18 - ผมจะคืนให้
18 - ผมจะคืนให้
“ผอ.มาถึงแล้วครับ”
ณ ขณะนี้.
ผอ.ห่าว เดินไปข้างหน้าด้วยหัวใจหนักอึ้ง เมื่อเห็นสายตาของแพทย์และพยาบาล เขาก็ค่อยๆยืดตัวตรงพร้อมรอยยิ้มจาง ๆ บนใบหน้าของเขา
“ผอ. ครับ หลินฟ่านและผู้เฒ่าจางต้องการสิ่งที่พวกเขาเขียน แต่เราไม่รู้ว่าพวกเขาต้องการอะไร เราถามหลายครั้งและพวกเขาพูดแต่คำว่า”นี่“” แพทย์คนหนึ่งกล่าว
ผอ.ฮ่าวพยักหน้า
“ปล่อยให้เป็นหน้าที่ผม”
ต่อจากนั้น.
ผอ.ฮ่าว รักษาระยะห่างจากหลินฟ่านและคนอื่นๆ โดยพยายามสังเกตว่าพวกเขาไม่ได้มีอาวุธ
"คุณต้องการอะไร?" ผอ.ห่าวถาม
"เราต้องการสิ่งนี้" หลินฟ่านและผู้เฒ่าจางชี้ไปที่แผ่นกระดาษ
คนธรรมดาจะโมโหอย่างแน่นอนเมื่อเห็นฉากนี้ รูปที่พวกคุณเขียนนั้นมันคืออะไรทำไมพวกคุณไม่พูดออกมาตรงๆ?
OO, 0
ใครมันจะไปเข้าใจได้?
หากมีใครบางคนเข้าใจเรื่องนี้มันก็ไม่แน่ว่าเขาจะเป็นคนที่ฉลาดหลักแหลม ขณะเดียวกันทางโรงพยาบาลจิตเวชชิงซานอาจจะต้องเอาตัวของเขามาทำการรักษาในทันที
ผอ.ฮ่าวเหลือบไปมองและพูดว่า
“เราคืนให้คุณไม่ได้?”
"เราต้องการสิ่งนี้"
หลินฟ่านและผู้เฒ่าจางกล่าวพร้อมกัน ในเวลานี้พวกเขามีสายสัมพันธ์จากใจถึงใจ และพวกเขาต้องการความสามัคคี
คนป่วยทางจิตคนอื่นๆที่ไม่รู้ว่าพวกเขาต้องการอะไรก็ตะโกนว่า
"เราต้องการสิ่งนี้"
ผอ.ฮ่าว เหนื่อยมาก
วันนี้เป็นวันที่ 1 มีนาคม และมันเป็นวันเกิดของเขา มันก็เหมือนเช่นทุกปี เขาไม่เคยมีความสุขในวันเกิดของตัวเองเลย
เวลาทำงานของเขาเหลืออีกเพียงไม่กี่ปีเท่านั้น และเขารู้สึกเบื่อเป็นอย่างมากที่ต้องพบเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ซ้ำซ้ำซากซาก
“หุบปากเดี๋ยวนี้?”
ผอ.ฮ่าวรู้สึกเสียใจมาก ตอนที่เขายังเป็นหนุ่มเขามีทางเลือกในการทำงานอยู่ 2 อย่าง
หนึ่งคือพัศดีเรือนจำ สองคือหมอในโรงพยาบาลจิตเวช
เขาเลือกโรงพยาบาลจิตเวช
หากเขาเลือกพัศดี แม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ก็จะจัดการได้ง่ายๆโดยการเรียกผู้คุมมาทุบตีนักโทษอย่างหนัก
แต่ตอนนี้
คนที่อยู่ข้างหน้าล้วนเป็นคนพิการที่ด้อยโอกาส
เขาจะเอาชนะได้ยังไง.
