458 - ลานพนันหินดินแดนศักดิ์สิทธิ์หยกพลิกสวรรค์
458 - ลานพนันหินดินแดนศักดิ์สิทธิ์หยกพลิกสวรรค์
ก่อนยุครกร้างโบราณ เผ่าพันธุ์อสูรและมนุษย์มักจะมีสงครามที่ยิ่งใหญ่ระหว่างกันอยู่เสมอ แต่ในที่สุดเผ่าพันธุ์อสูรก็ถูกจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่เผ่าพันธุ์มนุษย์จัดการจนราบคาบ
หลังจากนั้นเผ่าพันธุ์อสูรแทบทั้งหมดก็อพยพมายังภาคเหนือเพื่อรวมกันที่วังอสูรสวรรค์
“จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ปราศจากจุดเริ่มต้นน่าเหลือเชื่อเป็นอย่างมาก เมื่อครั้งที่เขายังไม่เป็นจักรพรรดิเขาเคยต่อสู้กับอาวุธเต๋าสุดขั้วที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของแคว้นภาคกลางด้วยมือเปล่า! มิหนำซ้ำยังเอาชนะได้อีกด้วย” หลี่เหอซุยกล่าวด้วยสีหน้าชื่นชม
“นี่คือผู้ที่มีพรสวรรค์ยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง!” เย่ฟ่านอุทานหลังจากได้ยินข่าว
“ขอเพียงเจ้าสามารถเข้าสู่อาณาจักรสี่สุดขั้วได้ ด้วยสถานการณ์ในปัจจุบันของเจ้า เจ้าจะกลายเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์สูงที่สุดในโลกยุคปัจจุบัน”
“ดินแดนศักดิ์สิทธิ์พวกนี้มีต้นกำเนิดมากมายข้าจะปล้นมันมาให้หมด ข้าต้องเข้าสู่อาณาจักรสี่สุดขั้วในครั้งเดียว!”
เย่ฟ่านรู้สึกตื่นเต้นกับความลับต่างๆของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ปราศจากจุดเริ่มต้น
“พวกเขาไม่สามารถถอยกลับได้ ไม่มีใครสามารถต้านทานการล่อลวงของมรดกจักรพรรดิปราศจากจุดเริ่มต้น มันจะทำให้เมืองศักดิ์สิทธิ์ว่างเปล่าเพราะยอดฝีมือระดับผู้สูงสุดต้องไปรวมกันที่ภูเขาสีม่วงอย่างแน่นอน” เย่ฟ่านวิเคราะห์
หลี่เหอซุ่ยคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า
"สิ่งเดียวที่ต้องใส่ใจคือบุตรศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้น พวกเขาไม่มีทางถูกส่งไปยังภูเขาสีม่วง พวกเขาเคยเห็นเจ้ามาก่อน ดังนั้นอย่าให้มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น"
“ไม่ช้าก็เร็ว ข้าจะเดินทางไปที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์พวกนั้นพร้อมทั้งทำให้พวกเขาก้มศีรษะลงให้ได้…” เย่ฟ่านพูดกับตัวเอง
“ฮ่าฮ่าฮ่า...” หลี่เหอซุยหัวเราะด้วยความคาดหวัง
“น่าเสียดายที่แม้แต่จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ปราศจากจุดเริ่มต้นก็ยังต้องกลายเป็นดินเหลือง ในท้ายที่สุดไม่มีผู้ใดสามารถมีชีวิตอยู่ได้ตลอดไป” เย่ฟ่านถอนหายใจ
“นั่นก็ไม่แน่หรอก ว่ากันว่าจักรพรรดิปราศจากจุดเริ่มต้นเป็นสิ่งมีชีวิตอมตะ ข้าไม่คิดว่าเขาจะตายง่ายๆแบบนั้น?” หลี่เหอซุยก็ไม่แน่ใจ
แน่นอนว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์จะยอมแพ้แบบนี้ พวกเขาเตรียมตัวอยู่หลายวันในที่สุดก็เริ่มโจมตีภูเขาสีม่วงครั้งที่สอง
ว่ากันว่าในครั้งนี้พวกเขาอาจใช้อาวุธเต๋าสุดขั้วที่แท้จริง บางทีอาจเป็นเตาเทพสุริยัน บางทีอาจเป็นหม้อมังกรสวรรค์และกระจกแห่งความว่างเปล่า
การโจมตีภูเขาสีม่วงในครั้งนี้ไม่ว่ามันจะสำเร็จหรือไม่ สิ่งมีชีวิตที่ถูกผนึกไว้ในต้นกำเนิดสวรรค์จะต้องปรากฏตัวขึ้นอย่างแน่นอน
ในอดีตยังมีจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณคอยควบคุมความประพฤติของสิ่งมีชีวิตอมตะที่อยู่ในต้นกำเนิดเหล่านั้น
น่าเสียดายที่ร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณตกต่ำลงแล้ว แม้แต่ผู้ฝึกตนธรรมดายังเรียกพวกเขาว่า "คนพิการ" คนประเภทนี้จะมีความหวังในการต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตในต้นกำเนิดสวรรค์ได้อย่างไร?
