การหวนคืนของจอมพลคนสุดท้าย ตอนที่ 7 คำเตือนจากระบบ
ตอนที่ 7 คำเตือนจากระบบ
“ถ้าพวกท่านเข้าใจแล้วข้ามีอีกหนึ่งระ-”
[ คำเตือน ]
[ ท่านกำลังทำผิดกฎของระบบ ถ้าท่านไม่หยุดระบบจะลบท่านออกจากโลกนี้ทันที โปรดหยุดสิ่งที่ท่านกำลังจะทำทันที ]
เอ่ะ?!?!? นี่กำลังจะบอกว่าไม่สามารถบอกเรื่องเผ่าเทพและเผ่าปีศาจกับคนอื่นได้เหรอ ไม่ผิดแน่! เรื่องที่เราจะพูดเมื่อกี้มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับพวกมันที่พยามจะเตือนสองคนนี้
ตอนนี้ยังไม่เข้าใจเหมือนกันว่าสิ่งนี้คืออะไร แต่ระบบนี้คงไม่ได้ล้อเล่นแน่ที่จะลบเรา ชิ! ชักเป็นเรื่องยุ่งยากแล้วสิ ถ้าเป็นแบบนี้ก็หมายความมีเราคนเดียวเท่านั้นสินะที่เตรียมตัวและเตรียมกำลังรบเอาไว้สู้กับพวกมันได้
โลกในยุคนี้เรื่องเผ่าเทพหรือเผ่าปีศาจมันเป็นเพียงนิทานหลอกเด็กเท่านั้น จนในอีกสิบปีต่อมานับตั้งแต่วันนี้ เรื่องที่ทุกคนคิดว่าเป็นนิทานหลอกเด็กมันกลับเป็นเรื่องจริงขึ้นมา แค่คิดว่าจะพูดยังไงให้คนอื่นเชื่อว่าพวกมันมีตัวตนจริงๆ ก็ยากลำบากมาพออยู่แล้ว ไม่คิดเลยว่าจะโดนระบบห้ามแบบนี้อีก
ถ้างั้นเตือนเป็นอย่างอื่น คงไม่เป็นอะไร….
“เป็นอะไรไป มีเรื่องอะไรอีก?”
อัครเสนบดี ไอรอน ถามออกมาด้วยหน้าตาสงสัย
เมื่อกี้ผมหยุดไปกลางคันถามแบบนี้ก็ไม่แปลก แต่ยังไงตอนนี้ก็ต้องเตือนอะไรบางอย่างให้รู้เอาไว้ ยังไงดีนะ….? ต้องบอกแบบไหน…? ชิ! ไม่คิดเลยว่าต้องมาเจอกับสถานการณ์แบบนี้ บอกเรื่องพวกเผ่า… จริงสิ! ถ้าเรื่องพวกมันไม่ได้แต่เรื่องในทวีปคงไม่น่าจะมีปัญหา
“ข้าคิดว่าพวกเราควรฝึกฝนทหารเพิ่มครับ ข้าได้ข่าวมาว่าประเทศรอบๆ กำลังเคลื่อนไหว”
อื้ม! ไม่มีข้อความแจ้งเตือนอะไร แบบนี้แปลว่าได้สินะถ้าไม่พูดถึงเกี่ยวกับพวกมัน
“ข้าคิดว่าตอนนี้ประเทศรอบๆ และสามประเทศใหญ่กำลังวางแผนอะไรบางอย่างกันอยู่ ตอนนี้ได้ข่าวมาว่าชายแดนก็เกิดการปะทะเล็กๆ น้อยๆ ปรากฏขึ้นมาแล้วเหมือนกันยิ่งช่วงอาณาเขตทางเหนือที่ตระกูลข้าดูแลก็สู้หลายร้อยครั้งแล้วในไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ถึงจะเป็นการต่อสู้เล็กๆ แต่นี้มันอาจเป็นสัญญาณเตือนการต่อสู้ใหญ่ที่กำลังจะมาถึงก็ได้”
ตามความจำหลังจากวันนี้ผมก็เดินทางออกจากเมืองหลวงเพื่อกลับอาณาเขตทางเหนือที่เป็นเขตปกครองของตระกูล วอเตอร์
เหตุผลที่เดินทางออกไปก็เพราะอายจากงานวันเกิดองค์หญิง เนร่า พอไปถึงก็ต้องเจอกับสภาพไม่สู้ดีที่นั่น อาณาเขตทางเหนือของจักรวรรดิมีอากาศหนาวเย็นมากอยู่แล้ว ถึงปกติจะไม่มีหิมะตกแต่อากาศก็หนาวมาพอที่จะฆ่าคนได้ ถ้าไม่ได้อยู่ในบ้านหรือที่ที่อบอุ่นเพียงพอ และเมื่อมีการต่อสู้ขึ้นอีกอาณาเขตทางเหนือของจักรวรรดิจึงขาดแคลนทั้งกำลังทหารและอาหาร
สมัยก่อนผมไม่ได้สนใจแล้วยังกลับไปใช้ชีวิตไม่สนใจอะไรอีก คิดถึงเรื่องนั้นทีไรก็เสียใจจริงๆ ที่ปล่อยให้ทหารและประชาชนในเขตของตัวเองเดือนร้อนแบบนั้น
