คราวนี้ลูหลี่ไม่ต้องการที่จะเผชิญปัญหาเดียวกัน เขาจึงได้สร้างทีมของตัวเองขึ้นมาพร้อมกับผู้เล่นหลายคน
"ฉันต้องการให้ทุกคนพยายามหนักขึ้นในครั้งนี้ ฉันคิดว่าฉันได้พบรูปแบบการใช้ทักษะของมันแล้ว "พเนจรกล่าวขณะที่เขาพยายามจะจัดการไพทัสในครั้งทมี่สาม
จริงๆแล้วพเนจรนั้นมีพรสวรรค์ที่จะเป็นผู้นำและจากนั้นเขาก็สั่งให้ทุกคนยืนอยู่ในตำแหน่งที่ต่างกัน ซึ่งการยืนแบบนี้จะเป็นวิธีที่ทำให้อาชีพตีใกล้สามารถหลบทักษะฟ้าผ่าได้ทันเวลา เมื่อไพทัสยกขวานของมันด้วยมือทั้งสองข้าง พเนจรก็ได้ให้สัญญาณทุกคนเพื่อกลับมายังตำแหน่งเดิม
พเนจร ลูหลี่และมูนไลท์ กลับมาได้ทันและหลบทักษะฟ้าผ่าได้ ซากุระนั้นช้ากว่าคนอื่นเล็กน้อย เธอจึงโดนทักษะฟ้าผ่าไปเต็มๆ
ส่วนอาเซอร์ซีบรีสนั้น เขาเป็นแท๊งค์ดังนั้นจึงไม่ต้องวิ่งไปจากจุดที่เขายืนอยู่
"เห็มไหม นี้คือกุญแจสำคัญในการหลบทักษะนี้" พเนจรกล่าวอย่างภาคภูมิใจ "เมื่อไพทัสกำลังจะใช้ทักษะฟ้าผ่า เขาก็จะยกแขนขึ้นทั้งสองข้างซึ่งแตกต่างจากปกติที่เขามักจะใช้มือถือขวานข้างเดียว"
ลูหลี่รู้สีกประทับใจในตัวผู้บัญชาการที่เขาได้แต่งตั้งขึ้นมา
เคล็ดลับการหลบทักษะฟ้าผ่านั้นทำได้ง่าย เนื่องจากการเคลียร์ถ้ำโหยหวนนั้นเป็นเรื่องยากมาก บริษัทเกมจึงได้ให้ไพทัสทำการเคลื่อนไหวที่พิเศษเล็กน้อยก่อนที่จะใช้ทักษะฟ้าผ่า ด้วยการกระทำของบริษัทเกมนี้ ผู้เล่นจึงมีเวลาพอที่จะตอบสนองได้ทัน
เมื่อทักษะฟ้าผ่าครั้งที่สองถูกใช้ พวกเขาทั้ง 4 ก็สามารถหลบได้
หลังจากนั้นพวกเขาก็กระโจนเข้าหาบอสอีกครั้งในทันที
หากไม่มีการรบกวนจากทักษะฟ้าผ่าแล้ว ความเสียหายที่พวกเขาสร้างนั้นก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก
หลังจากผ่านไป 10 นาที ไพทัสก็กลายเป็นซากศพในขณะที่เขาพูดออกมาว่า "วิญญาณแห่งความตายจะมาจัดการพวกเจ้า ... "
พวกเขาใช้เวลาครึ่งชั่วโมงเพื่อจัดการบอส ส่วนใหญ่เวลาที่พวกเขาเสียไปนั้นก็คือความพยายามสองครั้งแรก
"ทำไมเขาถึงดรอบอุปกรณ์ระดับเหล็กกัน?" พเนจรถามขณะที่เขาลูทของจากศพและมุ่ยปากด้วยความผิดหวัง
"นั่นเป็นไปตามที่คาดไว้ ไพทัสถูกฆ่าตายไปก่อนเราแล้ว ดังนั้นนี้จึงไม่ใช่การจัดการครั้งแรกจริงๆ "ลูหลี่อธิบาย
"แล้วเรากำลังรออะไรกันอยู่? ไปต่อกันเถอะ ฆ่าครั้งแรก! ฆ่าครั้งแรก! " อาเซอร์ซีบรีสกล่าวซ้ำๆไปมา
เนื่องจากกลุ่มทหารรับจ้างซินซินมักจะเคยอยู่ข้างหน้าปาร์ตี้อื่นๆเสมอ ดังนั้นพวกเขาจึงรู้สึกเสียเวลามากที่ได้แค่ไอเท็มระดับเหล็ก 2 ชิ้น
"เดี๋ยวก่อนมีกุญแจอยู่ตรงนี่" ความฝันที่เหลืออยู่กล่าวขณะที่เธอหยิบกุญแจเก่าๆขึ้นมา
"มันสร้างขึ้นมาเพื่ออะไรงั้นเหรอ?" อาเซอร์ซีบรีสถามขณะที่เธอส่งกุญแจให้เขา
"เห็นได้ชัดเลยว่ามันถูกสร้างมาเพื่อเปิดกล่องสมบัติใช่ไหม?"
