จอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 224
ติดตามอ่านนิยายเพิ่มเติมของผู้แปลและนิยายทุกตอนได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 224: การให้ความช่วยเหลือโดยบังเอิญ
การได้เห็นบั๊กกี้ทำให้ลูหลี่รู้สึกวิตกจริตเล็กน้อย
นับตั้งแต่ที่เขาได้รับประสบการณ์การเกิดใหม่มา เขาไม่เคยคิดจะไปหาคนๆนี้อีกเลย ในสายตาของเขา มันไม่สำคัญกับเขาว่าคนนี้จะมีชีวิตอยู่หรือตาย
บั๊กกี้สวมชุดทำงานสีน้ำเงิน ดูเหมือนว่าเขาเพิ่งจะมายังที่นี้พร้อมกับกลุ่มคนที่ไม่ดี
คนรอบๆต่างก็หลีกเลี่ยงพวกเขา เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ติดตั้งอาวุธหนักมองไปที่พวกเขาอย่างละเอียด
ลูหลี่ไม่สามารถหลอกได้ว่าเขามองไม่เห็นพวกเขา ดังนั้นเขาจึงเดินไปขณะจับมือน้องสาวของเขา
"อา ซินซิน มันนานมากแล้วนะเนี้ย เธอโตขึ้นมากเลยนะ" บั๊กกี้เป็นคนที่มีเสน่ห์และมารยาทดีมาก เขาดูเหมือนนักวิชาการมากกว่าลูหลี่ แม้ว่าเขาจะไม่ได้อ่านหนังสือหลายเล่มก็ตาม
"พี่ใหญ่บั๊กกี้" ลูซินตะโกนเรียก
"ถ้านายกล้าที่จะสัมผัสเธอ ฉันจะทำให้นายพูดชกับเธอขณะที่กำลังนอนลงบนพื้น" ลูหลี่เตือน
บั๊กกี้ผู้ที่กำลังจะลูบศีรษะของลูซิน ก็ตัวแข็งอยู่สักครู่ก่อนที่จะหดมือลง
"นายไม่ควรจะอยู่ที่นี่ มันจะดีกว่านี้ถ้านายออกไป"ลูหลี่กล่าวเสริม
"เพราะเรายากจนอย่างงั้นเหรอ?" บักกี้ยกคิ้วขึ้น ตอนนี้เขาอารมณ์ไม่ดีเลย
"นายไม่ใช่คนยากจนและอย่าดูถูกคนที่เป็นคนยากจนจริงๆ พวกนายมันเป็นแค่พวกเลวทราม พูดออกมาถ้ามีอะไรอยากจะพูด ชั้นเรียนของซินซินกำลังจะเริ่มแล้ว "ลูหลี่นั้นกระวนกระวาย แต่เขากำลังพูดความจริง
"ฉันมาที่นี่เพื่อขอบคุณนาย" บั๊กกี้กล่าวในขณะที่เขาพูดถึงจุดประสงค์ของการมาเยี่ยมชมของเขา ซึ่งนั้นทำให้ลูหลี่ใจอ่อนลงนิดหน่อย
ลูหลี่ส่ายหัว "มันไม่จำเป็น ฉันหวังว่านายจะตายในคุกด้วยซ้ำ ถ้าไม่มีอะไรอีก ฉันก็จะไปแล้ว นายไปทำสิ่งที่นายต้องทำเถอะ อย่ามองหาฉันหรือติดต่อซินซินอีก มิฉะนั้นแล้ว…"
"นายไม่ได้บอกว่าเราเป็นพี่น้องกันงั้นเหรอ?" บั๊กกี้ถามขณะเอียงศีรษะ
เมื่อเขาทำท่าเอียงศีรษะของเขานี้ เขาก็ดูคล้ายกับพ่อของเขา ลูหลี่ได้ยินมาว่าพ่อของบั๊กกี้ถูกสังหารเพราะท่าเดียวกันนี้
"ฉันจะยอมรับว่าเราเป็นพี่น้องกันก็ต่อเมื่อนายตาย" ลูหลี่ไม่อยากพูดอีกต่อไปในขณะที่เขาดึงน้องสาวออกไป
