จอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 184
ติดตามอ่านนิยายเพิ่มเติมของผู้แปลและนิยายทุกตอนได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 184: คนที่สำคัญที่สุดของชีวิต
ริชริชชี่ได้ดรอบอุปกรณ์ระดับเงินที่มีคุณสมบัติที่แข็งแกร่งจริงๆ!
อย่างไรก็ตามเสื้อคลุมตัวนี้ไม่น่าจะดีกว่าของที่ลูหลี่มีอยู่แล้ว
ลูหลี่มีความมั่นใจในการคิดว่านี่ต้องเป็นเสื้อคลุมระดับเงินชิ้นแรกของเกม
เสื้อคลุมนั้นหายากมากกว่าอุปกรณ์ชิ้นอื่นๆและเสื้อคลุมที่ดีนั้นหายากยิ่งกว่า
เสื้อคลุมแห่งป่า (เงิน):เกราะ 15 ค่าสติปัญญา +10 ค่าร่างกาย +5 คูลดาวน์ของทักษะเวทย์มนต์และความเสียหายจากธรรมชาติลดลง 20% เอฟเฟคทักษะฮีลเพิ่มขึ้น 10% ไอเท็มพิเศษสำหรับดรูอิด ความต้องการเลเวล: LV 15 ความทนทาน 45/45
นี่เป็นอุปกรณ์ที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับฮีลเลอร์ดรูอิด
การกลายร่างเป็นต้นไม้แห่งชีวิตเป็นหนึ่งในเวทมนตร์การกลายร่างของดรูอิด หลังจากกลายร่างแล้วพวกเขาก็จะกลายเป็นเป็นต้นไม้น่ารักๆ
อย่างไรก็ตามต้นไม้น่ารักนี้ไม่ควรถูกมองข้าม เมื่ออยู่ในร่างต้นไม้แห่งชีวิต ดรูอิดจะฮีลเพิ่มขึ้น 15% และเพิ่มเกราะขึ้น 120% แถมพวกเขายังต้านทานทุกชนิดของนักเวทย์
นอกจากนี้เวทย์บางชนิดของฮีลเลอร์ก็ยังเพิ่มผลลัพธ์ด้วย
ด้วยเสื้อคลุมนี้การร่ายเวทย์มนต์รักษาขณะที่อยู่ในร่างต้นไม้แห่งชีวิตนั้นจะมีผลเพิ่มขึ้นถึง 25%
ลูหลี่เคยอยู่ในหุบเขาวอซองหลายต่อหลายครั้งดังนั้นจึงไม่มีความแตกต่างระหว่างฝ่ายแสงสว่างและฝ่ายความมืดกับเขาอีกต่อไป
ทุกคนที่เดินอยู่ที่นี้เป็นเพียงแค่อุปกรณ์สำหรับเขาเท่านั้น
ลูหลี่ส่งอุปกรณ์ไปให้เชน วันเซนและออกจากระบบไป
หลังจากที่เขาตื่นขึ้นมามันก็เป็นเวลากลางคืนและมันก็ควรจะเป็นเวลาที่จะกลับไปออนไลน์ได้แล้ว
แต่คราวนี้ลูหลี่ไม่รีบร้อนที่จะเข้าสู่ระบบ แต่เขาได้ปิดไฟในห้องนั่งเล่นและนั่งลงอย่างเงียบๆ
นับตั้งแต่ที่เขาเกิดใหม่ เขาก็ยุ่งอยู่กับการหาเงินโดยไม่มีโอกาสได้หยุดพักเลย
นานๆครั้งเขาจะได้นั่งอย่างเงียบสงบ
ครั้งสุดท้ายที่เขาอยู่ในความงุนงง นั้นก็คือตอนที่เขาพยายามอย่างยิ่งที่จะนึกถึงพ่อแม่ของเขา แต่ความทรงจำที่เขานึกถึงนั้นก็ไม่ชัดเจนและไม่มีแม้แต่เงา
เขาอายุแค่ 23 ปีเท่านั้น แต่ถ้าเขานับตั้งแต่เขาเกิดใหม่ เขาก็จะยังคงมีอายุเพียง 26 ปี แต่เขากลับมีประสบการณ์ในความทรงจำมากกว่า 30 ปี
