จอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 213
ติดตามอ่านนิยายเพิ่มเติมของผู้แปลและนิยายทุกตอนได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 213: ปาร์ตี้สามคน
ลูหลี่เปิดหน้าค่าสถานะของเขาและเห็นว่าแต้มเกียรติยศของเขายังคง -312
การเผาผลาญเสบียงของเผ่าพันธุ์นั้นได้รับรางวัลเป็น EXP จำนวนมากและดวงตาแห่งคำโกหก อย่างไรก็ตามเขาได้สูญเสียแต้มเกียรติยศเป็นจำนวนมากเพราะเขาได้ทำผิดพลาดในการเผามนุษย์บางคนให้ตาย
เขาเป็นผู้เล่นที่มีค่าเกียรติยศต่ำสุดกว่าทุกๆคนในเกมรุ่งอรุณ!
ถ้าเขาต้องการที่จะมีส่วนร่วมในการแข่งขัน "เทพธิดาผู้พิทักษ์" เขาก็ต้องรีบยกแต้มเกียรติยศให้กลับไปเป็นค่าบวกเหมือนเก่า!
ทุกคนต่างก็สนุกกับการได้รับ EXP ของพวกเขา แต่เขาต้องกลับไปที่หุบเขาวอซอง
"ลูหลี่ ทำไมนายไม่มาด้วยกันล่ะ?" นอกเหนือจากเด็กสาวทั้งสองคนที่สามารถเข้าสู่ระบบได้หลังจากเวลา 20.00 น.แล้ว ทุกคนก็กำลังรอลูหลี่อยู่
"ฉันจะไปที่หุบเขาวอซองเพื่อทำให้แต้มเกียรติยศของฉันกลับมาเป็นบวกอีกครั้ง"ลูหลี่ถอนหายใจ
"ทำไมกันล่ะ?" พเนจรค่อนข้างผิดหวัง
"มันค่อนข้างซับซ้อนนะ ไม่ต้องสนใจฉันหรอก มันเป็นสิ่งที่ฉันจำเป็นต้องทำนะ พวกนายไปก่อนเลย ระมัดระวังด้วยแม้ว่าตอนนี้จะมีธาตุน้ำไม่มากนัก ดังนั้นจึงเป็นผู้เล่นที่ฟาร์มมอนเตอร์พวกนี้ แต่ในตอนบ่ายมันจะเป็นตอนที่มอนเตอร์ฟาร์มผู้เล่น "ลูหลี่เตือนพวกเขา
อันที่จริงแอนเซรินนั้นแทบไม่มีคุณสมบัติในการเป็นบอสและมีค่าสถานะที่ต่ำ อย่างไรก็ตามเขาเป็นอัจฉริยะและรวบรวมพวกหัวรุนแรงบางส่วนเพื่อสร้างกองทัพธาตุน้ำขนาดใหญ่ภายใต้จมูกของกองทหารแห่งไนท์เอล์ฟ
ในชีวิตที่ผ่านมาของเขา ลูหลี่ได้เข้าเกมหลังจากสงครามครั้งนี้เกิดขึ้น แต่เขาก็เคยได้ยินผู้เล่นเก่าหลายคนพูดถึงเรื่องนี้
ตามที่พวกเขาบอกนั้น เหล่าธาตุน้ำนั้นดูเหมือนจะแผ่ขยายไปทั่วฟ้าและแผ่นดินซึ่งในเวลานั้นผู้เล่นหลายก็ได้ตกอยู่ในสภาพสิ้นหวัง
"ฉันจะช่วยนายเอง ผู้เล่นฝ่ายพันธมิตรหลายคนฟาร์มมอนเตอร์ธาตุน้ำ ดังนั้นจึงมีผู้เล่นเผ่าพันธุ์จำนวนมากที่หุบเขาวอซอง " มูนไลท์ชอบที่จะต่อสู้กับผู้เล่นคนอื่นๆและอยากทำงานร่วมกับลูหลี่มาเป็นเวลานานแล้ว ขณะที่เขาคิดเกี่ยวกับการต่อสู้ร่วมกันระหว่างนักรบและโจร นั้นทำให้เลือดของเขารู้สึกเดือดด้วยความตื่นเต้น
"อืม โอเค"
ลูหลี่นั้นเข้าใจผิดว่านักรบคลั่ง[มูนไลท์]น่าจะเป็นทหารเนื้อที่เหมาะสม
"ฉันอยากไปด้วย เราสามคนเป็นปาร์ตี้เดียวกันใช่ไหม? " มาสเรนคิดสักครู่ก่อนที่จะตัดสินใจห้อยตามไปด้วย
