ตอนที่แล้วKing X King เมื่อได้เกิดเป็น องค์รัชทายาทลำดับสุดท้าย ตอนที่ 193 พยามแล้วนะ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปKing X King เมื่อได้เกิดเป็น องค์รัชทายาทลำดับสุดท้าย ตอนที่ 195 ตำแหน่งแสนยุ่งยาก

King X King เมื่อได้เกิดเป็น องค์รัชทายาทลำดับสุดท้าย ตอนที่ 194 ฮาคิน!


ตอนที่ 194 ฮาคิน!

“เอาละงั้นก็บอกมาว่าขุนนางคนไหน หรือใครมันเป็นคนอยู่เบื้องหลังของพวกแกที่ทำเรื่องแบบนี้ แต่ขอบอกเอาไว้ก่อนถ้าไม่สามารถระบุตัวได้แกจะได้รู้เลยว่าความเจ็บจนอยากตายแต่ไม่ได้ตายมันเป็นยังไง แล้วครอบครัวของแกเองก็จะโดนไม่ต่างอะไรกันถ้าข้ารู้ว่าเรื่องที่พูดมันไม่ใช่เรื่องจริง”

หลังจากที่เฮสเฟียร์จัดการพวกภูติคนอื่นเรียบร้อยผมก็เริ่มคุยกับภูติธาตุน้ำด้านหน้า เพื่อที่จะเอาข้อมูลที่มันรู้ออกมา

สีหน้าที่มันกำลังแสดงออกมาตอนนี้เหมือนกับว่าสีหน้าของคนกลัวตายมาก แล้วจากประสบการณ์ของผมสีหน้าแบบนี้มันไม่มีทางโกหกแน่นอน หึ!

“ดยุคฮาฟครับองค์ชาย …เรื่องแผนทั้งหมดไม่ได้เกี่ยวข้องกับกลุ่มเลือดบริสุทธิ์ แต่ดยุคฮาฟเป็นคนวางแผนทั้งหมดและคิดใส่ไฟให้ท่านกับกลุ่มเลือดบริสุทธิ์”

“แน่ใจ?”

“ครับ”

ภูติด้านหน้าของผมพยักหน้าขึ้นลงแบบมั่นใจมากในคำตอบ จากนั้นผมก็หันไปทางเฮสเฟียร์ด้านข้าง แล้วถามเธอ

“เธอรู้จักไหม”

“อื้ม!”

เฮสเฟียร์พยักหน้าขึ้นลงเพื่อยืนยัน

เมื่อสามารถยืนยันกับทางเฮสเฟียร์ได้ ผมก็ก้มหยิบดาบที่อยู่บนพื้นซึ่งมันเป็นดาบของหนึ่งในภูติที่ตายไป แล้วยื่นมันให้กับภูติธาตุน้ำด้านหน้า

“ทำฮาคินสะ!”

ฮาคินที่ผมกำลังพูดถึงอยู่ตอนนี้ก็คือการปลิดชีวิตตัวเองที่ได้รับความนิยมมากในประเทศภูติ เมื่อชาติก่อนมันก็มีบางประเทศเหมือนกันที่นิยมการฆ่าตัวตายเมื่อทำความผิดแบบนี้ ซึ่งการตายด้วยวิธีนี้นับว่าเป็นเกียรติกับเหล่าทหารมาก

แต่สำหรับผมแล้วมันก็คือเรื่องไร้สาระนั่นแหละ เพราะยังไงมันก็เป็นเพียงการฆ่าตัวตายแค่มันถูกเรียกให้ดูดีขึ้นเท่านั้นเอง ไม่ได้มีเกียรติหรืออะไรมากขึ้นเลยเพราะยังไงตายก็คือตาย

ฟุบ!

เข้าทั้งสองข้างของภูติด้านหน้าสัมผัสกับพื้น จากนั้นมันก็เอาหน้าก้มลงไปสัมผัสกับพื้นเหมือนกับท่าคุกเข่าขอร้อง แต่มันมากไปจนเอาตัวสัมผัสพื้นแนบลงไปเลย แต่เรื่องนี่เองผมก็คิดเอาไว้แล้วเช่นกัน เหอะ!

“องค์ชายโปรดไว้ชีวิตข้าด้วย ข้าบอกเรื่องจริงท่านไปแล้วเกี่ยวกับคนที่อยู่เบื้องหลังแผนการในครั้งนี้ ถ้าท่านต้องการรู้อะไรอีกเชิญถามข้ามาได้เลย”

“กำลังจะบอกว่าไม่อยากทำฮาคินใช่ไหม?”

