King X King เมื่อได้เกิดเป็น องค์รัชทายาทลำดับสุดท้าย ตอนที่ 250 ใคร?
ตอนที่ 250 ใคร
“องค์ชายที่เท่าไหร่เป็นคนนำทัพ”
“ทะ ท่านรู้… ไม่สิ! ตอนนี้เป็นอย่างที่ท่านเข้าใจครับ กองทัพที่เข้ามาขวางการเดินทางของพวกเราตอนนี้ก็คือทหารที่ติดตามองค์ชายอันดับสองและอันดับสี่”
แบบที่คิดเอาไว้จริงๆ
การที่พวกมันได้ข่าวเร็วแบบนี้แปลกใจเหมือนกัน… ไม่สิ! บางทีมันอาจจะเตรียมมาหาเราตั้งแต่แรกอยู่แล้วก็คิดเอาไว้อยู่ว่าทำไมไม่เห็นเจ้าหมายเลขสี่อยู่ที่โรงเรียน
“งั้นก็สู้ไปเลย”
“เอ่ะ?!?!?”
ทหารทำหน้าตาสงสัยหลังจากร้องออกมา เห็นแบบนั้นผมก็พูดต่อไปอีก
“ก็บอกให้สู้ไปเลยไงถ้ามันไม่ยอมหลบทาง ไม่เข้าใจหรือไง!”
“ทะ ท่านกำลังพูดเล่นอยู่สินะครับ…”
“เล่นบ้าอะไร!!! ข้าบอกให้ฆ่าไปเลยถ้ามันไม่ยอมหลบ ทหารของพวกมันมีเพียงร้อยคนไม่ใช่หรือไงพวกเจ้าก็คงเอาชนะไม่ยาก หรือมันจะมีปัญหาอะไรอีก?”
จากที่ผมสัมผัสได้ถึงพลังพวกที่ขวางทางอยู่ถ้าสู้กันจริงๆ ไอ้พวกทหารทั้งสองร้อยคนที่ปกป้องการเดินทางของผมพลังเหนือกว้าเยอะ ซึ่งถ้าคิดตามปกติโดยเกิดการสู้รบกันขึ้นมาจริงๆ ทางฝ่ายผมต้องชนะแบบไม่ต้องสงสัย เพียงแต่ว่าจะเสียหายจำนวนมากเท่านั้นเอง แต่ถ้ามันสามารถจัดการกับพวกตัวปัญหาได้ก็ไม่ใช่สิ่งที่ต้องเป็นกังวลอะไร
“ให้สู้มันก็ได้อยู่หรอกครับ!”
เสียงดังขึ้นมาจากด้านข้าง
เมื่อหันไปตามเสียงก็เจอกับทหารอีกคนที่เป็นหัวหน้าหน่วยคุ้มกันชื่อว่า เวลี่ ที่ตอนนี้กำลังอยู่บนหลังม้าและมองมาทางผมอยู่ หลังจากหันไปหาเวลี่ก็พูดอีก
“ถ้าสู้แล้วพวกเราชนะก็จริง แต่พวกข้าเองก็ต้องโดนประหารที่โจมตีองค์ชายทั้งสองด้วยเช่นกัน”
“เรื่องนั้นข้ารู้แล้ว”
“ถ้ารู้แบบนั้นแล้วท่านก็น่าจะทำตามขอเรียกร้องของทางนั้นดีกว่านะครับ เพราะไม่ว่ายังไงพวกนั้นก็ไม่มีทางกล้าโจมตีท่านก่อนแน่ถ้าวัดจากกำลังทหาร แล้วอีกอย่าง ทางองค์ชายทั้งสองเพียงแค่ต้องการคุยกับท่านเท่านั้นไม่ได้ต้องการต่อสู้เลยสักนิด”
ที่เวลี่พูดออกมาก็ถูกต้อง
ถึงเจ้าหมายเลขสองกับสี่มันจะมาแบบนี้ก็จริง แต่การต่อสู้กันระหว่างพวกพี่น้องเป็นเรื่องต้องห้ามเพราะงั้นพวกมันที่ต้องการตำแหน่งราชาต้องไม่กล้าทำอะไรแน่
เฮ้อ~
ถ้างั้นก็ช่วยไม่ได้ไปดูหน่อยก็แล้วกัน
“เอาแบบนั้นก็ได้”
“ขะ ขอบคุณครับ”
เวลี่ก้มหัวลงระหว่างพูดออกมา ท่าทางแบบนั้นต้องคิดว่าผมไม่ยอมทำแบบที่ตัวเองพูดแน่ๆ ถึงได้ดีใจทันทีที่ผมบอกจะไปคุยกับพวกนั้น หึหึ!
