ตอนที่ 391+392 สร้างเรื่องต่าง ๆ ขึ้น
เมื่อสังเกตเห็นการแสดงออกที่ตึงเครียดของผู้อำนวยการลี เจียงเหยากล่าวต่อว่า “บอกตามตรงนะ ผู้อำนวยการลี การผ่าตัดของสามีฉันถือว่าเป็นการพนันกับโชคชะตา แล้วฉันก็โชคดีเท่านั้นเอง”
ผู้อำนวยการลีค่อนข้างไม่พอใจเมื่อได้ยินการปฏิเสธของเจียงเหยา โดยมองว่าเธอเป็นเด็กสาวที่เอาแต่ใจ เมื่อฟังคำอธิบายของเธอสีหน้าของเขาก็อ่อนลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเจียงเหยาพูดกับเขาอย่างสุภาพและใช้ภาษาที่ให้เกียรติ บางทีนางลู่อาจมีประเด็นที่ขัด ๆ ที่ไม่สามารถอธิบายได้อยู่บ้าง ผู้อำนวยการลีคิดกับตัวเอง
เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการลียอมรับคำอธิบายของเธอ เธอกล่าวว่า “ส่วนสำคัญที่สุดของอาการบาดเจ็บของสามีฉันคือกระสุนที่ฝังอยู่ที่หัวใจและทำให้เยื้อหุ้มหัวใจฉีกขาด ฉันพูดกับคุณตามตรง ถ้าคนไช้เป็นคนอื่น แล้วฉันเป็นหมอในวันนั้น ฉันก็ล้มเลิกที่จะผ่าตัดเช่นกันค่ะ”
“แต่คนป่วยที่นอนอยู่บนนั่นคือสามีฉัน ฉันไม่สามารถยอมแพ้ได้ง่าย ๆ ฉันเคยเข้าร่วมการวิจัยเกี่ยวกับการรักษาและการซ่อมแซมเยื่อหุ้มหัวใจที่ได้รับบาดเจ็บจากสถาบันวิจัยมาก่อนค่ะ แต่ตอนนี้การวิจัยนั้นถูกระงับชั่วคราว ฉันเลยใช้ความรู้ที่มีในตอนนั้นกับสามีฉัน ถือว่าฉันโชคดีที่เขาไม่ตาย และยังมีชีวิตอยู่ ผู้อำนวยการลีคะ แม้แต่สามีของฉันก็ยังเป็นหัวข้อวิจัยได้เลย ด้วยความไม่นอนมากมายเกี่ยวกับการทำงาน ฉันคงไม่สามารถรับผิดชอบเล่าว่าเกิดอะไรขึ้นในการผ่าตัดได้หรอกค่ะ คุณว่าไหมคะ”
เจียงเหยารู้สึกทึ่งกับความสามารถในการแต่งเรื่องของเธอ และทำให้เรื่องดูน่าเชื่อถือ การสร้างสถาบันวิจัยขึ้นมาจากอากาศธาตุและการผลักดันเครดิตทั้งหมดในการผ่าตัดไปให้สถาบันนั้นถือเป็นความความคิดที่ชาญฉลาดสำหรับเธอ ผู้อำนวยการลีคงจะปล่อยเธอออกจากห้องหลังจากได้ยินเหตุผลของเธอ
ไม่ว่าคำอธิบายของเธอจะถูกต้องตามกฎหมายเพียงใด หากความไม่แน่นนอในการผ่าตัดมีอยู่จริง เหตุใดจึงมีคนแบ่งปันผลลัพธ์และความคืบหน้าของการวิจัยได้ล่ะ ไม่อย่างนั้นคงต้องใช้เงินจำนวนมหาศาลและความพยายามอย่างน่าเบื่อกับคนนอกองค์กร?
