การหวนคืนของจอมพลคนสุดท้าย ตอนที่ 11 สถานการณ์ทางการเงินของตระกูล
ตอนที่ 11 สถานการณ์ทางการเงินของตระกูล
หว่า~ สถานการณ์ตอนนี้มันเลวร้ายที่คิดอีกนะเนี่ย ไม่คิดเลยว่าตระกูลแกนดยุคของจักรวรรดิจะเป็นหนี้เป็นสินมหาศาลขนาดนี้ สิบล้านเหรียญทอง! นี่เป็นจำนวนที่ตระกูล วอเตอร์ เป็นหนี้ทั้งหมดทั่วอาณาจักร แถมยังเอาที่ดินกว่า 80% ไปค้ำประกันเอาไว้อีกด้วย เฮ้อ~
ในสมัยก่อนตระกูลโดนลดขั้นก่อนเลยไม่ต้องมาปวดหัวเรื่องตรงนี้เท่าไหร่ ไม่คิดเลยว่าตระกูลจะมีภาระหนีหนักขนาดนี้ แถมจำนวนหนี้สิ้นพวกนี้พึ่งเพิ่มขึ้นมาหลังจากพ่อผมตายไปเมื่อ 3 ปีก่อนเท่านั้นเอง เหอๆ พูดง่ายๆ หนี้ทั้งหมดมันมาเกิดในยุคผมเป็นหัวหน้าตระกูลไงละ
“ไกอา ช่วยบอกมาหน่อยว่าเหมืองทองของตระกูลทำรายได้เดือนละเท่าไหร่”
ผมกหันไปถามชายแก่ที่ยืนปั้นหน้ายิ้มอยู่ข้างๆ ชายคนนี้ชื่อว่า ไกอา เป็นคนดูแลเรื่องเงินทั้งหมดภายในตระกูล วอเตอร์ เรื่องการทหาร เรื่องอาหาร เรื่องอะไรที่ต้องใช้เงินจะผ่านฝ่ายบริหารของตระกูลทั้งหมดและชายคนนี้ก็คือหัวหน้าฝ่ายบริหารที่ผมกำลังพูดถึง
“ตามรายงาน 10 ปี ล่าสุดเอามาเฉลี่ยกันก็อยู่ประมาณ 1 แสนเหรียญทองครับ…”
เหอๆ แสนเหรียญทองงั้นเหรอ บ้าไปแล้วจริงๆ ถ้ายึดตามหนี้ที่มีอยู่ตอนนี้เงินที่ขุดออกมาได้ยังไม่พอจ่ายค่าดอกเบี้ยด้วยซ้ำ ตามกฎหมายเงินกู้ของจักรวรรดิจะเก็บดอกปีละ 10% ยังไม่รวมค่านั้นค่าโน้นมันก็ไม่พอแล้ว แถมไอ้เงินหนึ่งล้านต้องแบ่งเอามาบริหารเพื่อเป็นเงินเดือนให้ทหารและแรงงานในตระกูลแกนดยุคทั้งหมดอีก ….เหมืองทองอย่างเดียวคงไม่พอแล้วละ
“แล้วรายได้อื่นในตระกูลมีอีกไหม?”
“ครับ ยังมีค่าภาษีที่เก็บได้ ค่าผ่านทางที่เก็บได้และค่าบำรุงที่ราชวงศ์ให้มาอีกครับ แต่ว่า…”
“รายได้พวกนั้นคงได้ปีละไม่ถึงแสนเหรียญทองสินะ”
“…ครับ เป็นอย่างที่ท่านเข้าใจ ถึงจะได้ตรงนั้นมาช่วยพวกเราก็ไม่ได้อแก้ปัญหาอะไรเลย บวกกับตอนนี้มีกองทัพหลวงอีกสองแสนคนเข้ามาเป็นภาระการเงินของตระกูลอีก ข้าคิดว่าถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไปตระกูล วอเตอร์ ต้องล้มละลายแน่ครับ”
“นี่เจ้า!!!”
