จอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 78
มีคนบางคนจะมาขโมยบอส
หลังจากที่โจมตีมาเป็นเวลา 1 ชั่วโมง อัศวินแห่งความตายก็มี HP ถึงจุดต่ำสุด
เมื่อเลือดมันลดถึงเท่านี้ มันก็จะทำบางสิ่งบางอย่างที่พิเศษ
สนามแรงโน้มถ่วงแห่งความมืด: สร้างสนามพลังที่ใต้เท้า ทุกคนที่ยืนอยู่รอบๆจะมีความเร็วในการเคลื่อนที่ลดลง 50% และได้รับความเสียหายจากความมืด 1000 หน่วยทุกๆ 2 วินาที
คงไม่ต้องบอกกระมั่ง ว่าทักษะนี้เป็นทักษะที่มีพลังมากเกินไป เพียงแค่ความเสียหายจากความมืดมันก็ทำให้ HP ของลูหลี่ลดลงครึ่งหนึ่ง โชคดีที่เขามีปฏิกิริยาที่รวดเร็ว เขารีบเปลี่ยนตำแหน่งทันทีเมื่อมันจะใช้สกิล อย่างไรก็ตามเขาก็โดนความเสียหายจากมันไปครึ่งหนึ่ง
เมื่อบอสเหลือ HP 5% บอสก็เข้าสู่โหมดเบอเซิก มันก็ได้ปล่อยทักษะออกมาซึ่งทำให้มีหลุมอยู่รอบๆ
ขณะที่ลูหลี่กำลังต่อสู้กับบอส เขาก็หยุดโจมตีและฟังเสียงอย่างตั้งใจ การแสดงออกของเขาในตอนนี้มันเคร่งเครียดเป็นอย่างมาก
มีคนอื่นอยู่ที่นี้!
เขาลุกขึ้นยืนบนหอคอยและมองไปรอบๆขอบกั้น มันมีปาร์ตี้หนึ่งที่มีคนจำนวนเป็นโหลกำลังกวาดล้างฝูงมอนเตอร์ได้อย่างรวดเร็ว ดูเหมือนเป้าหมายของพวกเขาคือการเข้าถึงหอคอยด้วย
เสียงร้องดังของ อัศวินแห่งความตาย มันดังไปถึงผู้เล่นบริเวณใกล้เคียงที่กำลังฟาร์มอยู่
"มีคนยืนอยู่บนหอคอย" ผู้เล่นที่มีสายตาดีพูดขณะที่เขาชี้ไปที่ลูหลี่
"เขาขึ้นไปตรงนั้นได้ยังไงกัน?" นักเวทย์เอลฟ์ถามขณะร่ายเวทมนตร์
"ไม่แน่ใจหรอก แต่มันก็ไม่สำคัญมากนัก ดูเหมือนว่าบอสยังไม่ตายเพราะฉะนั้นถ้าเราไปถึงที่นั่นอย่างรวดเร็วเราจะขโมยมันได้ ไม่มีทางที่เราจะไม่สามารถขโมยมันได้เนื่องจากมีพวกเราหลายคน "
ผู้ที่กล่าวนั้นเป็นฮันเตอร์หญิง การตัดสินใจของเธอนั้นหากจะเปรียบเทียบกับความฝันที่เหลืออยู่มันคงจะมากกว่าถึง 2 เท่า
หลังจากผ่านไปแวบหนึ่ง ลูหลี่ก็หยุดที่จะจ้องมองและเร่งความเร็วการโจมตีขึ้น
ค่าร่างกายของอัศวินแห่งความตายมันสูงและตัวของมันก็ถูกปกคลุมด้วยชุดเกราะอย่างเต็มที่ มันไม่ได้แตกต่างมากหากโจมตีไปที่จุดต่างๆ ดังนั้นลูหลี่จึงไม่จำเป็นต้องหาจุดอ่อน
บอสเหลือ HP เพียง 2000 แต่กลุ่มคนพวกนั้นก็เริ่มเข้ามาใกล้ ถ้าหากพวกเขาโจมตีมอนเตอร์ ฝูงมอนเตอร์จากจุดรอบๆนั้นจะตามพวกเขาไป
เช่นเดียวกับตอนที่เขามีความคิดนี้ ฝูงมอนเตอร์ได้ถูกลากออกไปและผู้เล่นฝ่ายความมืดก็เริ่มที่จะใกล้ชิดกับหอคอยประกายพรึก
ความคิดในการฆ่าบอสด้วยหน้าไม้ในตอนนี้มันเป็นแค่ความฝันเท่านั้น
ถึงเวลาแล้วที่จะต้องเข้าไปโจมตี!