“ขอโทษที่ให้คุณลำบากใจนะครับ คุณลู่!” ผู้อำนวยการลียอมรับเหตุผลของเธอ และรู้สึกเขินอายเล็กน้อยที่เข้าใจหญิงสาวผิดไป
“คุณลู่ คุณยังอายุน้อยอยู่เลยใช่ไหมครับ” เขาตระหนักว่าเขาอาจจะพูดบางอย่างผิดและอธิบายอย่างรวดเร็ว “ผมไม่ได้ดูถูกอายุของคุณนะครับ แต่ผมแค่สังเกตุว่าความสามารถและศักยภาพด้านการแพทย์จากคนแบบคุณ แม้ว่าคุณจะยังเด็กและอยู่ในวัยรุ่น แต่คุณยังมีความพิเศษและดีกว่าหมอมากมายในโรงพยาบาลของเราซึ่งทำงานมานานหลาย 10 ปีของเราเสียอีก ผมดีใจมากที่ได้เห็นศักยภาพอันยิ่งใหญ่ของคุณในอาชีพนี้ และผมหวังว่าคุณจะประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง!”
หรือบางทีผู้อำนวยการลีจะสนใจสถาบันวิจัยที่เจียงเหยาได้กล่าวออกไป เขาจะต้องตรวจสอบผ่านเครือข่ายที่มีมากมายของเขาและดูว่าเขาจะเข้าร่วมในการวิจัยครั้งนี้ได้หรือไม่
กู้ฮ่าวอวี้และเฉินซวีเหยากับเจียงเหยา ไปที่ห้องของลู่ชิงสี หลังจากที่เธอออกจากห้องทำงานของผู้อำนวยการ
พวกเขาเองก็อยากรู้อยากเห็นอย่างมากและต้องการรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับสถาบันวิจัยแห่งนั้นที่เจียงเหยาพูดถึง
__
ตอนที่ 392 ไม่พบ
“เจียงเหยา ผู้อำนวยการลีเป็นคนมีคุณธรรม เขาจะเก็บความลับของคุณ ไม่ต้องกัวลเกี่ยวกับเรื่องนั้นหรอก ถึงจะรู้สึกว่าเขาต้องหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถาบันวิจัยที่คุณเล่าก็เถอะ” เฉินซวีเหยาแนะนำ หลังจากที่พวกเขามาถึงห้องพักผู้ป่วยของลู่ชิงสี
เขาต้องการเตรียมความพร้อมให้กับเธอ ในกรณีที่ผู้อำนวยการลีได้ติดต่อกับทางสถาบันวิจัยเพื่อคิดแผนปฏิบัติการ เธอจะอนุญาตให้ผู้อำนวยการเข้าร่วมหรือเธอจะเข้าไปแทรกแซงและปฏิเสธไม่ให้เข้าเข้าไป? ก็คงแล้วแต่เธอ
“เขาคงหามันไม่พบหรอกค่ะ” เจียงเหยาไม่สามารถมีรอยยิ้มได้
เธอคิดไว้อยู่แล้ว สิ่งแรกที่เธออยากทำเมื่อกลับไปที่เมืองหนานเจียงคือการสร้างสถาบันวิจัยภายใต้การดูแลของโรงพยาบาลเฉิงอาย นี่เป็นการเคลื่อนไหวที่ทรงพลังเพราะอนุญาตให้เจียงเหยาทำทุกอย่างที่เธอต้องการได้โดยไม่ต้องสงสัยเพราะสถาบันวิจัยจะเป็นที่กำบังให้เธอได้อย่างสมบูรณ์
เมื่อเห็นความมั่นใจของเจียงเหยาในเรื่องนี้ เฉินซวีเหยาตัดสินใจที่จะไม่ถามอะไรต่อ เขาประหลาดใจที่เจียงเหยา ภรรยาของพี่ลู่ของเขาเป็นคนเข้มแข็งและมีความสามารถ
“คุณอยู่ที่นี่มาสองสามวันแล้ว คืนนี้ฉันจะให้เหวยฉีไปส่งคุณกลับบ้าน จะได้พักผ่อน ซวีเหยากับฉันจะอยู่เฝ้าคืนนี้เอง” กู้ฮ่าวอวี้หยุดพูดไปครู่หนึ่งก่อนจะถามว่า “คุณได้คุยกับชิงสีไหมว่าจะแจ้งให้พ่อกับแม่เขารู้เรื่องนี้หรือเปล่า?”