ฮูว… ใจเย็นเอาไว้ก่อนตัวเรา
ผมแทบจะระเบิดทันทีเมื่อได้ฟังช่วงท้ายที่ไกอาพูดออกมา ล้มละลาย! ได้ยินแบบนี้เป็นใครก็ต้องโมโหอยู่แล้ว ถ้าเป็นผมสมัยก่อนคงสั่งตัดหัวหมอนี่ไปแล้วแน่ๆ แต่ไกอาที่พูดออกมากลับตัวสั่นแล้วก้มหน้าลงอย่างรวดเร็ว ท่าทางที่หมอนี่แสดงออกมาไม่ใช่การดูถูกแต่เป็นการเตือนต่างหาก แถมยังตัวสั่นขนาดนั้นอีก คงรวมความกล้าทั้งหมดพูดออกมาแล้วสินะ
อีกอย่าง เรื่องการล้มละลายของตระกูลมันก็เป็นเรื่องจริง เพราะผมได้สัมผัสกับตัวมาแล้วว่ามันเป็นยังไง ในยุคนั้นแค่มีขนมปังหนึ่งก้อนกินต่อหนึ่งมื้อก็นับว่ายากแล้ว ถ้าไม่ได้รับการช่วยเหลือจากอัครเสนบดี ไอรอน ช่วงเวลาแบบนั้นผมยังจำได้ขึ้นใจ
คงต้องเอาความรู้จากชาติก่อนมาใช้หาประโยชน์สักหน่อย อื้ม…
จริงสิ! แร่เหล็กสวรรค์ ถ้าจำไม่ผิดแร่นั้นในช่วงเวลานี้ยังไม่มีราคาเพราะคนส่วนมากยังไม่รู้วิธีตีมัน แต่เมื่อยุคหายะนะแห่งมวลมนุษย์มาถึงก็มีชนเผ่าลึกลับปรากฏตัวออกมาแล้วสอนการตีมันขึ้นมา เมื่อรู้วิธีตีพวกมันก็กลายเป็นสุดยอดอาวุธทันทีเพราะมันมีความคมและความคงทนมากเกินเหล็กธรรมดาหลายเท่า แต่ ตอนนี้มันชื่ออะไรก็ไม่รู้ แถมยังเป็นแร่ไร้ค่าอยู่ต่อให้หาทั้งเมืองหลวงจะเจอมันหรือเปล่าก็ไม่รู้ พวกร้านค้าหรือพวกพ่อค้าคงไม่เอาของแบบนั้นเขามาในร้านหรอก
ตัดไปก่อน!
ตอนนี้ปัญหาไม่ใช่การสร้างอาวุธที่แข็งแกร่งขึ้นมา แต่เป็นเรื่อเงินของเราต่างหาก ก่อนจะทำอะไรต้องมีกำลังทรัพย์ที่แข็งแกร่งเป็นรากฐานก่อน แร่เหล็กสวรรค์เอาไว้หาแล้วตีมันขึ้นมาเมื่อพร้อมก็ได้เพราะยังไงสะทั่วทวีปตอนนี้ก็มีเพียงเผ่าลึกลับที่รู้วิธีตีมันขึ้นมาแล้วพวกนั้นก็ซ้อนตัวอยู่ เมื่อมีเงินก็จะตามหาพวกมันได้ง่ายขึ้นด้วย
อืม….. ถ้างั้นคงต้องเป็นสิ่งของที่สามารถทำกำไรได้ในระยะสั้นเพื่อสร้างกองทัพและเพิ่มความแข็งแกร่งให้ตระกูล
…จริงสิ! นั่นไงละ เหตุการณ์สำคัญที่จะส่งผลกระทบทั่วทวีปในอดีต การขาดแคนน้ำตาลเพราะน้ำท่วมประเทศทางใต้ของทวีป! ฮาฮา เรื่องแบบนี้ทำไมถึงคิดไม่ออกกันนะ
ตามความทรงจำของผม เหมือนว่าที่อาณาเขตทางต้อนใต้ของทวีปที่เป็นแหล่งสร้างน้ำตาลขนาดใหญ่ของทวีปกำลังจะโดนน้ท้วมเพราะพายุขนาดใหญ่กระหน่ำเข้าติดต่อกันหลายเดือน เพราะเหตุการณ์นั้นมันจึงส่งผลกระทบไปทั่วทั้งทวีปไม่ใช่เพียงจักรวรรดิประเทศเดียวเพียงเท่านั้น แต่มันส่งผลกระทบไม่ทั่วทั้งทวีปของมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นประเทศเล็กหรือประเทศใหญ่ราคาน้ำตาลต่างขึ้นสูงหลายเท่าตัว หรือบางประเทศราคามันขึ้นสูงเป็นสิบเท่าด้วยซ้ำ
ติ้ง!
