จอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 190
ติดตามอ่านนิยายเพิ่มเติมของผู้แปลและนิยายทุกตอนได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 190: สัมผัสเล็กน้อย
"นี่ลูหลี่ ทำไมนายถึงได้เข้าสู่ระบบหลังจากผ่านมาตั้ง 2 วันละ?"
เมื่อเห็นว่าลูหลี่ได้เข้าสู่ระบบ อาเซอร์ซีบรีสก็เริ่มบ่นในแชทกลุ่มทหารรับจ้าง
"มีเรื่องของครอบครัวที่ฉันต้องดูแล ว่าแต่พวกนายได้ลองไปเคลียร์ดันเจี้ยนระดับยากกันหรือยัง? " ลูหลี่ตอบสั้นๆซึ่งนั้นแสดงความตั้งใจที่จะไม่พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้
"พวกเขานั้นสามารถจัดการบอสตัวแรกได้ แต่ไม่สามารถเอาชนะบอสตัวที่สองได้หลังจากพยายามมาสองสามครั้ง ฉันจึงช่วยพวกเขาจัดการบอสตัวที่สองและตัวที่สามและตอนนี้พวกเขาก็สามารถจัดการหมาป่าเจาะหัวใจกันเองได้ แต่ก็ถูกฆ่าไปสองครั้ง "อาเซอร์ซีบรีสตอบ
"พเนจรอยู่ไหนล่ะ?" ลูหลี่ถาม
"คุณไม่ได้บอกให้เขาไปหาวัสดุหายากงั้นเหรอ? เขาไปช่วยคนอื่นๆทำเควสเพื่อแลกกับวัสดุหายาก เขาควรจะกลับมาในเร็วๆนี้ "อาเซอร์ซีบรีสตอบอย่างไม่แน่ใจ
เขาและพเนจรเป็นแท๊งค์ทั้งคู่ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่เคยเข้าไปในดันเจี้ยนห้าคนด้วยกัน ถ้าอาเซอร์ซีบรีสเข้าไปในดันเจี้ยน พเนจรก็เหมือนโดนแย่งงานไป
"เขาไปหาวัสดุหายากงั้นเหรอ? เมื่อไหร่กัน?" ลูหลี่รู้สึกประหลาดใจและรู้สึกทึ่งเล็กน้อยนั้นเพราะว่าพเนจรเป็นคนที่ค่อนข้างขี้เกียจ แม้ว่าเขาจะรู้ว่าเควสนั้นมีผลตอบแทนที่ดี แต่เขาก็คงจะคิดว่ามันเป็นความพยายามที่มากเกินไป ใครจะคิดว่าเขาจะออกไปทำเควสเพื่อหาวัสดุหายากให้ลูหลี่?
"บ้าเอ้ย มีคนประเภทไหนกันไม่รู้จักว่าจะใช้ฮีลเมื่อไหร่ ?!" เสียงคำรามของพเนจรได้ดังขึ้นมาในแชทซึ่งกลบคำของลูหลี่ไป
"ฮ่าฮ่า รู้ไหมว่าทำไมพวกเขาถึงขอความช่วยเหลือจากคุณให้ไปช่วยทำเควส เพราะพวกเขากระจอกไงล่ะ" อาเซอร์ซีบรีสตอบกลับไป
ลูหลี่หัวเราะ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร พเนจรนั้นเป็นพวกหลงใหลในตัวเองและปากกล้า แต่เขานั้นก็ไม่ได้เป็นคนไม่ดีอะไร
"พี่ใหญ่ลูหลี่ คุณกำลังยุ่งอยู่กับอะไรงั้นเหรอ?"