“เจ้าเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ มันเกิดอะไรขึ้นกันนะ…”
จักรพรรดิสวรรค์ พูดออกมาด้วยสีหน้ายิ้มหน่อยๆ น้ำเสียงก็สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นออกมาด้วย
“ข้าเองก็คิดเหมือนกับท่าน ไคล์ วอเตอร์ ผู้ไม่สนใจอะไร การเรียนไม่เอา การงานไม่สน การทหารไม่ยุ่ง แต่ดูตอนนี้สิ เขากำลังเป็นห่วงประชาชนและทหารในอาณาเขตของตัวเองอยู่ องค์จักรพรรดิช่วยบอกข้าทีว่าวันนี้ข้าไม่ได้ฝันไป”
เดี๋ยวๆ มันจะอะไรขนาดนั้น แต่ที่สองคนนี้พูดออกมามันก็ความจริงทั้งหมด …เถียงอะไรไม่ออกเลย
“ไอรอนเจ้าไม่ได้ฝันไปหรอก ไคล์กำลังจะเหมือนพ่อและปู่ของตัวเองแล้ว”
“นั่นสินะครับ…”
หลังจากคุยกันเรื่องผมได้ไม่นาน จักรพรรดิสวรรค์ ก็หันมาทางผมที่ยืนฟังอยู่
“เอาละถ้านั้นเจ้าต้องการอะไร กำลังทหารหรืออาหารเพื่อสนับสนุน?”
ว่าแล้ว สมแล้วที่เป้นจักรพรรดิสวรรค์สามารถเข้าใจสถานการณ์ได้ทันที
ที่ผมยกตัวอย่างดินแดนของผมไปไม่ได้จะเตือนแค่อย่างเดียวแบบนั้นหรอก เรื่องแบบนี้ส่วนอื่นๆ ของจักรวรรดิก็คงเกิดเรื่องแบบนี้เหมือนกัน การยกเรื่องอาณาเขตตัวเองไปพูดแบบนี้เป็นเพราะต้องให้ส่งกำลังไปสนับสนุนต่างหาก
ที่อาณาเขตตอนเหนือของจักรวรรดิตอนนี้เรียกได้ว่าเละเทะไม่เป็นท่า ด้วยการบริหารของแกนดยุคไม่ได้เรื่องบางคนที่กำลังยืนอยู่ตรงนี้ เวลานี้ที่นั่นมันเต็มไปด้วยไฟสงครามทั้งภายในและภายนอก แล้วเพราะการนั้นวิธีที่จะหยุดสงครามทั้งหมดต้องพึ่งพากำลังที่แข็งแกร่ง
“ข้าขอบคุณอย่างยิ่งที่จักรพรรดิสวรรค์เมตตา เช่นนั้นข้าก็ไม่เกร็งใจ ทหารกองทัพหลวงสองแสนนาย พร้อมกับจอมพลกองทัพหลวง 1 คน ข้าต้องการให้ท่านส่งทหารไปช่วยเหลือเป็นเวลาหนึ่งปี”
“ไคล์นี้เจ้าจะมากปะ-”
“หยุดก่อนไอรอน!!”
จักรพรรดิสวรรค์ ชูมือเพื่อหยุดเอาไว้ สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความจริงจังแบบไม่เคยเป็นมาก่อน
ตั้งแต่ที่ผมมีชีวิตอยู่ผมพึ่งเคยเจอเขาทำสีหน้าแบบนี้ครั้งแรกนี่แหละ ความอบอุ่น ความใจดี ตอนนี้มันหายไปจนหมด เหลือแต่แววตาที่แหลมคมมองมาที่ผมเท่านั้น ถ้าเป็นผมเมื่อก่อนคงกลัวจนไม่กล้าพูดเรื่องอะไรแบบนี้ออกมาเป็นแน่
กองทัพหลวง!
กองทัพนี้เป็นกองทัพที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของจักรวรรดิ ทหารทุกคนต่างมีระดับพลังอยู่ที่ ราชานักรบ ทหารพวกนี้ตามความจำของผมมีจำนวนเพียงห้าแสนคนเท่านั้น และยังเป็นกองกำลังที่ขึ้นตรงต่อจักรพรรดิเพียงคนเดียว การขอกำลังรบพวกนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนตั้งแต่ก่อตั้งจักรวรรดิ แถมยังเป็นการขอกำลังเกือบครึ่งของกองทัพหลวงอีกด้วย แต่ว่า ตอนนี้ยังไงกำลังรบนั่นก็จำเป็น
“ข้าสามารถมอบให้เจ้าได้”
“องค์จักรพรรดิแบบนั้นมัน!!!”