เย่ฟ่านต้องการทำลายคำสาป เขากระตือรือร้นที่จะแข็งแกร่งขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อความลับของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ปราศจากจุดเริ่มต้นปรากฏ
มันยิ่งกระตุ้นความทะเยอทะยานของเขามากขึ้นไปอีก
………………………….
เมืองศักดิ์สิทธิ์นี้มีใหญ่เกินไปจริงๆ เป็นเวลาหลายวันแล้วที่เย่ฟ่านถูกจำกัดอยู่เพียงมุมเดียว และไม่สามารถสำรวจสถานที่ต่างๆในเมืองได้ครบ
แน่นอนว่าสาเหตุสำคัญเป็นเพราะว่าเขาต้องการหินต้นกำเนิดจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ เวลาของเขาส่วนมากจึงถูกใช้ไปในการสำรวจโรงพนันของดินแดนศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น
วันนี้หลี่เหอซุยพาเย่ฟ่านออกไปอีกครั้ง ถนนสายเก่าแก่นี้กว้างขวางมากแต่คนเดินถนนมีอยู่เพียงเล็กน้อยสถานที่แห่งนี้จึงค่อนข้างสงบ
สองข้างทางของถนนมีต้นไม้เก่าแก่ มีกิ่งก้านสูงตระหง่านและลำต้นแห้งแตก ยอดของมันทะลวงเข้าไปในหมู่เมฆไม่สามารถมองเห็นปลายได้
หลังจากเดินไปข้างหน้าเป็นระยะทางหนึ่ง เย่ฟ่านพบว่ามีบางอย่างผิดปกติ มีลานหินอยู่ข้างถนน มันค่อนข้างใหญ่และครอบครองพื้นที่มหาศาล
เถาวัลย์โบราณพันกันจนมีสภาพรกร้างเป็นอย่างมาก แม้แต่ลานหินส่วนหนึ่งก็ยังจมอยู่ใต้น้ำ
แน่นอนว่าที่นี่ไม่ได้รับการดูแลมาหลายปีแล้ว และมันก็เกือบจะกลายเป็นซากปรักหักพังโดยสมบูรณ์
เย่ฟ่านตกตะลึงเพราะเขาเห็นกระต่ายตัวหนึ่งกระโดดออกมา มันเป็นกระต่ายจริงๆไม่ใช่ภาพนิมิต ซึ่งมันไม่น่าจะเป็นไปได้ที่จะมีสัตว์ป่าอาศัยอยู่ในเมืองที่มีผู้คนหลายล้าน!
หลังจากที่กระต่ายตัวนั้นมองเห็นเย่ฟ่าน มันก็กระโดดกลับเข้าไปในดงเถาวัลย์ด้วยความกลัว
ที่นี่คือเมืองศักดิ์สิทธิ์ ที่ดินในเมืองนี้มีราคาแพงมาก มันจะเป็นไปได้ด้วยเหรอที่พื้นที่กว้างใหญ่เช่นนี้จะถูกปล่อยให้รกร้างจนถึงขนาดมีสัตว์ป่ามาอาศัยอยู่?
ในไม่ช้าเย่ฟ่านก็พบไก่ฟ้าอีกสองตัว พวกมันกระพือปีกและบินเข้าไปในส่วนลึกของพุ่มไม้ เขาค่อนข้างพูดไม่ออกเพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้านี้แปลกประหลาดมากเกินไป
"ที่นี่ที่ไหน? มีใครบางคนในเมืองศักดิ์สิทธิ์ที่เต็มใจละทิ้งที่ดินอันล้ำค่าเช่นนี้!"
“ที่แห่งนี้... คือลานพนันหินของดินแดนศักดิ์สิทธิ์หยกพลิกสวรรค์” หลี่เหอซุยกล่าว
ในส่วนลึกของมวลหมู่เถาวัลย์มีป้ายทองแดงเก่าคร่ำคร่าปักอยู่ มันสลักด้วยอักษรโบราณสองตัวคือคำว่าหยกพลิกสวรรค์
“ที่นี่คือดินแดนศักดิ์สิทธิ์!”