มีข้อความมาจากความฝันที่เหลืออยู่เด้งขึ้นมา เธอไม่ได้พูดคุยในแชททหารรับจ้าง แต่ได้ส่งเป็นข้อความส่วนตัว
"มันไม่มีอะไรมากหรอก ฉันเพิ่งจะได้อัพเกรดทักษะสายอาชีพของฉัน ดังนั้นฉันคงจะไม่ได้ใช้งานมันได้ดีนัก"ลูหลี่ตอบ
"พี่สาวมาสเรนได้บอกว่าคุณอาจมีปัญหาบางอย่างที่่เกิดขึ้นในโลกแห่งความเป็นจริง แต่คุณไม่ต้องการให้เรารู้ พวกเราทุกคนนั้นต้องการช่วยเหลือคุณ เมื่อวานนี้เมื่อถึงเวลาที่จะออกจากระบบพี่ใหญ่ซีบรีสพาเราไปขโมยบอส แต่เราก็ไม่ประสบความสำเร็จ วันนี้พี่ชายพเนจรได้ไปช่วยคนอื่นด้วยการทำเควสและฉันก็คิดว่าเขานั้นได้ตายไปครั้งหนึ่ง"ความฝันที่เหลืออยู่กล่าวขณะที่เธอแอบบอกลูหลี่ทุกอย่าง
"ทุกอย่างเรียบร้อยดี ไม่ต้องกังวลโดยไม่จำเป็นหรอก โอ้ใช่ฉันมีเรื่องสนุกๆสำหรับทุกๆคน "ลูหลี่หยุดเรื่องนี้ไว้
เขารู้สึกแปลกมากที่มีคนจำนวนมากมีความห่วงใยกับเขา
ในความรู้สึกแล้วลูหลี่ไม่ใช่คนที่เข้ากับคนง่ายและเป็นคนที่ไม่ค่อยแสดงออก เขาไม่เคยถูกดูแลหรือห่วงใยจากคนแปลกหน้ามาก่อน
“มันคืออะไร? มันคืออะไร?” ความฝันที่เหลืออยู่เป็นเหมือนกับเด็กน้อยและเธอลืมแล้วว่าเธอนั้นถามเรื่องอะไรกับลูหลี่บ้าง
"มันคือของเล่นเล็กๆ เก็บมันไว้อย่าพึ่งใช้จนกว่าจะเคลียร์ดันเจี้ยนเสร็จล่ะ"
ลูหลี่ได้ส่ง 'โลกใหญ่มาก' ไปให้ทุกคน ซึ่งเขาได้เตรียมไว้ล่วงหน้าสำหรับเพื่อนร่วมทีมของเขาแล้ว แม้ว่าเขานั้นต้องการเงินจำนวนมาก แต่เขาไม่ได้ต้องการที่จะกลายเป็นทาสให้กับเงิน มีหนทางมากมายเสมอที่จะได้รับเงินมากขึ้น
"เอาล่ะพี่ใหญ่ซีบรีซกำลังจะเริ่มเคลียร์ดันเจี้ยนแล้ว ดังนั้นฉันจะหยุดคุยก่อน ฉันจะโดนดุถ้าฉันทำพลาด "ความฝันที่เหลืออยู่ตอบ
"ว่าไงซีบรีส เป็นยังไงบ้าง? คุณสามารถเคลียร์มันได้ไหม" ลูหลี่ถามในแชท
"ก็ได้อยู่ แต่คุณนั้นไม่ได้รับ EXP จากดันเจี้ยนนี่อีกต่อไปแล้ว ดังนั้นจะดีที่สุดถ้าคุณไม่มา "อาเซอร์ซีบรีสตอบอย่างมั่นใจ
"ไม่เป็นไร ฉันจะยังคงเพิ่มทักษะสายอาชีพของฉันต่อไป "
ลูหลี่ยังคงหวังด้วยว่าพวกเขาจะทำงานหนักพวกนี้ด้วยตัวเอง ถ้าพวกเขาพึ่งพาเขามากเกินไป พวกเขาก็จะไม่สามารถเติบโตได้ดีมากนัก
ตอนนี้เขาได้มาถึงคอขวดของทักษะด้านวิศวกรรมแล้ว หุ่นยนต์ซ่อมบำรุงไม่ได้ให้ EXP แก่เขามากนักและมันยังต้องใช้เวลามากเกินไปในการสร้างหุ่นยนต์
ลูหลี่ต้องการหาพิมพ์เขียวอันใหม่และเหมาะสมกว่านี้
หุ่นยนต์ซ่อมบำรุงที่เขาวางขายไว้ในห้องประมูลนั้นก็ยังคงอยู่ที่นั่นและราคาของพวกมันค่อยๆเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ โดยเฉลี่ยแล้วพวกมันมีมูลค่าประมาณ 4 เหรียญทอง ซึ่งมันแตกต่างกับไอเท็ม "โลกใหญ่มาก" มาก