ในขณะที่เขานึกถึงช่วง 20 ปีที่ผ่านมาในชีวิตจิตใจของเขาก็เต็มไปด้วยความทรงจำของน้องสาว
เขาได้รับโอกาสให้เป็นลูกบุญธรรมของครอบครัวที่ร่ำรวยเมื่อตอนที่เขายังเป็นหนุ่ม แต่เขาก็ปฏิเสธเพราะเขาไม่ได้อยู่คนเดียว เขามีน้องสาวของเขา
เมื่อเขาโตขึ้นเขาก็ได้ไปเกี่ยวข้องกับบริษัทที่ไม่ดี แต่เขาก็ถูกดึงกลับมาเพราะเขาไม่ได้อยู่คนเดียว เขามีน้องสาวของเขา
เขาเงียบและฉลาดมากและมีโอกาสที่จะได้เรียนต่อต่างประเทศและเริ่มต้นใหม่ แต่เขาก็ไม่ได้ไปเพราะเขาไม่ได้อยู่คนเดียว เขามีน้องสาวของเขา
ตลอดชีวิตที่เหลือของเขาเขาจะสนับสนุนและช่วยเหลือน้องสาวของเขาต่อไป
ลูหลี่ไม่สามารถมองเห็นใบหน้าของตัวเองได้ในความมืด เขากำลังคิดในใจอย่างเงียบๆ
เสียงกระดิ่งดังขึ้นขณะที่ลูซินเข้ามาพร้อมกับกระเป๋าที่สวมอยู่เหนือไหล่ของเธอ เธอเปิดไฟในขณะที่เห็นว่าพี่ชายของเธอกำลังนั่งอยู่บนโซฟา
"พี่ชาย พี่ไม่ได้ทำงานอยู่งั้นเหรอ?" ลูซินได้คิดว่าพี่ของเธอทำงานอยู่ในเกมจริงๆ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ว่างงาน
"พี่ยังไม่ได้ออนไลน์เพราะพี่มีอะไรจะบอกน้อง แล้วไหนบอกมาสิทำไมน้องถึงกลับบ้านในเวลานี้?" ลูหลี่เหลือบมองออกมาทางหน้าต่างเพื่อดูว่าท้องฟ้าในตอนนี้มันมืดสนิทแล้ว
"มีนักเรียนคนใหม่ซึ่งวันเกิดของเขาก็คือวันนี้ พวกเราทุกคนก็เลยไปฉลองกัันด้วยบาร์บีคิว"ลูซินสารภาพผิด
"เด็กผู้ชายงั้นเหรอ?" คิ้วของลูหลี่ยกขึ้น เธอเติบโตมากแล้วและในไม่ช้าเธอก็จะอยู่ในวัยที่เธอจะดึงดูดความสนใจของเด็กผู้ชายคนอื่นๆ
"เด็กผู้หญิงต่างหาก! เธอไม่ได้อยู่ห่างไกลมากนักในย่านนี้ "ลูซินรีบอธิบาย
"บาร์บีคิวไม่ดีสำหรับน้อง" ลูหลี่กล่าวอย่างใจร้อน
อาหารที่เธอกินนั้นมีความสำคัญมาก เนื่องจากมีผลต่อโรคหัวใจ มีหลายอย่างที่เธออยากจะกินแต่เขาต้องห้าม
"แต่มันก็อร่อยดีนะค่ะ" เด็กหญิงตัวเล็กๆกล่าวอย่างเริงร่า ก่อนหน้านี้พวกเขาไม่สามารถแม้แต่จะมีอาหารที่กินได้พร้อมกับข้าวสวย เธอเพียงแค่อยากจะเพลิดเพลินกับอาหารที่แปลกๆเหล่านี้ เนื่องจากเธอได้จากอาหารธรรมดาๆที่อยู่ในย่านสลัมไปแล้ว
"อย่ากลับไปที่นั้นอีกครั้ง" ลูหลี่ถอนหายใจ
"ขอโทษค่ะพี่ชาย หนูสัญญาว่าหนูจะไม่ทำมันอีกครั้ง" ลูซินขอโทษด้วยความกลัว
"ลูซินมีบางอย่างที่พี่ต้องการจะบอกน้อง ืคือว่า…"
ลูหลี่ไม่รู้ว่าจะบอกเธออย่างไรดี
เขาต้องการที่จะบอกน้องสาวของเขาว่าเธอป่วยหนักมากและจำเป็นต้องได้รับการรักษาที่ซับซ้อนมากซึ่งมีค่าใช้จ่ายมากมาย ...