[ภารกิจ: ทำกำไรจากน้ำตาล]
[ทำกำไรจากน้ำตาลให้ครบ 10 ล้านเหรียญทองหรือมากกว่า]
[รางวัล 10 แต้ม]
ระหว่างกำลังสนุกกับสิ่งที่คิดขึ้นมาได้ข้อความแบบเมื่อวานก็ปรากฏขึ้นมา แต่ครั้งนี้มันมีเสียงดังขึ้นมาในหัวก่อนเหมือนกับเป็นการเตือนอะไรบางอย่าง 10 แต้ม! ถึงจะยังไม่มากจนเอาไปแลกอะไรได้แต่ถ้าได้ครั้งละสิบแบบนี้สิบครั้งมันก็ไปถึงร้อย เพราะงั้นคงมองข้ามมันไปไม่ได้ อีกอย่าง สิบล้านมันพอดีกับจำนวนหนี้สิ้นที่ตระกูลมีพอดีเลย หึหึ! ถึงแกไม่บอกให้ทำรายได้ ฉันคนนี้ก็คิดจะทำมันอยู่แล้วไม่จำเป้นต้องบอกแบบนี้หรอก
ผมยิ้มอ่อนๆ หลังคิดได้แล้วหันไปทางไกอาอีกครั้ง
“ตอนนี้พวกเรามีเงินสดที่สามารถใช้ได้เท่าไหร่?”
“เงินสดเหรอครับ?”
“ไม่สิ! เงินที่เราใช้ได้ตอนนี้มันเท่าไหร่กี่เหรียญทอง”
“ออ! สักครู่นะครับ”
ไกอา เดินออกไปทันทีแล้วไปก้มมองอะไรบางอย่าง ไม่นานักก็เดินมาพร้อมกับคำตอบ
“เต็มที่คงแสนเหรียญทองครับ แต่ถ้าเอาเงินในส่วนสำรองมาใช้มากที่สุดก้เพิ่มอีกห้าหมื่นเหรียญทองครับ คงไม่สามารถใช้ได้มากกว่านี้แล้วครับ”
น้อยไป! เงินแค่นั้นไม่มีทางทำรายได้ถึง 10 ล้านเหรียญทองแน่นอน ตามความทรงจำเก่าของผมเรื่องการขาดแคนน้ำตาลจะขาดเพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น หลังจากพายุหยุดตกพวกแรงงานที่ปลูกพืชก็เอาผลผลิตมาสร้างน้ำตาลได้อีกครั้ง ถ้าเป็นแบบนั้นเกร็งราคาให้มันขึ้นถึงสิบเท่าคงมากที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้
“แล้วมีทางหาเพิ่มอีกไหม?”
