457 - ระฆังภูเขาสีม่วง
457 - ระฆังภูเขาสีม่วง
ทุกคนก้าวไปข้างหน้าและสังเกตหม้อใบนั้นด้วยสายตาจริงจัง แต่สุดท้ายพวกเขาไม่เห็นความผิดปกติใด ๆ
เมื่อเย่ฟ่านถือมันไว้ในมือของเขา หัวใจของเขาก็เต้นกระหน่ำ วัตถุชิ้นนี้มีความคุ้นเคยกับเขาเป็นอย่างมาก
แต่ก่อนที่เขาจะมีโอกาสพิจารณามากกว่านั้น เจียงอี้เฟยที่อยู่ด้านข้างก็ถือโอกาสหยิบเอาหม้อจากมือของเขาไปอย่างรวดเร็ว
“คุณหนูอันไปเอามาจากไหน?”
“พี่เจียงได้ชื่อว่าเป็นผู้ที่มีความรู้กว้างขวาง ดังนั้นเจ้าควรจะรู้อยู่แล้วว่ามันมาจากไหน” ดวงตาของอันเหมียวอี้สดใสเหมือนน้ำค้างในขณะที่มองไปยังเจียงอี้เฟย
“เครื่องหมายที่จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ทิ้งไว้” ในเวลานี้เหยาเยว่กงอุทานออกมาด้วยความตกใจ
"เบื้องหลังของทุกคนที่อยู่ที่นี่ล้วนมีบรรพบุรุษที่มีความเกี่ยวพันกับจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ จึงเป็นธรรมดาที่พวกเจ้าทุกคนจะมองออกอย่างรวดเร็ว" อันเหมียวอี้หัวเราะ
“คุณหนูอัน อย่าบอกนะว่าเจ้าจะใช้วัตถุสิ่งนี้เพื่อค้นหาอาวุธเต๋าสุดขั้วของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่” เจียงอี้เฟยถามอย่างใจเย็น
อันเหมียวอี้พยักหน้า: “ใช่ แต่ต้องใช้ร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณและร่างอสูรสวรรค์ลงมือร่วมกันถึงจะทำให้วัตถุชิ้นนี้แสดงพลังที่แท้จริงได้”
"แคร้ง!!!!"
ทันใดนั้นเสียงระฆังก็ดังสะท้านขึ้นทั่วสวรรค์และปฐพี ร่างกายของทุกคนที่อยู่ในห้องสั่นสะเทือนไปถึงทะเลแห่งความทุกข์ ใบหน้าของพวกเขาซีดเผือด ได้รับความเจ็บปวดเป็นอย่างมาก
“นี่มันเสียงอะไร!
ในขณะนี้ทั้งเมืองศักดิ์สิทธิ์ต่างตื่นตระหนก เสียงก้องกังวาน ชัดเจนราวกับเสียงระฆังสั่นสะเทือนไปทั่วเมืองศักดิ์สิทธิ์ ทันใดนั้น เจียงอี้เฟยหน้าเปลี่ยนสีและกล่าวว่า
"มีคนมาข้ามความว่างเปล่า ในเมืองศักดิ์สิทธิ์คนที่จะทำเช่นนั้นได้มีแต่ปรมาจารย์ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น!"
"เกิดอะไรขึ้น?!"
ในเวลาเดียวกันเมื่อมองออกไปด้านนอกผู้คนก็เห็นประตูมิติถูกเปิดขึ้นอย่างมากมาย ตามที่สายตาของพวกเขามองเห็น อย่างน้อยก็มีมากกว่าสิบบาน
หัวใจของเย่ฟ่านตกตะลึงในตอนนั้น ทันทีที่เสียงระฆังดังขึ้นเขาก็รู้ได้อย่างรวดเร็วว่ามันมาจากระฆังสีทองขนาดใหญ่ที่อยู่ในภูเขาสีม่วงนั่นเอง
ภายในภูเขาสีม่วงนั้นยังมีสิ่งมีชีวิตอมตะที่อาศัยอยู่ในต้นกำเนิด พวกมันมีชีวิตอยู่ตั้งแต่ก่อนยุคที่มนุษย์จะครอบครองดินแดนรกร้างตะวันออกด้วยซ้ำ
ท้ายที่สุดดินแดนที่มนุษย์อาศัยอยู่ได้ก็มีเพียงดินแดนรกร้างตะวันออก
ไม่มีผู้ใดรู้ว่าภายนอกของดินแดนรกร้างตะวันออกจะเป็นอาณาจักรของสิ่งมีชีวิตใด และมหาอำนาจต่างๆก็ไม่เคยเปิดเผยเรื่องนี้?