"อืม โอเค เธอสามารถฝึกซ้อมและสังเกตุเทคนิคบางอย่างสำหรับการฆ่าจริงได้" มูนไลท์ชอบเรียกการฆ่าว่างานศิลปะและหมกมุ่นอยู่กับ PVP ตลอดเวลา นี่จึงเป็นเหตุผลที่เขาไม่ได้เป็นผู้นำที่เหมาะสมมากนัก
"งั้นฉันไปด้วยนะ" ลูกชิ้นงากล่าว
"ไม่ ไม่เป็นไร แค่สามคนก็พอแล้ว การมีคนมากเกินไปอาจจะเป็นเรื่องที่ลำบากเช่นกัน นายมีระดับต่ำกว่าพวกเรา ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องที่ดีสำหรับนายที่จะฟาร์ม EXP "ลูหลี่ปฏิเสธ
การมีสมาชิกจำนวนมากไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งที่ดีและที่นั้นมีหลายปาร์ตี้ที่มีสมาชิกมากกว่าพวกเขา
ลูหลี่กลับมาที่เมืองและไปที่ห้องประมูลก่อน
หนังสือทักษะเสียงคำรามมีราคาอยู่ที่ 60 เหรียญทองซึ่งมีมูลค่าเป็นเงินจริงประมาณ 6000 ดอลลาร์ ลูหลี่ตัดสินใจซื้อมันอย่างไม่ลังเล
ด้วยเอฟเฟคพิเศษของแหวนซูพรีม: เจ้าแห่งป่าเซนาเรียสได้ทำให้ให้แหวนวงนี้มีอำนาจพิเศษ คุณสามารถเรียนรู้ทักษะการกลายร่างของดรูอิดได้สามแบบรวมทั้งทักษะเสริมแบบอื่นๆสองรูปแบบ
ลูหลี่ได้เรียนรู้การกลายร่างเป็นแมวน้ำในตอนเริ่มต้นซึ่งนั้นได้ให้ผลตอบแทนแก่เขาดีมาก
ทักษะที่สองที่เขาได้เรียนรู้คือลูกของป่า ซึ่งนั้นทำให้เขากลายเป็นเสือชีตาห์ตัวเล็กๆ
ส่วนทักษะที่สามที่เขาได้เรียนรู้คือกลายร่างเป็นอีกา ซึ่งนั้นทำให้เขาสามารถบินได้ มันเป็นทักษะที่เขาพึ่งพาอาศัยมันอย่างหนัก เพราะมันทำให้เขาบินได้ซึ่งนั้นทำให้เขาสามารถไปสถานที่ที่คนอื่นไม่กล้าที่จะไปใกล้ๆได้แบบง่ายๆ
สำหรับ "สามารถเรียนรู้ทักษะเสริมของทักษะกลายร่างได้ 2 รูปแบบ" นั้น เขาทำได้เพียงแต่เรียนรู้ทักษะเสริมของเสือชีต้าเท่านั้น การกลายร่างเป็นแมวน้ำและอีกาเป็นรูปแบบการว่ายน้ำและการบินดังนั้นจึงไม่มีทักษะเสริมที่จะสามารถเรียนรู้ได้
ลูหลี่ไม่แน่ใจว่าควรจะเรียนรู้หนังสืออะไรเพิ่มของการกลายร่างเป็นเสือชีตาห์
ไม่นานนักเขาก็ได้เรียนรู้ทักษะย่องเบาของเสือชีตาห์
ตอนนี้เขาเลือกทักษะที่สองของเขาซึ่งนั้นก็คือ เสียงคำราม
เสียงคำราม:ใช้งานทันที ระยะเวลาคูลดาวน์: 60 วินาที เสียงคำรามที่ออกมาโดยดรูอิดทำให้ความเร็วในการเคลื่อนที่ของผู้เล่นที่เป็นพันธมิตรภายในระยะ 5 ฟุตจะเพิ่มขึ้น 30% มีผลเป็นระยะเวลา 5 วินาทีและกำจัดกับดักและเอฟเฟคกับดักทั้งหมด ระดับปัจจุบัน: 1/5
ในความเป็นจริงทักษะคำรามนั้นไม่เหมาะสมสำหรับลูหลี่และไม่ทำให้เขาแข็งแกร่งขึ้นเลย
แต่มันจำเป็นสำหรับทีมของเขา! หรืออย่างน้อยนั่นคือสิ่งที่ลูหลี่ได้บอกกับตัวเอง
เมื่อเขาคิดถึงรางวัลใหญ่ของการแข่งขันถ้วยเงา เขารู้สึกดีขึ้นมาก