“งั้นเจ้าก็อยู่ที่นี่ปกป้องปกลาฟเชียร์กับทาร์เลียเอาไว้แล้วกัน”
“ท่านไม่ให้ข้าไปด้วยเหรอ???”
เวลี่ทำสีหน้าแปลกใจ
“ไม่จำเป็นเรื่องแค่นี้ข้าจัดการได้”
“ครับ…”
…
….
……
ที่ด้านหน้าขบวน
เมื่อผมเดินมาถึงก็เจอกับบรรยากาศตึงเครียดทั้งสองฝ่ายอยู่ ทางฝั่งทหารป้องกันของผมก็หันปลายดาบไปทางพวกอีกฝ่าย ส่วนอีกฝ่ายก็หันปลายดาบมาที่พวกทหาของผมเหมือนกัน
ถ้าจะขนาดนี้พวกมันไม่สู้กันไปสะเลยละ
อยากจะถามแบบที่คิดจริงๆ แต่อย่าทำเลยดีกว่าถ้าพูดอะไรแบบนั้นออกไปแล้วพวกทหารสู้กันขึ้นมาจริงๆ เดี๋ยวจะเสียคนโดยเปล่าประโยชน์ เมื่อคิดได้ผมก็กวาดสายตามองด้านหน้าเพื่อหาตัวการ
ผ่านไปได้สักพัก
“ออกมาสิต้องการคุยกับข้าไม่ใช่หรือไง”
ผมก็เริ่มพูดขณะที่มองไปยังหมายเลขสองที่นั่งอยู่บนหลังมา ด้านหลังพวกทหาร
หลังจากที่พูดไปหมายเลขสองมันก็ลงมาจากม้าแล้วเดินตรงเข้ามาหาผม แต่คนที่เดินมาตอนนี้มีเพียงคนเดียวเท่านั้นไม่มีหมายเลขสี่
มันหายไปไหน???
ระหว่างแปลกใจกับตำแหน่งของเจ้าหมายเลขสี่หมายเลขสองก็เดินมาถึงด้านหน้าของผม แต่ผมก็ยังไม่รู้ตำแหน่งอีกคนว่ามันอยู่ไหนก็เลยมองหน้าหมายเลขสองแบบไม่พอใจก่อนจะถามออกไป
“หมายเลขสี่อยู่ไหน?”
“เจ้ากำลังพูดถึงอะไร???”
บ้าจริง! ลืมตัวเลยใช้ชื่อเลขไป
แต่… มันชื่ออะไร???
ในขณะที่ผมพยามคิดชื่อเสียงของหมายเลขสองก็ดังขึ้นมา
“เจ้าหมายถึงหมอนั่นสินะ”
“ใช่แล้วหมอนั่นแหละ”
น่าจะคนเดียวกันแหละ มันคงไม่มีคนอื่นหรอก
เมื่อตอบไปแล้วและเหมือนจะพูดถึงหมายเลขสี่เหมือนกันผมก็พูดต่อไปอีก
“ช่างหมอนั่นก็แล้วกันเอาเป็นว่าท่านพี่มีเรื่องอะไรถึงได้มาขวางทางข้าแบบนี้”
“เข้าเรื่องเลยสินะ”
“ใช่”
ก็ต้องเข้าสิก็ข้าไม่อยากเสียเวลานิ เฮ้อ~
“ถ้างั้นก็ขอพูดเลยแล้วกันเกี่ยวกับสิ่งที่ข้าได้ยินมา …ตอนนี้ข้ากับเวนเดฟินได้ร่วมมือกันอยู่เจ้าเองก็น่าจะรู้ดีใช่ไหม”
ผมพยักหน้าขึ้นลงเพื่อเป็นคำตอบเพราะรู้อยู่แล้ว
หลังจากพยักหน้าเพื่อตอบไปเจ้าหมายเลขสองก็แสยะยิ้มออกมาเหมือนกับว่าเป็นไปตามแผน ก่อนจะพูดออกมาอีกว่า….