การหาเงินเพิ่มก็ต้องปรึกษาไกอานี่แหละ ยังไงสะหมอนี่ก็ถนัดเรื่องเงินๆทองๆ มากกว่าผม
หลังถามไปไกอาก็มองผมด้วยแววตาเกร็งๆ เหมือนกับว่าอยากจะพูดอะไรออกมาแต่ไม่กล้าพูด
“พูดออกมาเถอะ ข้าไม่ได้เอาพวกมันไม่ใช้เล่นสักหน่อยแต่จะเอาไปลงทุน”
“อ่า… อะ เอาแบบนั้นก็ได้ครับ เฮ้อ~”
เดี๋ยวๆ ถอนหายใจแบบนั้นมันอะไรแล้วไอ้สีหน้าเหนื่อยใจแบบนั้นอีก เรื่องที่จะบอกมันลำบากใจขนาดนั้นเลยหรือไง???
“ตอนนี้ตระกูล วอเตอร์ เอาที่ดินกว่า 80% ไปค้ำประกันเพื่อกู้เงินสิบล้านเหรียญทอง เรื่องนี้ท่านแกนดยุคทราบอยู่แล้วใช่ไหมครับ”
“อ่า…. แล้วก็รู้ด้วยว่ามันหมดไปแล้ว”
ไกอา พยักหน้าขึ้นลง
“ถูกต้องแล้วครับ! แต่ถ้าท่านอยากได้เงินเพิ่มตอนนี้มันก็มีอยู่สองทางเท่านั้น ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนว่า 20% ที่เหลืออยู่ก็คือเหมืองทองที่ใหญ่ที่สุดในจักรวรรดิและเป็นเหมืองทองแห่งเดียวของตระกูล วอเตอร์ ถ้าท่านต้องการสักล้านหรือสองล้านเหรียญทองข้าคิดว่าเอาไปค้ำประกันเพื่อกู้ก็พอ แต่ถ้าท่านอยากได้หลักสิบล้านก็มีทางเดียวก็คือต้องขายมันออกไป”
เยี่ยม! ไม่คิดเลยว่าไอ้ 20% ที่เหลืออยู่จะเป็นเหมืองทองแบบนี้ ขายไปเลยก็น่าสนใจอยู่หรอกเพราะได้เงินตั้งสิบเหรียญทองมาเป็นทุน แต่ว่า มันก็มากเกินไปอยู่ดีน้ำตาลในจักรวรรดิตอนนี้คงมีไม่ถึงขนาดนั้น เพราะงั้นแค่ค้ำประกันเพื่อกู้ก็พอ
“ดี! งั้นพวกเราก็เดินทางไปกู้เงินกันเลย เตรียมรถม้าทันที”
“ครับท่านดยุค ข้าจะไปตัดการให้ท่านเดียวนี้”
ถ้าได้แบบที่ไกอาบอกมาก็คงจะได้ต่ำๆ ที่หนึ่งล้านเหรียญทอง และเอาเงินที่ได้ไปซื้อน้ำตาลทันที พอถึงเวลาที่ขาดแคลก็จะขายออกด้วยราคาสิบเท่าจากราคาซื้อ แบบนั้นก็จะได้ยอดเงินตามที่ระบบต้องการให้ทำ แต่ถ้าได้สองล้าน…. หุหุ! นี่สินะความสนุกของพ่อค้าเมื่อได้รู้ว่าตัวเองจะสามารถทำกำไรมหาศาลได้ ช่างรู้สึกดีจริงๆ
ถ้าได้งบประมาณขนาดนั้นมาเรื่องเงินก็คงไม่ต้องเป็นห่วงอีกนาน และเมื่อเป็นแบบนี้การสร้างกองทัพขึ้นมาก็คงไม่ไกลเกินจริง และเรื่องของแร่เหล็กสวรรค์ก็เหมือนกัน คงหาเจอได้ง่ายๆ ถ้าใช้เงินจำนวนมากในการค้นหา
เมื่อเจอก็ใช้เงินที่มีกว้านซื้อเอาไว้ทั้งหมด พอเวลามาถึงผมก็แค่แสดงอนุภาพการทำลายของมันให้จักรวรรดิแห่งนี้ได้เห็น เมื่อถึงเวลานั้น ผมก็จะสามารถทำกำไรมหาศาลจากการขายอาวุธจากแร่เหล็กสวรรค์ หึหึ! แผนสมบูรณ์แบบ!