การที่จะบอกเรื่องนี้ทั้งหมดนี่เป็นเรื่องที่โหดร้ายมาก
"พี่ชายมีอะไรงั้นเหรอ? พวกเราไม่ได้สัญญากันงั้นเหรอว่าจะไม่ซ่อนอะไรจากกันและกันแล้ว? "
ลูซินนั่งลงข้างลูหลี่และคว้าแขนเขาไว้
"ผลการตรวจทางการแพทย์ออกมาและ ... ผลของมันร้ายแรงมาก"
ลูหลี่ได้ทำใจแข็งและตัดสินใจที่จะกล่าวออกไป
"โอ้ อ่า... " ลูซินตื่นตระหนก
พี่ชายของเธอได้รับเงินเป็นจำนวนมากจากการเล่นเกม พวกเขาย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านหลังใหญ่และดูเหมือนทุกอย่างจะไปได้ดี ใครจะคิดว่าเธอจะได้ยินคำพูดแบบนี้มาจากปากพี่ชายของเธอ?
"ซินซินอย่ากลัวเลย ทุกอย่างจะดีไปเอง" ลูหลี่กอดน้องของเขาอย่างแนบแน่น
"มันร้ายแรงจริงงั้นเหรอค่ะ?" เสียงของเด็กหญิงตัวเล็กๆที่พูดออกมาดูเหมือนกำลังจะร้องไห้
เธอไม่ได้ถามว่ามันเป็นโรคอะไร เนื่องจากเธอไม่รู้ว่ามีโรคอะไรมั่ง ดังนั้นการที่รู้ว่ามันเป็นโรคอะไรก็ไม่สำคัญ
"มันร้ายแรงมาก แต่น้องต้องเชื่อพี่ชายของน้องนะ แน่นอนพี่จะทำให้แน่ใจว่าน้องต้องได้รับการรักษาแน่นอน พี่สัญญา "ลูหลี่กล่าวอย่างหนักแน่น "ไม่มีใครจะพรากน้องไปจากพี่จนกว่าพี่จะตาย"
"พี่ใหญ่ หนูจะฟังพี่"
ลูซินเอนตัวลงทับร่างกายของลูหลี่อย่างระทวย เธอไม่สามารถหยุดน้ำตาของเธอที่มันไหลลงมาจากบนใบหน้าของเธอได้
"ขั้นแรก น้องจะต้องผ่านการตรวจร่างกายอย่างละเอียด ถ้ามันจำเป็นน้องอาจจำเป็นต้องใช้เวลาหนึ่งปีนอกโรงเรียน "
ลูหลี่รีบสงบลง เขาเตรียมพร้อมทุกอย่างสำหรับวันนี้มาเป็นเวลานานแล้ว
"ขอโทษค่ะพี่ชาย" น้ำตาของลูซินมากมายได้หลั่งไหลออกมาจากดวงตาของเธอ
นี่เป็นเรื่องที่ซีเรียสจริงๆงั้นเหรอที่เธอจะต้องออกจากโรงเรียนไปปีหนึ่ง?
