ตอนที่ 405+406 ชั่วร้าย
ตอนที่ 405 ชั่วร้าย
“คิดว่าพวกเขาได้รับแจ้งจากกองทัพทันทีทีเกิดเรื่องแล้วซะอีก ทำไมพวกเขาถึงเพิ่งมาล่ะคะ?” ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา เจียงเหยายุ่งกับการดูแลลู่ชิงสีและพันเอกหลิน และต้องคอยมอบหมายความรับผิดชอบของจ่าเก๋อให้กับเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ของโรงพยาบาลอีก
หวู่เผิงซินกำลังจะพูด ผู้พันจื่อก็มาถึง เขาอาจจะได้ยินบทสนทนาของพวกเขาแล้ว “แม่ของจ่าเก๋อเป็นคนที่รับมือยากคนหนึ่ง”
ผู้พันจื่อไม่มีอะไรนอกจากความสงสารปรากฎในดวงตาเมื่อเขากล่าวถึงจ่าเก๋อ จ่าเก๋อเขาเป็นคนที่น่าเชื่อถือ มีความสามารถ เข้ากับคนอื่นได้ดี และนิสัยโดยรวมก็ดี ความผิดพลาดอย่างเดียวที่เขาทำให้เกิดขึ้นกับตระกูลเก๋อก็คือการมีซุนฉีเหม่ยเป็นภรรยา
นั่นอาจเป็นจุดจบของอาชีพของจ่าเก๋อ เหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อกองทัพ แม้ว่าผู้พันจื่อจะพยายามเจรจาอย่างดีกับทางกองทัพเพื่อให้ช่วยจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้กับจ่าเก๋อ แต่ผู้บังคับบัญชาก็ตัดสินใจปลดประจำการจ่าเก๋อ หลังจากที่เขาหายดีแล้ว
ยศจ่าสิบเอกในปัจจุบันของเขา จะยังติดตัว เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้ตกงาน และยังมีรายได้
“เราโทรหาครอบครัวของเขาตั้งแต่วันที่เกิดเหตุ แต่แม่ของเขาบอกเราว่าพวกเขาไม่มีเงินพอที่จะซื้อตั๋วรถไฟมาถึงที่นี่ พวกเขาต้องการให้เรายืนเงินหนึ่งร้อยหยวนเป็นเงินค่าตั๋ว เรารวบรวมเงินและส่งไปให้โดยหวังว่าพวกเขาจะมาถึงให้เร็วที่สุด แต่ไม่นึกว่าพวกเขาจะมาช้าขนาดนี้!”
ผู้พันจื่อโกรธมากขึ้นเรื่อย ๆ เขาพูดต่อ “ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ตราบใดที่พวกเขามาถึงที่นี่ ฉันได้สั่งให้คนไปรับพวกเขาที่สถานีรถไฟ เพราะเห็นว่าเป็นแม่ของจ่า ให้ตายเถอะ! พวกเขามีคนมาเพิ่มอีกสองคน โดยไม่บอกไม่กล่าว แล้วยังพาเด็กอายุ 10ขวบมาด้วย พอมาถึงก็ขอเข้าไปดูในเมืองทันที อยากจะเที่ยวชมสถานที่นั่นนี่ โดยให้คนของฉันเป็นคนขับรถให้!W
เมื่อได้ฟังที่ผู้พันจื่อพูด เจียงเหยาก็พูดไม่ออก มันเป็นเรื่องที่อุกอาจกระตุ้นให้ผู้พันจื่อผู้ออ่นโยนถึงกับสาปส่งได้
แม้ว่าลูกชายของเธอเกิดปัญหา แม่ของจ่าเก๋อกลับไม่เต็มใจจะออกเงินแม้แต่แดงเดียว แล้วยังจะหน้าไม่อายมาขอเงินจากเพื่อน ๆ ของลูกชายอีก
จ่าเก๋อไม่มีที่ของอยู่ตัวเอง แล้วเขาจะไปอยู่ที่ไหน?
