จอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 138
บทที่ 138: คนที่ถูกฆ่าตายโดยบังเอิญ
ลูหลี่ไม่ได้ทำตามคำแนะนำของบทความซึ่งสั่งให้เขาฆ่า NPC คนนี้ทันทีซึ่งเขาควรจะตายภายในเวลาไม่กี่เดือน
แทนที่เขาจะทำอย่างนั้นเขายืนอยู่ข้างหน้ากาเบรียล เคสโซ และเอาป้ายทหารมาให้เขา เขาไม่รู้สึกตื่นเต้นและไม่กลัวเขา นั้นเพราะว่าเขามีประสบการณ์ในการฆ่าทหารจำนวนมาก
"โอ้ เอลฟ์ พลังของเจ้านั้นเกินความคาดหมายของข้า"
กาเบรียล เคสโซ เอาไอเท็มเควสไปจากลูหลี่ แต่ก็ได้มีรูปลักษณ์ที่ซับซ้อนบนใบหน้าของเขา ดูเหมือนเขาจะไม่มีความสุขในการได้ยินเรื่องการตายของศัตรูของเขา
"โปรดให้ข้าถามเถิด เมื่อข้าจัดการพวกเขาแล้วพวกเขาจะกลับมาอีกไหมหลังจากข้าฟาร์ม ลูหลี่ถามออกไป เขาไม่รู้ว่า NPC จะเข้าใจคำว่า 'ฟาร์ม' หรือไม่
แม้จะไม่แน่ใจว่าระบบจะจัดการกับเรื่องนี้อย่างไรแต่กาเบรียล เคสโซ ก็เข้าใจความหมายของลูหลี่ เขาตอบโดยไม่ลังเลใจว่า "แน่นอนว่าไม่ พวกเขาตายไปลแ้ว เมื่อพวกเขาตายแล้วมันก็สมควรจะไม่มีใครกลับมาอีก "
"ได้โปรดให้ข้าถามอีกคำถามหนึ่ง ท่านรู้จักใครในป้ายทหารเหล่านี้หรือไม่? หนึ่งในพวกเขากล่าวว่า: ลิซ่า ข้าไม่ต้องการตายข้ายังคงต้องการที่จะสัมผัสใบหน้าของเจ้าอยู่"
"อะไรนะ?" นิสัยของกาเบรียล เครสโซเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน
มือของเขาเริ่มสั่นและทิ้งป้ายทหารทั้งสิบลงบนพื้น จากนั้นเขาก็มองผ่านป้ายทหารของพวกเขาทีละคนก่อนที่เขาจะพบชื่อของคนที่ฟังดูคุ้นๆ
อีวาน ฟาริส
ตำแหน่ง: ร้อยโทหน่วยที่ 9
บ้านเกิด: ถิ่นทุรกันดารตะวันตก
แล้วยังคำกล่าวสุดท้ายก่อนตายของเขา: ลิซ่า, ข้าไม่ต้องการตายข้ายังคงต้องการที่จะสัมผัสใบหน้าของเจ้าอยู่
“อีวาน ...”
