จอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 203
ติดตามอ่านนิยายเพิ่มเติมของผู้แปลและนิยายทุกตอนได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 203: นิสัยสาววายของฮาชิจัง
นี่เป็นครั้งแรกที่ลูหลี่ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของฮาชิจัง ปรากฎว่าครั้งนี้เธอได้เรียนรู้ทักษะลูกแห่งป่ามาด้วย
อุปกรณ์ของลูหลี่นั้นไม่ได้ดีไปกว่าของฮาชิจัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่เขาได้ส่งมอบคทาระดับเงินอันประณีตไปแล้ว
"เธอได้รับรางวัลจากเควสเพิ่มระดับอาชีพบ้างไหม?" ลูหลี่ไม่แน่ใจว่ามีไอเท็มระดับเงินกี่ชิ้นที่ผู้หญิงคนนี้มีกันแน่
"อย่าพูดถึงมันเลย รางวัลที่ได้มานั้นก็ไม่ดีเท่าไหร่ อุปกรณ์ระดับเหล็ก SPและหนังสือทักษะ อุปกรณ์ที่ได้มานั้นแย่กว่าที่ฉันมีและหนังสือทักษะเป็นสิ่งที่ฉันได้เรียนรู้มาก่อนแล้ว "การบ่นครั้งนี้ของเธอเหมือนกับลูกสาวที่ไม่พอใจพ่อ
การที่ได้รับ SP จากเควสเพิ่มระดับอาชีพนั้นก็น่าทึ่งอยู่แล้ว คนส่วนใหญ่จะได้รับเพียงไอเท็มระดับเหล็กทำภารกิจเสร็จเท่านั้น
"โอ้ หนังสือทักษะอะไรที่เธอได้รับมาล่ะ?" ลูหลี่ถาม
"หนังสือทักษะลอบเร้น ฉันได้เรียนรู้มันแล้ว " ฮาชิจังได้ควงคทาของเธอไปรอบๆและมองไปที่มันด้วยความรัก อย่างไรก็ตามลูหลี่ก็ไม่ได้ชมเธอ
"ให้หนังสือทักษะนั้นกับฉันแล้วกัน" ลูหลี่กล่าวขณะที่ยื่นมือออกไป เขารู้สึกว่ามันไม่ดีเกินไปที่จะรับอะไรจากเด็กหญิงตัวเล็กๆโดยไม่ให้อะไรตอบแทน ดังนั้นเขาจึงพูดเสริมว่า "ฉันจะให้อีก 10 เหรียญทอง"
"ฉันจะมอบหนังสือทักษะนี้ให้นายเป็นของขวัญ ขอบคุณที่สร้างอุปกรณ์ที่ยอดเยี่ยมและน่ารักเช่นนี้ให้ฉัน "ฮาชิจังตอบลวกๆ
"ฉันคงจะมีความสุขมากถ้าเธอลบคำที่อยู่ข้างหลัง 'ยอดเยี่ยม' ของเธออกไป " ลูหลี่ตอบกลับอย่างรวดเร็ว แม้คทาจะมีค่าสถานะพิเศษและเอฟเฟคพิเศษ แต่เธอก็มองแค่รูปร่างภายนอกของมัน
อย่างไรก็ตามตอนนี้เขาสนใจหนังสือทักษะมาก
เมื่อมีการค้นพบแม่พิมพ์มากขึ้น พันธมิตรช่างตีเหล็กแห่งเกมรุ่งอรุณจะถูกสร้างขึ้นและพวกเขาจะสนับสนุนช่างตีเหล็กทั้งหมดในโลกแห่งเกมรุ่งอรุณ
พวกเขาเชื่อว่าถ้าการตีเหล็กล้มเหลว ช่างตีเหล็กควรชดเชยเจ้าของแม่พิมพ์เป็น 20% ของมูลค่าของวัสดุที่ใช้ไป แน่นอนพวกเขายังสามารถตกลงกันเป็นส่วนตัวได้เช่นกัน
ถ้าพวกเขาตีอาวุธได้ระดับดี ผู้จ้างจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเล็กๆน้อยให้ช่างตีเหล็กหรือไม่จ่ายเลยก็ได้
ถ้าพวกเขาตีอาวุธได้ระดับดีเยี่ยม ผู้จ้างจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียม 10% ของวัสดุที่ใช้