ครึ่งชั่วโมงต่อมาปาร์ตี้สมาชิกทั้ง 3 คนก็ได้มาถึงด้านนอกของสนามรบ
"ฉันจะรับหน้าที่ในการสอดแนมเอง" ลูหลี่กล่าวขณะที่ชี้ไปที่ตัวเอง "แสงรับผิดชอบในการดึงดูดศัตรู มาสเรนเพียงแค่ปกป้องตัวเองและรักษาพวกเราให้ดีขึ้นก็พอแล้ว "
มูนไลท์และมาสเรนทั้งสองพยักหน้าขณะที่พวกเขาทั้งสามคนเข้าสู่หุบเขาวอซองด้วยกัน
ลูหลี่กลายร่างเป็นเสือชีต้าตัวน้อยและใช้ย่องเบา ถ้ามีคนที่ไม่สังเกตุหรือไม่มองดูดีๆ เขาอาจถูกมองว่าเป็นหนูที่วิ่งหนีไปรอบๆในสนามรบ แต่ถ้าใครมองข้ามเขาไป พวกเขาก็จะสังเกตเห็นหญ้าที่ขยับไปมาเท่านั้น
"ข้างหน้าเรา 3 นาฬิกา นักรบ 1 นักบวช 1 นักเวทย์ 2 พ่อมด 1 พวกเขามีรูปแบบการจัดทีมที่ไม่ดีเลยทีเดียว มูนไลท์ใช้ทักษะวินเมลของนายและฆ่าพวกเขาซะ "ลูหลี่พูดเบาๆในช่องแชทของพวกเขา
ถึงเขาจะพูดอย่างนั้น แต่ทีมนี้ก็มีองค์ประกอบที่มาตรฐาน อะไรคือสิ่งที่กำหนดองค์ประกอบมาตรฐานงั้นเหรอ? มันค่อนข้างจะอธิบายง่าย ขอแค่ทีมมีฮีลเลอร์นั้นก็เป็นองค์ประกอบมาตรฐานแล้ว
บางทีทุกสิ่งทุกอย่างอาจเป็นไปได้ดีสำหรับพวกเขา พวกเขาจึงเริ่มที่จะผ่อนคลายและลดความระมัดระวังของพวกเขาไป
"วันนี้เกิดอะไรขึ้นกับพวกสุนัขพันธมิตรกัน? ไม่น่าพึงพอใจเลย "นักรบหัวเราะขึ้นมา
"พวกเขาอาจจะกลัวเรามากเพราะเรื่องเมื่อวานนี้ สมาคมเมืองหลวงแห่งความรุ่งโรจน์เป็นสมาคมที่ใหญ่ที่สุดในเกมนี้และกำลังจะทำลายทุกคนในหุบเขาวอซอง แม้แต่สมาคมธงสงครามสีเลือดยังไม่กล้าที่จะแก้แค้น "นักเวทย์ที่เดินอยู่ข้างๆเขาเย้ยหยันในเรื่องนี้
"วันนี้เราจะไปกันต่อไหม?" สมาชิกที่อยู่ด้านหลังถาม
"มันเป็นไปไม่ได้ที่วันนี้จะมีการต่อสู้ครั้งใหญ่เช่นเมื่อวานนี้ สมาคมเมืองหลวงแห่งความรุ่งโรจน์เริ่มต้นที่จะเคลียร์ถ้ำโหยหวนในวันนี้ ดังนั้นจึงมีสมาคมเมืองหลวงแห่งความรุ่งโรจน์เพียงสองทีมเล็กๆลาดตระเวนไปรอบๆเพื่อปราบสุนัขของพวกพันธมิตร "นักเวทย์กล่าว
"ถึงมันจะเป็นสงครามแค่ครั้งเดียว แต่มันก็น่ากลัวมาก มันช่างน่าเสียดายที่มาตรฐานในการเข้าร่วมทีมของพวกเขานั้นสูงเกินไป บ้าเอ้ย ศัตรูโจมตี ... "
นักรบหันศีรษะไปและเห็นคนพรวดพราดออกมาจากพุ่มไม้ ขณะที่พวกเขาหยุดเดินข้างหน้าของพวกเขาก็ได้เจอกับทักษะลมกรด
นักบวชยกไม้เท้าของตนขึ้น แต่ก่อนที่เขาจะรักษาเพื่อนได้ เขาก็รู้สึกเจ็บที่ปลายศีรษะและสายตาของเขาก็มืดลง
ลูหลี่นั้นสามารถจัดการกับนักบวชได้ด้วยการโจมตีเพียงไม่กี่ครั้ง ก่อนที่ทักษะลมกรดของมูนไลท์จะใช้เสร็จ
นอกเหนือจากนักรบแล้ว HP ผู้เล่นคนอื่นๆอีกสามคนนั้นตกอยู่ในสถานะวิกฤต!