เย่ฟ่านรู้สึกประหลาดใจมาก เขาเดินเข้าไปในดินแดนแห่งนั้นโดยไม่รู้ตัว
เขาคิดถึงชายชราคนหนึ่ง ในอดีตเมื่อดินแดนศักดิ์สิทธิ์อยู่ในความมั่งคั่งชายชราคนนั้นเป็นเพียงเด็กน้อยที่มีอายุไม่ถึง 20 ปีด้วยซ้ำ
ไม่ทราบว่าดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้แข็งแกร่งมากแค่ไหนเมื่อครั้งอดีต พวกเขาถึงได้สร้างชายชราผู้บ้าคลั่งที่ถือเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งของดินแดนรกร้างตะวันออกขึ้นมาได้
“ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งอื่นไม่คิดจะแตะต้องที่ดินผืนนี้หรือ?” เย่ฟ่านถาม
ในอดีตอันไกลโพ้น มีดินแดนศักดิ์สิทธิ์มากกว่าตอนนี้หลายเท่า แต่จนถึงปัจจุบันมรดกมากมายของพวกเขาก็ถูกทำลายไปแล้ว
คลังสมบัติที่พวกเขาทิ้งไว้ทั้งหมดถูกแบ่งโดยดินแดนศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แข็งแกร่งที่เหลืออยู่ในปัจจุบันแข็งแกร่งมาก
“แม้ว่าดินแดนศักดิ์สิทธิ์หยกพลิกสวรรค์จะถูกทำลายไปแล้ว แต่ลูกศิษย์ของพวกเขาก็ใช่ว่าจะถูกทำลายจนหมดสิ้น ยังคงมียอดฝีมือสามสี่คนของพวกเขาที่ยังหลงเหลืออยู่”
"ถึงอย่างนั้นด้วยอำนาจของดินแดนศักดิ์สิทธิ์มากมายพวกเขาก็น่าจะแบ่งทรัพย์สินอันมีค่าพวกนี้ได้อยู่ดี?" เย่ฟ่านงุนงง
"มีเหตุผลบางอย่างที่พวกเขาไม่กล้าทำเช่นนั้น" หลี่เหอซุยอธิบาย
ดินแดนศักดิ์สิทธิ์หยกพลิกสวรรค์เคยเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่แข็งแกร่งที่สุดในดินแดนรกร้างตะวันออก
เมื่อครั้งที่พวกเขาถูกทำลายจากเหตุการณ์บุกรุกดินแดนต้องห้ามในภาคใต้ ได้มียอดฝีมือรุ่นเยาว์สี่คนของพวกเขาที่หนีมายังเมืองศักดิ์สิทธิ์ได้สำเร็จ
ยอดฝีมือเหล่านั้นอาศัยอยู่ในสถานที่แห่งนี้หลายวัน แต่สุดท้ายพวกเขาก็ค่อยๆทยอยเสียชีวิตจากการที่พลังชีวิตถูกทำลาย
และทุกครั้งเมื่อคืนพระจันทร์เต็มดวงจะมีผู้คนมองเห็นพวกเขาทั้งสี่ที่ร้องไห้คร่ำครวญอยู่ในสถานที่แห่งนี้ในสภาพที่กลายเป็นวิญญาณร้าย
คนจากดินแดนศักสิทธิ์เคยมาสำรวจสถานที่แห่งนี้แล้ว แต่สุดท้ายพวกเขาก็ไม่พบอะไรพวกเขาจึงส่งคนของตัวเองเข้ามาครอบครองสถานที่แห่งนี้
แต่หลังจากผ่านไปไม่กี่ปีผู้คนที่อาศัยอยู่ในสถานที่แห่งนี้ก็ถูกสังหารจนหมดสิ้น สภาพการตายของพวกเขาน่ากลัวเป็นอย่างมาก
มันเหมือนกับว่าพวกเขาถูกดูดพลังชีวิตจนหมดเหลือเพียงร่างกายแห้งเหี่ยว!
ในขณะเดียวกันเสียงร้องด้วยความเศร้าโศกก็ปรากฏขึ้นที่ลานพนันหินของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเข้าครอบครองสถานที่แห่งนี้
เรื่องนี้แม้แต่ปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาก็ยังอับจนปัญญาไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้
นับตั้งแต่นั้นมาก็ไม่มีผู้ใดคิดจะครอบครองสถานที่แห่งนี้อีก
"ฮะ ประตูเปิดอยู่" เย่ฟ่านรู้สึกประหลาดใจ
“หลังจากผ่านไปหลายปีก็มีเพียงเด็กรับใช้คนหนึ่งของดินแดนศักดิ์สิทธิ์หยกพลิกสวรรค์ที่ยังรอดชีวิต และชายชราผู้ที่อยู่ข้างในคือทายาทของเขา”
“เข้าไปดูได้ไหม?” เย่ฟ่านถาม
“เข้าไปได้ ไม่เป็นไร แต่สมบัติทุกอย่างที่อยู่ที่นี่ถูกดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งอื่นแบ่งปันไปหมดแล้ว ที่นี่ไม่มีของมีค่าอะไรเหลืออยู่”
“เป็นไปได้ไหมที่จะพบศิลาต้นกำเนิดที่นี่?”
“คนรับใช้เก่าแก่ที่ดูแลสถานที่แห่งนี้มีหน้าที่เพียงปกป้องสถานที่เท่านั้น สำหรับสิ่งของที่อยู่ด้านในหากผู้ใดต้องการ เขาก็ยินดีที่จะขายอยู่แล้ว”
ดินแดนศักดิ์สิทธิ์อันยิ่งใหญ่แต่ละแห่งได้ขนอัญมณีล้ำค่าจำนวนมากออกไปก่อนหน้านี้แล้ว
ต่อให้ที่นี่มีเสียงร้องไห้คร่ำครวญของภูตผีปีศาจดังอยู่ทุกคืน มันก็เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะคืนต้นกำเนิดมากมายมหาศาลที่ปล้นไปกลับมา!