ลูหลี่กระโดดลงจากหอคอยและรีบวิ่งไปที่บอส
ระบบ: ความสำเร็จสกิลชาโดว์สไตรค์ 93% ส่งผลให้เกิดความเสียหาย 210% และทำให้เป้าหมายติดสตันเป็นเวลา 1 วินาที
เกิดความเสียหาย -64 นี่มันเท่ากับความเสียหายจากการโจมตีด้วยลูกศร 10 ครั้ง!
ระบบ: ความสำเร็จสกิลแทงข้างหลังด้วยหหลังมือ 81% ส่งผลให้เกิดความเสียหาย 92% เกราะของเป้าหมายถูกทำลาย
การทำลายเกราะของบอสที่มีการป้องกันระดับสูงนี้มีประโยชน์มาก ก่อนที่จะมีการเจาะเกราะการโจมตีของลูหลี่ทำได้เพียง 10-20 หน่วย แต่หลังจากมีผลเจาะเกราะแล้วการโจมตีปกติได้สร้างความเสียหาย 20-30 หน่วย
บอสโจมตีลูหลี่ -350!
เขาสูญเสียเลือดมาก เขาดื่มโพชันและก่อนที่ผลของการเจาะเกราะจะหายไปเข้าได้ใช้ชาโดว์สไตรค์อีกครั้ง
ระบบ: ความสำเร็จสกิลชาโดว์สไตรค์ 95% ส่งผลให้เกิดความเสียหาย 300% และทำให้เป้าหมายติดสตันเป็น 2 วินาที
นี่คือโหมดควบคุมแบบแมนนวล! เมื่ออัตราความสำเร็จสกิลถึง 95% เขาจะสามารถสร้างความเสียหายได้ถึงสามเท่า เขารู้ดีว่าแม้กระทั่งก่อน "การเกิดใหม่" ของเขามีคนจำนวนไม่มากที่ทำแบบนี้ได้
ชาโดว์สไตรค์มันเป็นสกิลหลักของเขาและเป็นทักษะที่ได้รับการฝึกฝนมากที่สุดของลูหลี่ ด้วยความโชคดีเล็กน้อยของเขา เขาสามารถทำให้มันเกิดขึ้นได้
เบเนดิกไม่ได้โจมตีเขาเป็นครั้งที่สอง แต่เขาโกรธและยกขวานสงครามขึ้นมาเพื่อร่ายทักษะสนามแรงโน้มถ่วงแห่งความมืด
สิ่งที่น่าอัศจรรย์คือ สนามแรงโน้มถ่วงแห่งความมืด ปรากฏขึ้นมาแม้กระทั่งที่เท้าของคนที่ยืนอยู่ห่างออกไปถึงหนึ่งร้อยหลา
มันไม่ได้เป็นครั้งที่สองที่พวกเขาคิดว่าบอสจะกำหนดเป้าหมายมาที่พวกเขา ในพื้นที่ สนามแรงโน้มถ่วงแห่งความมืด มันสร้างความเสียหาย 1000 หน่วย ทุกๆ 2 วินาที พวกเขาเริ่มสูญเสียสมาชิกในปาร์ตี้ทันที
ได้มีไฟวิญญาณ 4-5 ดวงที่กำลังสว่างไสว!
"บ้าเอ้ย หัวหน้าเราตายแล้ว"
กลุ่มคนที่เหลือต่างก็เริ่มกลัวสกิลสนามแรงโน้มถ่วงแห่งความมืด บรรดาผู้ที่โชคดีพบว่าตัวเองไม่ได้ตาย แต่ก็มีหลายคนล้มลงรวมทั้งหัวหน้าของพวกเขา - เขาเป็นถึงผู้เล่นที่ติดอันดับ 9 ผู้นำของสมาคมเมืองหลวงแห่งความรุ่งโรจน์!
อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ยังไม่จบ สนามแรงโน้มถ่วงแห่งความมืดทำให้แต่ละคนเคลื่อนที่ช้าลง 50% ทำให้มอนสเตอร์ที่พวกเขาดึงมานั้นเร็วกว่าพวกเขาและตามทัน นั้นทำให้เกิดความสับสนวุ่นวาย
ลูหลี่ยืนอยู่ต่อหน้าบอส เห็นได้ชัดว่าเขาไม่สามารถหลบหนีได้ แต่หลังจากที่เขาได้เปิดใช้สกิลบนรองเท้าแล้วเขาแทบจะไม่รู้สึกถึงผลกระทบจากสกิลลดการเคลื่อนที่เลย
รองเท้าหนังสวิฟ (เหล็ก): เกราะ 8, ความคล่องแคลว +4, สกิลพิเศษ: เพิ่มความรวดเร็ว, ความเร็วในการเคลื่อนที่เพิ่มขึ้น 10% เป็นเวลา 10 วินาที เวลาคูลดาวน์ 120 วินาที ไม่สามารถใช้ทับซ้อนกันได้ ความต้องการเลเวล: LV 5. ความทนทาน 30/30
หลังจากนั้น 10 วินาที ผลของเพิ่มความรวดเร็วก็ได้หายไป และลูหลี่ก็โดนบอสโจมตีสองครั้งโดยมันสร้างเสียหายมากกว่าไป 700 หน่วย แต่โชคดีที่เขารอดจากการโจมตีนี้ไปได้
ตอนนี้บอสมี HP ต่ำกว่า 500 HP
"บอสกำลังจะตายแล้ว ไปดึงฝูงของมอนสเตอร์ออกไป ฉันไม่เข้าใจ คุณไปขัดขวางโจรที่กำลังต่อสู้กับบอส "
หลังจากหัวหน้าของเขาเสียชีวิตแล้วสมาชิกคนอื่นๆก็ได้รับคำสั่งทันที ไม่เสียชื่อเลยที่เป็นสมาคมหมายเลข 1
ลูหลี่หงุดหงิดในขณะที่เขาก้าวลงจากพื้นและก็กระโดดขึ้นและเริ่มโจมตี เขากวาดดาบจากด้านซ้ายไปด้านขวา
ระบบ: ความสำเร็จสกิลกรีดคอ 85%, สร้างความเสียหาย 100% จากสกิลและเอฟเฟ็คเลือดไหล
คริติคอล!
นี้เป็นความเสียหายครั้งแรกที่สร้างได้ถึง -147 หน่วยและมันก็ตามไปด้วยเอฟเฟ็คเลือดออกประมาณสิบครั้ง -20 วินาทีต่อครั้ง
หลังจากได้รับความเสียหายที่รุนแรงแล้ว เบเนดิกก็ได้เข้าสู่สถานะที่อ่อนแอซึ่งการโจมตีและการป้องกันของเขาก็ลดลงอย่างมาก เขาดูเหมือนจะรู้ว่าชีวิตของเขากำลังจะสิ้นสุดลงและมองกลับไปที่หอคอยประกายพรึกอย่างเงียบๆเพื่อรอการตายของเขา
ชาโดว์สไตรค์,แทงหลัง, ชาโดว์สไตรค์, กรีดคอ
บอสได้ตายลงแล้ว!
เลเวลอัพ!
ระบบ: ผู้เล่นลูหลี่ประสบความสำเร็จเป็นครั้งแรกในการจัดการบอสป่า อัศวินแห่งความตายเบเนดิก !
เมื่อการฆ่าครั้งนี้ได้รับการประกาศออกไปในแชทโลกแล้วก็ได้เกิดการพูดคุยกันอย่างมากมาย
คราวนี้ลูหลี่เป็นชื่อเดียวในการประกาศ
หยกดอกไม้คู่รัก: โอ้พระเจ้า เขาจัดการบอสด้วยตัวคนเดียว!
แลกเปลี่ยนเกลือน้อย: ท่านผู้นำลูหลี่ช่างมีพลังมากมายยิ่งนัก ซอโรเลสก็พึ่งฆ่าบอสไปตะกี้เหมือนกัน
ผู้บุกเบิกราชวงค์ฉิน: ซอโลเรสมันก็แค่ตูดหมึก มันฟังดูดีนะที่ประกาศจากระบบมันบอกว่าเขาทำเพียงแค่ 20 คน แต่ฉันมีเพื่อนในฝั่งความมืด และพวกเขาก็มีกันตั้ง 300-400 คน แต่ลูหลี่นั้นฆ่าบอสอัศวินแห่งความมืดด้วยตัวคนเดียว แม้แต่ชื่อของบอสที่เขาจัดการมันยังฟังดูน่ากลัวเลย
ขนทาสี:พวกเราฝั่งแสงสว่างมีท่านผู้นำลูหลี่ แล้วพวกแกฝ่ายชั่วมีอะไรบ้างละ? มาสิลองเปรียบเทียบกัน
ผู้เล่นสมาคมแห่งความรุ่งโรจน์ยังคงเผชิญหน้ากับฝูงมอนเตอร์ฝูงสุดท้าย แต่พวกเขาก็็ดูซึมเศร้าเล็กน้อย ไม่มีคำอธิบายความแข็งแกร่งของโจรคนนี้ แม้เขาจะไม่ได้ดูแข็งแรงมาก แต่คุณสามารถเห็นเลือดที่หายไปของเบเนดิกได้อย่างชัดเจน
มอนเตอร์ที่สวมใส่ชุดหุ้มเกราะนั้นไม่สามารถจัดการลงได้โดยง่าย
ในที่สุด ฉันไม่เข้าใจ ก็ได้วิ่งออกมาหนีออกมาท่ามกลางฝูงมอนสเตอร์, เขาได้ยิงธนูของเขา!