มูนไลท์ตัดเส้นทางการหลบหนีของนักบวชด้วยการชาร์จและจบชีวิตเขาด้วยการโจมตีเพียงสองครั้งจากขวานของเขา ลูหลี่ได้เปิดใช้งานเอฟเฟคพิเศษของเสื้อคลึมและปรากฏตัวข้างหลังพ่อมดทันที จากนั้นลูหลี่ก็ใช้ทักษะเตะใส่เขาเพื่อขัดขวางทักษะที่ทำให้ติดสถานะกลัวก่อนที่เขาจะร่าย เมื่อเขาทำอย่างนั้นแล้ว เขาก็ได้ใช้ทักษะชาโดว์สไตรค์ต่อและด้วยฝีมือที่สูงของลูหลี่นั้นก็ทำให้พ่อมดคนนั้นติดสตันพร้อมกับตายเมื่อถูกโจมตีไปสองครั้ง
ยังคงเหลือนักเวทย์และนักรบอยู่
"เตรียมรับมือ!" มูนไลท์และนักรบอีกคนใช้ชารจ์ใส่กันซึ่งนั้นทำให้พวกเขาทั้งคู่ติดสตัน
นักเวทย์นั้นไม่ได้โชคดีเท่าไร เขาได้ร่ายคอนออฟโคลเพื่อชะลอการเคลื่อนที่ของโจร แต่เขาก็ไม่สามารถโจมตีโดนลูหลี่ได้ ลูหลี่ได้เคลื่อนที่ไปรอบๆขณะที่สร้างความเสียหาย
ผู้เชี่ยวชาญ!
สาวสวยได้ออกมาจากด้านหลังต้นไม้และเริ่มร่ายเวทย์รักษา โดยปล่อยให้คนที่เหลืออีก 2 คนตกอยู่ในความสิ้นหวัง
การต่อสู้ที่ชนะอย่างไร้ที่ติต่อผู้เล่น 5 คนนั้นกินเวลาไปเพียง 40 วินาที มูนไลท์นั้นสูญเสีย HP ไปเพียงเล็กหน่อยในขณะที่ลูหลี่นั้นยังไม่โดนโจมตีเลย ความแตกต่างระหว่างความแข็งแกร่งของทั้งสองทีมนั้นเป็นสิ่งที่เห็นได้ชัดมาก
"มาสเรน เธอไม่จำเป็นที่จะต้องออกมา ครั้งหน้าระวังด้วย "
ลูหลี่ไม่ได้หยิบอุปกรณ์ที่ดรอบลงมาและใช้ย่องเบาแทน
เขายังคงตระเวนไปหาศัตรูเรื่อยๆ เมื่อเจอศัตรูที่มีจำนวนมากเกินไป เขาจะนำทางมูนไลท์และมาสเรนเพื่อหลีกเลี่ยงพวกเขา เมื่อเขาพบว่าสมาชิกศัตรูมีพอประมาณ เขาก็จะประสานงานกับมูนไลท์และมาสเรนเพื่อซุ่มโจมตีพวกเขาและเมื่อเขาพบว่าศัตรูนั้นเป็นผู้เล่นเพียงคนเดียว เขาก็จะฆ่ามันด้วยตัวเอง ไม่มีโอกาสสำหรับมูนไลท์และมาสเรนในการเข้าร่วมการต่อสู้แบบนั้นเลย
หุบเขาวอซองนั้นมีขนาดกว้างใหญ่อย่างไม่น่าเชื่อและหากมีใครสามารถมาเดินชนผู้เชี่ยวชาญเช่นลูหลี่ได้นั้น ก็คงจะไม่มีอะไรแตกต่างระหว่างผู้เชี่ยวชาญกับผู้เล่นธรรมดา