นี้เป็นเรื่องที่ไม่น่าแปลกใจเลย
'โลกใหญ่มาก' เป็นไอเท็มที่น่าสนใจอย่างมากและเป็นเพราะเขาได้วางตลาดมันดี มันจึงได้กลายเป็นของที่ยอดเยี่ยมมากในเกม เนื่องจากมันเป็นที่ต้องการของผู้เล่นหลายคนดังนั้นจึงอาจมีราคาที่สูงตามมา
ในขณะที่หุ่นยนต์ซ่อมบำรุงเป็นสินค้าธรรมดาและการใช้งานของพวกมันค่อนข้างจำกัด
หากอุปกรณ์ของผู้เล่นได้รับความเสียหายจนแทบจะพัง พวกเขามักจะกลับไปที่เมืองและไปซ่อมแซมที่ร้าน คงจะมีเฉพาะสมาชิกระดับสูงของสมาคมใหญ่ๆที่จะใช้หุ่นยนต์ซ่อมบำรุงเพื่อประหยัดเวลา
ลูหลี่ได้สร้างยาพิษแห่งความตายไม่กี่ขวด ถึงแม้ว่าเกมจะเปิดนานขนาดนี้แต่ก็ไม่มียาพิษแห่งความตายแม้แต่ขวดเดียวในห้องประมูล
เขาตั้งราคาของมันไว้ที่ 10 เหรียญทองและไม่สามารถเจรจาต่อรองได้
ลูหลี่ไม่เคยคิดถึงความเป็นไปได้ที่จะผลิตพวกมันให้มากขึ้นและหวังว่าจะมีผู้คนกลุ่มใหญ่ต้องการมัน
นั่นเพราะสิ่งที่เขาคิดนั้นแทบจะเป็นเรื่องจริง
พิษแห่งความตายและพิษระดับกลางนั้นต่างกัน นั้นเพราะว่าพิษแห่งความตายจะทำให้การมีชีวิตนั้นง่ายขึ้นเล็กน้อย ในขณะที่พิษระดับกลางนั้นหลังสามารถช่วยชีวิตของตัวเองได้ ดังนั้นแล้วคนจึงสนใจพิษระดับกลางมากกว่า
จากนั้นลูหลี่ก็เริ่มมองหาพิมพ์เขียวที่เหมาะสมมากขึ้น
เป้าหมายของเขาคือการหาพิมพ์เขียวด้านวิศวกรรมที่สามารถช่วยให้เขาก้าวขึ้นสู่ทักษะวิศวกรรมระดับกลางสิ่งที่เขาต้องการหานั้นรวมทั้งพิมพ์เขียวขั้นพื้นฐานสำหรับการตีเหล็ก
ที่เขาต้องการพิมพ์เขียววิศวกรรมนั้นก็เพราะว่าเขาต้องการอัพเกรดทักษะสายอาชีพทั้งสองทักษะ เขาได้เลือกทักษะวิศวกรรมนั้นก็เพื่อสร้างฟูลบอมขึ้นมาซึ่งมันเป็นไอเท็มที่ท้าทายความสามารถของสวรรค์ ในทางกลับกันการทักษะตีเหล็กที่เขาเรียนมาก็เพื่อการสร้างไอเท็มจากแม่พิมพ์ของฮาชิจังและค้อนตีเหล็กพิเศษของเขา
การจะหาพิมพ์เขียวตีเหล็กพื้นฐานนั้นเป็นเรื่องง่ายมาก ลูหลี่ได้เลือกพิมพ์เขียวดาบมือเดียว LV5 ขึ้นมา มันเป็นอาวุธระดับทองแดงที่มีค่าพลังโจมตีเพียงพอและยังให้ค่าความแข็งแกร่ง +2 อีกด้วย
อุปกรณ์ประเภทนี้เหมาะสำหรับนักรบ อัศวินและอาชีพอื่นๆที่ต้องการค่าความแข็งแกร่ง หลังจากราคาหมวกกันน็อกเกมลดลงแล้ว จะมีผู้เล่นเข้าร่วมเกมนี้ทุกวันมากขึ้นเรื่อยๆ ลูหลี่ไม่ต้องห่วงเรื่องการขายดาบเหล่านี้เลย
นอกจากนี้ดาบมือเดียวยังง่ายต่อการตีเหล็ก ดังนั้นลูหลี่จึงไม่ต้องกังวลกับความล้มเหลว
