34

Ep.34

“ฮี่ ฮี่ ตอนนี้คงกลายเป็นอาหารซอมบี้ไปแล้วมั้ง” ฉู่เซวียนเอ่ยประชด

“ไอ้หนู! รู้รึเปล่าว่ากำลังพูดอะไรออกมา?” ลู่หมิงสูดหายใจลึก ค่อยๆพูดอย่างช้าๆ

แม้เขาจะไม่เชื่อคำพูดของฉู่เซวียน แต่ลู่หมิงรู้ดี ว่ามีโอกาสสูงที่หน้าบากหวังจะเสียชีวิตแล้ว

หน้าบากหวังเป็นหลานชายของหวังเทียนป่าแห่งกลุ่มทหารรับจ้างพยัคฆ์คลั่ง ลู่หมิงคล้ายจินตนาการได้ถึงความโกรธของผู้ใช้พลังเลเวล 4 ผู้นี้

ตัวเขาเองในฐานะผู้ที่มีส่วนสรู้ร่วมคิด เป็นธรรมดาที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงความผิด

แต่หากจับเจ้าเด็กตรงหน้าได้สำเร็จ โทษของเขาอาจเบาลง

คิดได้แบบนี้ ลู่หมิงมองไปยังฉู่เซวียนและเจียงฮ่าว  ประกายเย็นวาบสะท้อนในดวงตาเขา เอ่ยปากว่า “ไอ้หนู จงมากับฉันแต่โดยดี”

แรงกดดันที่มองไม่เห็นเล็ดลอดจากร่างเขา ลู่หมิงคนนี้ ที่แท้เป็นผู้ใช้พลังเลเวล 2!

ด้วยคำประกาศของลู่หมิง คนอื่นๆในแก๊งต่างเริ่มเคลื่อนไหว กระจายกันตีวงล้อม ค่อยๆขยับเข้าใกล้พวกฉู่เซวียน

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่พวกเขาจะทันได้ตอบสนอง ประกายคมกริบพลันสว่างวาบ สัมผัสเย็นๆปรากฏขึ้นตรงบริเวณลำคอ

ลู่หมิงรู้สึกคล้ายโลกหมุน สายตาพร่ามัวของเขา เหมือนจะเห็นร่างไร้หัวร่างหนึ่ง

“ร่างไร้หัวนั่น ทำไมดูคุ้นๆจัง ...”

ความคิดนี้แวบเข้ามาในหัวเขา ก่อนที่สติของลู่หมิงจะจมสู่ความมืดมิด

จากนั้น เสียงสึบ สึบ อีกหลายเสียงพลันดังขึ้น ร่างของคนในแก๊งลู่หมิงยอยกันล้มลงกับพื้น

เลือดสีแดงสดทะลักออกมาจากคอของพวกเขา ย้อมพื้นดินกลายเป็นแดงฉาน กลิ่นคาวเลือดอบอวลไปทั่ว

ณ ขณะนี้ ฉู่เซวียนสัมผัสได้ว่ากลิ่นอายสอดรู้สอดเห็นในเงามืดได้หายไปแล้ว คาดว่าพวกมันคงรู้ ว่าพลังรบของฉู่เซวียนไม่ใช่สิ่งที่อาจยั่วยุได้

“ไปกันเถอะ” ฉู่เซวียนเรียกเจียงฮ่าวที่อยู่ข้างๆ เดินเข้าไปในบ้าน

หลังจากพวกฉู่เซวียนจากไป เกิดเสียงกระซิบกระซาบดังขึ้นรอบด้าน

เห็นแค่เพียงร่างหนึ่งทำลับๆล่อๆย่องออกมาจากมุมถนน ตรงมายังศพของลู่หมิงและคนอื่นๆ ควานหาข้าวของบนศพอย่างบ้าคลั่ง

ผ่านไปซักพัก ก็มีอีกหลายคนวิ่งตามเข้ามารุมทึ้ง

เพียงไม่นาน แม้แต่ศพของพวกเขาก็ยังหายไป ...

“ตอนนี้ไม่น่ามีปัญหาแล้ว ถ้าพวกมันยังมีสมอง ก็ไม่น่าจะกลับมาสร้างปัญหาอีก” เจียงฮ่าวทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ พูดพร้อมถอนหายใจยาว คล้ายกำลังระบายความขมขื่นทั้งหมดในอกเขา

สำหรับเจียงฮ่าวที่เป็นเพียงคนธรรมดา ประสบการณ์ที่ได้รับในวันนี้เป็นเรื่องเกินจะรับไหว

“อาจไม่ใช่เร็วๆนี้ แต่พอผ่านไปซักพักใครจะรู้” ฉู่เซวียนกล่าวพลางส่ายหัว

“ถึงจะมีแค่ไม่กี่คนที่รู้เรื่องนาย แต่เรื่องการตายในครั้งนี้ เมื่อถูกคนอื่นพบเห็นแล้วก็ยากจะปิดปากพวกเขา”

“แล้วฉันจะทำยังไงดี” เจียงฮ่าวเริ่มกระวนกระวาย

“พวกเราจะทำอะไรได้อีกเล่า” มุมปากของฉู่เซวียนยกยิ้ม “ถ้าพวกมันไม่มา พวกเราก็แค่อาศัยอยู่ในฐานเทียนหัวอย่างสบายใจ แต่ถ้าพวกมันมาเคาะประตูหาเราถึงที่ ก็แค่ก่อสงคราม!”

ปัจจุบันพลังรบของฉู่เซวียนอยู่ในเลเวล 3 เขามีความมั่นใจมากว่านี่เพียงพอจะสู้กับหวังเทียนป่าในเลเวล 4

ได้ยินแบบนั้น เจียงฮ่าวยิ้มขม เอ่ยอย่างช่วยไม่ได้ว่า “ฉู่เซวียน ฉันรู้ว่านายแข็งแกร่งมาก แต่หวังเทียนป่าคือผู้นำกลุ่มทหารรับจ้างพยัคฆ์คลั่ง ว่ากันว่าเขาเกือบทะลวงเลเวล 5 ได้แล้ว ถึงสุดท้ายจะล้มเหลวก็เถอะ”

“อะไร นี่นายไม่เชื่อใจฉันหรอ?” ฉู่เซวียนได้ยินคำนี้ เอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม

มองไปยังรอยยิ้มมั่นอกมั่นใจของฉู่เซวียน เจียงฮ่าวชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนกัดฟันพูดว่า “ไอ้บ้าเอ๊ย! หวังเทียนป่าแล้วยังไง? ให้มันมาเถอะฉันจะกระทืบมันเอง!”

“ฮ่า ฮ่า ฮ่าๆๆ ต้องแบบนี้สิ” ฉู่เซวียนหัวเราะออกมา จากนั้นตบไหล่เจียงฮ่าว เอ่ยถามอย่างจริงจังว่า

“สหาย นายอยากแข็งแกร่งขึ้นไหม?”