บรรยากาศในตอนนี้ดูเครียดมากเพราะคำพูดของลูหลี่นั้นตรงไปตรงมามากจนเกินไป
ลูซินไม่กล้าที่จะพูดอะไรทั้งนั้น แม้ว่าเธอจะรู้ว่าพี่ใหญ่บั๊กกี้ดีต่อเธอเสมอมาก็ตาม
แต่เธอนั้นก็รู้ว่าพี่ชายของเธอไม่ชอบพี่ใหญ่บั๊กกี้ ถ้าเธอพูดกับเขามากเกินไป พี่ชายของเธอก็คงจะโกรธและบางครั้งเขาก็จะตีพี่ใหญ่บั๊กกี้
ลูหลี่คงจะตีเขาด้วยแรงที่มากพอที่จะเลือดออกได้
"มันไม่พอหรือว่าฉันทำอะไรผิดกัน?" บั๊กกี้ตะโกนออกมา
ลูหลี่กระตุกริมฝีปากด้วยความหงุดหงิดและเขาก็ไม่หันหลังกลับไป
"ฉันมาที่นี่เพื่อยืมเงินให้กับลูกน้องของฉัน" บั๊กกี้กล่าวด้วยความรู้สึกกังวล กลุ่มผู้ติดตามของเขาที่เดินตามหลังเขามานั้นได้เดินเข้ามาตามและฉากที่เห็นนี้ก็ค่อนข้างรู้สึกประทับใจ
รถตำรวจเข้ามาใกล้และหยุดลงที่ถนน หน้าต่างนั้นเลื่อนลงมาเพื่อเผยให้เห็นใบหน้าของตำรวจสองคน
"ฉันไม่ได้เป็นหนี้นาย" ลูหลี่ตอบ
"พี่ชาย... " ลูซินถูกดึงโดยพี่ชายของเธอ แต่เธอก็ยังพยายามที่จะหันหลังกลับไป
เธอรู้จักคนเหล่านั้นดี นั้นเพราะว่าเธอเติบโตขึ้นมาพร้อมกับบั๊กกี้ในบ้านของป้านุ้ยและคนเหล่านี้ส่วนใหญ่ก็เป็นเด็กๆจากพื้นที่กันทั้งนั้น
พวกเขาทุกคนเป็นเด็กที่ยากจน
บางคนอายุเท่ากันหรืออายุน้อยกว่าลูซิน
"แล้วพวกนายจะเอาเงินไปทำอะไรกัน?" ลูหลี่ถามอย่างช่วยไม่ได้ขณะที่เขาหยุดเดิน
น้องสาวของเขานั้นมีจิตใจที่แสนอ่อนโยน แต่เมื่อเขามองไปที่น้องสาวของเขาแล้ว จิตใจของเขาก็อ่อนโยนขึ้นมาทันใด
เขาไปส่งเธอที่โรงเรียน ก่อนที่จะกลับจัดการธุระนี้
"ฉันไม่ได้ตั้งใจที่จะเข้ากับสังคม ฉันต้องการสร้างสตูดิโอ สตูดิโอเกม "บั๊กกี้กล่าวในท่ายืนตรง
"พวกเขาจะพึ่งพานายได้งั้นเหรอ?" ลูหลี่ไม่พยายามปิดบังความรังเกียจของเขา
"ใช่พวกเขาเหล่านี้อยู่กับฉันและฉันจะไม่ปล่อยให้พวกเขาหิว ให้ฉันยืมเงินบางส่วนและฉันจะจ่ายเงินนี้คืนในภายหลัง " หน้าของบั๊กกี้กลายเป็นสีแดง เขาเคยปฏิเสธที่จะขอร้องคนอื่นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม
ลูหลี่เงียบ เขาไม่ต้องการที่จะยอมรับข้อตกลงนี้ แม้ว่าเขากำลังจะทุกข์ใจก็ตาม
แต่ลูหลี่ก็ต้องยอมรับว่านี่อาจจะเป็นแผนของเขาและถ้าป้านุ้ยรู้เรื่องนี้จากชีวิตหลังความตายแล้วป้าจะพักผ่อนอยู่อย่างสงบหรือเปล่านะ
"นายต้องการเท่าไหร่?"