“ยังไม่แจ้งคะ เราไม่อยากให้พวกท่านกังวลใจ” เจียงเหยาส่ายหน้า “ฉันจะอยู่ที่นี่เอง ไม่เป็นไร ฉันเพิ่งคุยกับเหวยฉีทางโทรศัพท์ เขาบอกว่าพี่กู้จะกลับในอีกไม่กี่วันเหรอคะ?”
“ฉันเลื่อนเวลาออกไปได้” กู้ฮ่าวอวี้ยิ้ม “ตอนนี้ฉันมีเวลาว่าง ถ้าเธอไม่ไหวก็ให้พวกเราช่วย เราทุกคนอยู่ที่นี่”
“ฉันดูอ่อนแอและเปราะบางอย่างนั้นเลยเหรอคะ?” เจียงเหยาขยิบตาให้กู้ฮ่าวอวี้
เขามองเธอด้วยท่าทางจริงจัง พยายามวิเคราะห์เธอ เธอดูมีชีวิตชีวาและไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เขาหัวเราะอย่างโล่งใจ ดูเหมือนว่าเธอจะดูแลลู่ชิงสีและตัวเองได้เป็นอย่างดี
เจียงเหยาอายุน้อยกว่านางหลินแต่นิ่งกว่ามาก เมื่อต้องเผชิญกับความทุกข์ยาก เธอยังเชี่ยวชาญในดูแลคนอื่นอีกด้วย กู้ฮ่าวอวี้คิดในใจ บางทีเขาควรจะกลับไปได้แล้ว ที่เมืองจินโดไม่มีอะไรให้เขาต้องกังวลแล้ว
หลังจากส่งกู้ฮ่าวอวี้และเฉินซวีเหยาออกไป เจียงเหยาก็กับไปที่ห้องพักผู้ป่วย อาหารเย็นส่งมาถึงไม่นานหลังจากนั้น อาหารพวกนี้ได้รับการดูแลจัดเตรียมจากครอบครัวเหลียง
ลู่ชิงสีหลับสนิท ดังนั้นเจียงเหยาจึงทานอาหารเย็นเงียบ ๆ ก่อนจะเดินออกจากไปยังไปยังห้องของผู้พันหลิน
นางหลินทักทายเจียงเหยา เมื่อเธอเดินเข้ามา หลังจากได้ยินว่าลู่ชิงสีหลับสนิท พันเอกหลินก็หัวเราะเบา ๆ “นั่นยังไงล่ะ เขาก็ได้แค่หลับทั้งวัน!”
จนกระทั่งนางหลินชกที่หัวไหล่เขา พันเอกหลินหยุดพูด แต่ยังหัวเราะและกินอาหารต่อ
ครอบครัวหลินและครอบครัวเหลียงมีความสัมพันธ์กันห่าง ๆ แม้ว่าพ่อของพันเอกหลินจะไม่มีความสัมพันธ์ใด ๆ กับครอบครัวเหลียง แต่ผู้พันหลินและเหลียงเยวื่อจือก็สนิทกันมาก หลังจากที่เขารู้เรื่องภายในครอบครัวหลิน รู้จักพ่อและแม่เลี้ยงของเขา ไม่มีใครคาดหวังให้พวกเขาเตรียมอหารให้ ครอบครัวเหลียงก็ส่งอาหารมาให้พวกเขาพร้อมกับของเจียงเหยา
พวกเขากำลังรับประทานอาหารกันอยู่ ก็ได้ยินเสียงโกลาหลเกิดขึ้นข้างนอกห้องพักผู้ป่วย ทั้งสามคนได้ยินเสียงฝีเท้าจากแพทย์และพยาบาลอย่างเร่งรีบ