เธอรู้สึกเหมือนว่าเธอเป็นภาระของพี่ชาย เขาได้เสียสละมานับครั้งไม่ถ้วนเพื่อเธอและเธอก็ทำได้เพียงอดทนยอมรับมันเท่านั้น เช่นเดียวกับตอนนี้เธอเหมือนกับกำลังเป็นภาระอีกครั้งหนึ่ง
"เด็กโง่ อย่าโทษตัวเองสิ"
ลูหลี่เห็นน้ำตาที่ไหลออกมาจากดวงตาน้องสาวของเขาและก็ได้เช็ดพวกมันออกไป
"พวกคุณโอเคไหม?" จู่ๆก็ได้มีเสียงหนึ่งดังเข้ามา ฮวนฮวนรู้สึกกังวลเลยได้ถามขึ้นมา
ยี่ยี่และดูดู่ก็ได้ยินเสียงเหืมืือนกัน
ฉากที่พวกเธอมาเจอก็คือพี่น้องที่ร้องไห้บนเหนือไหล่ของกันและกัน
"อ่า มันไม่มีอะไรเลย" ลูหลี่กล่าวขณะที่เขาสงบลง นอกเหนือจากน้องสาวของเขา เขาไม่เคยเรียนรู้ที่จะแสดงอารมณ์กับคนอื่นมากนัก
"พี่สาวฮวนฮวน หนู ... " ลูซินได้ออกมาจากอ้อมกอดของลูซินและวิ่งไปหาเธออย่างเงียบๆพร้อมกับกระซิบว่า "พี่ซินซินสามารถให้ฉันยืมเงินได้ไหม? หนูจะคืนให้พี่เมื่อตอนที่หนูมีอายุมากขึ้น "
ผู้หญิงทั้งสามคนนี้นิ่งพร้อมกับปากของพวกเธอที่กำลังเปิดอยู่ พวกเธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
พี่น้องพวกนี้กำลังมีต่อสู้บางอย่างอยู่งั้นเหรอ?
"ซินซิน!" ลูหลี่ได้ตะโกนออกมาอย่างไม่พอใจซึ่งเห็นได้ชัด
"ไม่ต้องสนใจเขาซินซิน เกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ? พวกเราจะช่วยเธอเอง"
ดูดู่ดึงเธอเข้ามาใกล้ๆและพวกเขายืนอยู่ตรงกันข้ามกับลูหลี่
"หนูป่วยและอาจจำเป็นที่จะต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก หนูสามารถยืมเงินพวกพี่ได้ไหม? เมื่อหนูเริ่มทำงานฉันจะหนูเงินให้กับพวกพี่เอง มิฉะนั้นพี่ชายของหนู... "ลูซินเริ่มร้องไห้อีกครั้งในอ้อมกอดของดูดู่
เธอไม่กังวลเรื่องการรักษาโรคร้ายของเธอ เธอแค่กังวลว่าพี่ชายของเธอจะเหนื่อยมาก
"ลูหลี่ มันเกิดขึ้นได้อย่างไรกันเนี้ย? ซินซินป่วยงั้นเหรอ? เป็นเรื่องจริงใช่ไหม? " ฮวนฮวนถามอย่างจริงจังขณะที่ทุกคนนั่งลงบนโซฟาในห้องนั่งเล่น
เธอยังเด็กและยังคงเป็นเด็กหญิงที่สวยมากแต่เธอป่วยจริงๆงั้นเหรอ
ลูหลี่เป็นเด็กที่น่าสงสารดังนั้นเขาจึงไม่เคยปล่อยให้ปัญหาเล็กๆมารบกวนเขา
อย่างไรก็ตามโรคร้ายนี้ต้องรุนแรงมาก
เจ้าของที่ดินสาวนี้ต้องรักซินซินมาก ดังนั้นเรื่องนี้จึงได้ดึงดูดความสนใจของพวกเธอ
ลูหลี่พยายามหลายต่อหลายครั้งเพื่อดึงลูซินกลับ แต่นี่ก็ไม่มีประโยชน์ ผู้หญิงทั้งสามคนนั้นกกเธอเช่นแม่ไก่ เขาทำได้เพียงอธิบายรายละเอียดอย่างหมดหนทางเท่านั้น
"ฉันสามารถแก้ปัญหาของซินซินได้ด้วยตัวเอง เราไม่ต้องการความช่วยเหลือจากพวกคุณ ซินซินกลับมาที่นี่ "เขาพูดอย่างจริงจัง
"ไม่ หนูไม่ต้องการให้พี่ทำงานจนตาย"
ลูซินจับดูดู่ไว้เหมือนเธอเป็นเรือชูชีพ
"จริงๆแล้วคุณต้องการที่จะปลูกถ่ายอวัยวะงั้นเหรอ?" ทั้งสามสาวต่างก็ตกตะลึง