ท่าทางของ กาเบรียล เคสโซได้เหี่ยวเฉาลง เขาเหมือนกับคนที่ตายแล้ว แต่ตอนนี้เขาดูอายุมากกว่าเดิมถึงหนึ่งโหล ถ้าไม่ใช่เพราะหน้าอกของเขาที่ขยับขึ้นและลงเขาก็คงจะไม่แตกต่างไปจากศพ
เขาไม่สามารถลืมความทรงจำที่เกี่ยวกับ อีวาน ฟานซิส ได้ เขาเป็นคนที่โตด้วยกันมา
พวกเขาเคยตกปลากันในแม่น้ำสายเล็กและจับกระต่ายในถิ่นทุรกันดารตะวันตก พวกเขามักจะแฝงตัวอยู่ในแสงจันทร์และพยายามจับหมูป่าที่เหยียบย่ำข้าวสาลี ในที่สุดพวกเขาก็ถูกไล่กลับมาโดยหมูป่าที่โกรธ
เขาชอบผู้หญิงมีชื่อว่า ลิซ่า ดังนั้นในวันที่เขาเข้ารับการเกณฑ์ทหารเขาจึงสลักชื่อของลิซ่าไว้ในป้ายทหารของเขา
อีวาน ฟาริส เป็นเหมือนพี่ชายของเขาและตอนนี้เขาก็ตายลงเพราะเขา
บทความที่ลูหลี่ได้อ่านในชีวิตก่อนหน้านี้ได้อธิบายถึงภารกิจนี้อย่างละเอียด
หัวใจของกาเบรียล เครสโซ จะเต็มไปด้วยความเกลียดชังเมื่อเขาส่งผู้เล่นไปฆ่าทหารในสันเขาเซนติเนล
ภารกิจนี้เป็นที่รู้จักกันดีเพราะรางวัลของมันคุ้มค่ามาก
ดูเหมือนว่าคนส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะสนุกกับเรื่องราวแบบเดียวกันซึ่งเกี่ยวข้องกับความยุติธรรมและความชั่วหรือการแก้แค้นและตัวเลือก
ระบบเควสของเกมรุ่งอรุณอยู่ห่างไกลจากเกมอื่นๆ ตราบเท่าที่การสนทนากำลังดำเนินไปในทิศทางที่ถูกต้องมันก็อาจจะทำให้เกิดเควสได้ แต่ในที่สุดมันก็จะต้องจบลงอยู่ดี
เมื่อเห็นป้ายทหารของ อีวาน ฟาซิส ภารกิจของ กาเบรียล เครสโซ ก็ได้สิ้นสุดลงแล้ว
เขากำลังเผชิญกับความเป็นจริงของสิ่งที่เขาได้กระทำในนามของความเชื่อของเขา
กาเบรียล เครสโซ มีเหตุผลที่จะแก้แค้น แต่การแก้แค้นของเขาทำให้หัวใจของเขาตาบอดจากการมองเห็น ความแตกต่างระหว่างความยุติธรรมกับความชั่วร้าย
เขาไม่มีเหตุผลอื่นใดแล้วที่จะมีชีวิตอยู่
"ข้าเสียใจด้วย" ลูหลี่กล่าวขณะที่เขาก้มลง เขาเป็นคนขี้สงสารเล็กน้อย แต่เขายังมีความสุขเล็กๆน้อยๆ ถึงแม้สถานการณ์ในพื้นที่รกร้างทางตะวันตกจะหมดไปจากการควบคุม แต่สันเขาเซนติเนลก็ใช่ว่าจะไม่มีความหมาย มันไม่ใช่ทหารทุกคนที่สมควรจะถูกสังหาร
"เอลฟ์ เจ้าทำสิ่งที่ถูกต้องแล้ว!" กาเบรียล เครสโซมองขึ้นไปด้านบนอย่างดุเดือดด้วยสายตาของเขา
"นักรบที่เคารพ ได้โปรดอย่าทำให้เกียรติของท่านเป็นมลทิน"
ลูหลี่ยังคงสงบ เขารู้วิธีจัดการกับ NPC
กาเบรียล เครสโซกลับมาสู่ท่าทีอันมืดมิดของเขาอีกครั้ง เขาลูบไล้หน้าอกของเขาอย่างเฉื่อยชาและได้กล่าวกับลูหลี่ว่า "ข้าขอโทษ ข้าขอโทษจริงๆ ข้านั้นตาบอดเพราะความเกลียดชัง แต่ตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างมันจบลงแล้ว "
"ท่านเป็นนักรบที่น่านับถือ" ลูหลี่กล่าว
ถ้าเขาสามารถเลือกได้เขาก็จะชอบที่จะเลือกทางๆนี้
อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถคิดหาทางหลีกเลี่ยงจากโศกนาฏกรรมนี้ไปได้ ภารกิจของ กาเบรียล เครสโซ ต่อมากลายเป็นที่นิยมอย่างมากและสันเขาเซนติเนลจะกลายเป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยเลือด ทหารหลายพันคนจะถูกลอบสังหารโดยผู้เล่น
"นี่เป็นรางวัลสำหรับเควส มันเป็นสิ่งที่ข้าได้เรียนรู้ในกองทัพ ถ้าเจ้าไม่สามารถใช้งานได้ เจ้าสามารถมอบมันให้เพื่อนของเจ้าได้ เจ้าน่าจะมีเพื่อนบางคนที่เหมือนอีวานกับข้า... "
กาเบรียล เครสโซมอบหนังสือให้ลูหลี่ จากนั้นระบบได้แจ้งให้เขาทราบว่าเขาได้ทำภารกิจเสร็จสิ้นแล้ว
ลูหลี่ไม่อยากไปไหนเลย เขาให้คำขอบคุณก่อนจะออกไป
น่าแปลกที่ กาเบรียล เครสโซ ได้เรียกเขาอีกครั้ง
"เอลฟ์ ข้ากำลังคิดที่จะไปที่ด่านหน้า ข้าอาจจะไปตายที่นั่น "
"โอ้ นั่นแหละจุดจบของนักรบที่เหมาะสม"
แม้แต่ลูหลี่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงพูดต่อ ไม่ใช่ว่าเควสจบลงแล้วเหรอ?