ถ้าพวกเขาตีอาวุธได้ระดับประณีต ผู้จ้างจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียม 20% ของวัสดุที่ใช้ ในความเป็นจริงช่างตีเหล็กจำนวนมากต้องการให้ได้มากกว่ามาตรฐานระดับนี้ แต่โดยปกติเจ้าของแม่พิมพ์พอใจที่จะจ่ายเงินเพิ่มเพื่อแลกกับอุปกรณ์ระดับประณีต
สำหรับอุปกรณ์ระดับสมบูรณ์แบบนั้นไม่มีทางใดที่จะกำหนดราคามาตรฐานได้และไม่จำเป็นที่จะต้องกำหนด นั้นเพราะว่าช่างตีเหล็กส่วนใหญ่นั้นไม่สามารถที่จะตีอาวุธได้ระดับสมบูรณ์อยู่แล้ว
คทาอัมแบรนนั้นอุปกรณ์ระดับเงินอันประณีต
ถ้าหากจะพูดถึงราคามาตรฐานที่ฮาชิจังจะต้องจ่ายลูหลี่นั้น มันก็มากเกินกว่าหนังสือทักษะลอบเร้นที่เธอเพิ่งให้เป็นของขวัญเขาไปเขา
ลูหลี่นั้นต้องการหนังสือทักษะเล่มนี้มาเป็นเวลานานแล้ว
แม้ว่าหนังสือทักษะเสือชีตาห์[ลอบเร้น]ไม่ใช่ของที่หายากมาก แต่ความต้องการในตลาดของมันก็สูงจนเกินไป ลูหลี่ไม่สามารถใช้เวลาในห้องประมูลได้ทั้งวัน ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถหาชื้อมันได้
หลังจากให้คทาไป ลูหลี่ก็ยังคงฟาร์มต่อไป เขายังคงมีบัพ EXP เหลืออีกเป็นเวลาครึ่งชั่วโมงและทุกวินาทีนั้นมีค่ามาก
เมื่อเธอได้รับคทาของเธอแล้ว ฮาชิจังก็ไม่ได้วิ่งออกไปทันที แต่เธอใช้ทักษะของเธอเพื่อช่วยลูหลี่ฟาร์มมอนเตอร์
ลูหลี่ทำได้เพียงแต่เพิ่มเธอเข้าไปยังปาร์ตี้
"เมื่อไหร่ที่พวกเราจะโยนระเบิดแบบนั้นอีกครั้ง?" ฮาชิจังรู้สึกค่อนข้างเบื่อกับการฟาร์มแบบนี้
"ไม้ดวงดาวนั้นค่อนข้างยากที่จะได้รับมันมาและฉันยังต้องการมันเป็นจำนวนมากอีกด้วย" ไม่มีอะไรที่ลูหลี่สามารถทำได้ในตอนนี้ นั้นก็เพราะเขาไม่ได้หน้าด้านพอที่จะไปขอไม้ดวงดาวที่ช่องแชทโลกอีกครั้ง
ไม้ดวงดาว 1 ชิ้นแลกกับความชอบ เขาไม่สามารถสร้างข้อเสนอแบบนี้ได้มากนัก
นอกจากนี้หลายคนเริ่มสงสัยเกี่ยวกับไม้ดวงดาวแล้ว เมื่อเขาไปที่ห้องประมูลเขาไม่สามารถหามันได้แม้แต่ชิ้นเดียว
ไม้ดวงดาวส่วนใหญ่นั้นลูหลี่ได้มาจากผู้เล่นที่เคารพนับถือเขา ไม้ดวงดาวเหล่านี้คือบุญคุณที่เขาต้องทดแทนกลับ แต่ตอนนี้เขาไม่สามารถโยนเหรียญทองเพื่อใช้ในการแลกเปลี่ยนกับมันได้
"คุณไม่สามารถสร้างมันได้อีกถ้าปราศจากไม้ดวงดาวงั้นเหรอ?" ฮาชิจังถามอย่างน่าสงสาร
ตั้งแต่เธอได้เริ่มเล่นเกมนี้ เธอก็ได้ทำเควสมาเป็นจำนวนมาก เธอได้เห็นเควสหลายร้อยหลายพันเควสที่มีวัสดุหายากและของแปลกๆมากมาย แต่เธอนั้นก็ไม่เคยได้รับไม้ดวงดาวมาก่อน บางทีอัตราการดรอบของมันคงจะต่ำเกินไป