ผอ.ห่าวรู้สึกกลัว คุณไม่มีทางรู้ว่าผู้ป่วยทางจิตจะทำอะไรต่อไป หากคุณปราบปรามพวกเขาด้วยกำลัง
พวกเขาอาจจะร้องไห้คร่ำครวญ หรือบางทีพวกเขาอาจจะพร้อมที่จะตายไปกับคุณตลอดเวลา
ในอดีตเคยมีผู้ป่วยทางจิตบางคนที่ใช้มีดกรีดตัวเองเพื่อดูว่ามีดพวกนี้จะสามารถกรีดผิวหนังของพวกหมอพยาบาลได้หรือไม่
สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่เคยเกิดขึ้นในตลอดอาชีพการทำงานของ ผอ.ฮ่าว
ผอ.ฮ่าวก้าวถอยหลังสีหน้าของเขาลังเลอยู่ชั่วครู่ก่อนจะพูดว่า
“โอเค ผมจะคืนให้”
“หลี่น้อย ไปเอาของมาให้พวกเขาเถอะ”
ผอ.ฮ่าวแค่ต้องการใช้วันเกิดของเขาในวันที่ 1 มีนาคมอย่างสบายใจ เขาต้องการกลับไปที่ออฟฟิศและเพลิดเพลินกับเค้กและน้ำชาที่ภรรยาของเขาเตรียมไว้ให้ตั้งแต่เมื่อเช้า
หมอหลี่ดูตกตะลึง “ผอ. คุณจะให้ผมไปเอาอะไรมา?”
"บาร์เบลกับกระสอบทราย"
ผอ.ห่าวรู้สึกเหนื่อยเล็กน้อย แม้ว่าจะมีหมอและพยาบาลหลายสิบคนในโรงพยาบาลนี้ แต่มันน่าเหลือเชื่อจริงๆที่มีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้นที่เข้าใจความคิดของคนบ้า!
เรื่องนี้ไม่มีใครสามารถช่วยเหลือเขาได้
…………………..
บาร์เบลและกระสอบทรายกลับมาที่มือของหลินฟ่าน
เขาถือกระสอบทรายและผู้เฒ่าจางกำลังแบกบาร์เบลล์ ทั้งสองคนเดินกลับไปที่วอร์ด 666 ด้วยรอยยิ้มสดใส
ผู้ป่วยทางจิตคนอื่นๆเกาหัว เรามาทำอะไรที่นี่?
มันน่าเบื่อ น่าเบื่อมาก และพวกเขาที่ขาดผู้นำสุดท้ายก็ต้องแยกย้ายกันกลับไปทำกิจกรรมของตัวเอง
แพทย์และพยาบาลมองไปที่ผอ.ฮ่าวพร้อมกับปรบมือด้วยความชื่นชม
คำเยินยอที่มีสีสันทุกชนิดถูกพ่นออกมาอย่างไม่รู้จบ
ผอ.ฮ่าวกำลังยิ้ม บางทีเหตุการณ์ครั้งนี้อาจเป็นเรื่องที่ดีที่สุดในวันที่ 1 มีนาคม
“ผู้ป่วยทางจิตก็เป็นคนเช่นกัน ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวระหว่างพวกเขากับเราคือการคิด
เมื่อผมชูนิ้วขึ้นมา 1 นิ้วบางคนอาจจะบอกว่ามันคือนิ้ว บางคนอาจจะบอกมันคือเลข 1 แต่สำหรับพวกเขาพวกเขาอาจจะคิดว่ามันเป็นไส้กรอกก็ได้"
แพทย์ผู้มีประสบการณ์ดูจริงจัง สายตาที่เต็มไปด้วยความยกย่องของพวกเขาไม่สามารถปิดบังได้
"การเรียนรู้จากผอ.นั้นดีกว่าการวิจัยที่ใช้เวลานานกว่าสิบปีด้วยซ้ำ"
“ใช่ค่ะ ฉันไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะเก่งเท่าผอ.”
“ผอ.เป็นผู้ที่มีความลุ่มลึกในด้านการเข้าใจผู้ป่วยจิตเวช นั่นเป็นจุดสูงสุดที่พวกเราต้องการไปถึง”
ผอ.ฮ่าวรู้สึกสดชื่นจากคำพูดของเด็กรุ่นหลังเหล่านี้ เขาโบกมือและเดินกลับไปด้วยรอยยิ้ม
วอร์ด 666
หลินฟ่านรู้สึกว่าบาร์เบลล์ของเขาเบามากมันแทบจะไม่มีน้ำหนักด้วยซ้ำ เขาหยิบบาร์เบลล์ขึ้นมาแล้วทุบไปที่หน้าอกของตัวเองอย่างแรง!