ว่าแต่กล่องสมบัติอยู่ตรงไหน?
สมาชิกทั้งกลุ่มก็เริ่มค้นหากล่องสมบัติทันที
"นี่ฉันเจอแล้ว" ซากุระตะโกน
ลูหลี่รู้สึกประหลาดใจที่ได้เธอพบกล่องสมบัติอย่างรวดเร็ว เนื่องจากมันถูกซ่อนไว้เป็นอย่างดี
แม้แต่หลังจากที่ถ้ำโหยหวนถูกเคลียร์โดยผู้เล่นหลายคนแล้ว ก็ยังไม่รู้ว่ากล่องสมบัติอยู่ที่ไหนกัน แต่ไม่นานหลังจากนั้นมันก็จะถูกค้นพบ
ลูหลี่วางแผนที่จะแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้และปล่อยให้คนอื่นหามันกันเอง
เขาไม่ได้คิดเลยว่าซากุระจะค้นพบก่ลองสมบัติกล่องนี้ได้อย่างรวดเร็ว
ทุกคนรีบวิ่งไปหาซากุระและพบว่าเธอกำลังห้อยตัวลงมาจากหน้าผาขณะที่จับกิ่งไม้เอาไว้ มือของเธอนั้นกำลังชี้ไปที่หลุมบนหน้าผา
"พี่สาวซากุระ พี่ไม่กลัวที่จะตกลงไปเลยงั้นเหรอ?" ฮาชิจังถามขณะที่เธอมองลงไปข้างล่างอย่างหวาดกลัว
ความกล้าหาญของซากุระคือความน่ายกย่อง แม้กระทั่งลูหลี่ก็รู้สึกตกใจกับสายตาของเธอตอนที่อยู่ตรงนั้น
"ให้กุญแจฉัน ฉันจะเปิดมันเอง "ซากุระอาสา
ทุกคนในปาร์ตี้มองดูขณะที่เธอเหวี่ยงตัวจากกิ่งไม้หนึ่งไปยังอีกหนึ่งกิ่งเช่นลิงและลงไปในหลุม
"เธอทำได้หรือเปล่า" ใบหน้าของอาเซอร์ซีบรีสดูซีดลง
"ฉันคิดว่าเธอสามารถทำได้" ลูกชิ้นงาพูดอย่างกังวล
"เธอไม่ได้มีแค่ความสวยเพียงเท่านั้น แต่เธอก็ยังมีพรสวรรค์ในทุกๆเรื่อง" พเนจรและคนอื่นๆต่างก็เห็นด้วย
ซากุระได้กลับมาอย่างรวดเร็ว
ทุกคนประทับใจกับความสามารถของเธอในการปีนหน้าผาโดยใช้มือเปล่า
พวกเขามองไปที่เธอด้วยความไม่เชื่อและในไม่ช้าก็ลืมเรื่องของกล่องสมบัติไป
"มีบางสิ่งบางอย่างที่ดีได้ออกมาจากกล่องสมบัติ."
ของที่ซากุระเอาออกมามี กระเป๋า 16 ช่องและสูตรตัดเย็บ
"เธอเป็นคนพบกระเป๋า เธอสามารถเก็บมันไว้ใช้ได้" พเนจรกล่าว และไม่มีใครคัดค้าน
"ฉันมีช่องใส่กระเป๋าพอ นายไม่ได้บอกว่านายมีกระเป๋าไม่พองั้นเหรอ? นี้ของนาย" ซากุระโยนกระเป๋าไปให้ลูหลี่
ลูหลี่ตกลงรับไอเท็มนี้
ส่วนสูตรสำหรับตัดเย็บนั้นคือไอเท็มเกราะผ้าLV15 พวกเขาจึงมอบมันให้แก่มาสเรน
"แล้วยังไงต่อ? เราจะมุ่งหน้ากลับไปงั้นเหรอ? " หลังจากที่บอสตายแล้ว อาเซอร์ซีบรีสก็ได้ถามพเนจรและลูหลี่
"แล้วเราจะกระโดดลงไปงั้นเหรอ?" ลูหลี่กล่าวติดตลก