คืนนี้แท่นบูชาเต๋าโบราณของเมืองศักดิ์สิทธิ์สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
ประตูมิติถูกเปิดออกที่ด้านบนของแท่นบูชาเต๋าและชายชราหลายคนก็ปรากฏออกมาจากความว่างเปล่าด้วยสภาพทุลักทุเลอย่างยิ่ง
ทุกคนที่มองเห็นชายชราพวกนั้นต่างก็ใบหน้าซีดเผือดด้วยความหวาดกลัว ปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์หลายคนหลบหนีมาจากภูเขาสีม่วงเพื่อเข้าสู่เมืองศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้โดยตรง
นี่คือสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยเฉพาะเสียงระฆังที่ดังออกมาจากประตูมิติ แม้ว่าจะอยู่ห่างไกลกันหลายหมื่นลี้ แต่แก้วหูของทุกคนที่อยู่ในเมืองก็ยังได้รับความเจ็บปวดเป็นอย่างมาก
“นี่คือตี้เว่ย!”
“สวรรค์ นี่คือพลังอันศักดิ์สิทธิ์ของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่!”
ภายในเมืองศักดิ์สิทธิ์ยังมีผู้สูงสุดหลายคนอาศัยอยู่ ทันทีที่ได้ยินเสียงระฆังนั้นใบหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไปอย่างรุนแรง นี่คือพลังที่ออกมาจากอาวุธเต๋าสุดขั้วอย่างไม่ต้องสงสัย!
“สวรรค์หรือว่าจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ในสมัยโบราณยังคงมีชีวิตอยู่!”
“ไม่ มันเป็นไปไม่ได้ที่จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่เหล่านั้นจะยังอยู่ในโลก โลกของเรานี้ไม่ใช่โลกในยุคโบราณอีกต่อไป สิ่งมีชีวิตอมตะไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้.”
"โอ้ หรือจะเป็นจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่จากเผ่าพันธุ์อื่น? !”
หลายคนแสดงท่าทางที่น่าเหลือเชื่อและเต็มไปด้วยความกลัว
เมืองศักดิ์สิทธิ์เป็นศูนย์กลางของภาคเหนือและเป็นศูนย์กลางของดินแดนรกร้างตะวันออก ย่อมมีคนพิเศษมากมาย
เช่น ลุงของจักรพรรดิราชวงศ์ต้าเซี่ยของภาคกลาง สิ่งมีชีวิตสูงสุดจากตระกูลจินของภาคเหนือ, ผู้ยิ่งใหญ่ของภูเขาทางใต้ แลตอนนี้ทุกคนต่างก็มุ่งหน้ามายังวังสวรรค์เพื่อค้นหาความจริงจากปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้น
เย่ฟ่านและคนอื่นๆไม่ได้มีอารมณ์จะดื่มด่ำกับสุราอีกต่อไป แม้ว่าความงามของอันเหมียวอี้จะดึงดูดผู้คน แต่ความดึงดูดนี้ยังคงห่างไกลจากเรื่องราวของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่
"มีบางอย่างผิดปกติกับปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์ของเรา จะต้องเกิดบางสิ่งบางอย่างในภูเขาสีม่วงอย่างแน่นอน" เจียงอี้เฟยคิดอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นก็หันหลังและขี่อสูรเทพของเขาออกไปอย่างรวดเร็ว
“ขออภัยคุณหนูอันและสหายทุกท่านที่จากไปโดยไม่ร่ำลา” เสียงของเขาดังมาจากระยะไกลก่อนที่สัตว์อสูรสีทองของเขาจะบินออกจากทะเลสาบราวกับสายฟ้า
"หวังว่าครั้งต่อไปคงมีโอกาสได้พบกัน" เจียงอี้เฟยก็ประสานมือและจากไปอีกคน
“เหมียวอี้ขอบคุณสหายทุกท่านที่เข้าร่วมสนทนาเต๋าในวันนี้ หวังว่าครั้งต่อไปพวกเราคงมีโอกาสได้พบกันอีก!”