ปัง!
มันไม่เจ็บเลย เรื่องนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร?
เมื่อก่อนยังเจ็บอยู่นิดหน่อย แต่ทำไมตอนนี้ถึงไม่เจ็บเลย?
“ผมลองแล้วไม่ได้ผล คุณลองบ้างดีกว่า” หลินฟ่านมอบบาร์เบลล์ให้ผู้เฒ่าจาง
ผู้เฒ่าจางกำลังถือบาร์เบลล์ซึ่งหนักไปหน่อย เขาเชื่อว่าหลินฟ่านสามารถฝึกฝนการบ่มเพาะได้ ดังนั้นเขาจึงไม่เคยคิดว่าหลินฟ่านจะมีความเจ็บปวดจริงๆ
ในครั้งนี้ก็เช่นกัน เขากระแทกบาร์เบลไปที่หน้าอกของหลินฟ่านตรงๆ
อุ๊บ!
เสียงทื่อๆดังขึ้น
หลินฟ่านไม่ได้เคลื่อนไหวแม้แต่น้อย แต่ผู้เฒ่าจางกลับกระเด็นถอยหลังออกไปหลายก้าว
"เป็นยังไงบ้าง?" ผู้เฒ่าจางถามอย่างมีความหวัง
“รู้สึกดี เต็มไปด้วยพลัง ทุกอย่างเรียบร้อยดี มันไม่มีความเจ็บปวดอะไรเลย” หลินฟ่านรู้สึกพึงพอใจกับการฝึกฝนทักษะบ่มเพาะของเขาอย่างยิ่ง
ผู้เฒ่าจางจ้องไปที่บาร์เบลล์ ก่อนจะทุบไปที่หน้าอกของตัวเองเบาๆ
อั๊ก!
ผู้เฒ่าจางล้มลงไปนอนกับพื้น ลิ้นของเขาเหยียบยาวออกมาในขณะที่ร่างกายของเขาคุดคู้เข้าหากัน
“คุณก็อยากฝึกด้วยเหรอ?” หลินฟ่านถามด้วยความสงสัย
ตาของผู้เฒ่าจางแดงก่ำและเขาอยากจะร้องไห้เล็กน้อย
"ผมแค่ต้องการดูว่ามันจะเจ็บไหม มันเจ็บจริงๆ คุณโกหกนี่หว่า!"
“ผมไม่ได้โกหก มันไม่เจ็บจริงๆ” หลินฟ่านคิดแล้วพูดว่า: "ตอนที่ผมฝัน มีคนบอกว่าจะให้รางวัลผมเป็นทักษะการบ่มเพาะชนิดหนึ่ง ดูเหมือนว่ามันจะแสดงผลออกมาแล้ว"
ผู้เฒ่าจางกระโดดขึ้นอย่างมีความสุขและพูดว่า "จริงเหรอ? มันเป็นผลงานของผมเหรอ หรือว่าเทคนิคการฝังเข็มแบบทางช้างเผือกจะได้ผลจริงๆ?"
"อืม ผมก็คิดแบบนั้น" หลินฟ่านยกย่อง
หลังจากนั้นหลินฟ่านก็นอนอยู่บนเตียงพร้อมกับพูดว่า
"ผมจะนอนอยู่ตรงนี้แล้วคุณก็ใช้บาร์เบลตีไปทั่วร่างกายของผม พวกเราจะทำมันจนกว่าการฝึกฝนจะสำเร็จ"
“ตกลง แต่ก่อนหน้านั้นผมคิดว่าผมควรจะฝังเข็มให้คุณอีกสักหน่อย มันอาจจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดได้ดีขึ้น”
ผู้เฒ่าจางแอบเอาเข็มเงินออกจากแขนของเขา เขาซ่อนมันไว้ลึกมากเพราะกลัวว่าคนอื่นจะขโมยไป!