พิมพ์เขียวด้านวิศวกรรมขั้นกลางนั้นมีปัญหาเล็กน้อย หลังจากหาอยู่นาน ลูหลี่ก็ได้กัดฟันและซื้อพิมพ์เขียวกล้องศูนย์ปืนธรรมดา เขาค่อนข้างไม่เต็มใจเพราะกล้องศูนย์ปืนธรรมดานั้นมีประโยชน์สำหรับมืือปืนและแม้กระนั้นเท่านั้นก็ทำได้เพียงเพิ่มพลังโจมตี 2 หน่วยเท่านั้น
ถ้านี่เป็นข้อแม้เพียงอย่างเดียวลูหลี่ก็คงไม่รู้สึกแย่มาก นั้นเพราะว่าเขาไม่สามารถขายมันไปได้และทำได้เพียงเพิ่ม EXP จากมันเท่านั้น
ที่ืเขาไม่สามารถขายมันได้นั้นก็เพราะว่ามักจะมีผู้เล่นสายอาชีพที่มีเงินมากมายผลิตมันขึ้นมาจนล้นตลาด
สิ่งที่แย่ยิ่งกว่านั้นก็คือกล้องศูนย์ปืนธรรมดานั้นต้องการทักษะวิศวกรรมระดับปานกลาง (135) ขณะที่ลูหลี่นั้นอยู่ในทักษะวิศวกรรมระดับปานกลาง (128) เท่านั้น ดังนั้นเขาจึงต้องเลือกอีกพิมพ์เขียวอีกอันที่น่าปวดหัวมาก
หลังจากดูจนเกือบจะหมดแล้ว สิ่งที่ดีที่สุดที่เขาเลือกคือ "ดอกไม้ไฟสีฟ้าขนาดเล็ก"
สีย้อม หนัง ดินปืนและผ้าขนสัตว์
จริงๆแล้วการจะสร้างดอกไม้ไฟสีฟ้าขนาดเล็ก มันต้องใช้วัสดุที่มีราคาแพงถึงสี่ชิ้นซึ่งนั้นทำให้ลูหลี่รู้สึกราวกับจะยอมแพ้
อย่างไรก็ตามเมื่อเขาคิดถึงฟูลบอมและเมคาโนฮอค[รถยนต์ในเกม]เขาก็มุ่งมั่นที่จะยกระดับทักษะวิศวกรรมของเขา
หลังจากสร้างฟูลบอมแล้วการเพิ่มระดับจะไม่เป็นปัญหาสำหรับเขาอีกต่อไป หลังจากสร้างเมคาโนฮอคแล้วการหารายได้ก็จะไม่มีปัญหากับเขาอีกต่อไปด้วย นอกจากนี้ยังมีจรวดบู๊ทส์และก็อบลินจัมเปอร์เคเบิล
คนส่วนใหญ่คิดว่าทักษะวิศวกรรมเป็นสายอาชีพที่ไม่มีอนาคต มีเพียงเฉพาะลูหลี่ที่รู้ถึงประโยชน์และผลตอบแทนของการเรียนทักษะวิศวกรรม จริงๆแล้วทุกๆเกมนั้นไม่ได้ออกแบบทักษะสายอาชีพที่เพิ่มระดับยากโดยไม่มีผลตอบแทนใดๆ
ลูหลี่ได้มีความหวังมากมายจากในอนาคต ดังนั้นเขาจึงได้ชื้อวัสดุมากมายจากห้องประมูล
เหรียญทองในกระเป๋าของเขาได้ไหลออกไปอย่างรวดเร็ว
ทรัพยากรที่จำเป็นในการสร้างดอกไม้ไฟขนาดเล็กสีน้ำเงินมีค่าใช้จ่ายประมาณ 3 เหรียญทองซึ่งนั้นก็ไม่เลวร้ายนัก อย่างไรก็ตามดอกไม้ไฟในห้องประมูลมีขายเป็นราคา 20 เหรียญเงินเท่านั้น
นั่นหมายความว่าลูหลี่ต้องเตรียมพร้อมที่จะขาดทุนอย่างหนัก
ระบบ: สร้างดอกไม้ไฟขนาดเล็กสีน้ำเงิน ทักษะวิศวกรรม EXP + 1
การจะสร้างพวกมันนั้นไม่ใช่เรื่องยาก แต่พวกมันไม่ได้ให้ EXP มากกว่าหนึ่ง
ลูหลี่มีอาการเจ็บในใจและยังคงสร้างดอกไม้ไฟต่อไป
แน่นอนว่าเขาจะต้องล้มเหลวเป็นบางครั้ง
เพราะเขาใช้ดินปืืน ความล้มเหลวในการสร้างมันจะส่งผลให้เกิดการระเบิดซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่ลูหลี่จะหลบได้ในระยะใกล้ มันคงจะดีถ้าเขาแค่สูญเสียวัสดุและถูกปกคลุมด้วยเขม่า แต่การระเบิดนี้ดันลดความคงทนของอุปกรณ์ของเขา