"จะมีคนขายมันแน่นอน" ลูหลี่ตอบอย่างมั่นใจ
แม้ว่าไม้ดวงดาวจะมีอัตราการดรอบที่ต่ำ แต่มีผู้เล่นหลายสิบล้านคนอยู่ในเกมซึ่งก็เป็นไปไม่ได้ที่มันจะไม่ดรอบลงมาสักชิ้น คนที่มีไม้ดวงดาวอยู่กับตัวกำลังพยายามหาวิธีที่จะให้ EXP พวกเขาเพิ่มขึ้น แต่พวกเขาส่วนมากนั้นล้มเหลว
เมื่อพวกเขาล้มเหลวในการหาวิธีเพิ่ม EXP พวกเขาก็จะโยนสิ่งไร้ประโยชน์เหล่านั้นไปในห้องประมูล
"ฮาชิจัง เธอกำลังทำผิดนะ" หลังจากที่พวกเขาฟาร์มมาสักพัก ลูหลี่ก็ทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว
ไม่ใช่เพราะเขาชอบสอนคนอื่นๆ แต่เพราะเขาเคยเล่นเป็นดรูอิดใน "ชีวิตที่ผ่านมา" ของเขา เขาไม่สามารถยืนดู ฮาชิจังเล่นมั่วๆแบบนั้นได้
"ฉันคิดว่าฉันฟาร์มได้ดีเลยทีเดียว" ฮาชิจังกระพริบตาด้วยความสับสน
"ไม่ว่าจะเป็นการโจมตีหรือการรักษา นักเวทย์ดรูอิดนั้นควรจะสร้างความเสียหายหรือรักษาตลอดเวลา ... " ลูหลี่ได้พูดจ้อในเรื่องนี้ไม่กี่นาทีก่อนที่เขาจะหยุดสักครู่และพูดต่อว่า "เธอควรพยายามทำความเข้าใจกับทักษะของเธอมากกว่าที่จะใช้พวกมันอย่างลวกๆนะ”
"อ่า ... " ฮาชิจังอ้าปากกว้างตามด้วยการแสดงออกโง่ๆบนใบหน้าของเธอ
"อะไร เธอไม่เข้าใจที่ฉันพูดงั้นเหรอ?" ลูหลี่ขมวดคิ้ว เพื่อที่จะให้เหมาะสมกับระดับสติปัญญาของเธอ เขาจึงได้อธิบายสิ่งต่างๆไว้อย่างง่ายๆ
ด้วยสติปัญญาเช่นนั้นแล้ว ลูหลี่จึงสงสัยว่าเธอทำเควสบ่อยแค่ไหน
ตอนนี้ฮาชิจังนั้นดูราวกับว่าเธอเป็นนักผจญภัยที่เพิ่งค้นพบทวีปใหม่ เธอไม่สามารถละสายตาของเธอออกจากใบหน้าของลูหลี่ได้และเธอก็ได้กล่าวว่า "ลูหลี่ ฉันมักจะคิดว่าคุณเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับสูงและยิ่งใหญ่ ใครจะคิดว่าคุณสามารถพูดมากได้ขนาดนี้? "
ลูหลี่ขมวดคิ้วลึกๆและรู้สึกเหมือนว่ามีบางอย่างกระตุ้นให้เขาดีดศีรษะของเธอ
มีอะไรเกิดขึ้นกับสมองของเธอกัน? เธอกำลังนึกถึงอะไรอยู่ตอนที่ 'พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่คนนี้' กำลังสอนเธอแบบ 1 ต่อ 1?
"เธอเข้าใจสิ่งที่ฉันเพิ่งพูดไปไหมเนี้ย?!"
"ฉัน ... ฉันเข้าใจ" ฮาชิจังพยักหน้าอย่างกังวลใจและกลืนน้ำลาย
"แล้วก็ฉันจะพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องของฮีลเลอร์ดรูอิดต่อ ฉันจะพูดเพียงครั้งเดียวและถ้าเธอทำผิดพลาดเมื่อเราเข้าไปในถ้ำโหยหวนแล้วละก็ ฉันจะไม่แสดงความเมตตาใดๆ" ลูหลี่แกล้งทำว่าตัวเองเป็นคนโหยร้ายและถ่อย
แต่ทว่า ฮาชิจังนั้นไม่กลัวและเธอยังเขยิบเข้ามาใกล้ๆ
"ฉันได้ยินมาว่านายมีน้องสาวคนเล็กที่อายุน้อยกว่าฉัน นายมักจะตีเธองั้นเหรอ?