"ฉันได้ทำการศึกษามาแล้ว ฉันต้องการเช่าห้องขนาดเล็กและหมวกเกมซึ่งแต่ละตัวจะมีราคา 3000 ดอลลาร์ เรามี 59 คนดังนั้นฉันจะต้องการที่จะยืม 250,000 ดอลลาร์ ... "ดูเหมือนบั๊กจะคิดถึงเรื่องนี้มาก่อนแล้ว
"นายศึกษาได้แค่นี้งั้นเหรอ?" ลูหลี่เยาะเย้ย
"ฉันได้ศึกษามาว่านายเล่นเกมได้ดีมากและนายยังเป็นผู้เชี่ยวชาญอันดับ 1 "หน้าของบั๊กกี้นั้นดูพิลึกมาก ก่อนหน้านี้เขาเคยดูถูกลูหลี่ด้วยความชิงชังและคิดว่าเขานั้นไร้ค่า
แต่ เขานั้นก็ไม่คิดว่าเขาจะแตกต่างจากลูหลี่มากนัก เมื่อเห็นว่าลูหลี่เล่นได้ดีแล้ว เขาก็คิดว่าเขาจะเล่นได้ไม่เลวเช่นกันหากนำลูกทีมมาพร้อมกับเขา
"นายคิดว่าเกมนี้เล่นง่ายเหรอ?" ลูหลี่กล่าวเพราะรู้จักตัวเขาเองเป็นอย่างดี
"อย่างน้อย เราก็สามารถที่จะเลี้ยงตัวเองได้" บั๊กกี้กล่าวอย่างหนักแน่นขณะที่มองไปที่ลูกน้องของเขา
"พี่ชายลู ได้โปรดช่วยเราด้วย เราจะทุ่มเทให้กับการหารายได้จากเหรียญทองและเมืื่อได้มันมาเพียงพอแล้ว เราก็จะคืนมันให้แก่นาย " แบล็คกี้ที่ยืนอยู่ข้างหลังบั๊กกี้กล่าวอย่างมั่นใจ
"พี่ชาย พวกเราแค่ให้พวกเขายืมเงินก่อนเถอะ" ลูซินพูดเบาๆในหูของลูหลี่ "ถ้าเขาสามารถหาเงินได้ เขาก็จะหยุดทำในสิ่งที่ไม่ดี"
"นี่มันไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับน้อง" ลูหลี่จ้องเขม็งไปที่น้องสาวของเขาสักครู่หนึ่ง
"นายสามารถกำหนดเส้นตายได้และถ้าฉันไม่คืนเงินแล้วละก็ นายสามารถแจ้งตำรวจและส่งฉันเข้าไปในคุกได้เลย" บั๊กกี้กล่าว
"ฉันสามารถให้นายยืมเงินได้" ลูหลี่กล่าวหลังจากที่คิดอะไรสักอย่าง "แต่ฉันมีข้อแม้"
"บอกเรามาเลย พวกเราจะทำทุกๆอย่าง" บั๊กกี้ตอบขณะที่เขาตบหน้าอกของตัวเขา
"นายสามารถทำทุกอย่างที่นายต้องการทำในเกมได้ แต่เมื่อถึงเวลาที่ฉันต้องการ นายจะต้องทำตามที่ฉันบอกโดยไม่มีสิทธปฏิเสธและไม่สงสัยอะไร"
ผิวของบั๊กกี้เปลี่ยนเป็นสีเข้มเล็กน้อย เขาขมวดของเขาและถามว่า "ข้อแม้อะไรกันเนี้ย?"