เมื่ออันเหมียวอี้กล่าวเช่นนี้ย่อมหมายความว่างานชุมนุมของที่นี่ได้จบลงแล้วและคนอื่นๆต่างก็แยกย้ายกันจากไป
สองวันต่อมาในที่สุดความจริงก็เปิดเผย
ดินแดนศักดิ์สิทธิ์อันยิ่งใหญ่ได้โจมตีภูเขาสีม่วงเป็นครั้งแรก และจบลงด้วยความล้มเหลวครั้งใหญ่
ตระกูลเจียง, ตระกูลจี้, ดินแดนศักสิทธิ์แสงโชติช่วง, ทะเลสาบหยก ทั้งหมดต่างก็ใช้แบบจำลองอาวุธเต๋าสุดขั้วของตัวเองโจมตีภูเขาสีม่วง
นอกจากนี้ อาวุธของผู้สูงสุดอีกหลายคนยังถูกใช้ในการเปิดภูเขาสีม่วงครั้งนี้ แต่สุดท้ายอาวุธของพวกเขาก็ถูกทำลายอย่างย่อยยับกลายเป็นเพียงฝุ่นผง
ทั้งหมดนี้ไม่ได้เกิดจากการลงมือของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่อย่างที่กล่าวอ้างในตอนแรก แต่มันเป็นเสียงที่ดังมาจากระฆังสีทองซึ่งตั้งอยู่กลางภูเขานั้น
ดินแดนศักดิ์สิทธิ์และตระกูลขุนนางโบราณได้ศึกษาภูเขาม่วงมาหลายวันแล้ว พวกเขาเชื่อว่าต้องมีความลับของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่บางคนซ่อนอยู่
และจุดที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุดนั่นคือบริเวณเก้ามังกรปกป้องไข่มุก ซึ่งเป็นเป็นประตูที่ทอดยาวเข้าสู่ส่วนลึกภูเขาสีม่วง
พวกเขาคิดเกี่ยวกับแผนต่างๆมากมาย และในที่สุดรู้สึกว่าการเข้าไปในภูเขาสีม่วงนั้นอันตรายเกินไป ดังนั้นพวกเขาจึงคิดจะทำลายเก้ามังกรไปก่อน
แต่ทันทีที่พวกเขาลงมือโจมตีเส้นเลือดเก้ามังกร พวกเขาก็ต้องพบเจอกับภัยพิบัติอย่างหนัก มียอดฝีมือหลายคนเสียชีวิตอย่างน่าสังเวช
ถึงจะทุ่มเทมากแค่ไหน แต่ภูเขาภูเขาสีม่วงก็ไม่ได้รับผลกระทบแม้แต่น้อย
หลังจากนั้นไม่กี่ลมหายใจเสียงระฆังก็ดังขึ้นจากยอดเขา มันมีพลังทำลายล้างมหาศาลซึ่งสามารถบดขยี้ร่างกายของผู้สูงสุดให้แหลกเป็นชิ้นๆได้ในเวลาไม่กี่ลมหายใจ
แม้แต่ปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาก็ยังได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก พวกเขาเปิดประตูมิติเพื่อหลบหนีเข้าสู่เมืองศักดิ์สิทธิ์โดยตรง
ข่าวที่ถูกเปิดเผยออกมาสร้างความสั่นสะเทือนให้กับภาคเหนือและทั่วโลกอย่างรุนแรง! ชื่อของจักรพรรดิปราศจากจุดเริ่มต้นกลับมาเป็นที่รู้จักของผู้คนในดินแดนรกร้างตะวันออกอีกครั้ง
ผู้คนส่วนใหญ่ในโลกไม่เคยได้ยินชื่อของจักรพรรดิปราศจากจุดเริ่มต้น แต่มหาอำนาจของดินแดนรกร้างตะวันออกรู้จักชื่อนี้ดี
ผู้ที่ยืนอยู่ในจุดสูงสุดของเส้นทางแห่งความเป็นอมตะ?
นี่คือการประเมินที่ผู้คนในโลกมอบให้เขา แม้ว่าเวลาจะผ่านไปหลายแสนปี แต่ชื่อเสียงของเขายังคงถูกเล่าขานมาจนถึงปัจจุบัน
เมืองศักดิ์สิทธิ์กำลังเดือดพล่าน เพราะในอดีตจักรพรรดิปราศจากจุดเริ่มต้นไม่เคยทิ้งมรดกของตัวเองไว้ในดินแดนรกร้างตะวันออก
มันทำให้พวกคนสงสัยว่าเขายังคงมีชีวิตอยู่หรือไม่?
ในอดีตดินแดนศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ต่างก็คำนึงถึงมรดกอันยิ่งใหญ่ของจักรพรรดิปราศจากจุดเริ่มต้นอยู่เสมอ
พวกเขารู้สึกว่าหากไม่สามารถหามรดกของจักรพรรดิปราศจากจุดเริ่มต้นกลับคืนมาได้ มันจะเป็นความสูญเสียอย่างแท้จริงของเผ่าพันธุ์มนุษย์
และตอนนี้มันมีร่องรอยของมรดกจักรพรรดิ์ปราศจากจุดเริ่มต้นปรากฏขึ้น เรื่องนี้ทำให้ผู้คนบ้าคลั่งเป็นอย่างมาก
เพราะจักรพรรดิปราศจากจุดเริ่มต้นถือเป็นหนึ่งในจักรพรรดิที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์เผ่าพันธุ์มนุษย์
“ปรากฎว่ามรดกของจักรพรรดิปราศจากจุดเริ่มต้นยังมีอยู่จริงๆ!”