มันเป็นเรื่องใหญ่ ใครก็ตามที่มีสามัญสำนึกแค่เพียงเล็กน้อย ก็จะรู้ว่าแม่ของจ่าเก๋อใช้โอกาสนี้มาเที่ยว และพาลูกหลานมาเที่ยวชมต่างเมือง เขาคงไม่นึกถึงที่พักและอาหารหลังจากมาถึง คงคิดว่าคนของกองทัพจะเป็นฝ่ายช่วยจัดเตรียมให้กระมั้ง
“ผู้พันจื่อคะ คุณกำลังหาชิงสีหรือผู้พันหลินอยู่เหรอคะ?” เจียงเหยาไม่มีคำพูดดี ๆ ที่จะพูดถึงนางเกอ และไม่สามารถแสดงความไม่พอใจของเธอออกมาได้
“ทั้งสองนั่นแหละ” ผู้พันจื่อกล่าว “พอได้ยินข่าวว่าพวกเขาอาการดีขึ้น จ่าเก๋อต้องการพบพวกเขา ฉันเชื่อว่าจ่าเก๋อคงอยากจะย้ายไปรักษาที่โรงพยาบาลในหมู่บ้านหลังจากที่เขาดีขึ้น”
__
ตอนที่ 406 ย้ายจ่าเก๋อ
จ่าเก๋อเข้าใจสถานการณ์และโกรธกับคำพูดของแม่เขา เขาอดไม่ได้ที่จะสาปแช่งพวกเขาก่อนที่จะขอพบทั้งลู่ชิงสีและผู้พันหลิน
“คุณเข้าไปคุยกับผู้พันหลินเถอะค่ะ ฉันจะไปคุยกับลู่ชิงสีเอง” เรื่องราวของจ่าเก๋อถูกปิดบังจากลู่ชิงสี เพราะอาการของเขาอ่อนแอหลังจากที่ได้รับการผ่าตัด ไม่มีใครรู้ว่าลู่ชิงสีจะตอบสนองกับข่าวนี้อย่างไร ตอนนี้สภาพร่างกายของเขาเริ่มคงที่แล้ว เจียงเหยาคิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะบอกให้เขารู้
ลู่ชิงสีดูเหมือนจะสะลึมสะลือ ตอนที่เจียงเหยาเข้ามาในห้อง เขามองไปที่เธออย่างเหม่อลอย
“มีบางอย่างที่ฉันต้องบอกคุณค่ะ ฉันปิดบังเรื่องนี้จากคุณมาระยะหนึ่งแล้ว” เจียงเหยานั่งลงข้างเขาบนเตียงและเริ่มพูด
ลู่ชิงสีไม่แปลกใจที่ได้ยินเรื่องนี้ พอเห็นโจวจุนหมินและหวู่เผิงซินเตร็ดเตร่อยู่ในโรงพยาบาล ก็ทำให้เขาสงสัยว่าต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นโดยที่เขาไม่รู้ เขาพยายามนึกว่ามันคือเรื่องอะไร
ในเมื่อเจียงเหยาจะเล่าให้เขาฟัง ดังนั้นตอนนี้ก็ไม่จำเป็นต้องเดาให้เสียเวลา
“จ่าเก๋อประสบอุบัติเหตุค่ะ” เจียงเหยาเล่าให้เขาฟังถึงเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องที่ทำให้จ่าเก๋อต้องมีสภาพแบบนี้ หลังจากที่เขาทะเลากับซุนฉีเหม่ย ไปจนถึงการตัดสินใจของกองทัพที่ได้ยินจากพันตรีจื่อและพันเอกหลิน จนถึงเรื่องที่แม่ของจ่าเก๋อและคนที่เธอพามาด้วยมาเยี่ยมเขาที่นี่