"ข้าไม่กลัวความตายเพราะมันจะทำให้ข้าโล่งใจ แต่มีบางอย่างที่ข้าไม่สามารถประนีประนอมกันได้ " กาเบรียล เครสโซรีบมองไปที่ลูหลี่และถามว่า "เพื่อประโยชน์ของท่านนักเวทย์เมดีฟผู้ยิ่งใหญ่ เจ้าสามารถช่วยข้าทำความปรารถนาอย่างของข้าให้สำเร็จได้หรือไม่"
เมดีฟ เป็นมนุษย์ที่นำเหล่าพันธมิตรเพื่อเอาชนะ อาชิมอนดูได้และยังปกป้องต้นไม้แห่งชีวติของ เหล่าไนท์เอลฟ์ แม้แต่พ่อมดที่หยิ่งที่สุดก็ยังกลัวเขา
เควสงั้นเหรอ?
ลูหลี่หยุดชั่วคราวก่อนที่จะหันไปรอบๆและพูดว่า "แน่นอนว่าข้ายินดีที่จะช่วยเหลือท่าน"
ภารกิจมันหมายถึงว่ามีรางวัล นี่เป็นความจริงสากลในทุกๆเกม มีเหตุผลอะไรที่ลูหลี่จะต้องปฏิเสธ
"ข้าเกิดมาในครอบครัวของช่างตีเหล็ก ปู่ของข้าได้เรียนรู้ทักษะนี้จากโรงตีเหล็ก แม้แต่คนที่มาจากโรงตีเหล็ก ก็ยังถือว่าคุณปู่ของข้านั้นเป็นช่างตีเหล็กที่ยิ่งใหญ่ ... "
กาเบรียล เครสโซเป็นคนช่างพูดมาก เขามักจะเพิ่มสิ่งเล็กน้อยที่พิเศษกับเรื่องราวของเขาเอง
"น่าเสียดายที่ข้าไม่สามารถเดินตามเส้นทางนั้นได้" ลูหลี่ถอนหายใจด้วยความอวดเก่ง เขานั้นได้บอกกับลูหลี่แล้วว่าทหารป่าได้ฆ่าทั้งครอบครัวของเขา ไม่มีทางที่คุณปู่ของเขาจะรอดชีวิตมาได้ด้วยความมหัศจรรย์บางอย่าง ดังนั้นลูหลี่จึงไม่สามารถหาเหตุผลว่าทำไมเขาถึงได้รับฟังข้อมูลนี้
"ปู่ของข้าเป็นช่างตีเหล็กที่ดี ไม่มีใครอยู่ในถิ่นทุรกันดารที่ไม่รู้จักชื่อของเขา แม้แต่ขุนนางบางคนยังส่งแบบแปลนเพื่อให้เขาทำอาวุธของพวกเขาให้"
"พวกเขาหวังว่าข้าจะกลายเป็นช่างตีเหล็กและใช้ชีวิตอย่างปลอดภัย"
ลูหลี่ไม่ใส่ใจกับสิ่งที่เครสโซกล่าว เขาไม่ค่อยตั้งใจฟังในเรื่องนี้
"ข้าไม่อยากเป็นช่างตีเหล็กเพราะข้านั้นชอบสู้รบ"
จู่ๆดวงตาของกาเบรียล เครสโซ ก็เต็มไปด้วยความเศร้า
"ทักษะของตระกูลเครสโซไม่อาจสูญหายไปได้ เอลฟ์ เจ้าเต็มใจจะช่วยข้าสืบทอดทักษะของพวกเขาได้ไหม? "