"ฮ่าๆ ถ้านายอยากจะมีอำนาจเหมือนเดิมกับการเป็นหัวหน้าแก๊งค์ ฉันขอแนะนำให้นายออกไปที่นี้ตอนนี้เลยน่ะบั๊กกี้ ฉัน ลูหลี่ไม่ได้เป็นหนี้อะไรกับนาย"ลูหลี่พูดอย่างเย็นชา
"ฉันจะ ... ขอฉันคิดเรื่องนี้ก่อน ... " บั๊กกี้กล่าวด้วยความแปลกใจ
"ทำไมฉันต้องให้เวลานายในการคิด? บั๊กกี้และทุกๆคนต้องจ่ายเงินสำหรับสิ่งที่พวกนายได้ทำไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับพวกเราที่ได้ออกจากย่านสามัญไปแล้ว พวกเราไม่คิดว่าจะให้อะไรฟรีๆแน่นอน "
ลูหลี่ไม่รู้ว่าจะคิดข้อแม้อะไรดี เขาเพียงแค่ไม่ต้องการให้พวกเขายืมเงินง่ายๆ
เขาจึงคิดได้ว่าจะสร้างหนี้ให้พวกเขา ถ้าไม่ใช่เพราะแม่ของเขาแล้วละก็ ลูหลี่คงจะไม่สนใจในเรื่องนี้ มันมีอะไรเกี่ยวข้องกับเขากัน?
นอกจากนี้ลูหลี่ก็ไม่ต้องการที่จะใจร้ายต่อหน้าน้องสาวของเขามากเกินไป
บั๊กกี้ดูเหมือนลูกบอลที่แฟบขณะที่เขายิ้มอย่างขมขื่น "นายพูดถูก ลูหลี่ ฉันเป็นคนที่สอนนายถึงความเป็นจริงของโลกเองและดูเหมือนว่าฉันจะลืมมันไปนานแล้ว "
"ถ้านายเห็นด้วยให้เอาเลขบัญชีนายออกมาและฉันจะส่งเงินไปให้" ลูหลี่กล่าวขณะที่เขาจับมือน้องสาวของเขา "และอย่าเข้าใกล้ซินซินอีกต่อ หากฉันพบว่านายได้ติดต่อกับซินซินแล้ว ข้อตกลงทั้งหมดของเราจะเป็นโมฆะ
"ลูหลี่ ... " บั๊กกี้ให้หมายเลขบัญชีของเขาแก่ลูหลี่และต้องการพูดอะไรบางอย่าง แต่เขาก็ลังเล ในที่สุดลูหลี่ก็โบกมือของเขาและทิ้งพวกเขาไว้เบื้องหลัง
เขารู้ว่าลูหลี่นั้นห่วงใยลูซิน แต่เขานั้นไม่ทราบว่าลูหลี่ห่วงใยมากแค่ไหน
หลายปีมาแล้วที่เขาเป็นได้แค่ตัวตลก แต่เขาก็ไม่ได้ตระหนักเลยว่าลูหลี่นั้นเกลียดเขามาหลายปีแล้ว
เขาจำไม่ได้ว่านานมาแล้วแค่ไหน แต่มันต้องนานกว่า 10 ปีแล้วแน่ๆ อยู่มาวันหนึ่งเขาได้ขโมยเงินของเพื่อนบ้านและเอามาซื้อลูกกวาด
"ซินซิน ถ้าเธอชอบลูกกวาดมาก เธอสามารถแต่งงานกับพี่ใหญ่บั๊กกี้และฉันจะซื้อให้เธอกินทุกวันเลยนะ"
ซินซินกำลังจดจ่ออยู่กับการกินลูกกวาดและก่อนที่เธอจะสามารถพูดอะไรออกไป ลูหลี่ก็ได้ได้กระฉากผมที่ติดอยู่กับศีรษะของบั๊กกี้ จากนั้นพวกเขาก็ต่อสู้กันและตั้งแต่วันนั้นพวกเขาก็มักจะมองหาเหตุผลที่จะต่อสู้กันอยู่เสมอ
หลังจากเกิดเหตุการณ์นั้นและการตายของป้านุ้ยเกิด พวกเราทั้งสองก็ได้แยกตัวออกห่างกันมากขึ้น
บั๊กกี้ไม่กล้ามองไปที่ลูซินเลย เมื่อเขาพบเธอ เขาก็จะหันหลังกลับและเดินออกไป
มันจะเป็นมหันตภัยถ้าลูหลี่เห็นเขามองดูน้องสาวของเขา
แต่เห็นได้ชัดเลยว่านี่เป็นแค่เรื่องตลก จริงๆแล้วบั๊กกี้นั้นไม่ได้เป็นเฒ่าหัวงู