"ถ้าเธอยังว่าร้ายฉันอีก ฉันจะตีเธอเลยตอนนี้" เด็กคนนี้มันมากเกินไปแล้ว ลูหลี่นั้นไม่สามารถรู้สึกถึงความสงบได้เลยตอนที่ความภาคภูมิใจของเขาหายไป
"เอาล่ะ เอาล่ะ คุณจะพูดอะไรต่อ? " ฮาชิจังไม่กล้าที่จะยั่วยุลูหลี่อีก
ไม่มีใครอยู่รอบๆในที่ๆพวกเขาอยู่ เธอจะทำยังไงถ้ามีคนบางคนถูกยั่วยุจนเกิดการฆาตกรรมขึ้น?
"ถ้ำโหยหวนต้องการฮีลเลอร์สองคน หนึ่งคือฮีลเลอร์หลักและหนึ่งคือฮีลเลอร์สนับสนุน มาสเรนจะเป็นฮีลเลอร์หลักและเธอจะเป็นฮีลเลอร์สนับสนุน เมื่อมีความต้องการจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการรักษา เธอจะต้องไปช่วยในเวลานั้น ในบางครั้ง เธอก็จะต้องโจมตีใส่บอส แน่นอนว่าก่อนจะโจมตีบอสนั้นเธอต้องทำให้แน่ใจว่าเธอรักษาแท๊งค์แล้ว ... "
"เข้าใจไหม"
"ข เข้าใจ... " ฮาชิจังส่ายตัวเองออกจากความงุนงงของเธอและรีบตอบ
"การเคลียร์ดันเจี้ยนนั้นยากกว่าการทำเควส ดังนั้นทุกคนต้องทำงานอย่างหนัก มิฉะนั้นทุกคนจะถูกลากลงมา "ลูหลี่กล่าวอย่างอดทนและจริงจัง
ถ้าไม่ใช่เพราะเด็กสาวอายุใกล้เคียงกับน้องสาวของเขา เขาคงจะไม่มีความอดทนมากถึงเพียงนี้
"ลูหลี่ นายต้องระมัดระวังพเนจรด้วย" ฮาชิจังพูดอย่างน่าสงสัย
"มีอะไรขึ้นกับพเนจรงั้นเหรอ?" ลูหลี่รู้สึกประหลาดใจ เขาไม่เข้าใจว่าเด็กหญิงตัวเล็กกำลังพูดถึงเรื่องอะไร เขาคิดว่าพเนจรนั้นเป็นคนดีและลูหลี่รู้จักเขามาเป็นเวลานานแล้วจากในชีวิตที่ผ่านมาของเขา
"ฉันรู้สึกว่ามีอะไรเกิดขึ้นมากมายระหว่างเขากับอาเซอร์ซีบรีส" ฮาชิจังเขย่งเท้าของเธอและกระซิบกระซาบเรื่องนี้ให้ลูหลี่ฟัง
นอกเหนือจากพวกเขาสองคนแล้ว ที่นี้ก็มีเพียงมอนเตอร์ที่อยู่รอบๆเท่านั้น เกิดอะไรขึ้นกับเด็กผู้หญิงคนนี้กัน?
"พวกเขารู้จักกันมานานแล้ว แน่นอนว่ามีอะไรมากมายระหว่างพวกเขา " ลูหลี่ไม่เข้าใจสิ่งที่เธอพูดให้เขาฟัง
เขารู้สึกว่าสาวน้อยคนนี้มีปัญหาด้านการสื่อสาร โชคดีที่ซินซินไม่ได้เป็นอย่างนี้
"แต่คุณคู่กับอาเซอร์ซีบรีสใช่มั้ย?"
ทันใดนั้นก็ได้มีเสียงโหยหวนของเด็กหญิงคนหนึ่งดังออกมา "อิย๊า อย่าดึงหูฉัน! ช่วยฉันด้วย! ความฝัน รีบๆมาช่วยฉนที! ลูหลี่ตีฉัน ... "