ลู่ชิงสีนิ่งเงียบไปเป็นเวลานานหลังจากที่ได้ฟังเจียงเหยาเล่าจนจบ
ดวงตาของเธอไม่ละสายตาไปจากเขา การสังเกตการสั่นที่หน้าอกของเขาที่กระพือมากกว่าปกติทำให้เธอเป็นกังวล
ในเวลานี้เองที่ท่าทางเยือกเย็นของลู่ชิงสีแสดงออกมาอย่างเต็มที่ต่อหน้าเจียงเหยา ทุกสิ่งรอบตัวเขาดูเย็นยะเยือก ไร้ซึ่งความเป็นมิตร
“คุณอยากไปหาที่ห้องพักของจ่าเก๋อไหมคะ” เจียงเหยารู้ว่าลู่ชิงสีคิดถึงจ่าเก๋อ ครั้งหนึ่งเขาเคยพูดกับเธอว่าเขาเคารพในความกล้าหาญและความแน่วแน่ของจ่าเก๋อมาก
ภูมิหลังของจ่าเก๋อไม่ได้ดีที่สุด เขาไม่ได้รับการศึกษาสูง ๆ แต่เขารู้ดีว่าการทุ่มเทอย่างเต็มที่ในสิ่งที่เขาทำนั้นสำคัญเพียงใด เขาเข้าใจดีว่าเขาต้องใช้ความพยายามมากกว่าคนอื่น ๆ เพื่อไปให้ถึงฝั่งฝัน
ถึงกระนั้นก็ไม่มีอะไรสำคัญอีกต่อไป เช่นนั้นความพยายามของเขาที่ผ่านมาก็เท่ากับสูญเปล่าไปในพริบตา
สิ่งที่สามารถพูดได้สำหรับอนาคตของจ่าเก๋อก็คือการปลดประจำการ?
ไม่นานก่อนที่ลู่ชิงสีจะพยักหน้าและสวมรองเท้าแตะที่ใส่สบาย โดยมีเจียงเหยาความช่วยพยุงไปยังห้องของจ่าเก๋อ
ผู้พันหลินอยู่บนรถเข็น โดยมีนางหลินเข็นให้ เมื่อเจียงเหยาและลู่ชิงสีออกจากห้องพัก พวกเขาก็มองหน้ากันอย่างเงียบ ๆ ก่อนจะตรงไปยังห้องพักของจ่าเก๋อ
ตอนนี้ห้องของเขาอัดแน่น นางเก๋อกำลังกอดเด็กชายวัย 10ขวบและคร่ำครวญเสียงดัง เสียงของเธอก้องกังวานไปทั่วทางเดินของโรงพยาบาล สร้างความอึดอัดให้กับทุกคนในบริเวณใกล้เคียง
จ่าเก๋อนอนอยู่บนเตียง การแสดงออกของเขาว่างเปล่าและไร้ความรู้สึก เขาไม่ได้มองหน้าแม่ของเขาเลยสักนิด แต่เหม่อมองไปยังประตู
“ผู้พันหลิน ร้อยเอกลู่!” จ่าเก๋อทักทาย
ดวงตาของนางเก๋อเป็นประกายเมื่อเห็นผู้มาเยือน เธอปล่อยหลานชายที่อยู่บนตักลง เดินไปหาพวกเขาแล้วเริ่มคร่ำครวญ “คุณเป็นหัวหน้าของลูกชายฉันใช่ไหมคะ? ดูเขาสิ เจ้าคนอกตัญญูคนนี้นี่! ฉันมาเพื่อดูแลเขาแท้ ๆ แต่เขากลับไล่ให้ฉันกลับ ทำไมฉันต้องมาได้รับอะไรแบบนี้ด้วย นี่ฉันยังขอให้พี่ชายเขายกลูกชายให้เขา เขาจะได้มีลูกชายสืบเชื้อสาย พวกคุณรู้ไหมว่าเขาพูดว่าอะไร? เขากลับบอกว่าฉันลำเอียง!”