“เงียบก่อนไอรอน!!!”
เสียงของจักรพรรดิสวรรค์ตะโกนออกมาดังลั่น ทันใดนั้นอัครเสนบดีที่กำลังโมโหก็เงียบลงไปทันที บรรยากาศในห้องก็มีแรงกดดันมหาศาลขึ้นมาแบบฉับพลัน ก็ไม่รู้หรอกว่าจักรพรรดิสวรรค์พลังบ่มเพราะอยู่ระดับไหน แต่ที่ผมแน่ใจตอนนี้ก็คือ ชายคนนี้ พลังเหนือกว่าระดับพระเจ้า!!!
“ข้าให้ไปเจ้าต้องรับผิดชอบทั้งหมดในเรื่องค่าใช้จ่าย ค่าเงินเดือน ค่าอาหาร ค่าที่พัก และเงินชดเชยหลังจากการยืมทหารหนึ่งปีในจำนวนหนึ่งแสนเหรียญทอง …เจ้าตกลงหรือไม่?”
หึ! สมแล้วที่เป็นจักรพรรดิผู้รวมจักรวรรดิให้เป็นหนึ่ง ไม่ยอมให้ง่ายๆเลยสินะ ผมชีกยิ้มทันทีหลังได้ยินข้อแม้ที่ได้ฟัง แล้วตอบไปว่า
“ตกลงครับ”
“ดี! เช่นนั้นเจ้าก็ออกไปได้และหวังว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้าย”
“ครับมันจะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้อีกแน่…. เช่นนั้นข้าขอลา”
……
บนรถม้า
ฮูว….. เป็นการเข้าพบครั้งแรกที่เล่นเอาเหนื่อยจริงๆ
หลังจากขึ้นมาบนรถม้าได้ผมก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันที การข้อกำลังรบขนาดนั้นมันเป็นปัญหาใหญ่อย่างมาก การให้กำลังรบจำนวนมากต่อแกนดยุคมันไม่ต่างอะไรจากการขุดหลุมฝังตัวเองเพราะแกนดยุคมีอำนาจมากในประเทศ การที่จักรพรรดิสวรรค์ให้กำลังกว่าแสนสองคนมาแบบนี้มันเป็นการเสียกำลังรบครั้งใหญ่ของราชวงศ์ แต่ว่า ถึงจะโดนเอาออกมาสองแสนก็ยังเหลือกองทัพหลวงกว่าสามแสนคนและกำลังทหารปกติอีกนับล้านคนปกป้องเมืองหลวงอยู่ดี
เฮ้อ~ เพราะการช่วยเหลือครั้งนี้อาณาเขตทางเหนือคงอยู่รอดได้อีก 1 ปี
อีกอย่างหลังการไปถึงของกองทัพหลวงสงครามภายในที่พวกขุนนางจอมโลภก่อขึ้นคงจะจบลงในทันที มันไม่มีพวกบ้าที่จะต่อสู้กับกองทัพหลวงทั้งสองแสนคนหรอก แถมคนบัญชาการกองทัพทั้งสองแสนยังเป็นจอมพลเพียงคนเดียวของจักรวรรดิอีก เหอๆ ถ้าพวกมันฉลาดพอคงมีสมองว่าต้องทำยังไง
ตอนนี้ถ้าผมจำไม่ผิดจอมพลคนเดียวของจักรวรรดิจะชื่อว่า โรเจอร์ แมคซีออล เป็นคนที่มีพลังบ่มเพราะอยู่ระดับพระเจ้าแบบผมเมื่อชาติก่อน ก่อนที่จะระเบิดตัวเอง แถมเขายังมีผลงานมากมายใจสนามรบนับไม่ถ้วน ที่จักรพรรดิสวรรค์ไม่พอใจแบบนั้นผมคิดว่าคงเรื่องชายคนนี้แหละ ด้วยพลังของชายคนนี้ทำให้ตระกูลแกนดยุคทั้งหมดไม่กล้าเคลื่อนไหวหรือทำให้ราชวงศ์ไม่พอใจ การให้คนระดับนี้รับใช้คนอื่นคงเป็นเรื่องบ้าที่สุดที่เขาเคยทำเลยก็ได้
แต่เอาเถอะ ตอนนี้มาตรวจสอบ [ร้านค้า] ก่อนดีกว่า
ก็ไม่รู้เพราะอะไร เวลาผมนึกถึงระบบมันก็มีปุ่มร้านค้าปรากฎด้านหน้าของผมทันที ตอนนี้เรื่องอาณาเขตก็เรียบร้อยไปแล้ว ต้องทำความเข้าใจกับระบบนี่ก่อน หลังตัดสินใจได้ผมก็โยนเรื่องปวดหัวที่กำลังคิดอยู่ทิ้งไปจนหมดแล้วกดปุ่มด้านหน้าทันที
แปะ!