“คะ คือว่า… เรื่องนั้น”

ภูติด้านหน้าพยามจะพูดแต่ก็ไม่พูดออกมา ให้ตายสิ! แบบนี้ต้องใช้แผนต่อไปแล้วตอนแรกคิดว่ามันจะยอมตายง่ายๆ อย่างฮาคินที่พวกมันนิยมกันอีก

“นี่ข้าให้โอกาสแกตายแบบมีเกียรติแล้วนะ ลองกวาดสายตาดูรอบตัวเองแล้วเห็นสภาพพวกพ้องของแกไหมมันเป็นยังไง แล้วอีกอย่าง ถ้าไม่ยอมทำครอบครัวของแกทั้งหมด พ่อ แม่ พี่ น้องหรือลูก ต้องได้รับความผิดโดยการชดใช้ด้วยชีวิตแน่”

หลังเริ่มใช้แผนที่สองภูติด้านหน้าของผมก็เงยหน้าขึ้นมาเล็กน้อย ใบหน้าของมันตอนนี้เป็นใบหน้าของคนสองจิตสองใจอย่างเห็นได้ชัด เพราะงั้นต้องเสริมเข้าไปอีกหน่อยแล้วกัน

“เอายังไง ถ้าไม่ทำข้าจะฆ่าแกแล้วไปฆ่าครอบ-”

ฉับ!

ก่อนที่ผมจะพูดจบดาบของเฮสเฟียร์ก็ฟันลงส่วนคอของมันก่อน ทำให้หัวของมันขาดออกจากร่างทันทีในระหว่างที่ผมกำลังพูดอยู่ จากนั้นผมจึงหันไปมองเฮสเฟียร์แบบไม่พอใจแล้วพูดไป

“นี่เธอทำอะไร กำลังจะทำให้มันฆ่าตัวตายแล้วแท้ๆ ชิ!

“จะบ้าหรือไงไปพูดเรื่องครอบครัวกับพวกนี้ นายคิดว่าพวกนี้มันได้รับอนุญาตให้มีครอบครัวหรือไง พวกมันเป็นเด็กกำพร้าที่โดนเก็บมาหรือทาสที่โดนซื้อตัวแล้วมาฝึก ส่วนความรักก็ไม่มีทางเกิดกับพวกนี้หรอกไม่งั้นมันก็คงโดนฆ่าไปแล้วเพราะพวกทำงานแบบนี้สำหรับประเทศภูติห้ามมีครอบครัว”

เฮสเฟียร์เริ่มอธิบายขณะกำลังสะบัดเลือดออกจากดาบเธอ แบบทางไม่สบอารมณ์เท่าไหร่นัก

แต่จะว่าไปที่ยัยนี่พูดมาก็สมเหตุสมผลอยู่เหมือนกัน ไม่คิดเลยว่าจะใช้งานแล้วไม่มอบความสุขให้เลยแบบนี้เสียเวลาปั่นหัวให้มันฆ่าตัวตายสะได้ ชิ! แต่ช่างมันเถอะ ยังไงตอนนี้มันก็ตายไปแล้ว งั้นถามเรื่องดยุคฮาฟที่มันพูดว่าเป็นตัวบงการต่อเลยดีกว่า

“ถ้างั้นก็บอกมาหน่อยดยุคฮาฟที่มันพูดถึงเมื่อครู่เป็นใคร ทำไมมันต้องมาทำเรื่องอะไรแบบนี้ด้วย?”

หลังจากที่ได้ฟังเรื่องทั้งหมด สิ่งที่ผมกำลังสงสัยที่สุดก็คือ ทำไมดยุคฮาฟต้องพยามทำให้ผมมีปัญหากับกลุ่มเลือดบริสุทธิ์อะไรนั่นด้วย เพราะถ้าผมทำอะไรก็หมายความว่าต้องเกิดสงครามแน่นอนแต่ทำไมมันต้องทำให้เกิดสงคราม ทั้งๆที่สงครามพึ่งจบไปเมื่อไม่กี่ปีก่อน แถมหลังสงคราม อาหาร! จำนวนคนและหลายต่อหลายอย่างก็เพิ่มขึ้นมากอย่างต่อเนื่อง นับว่าเป็นเรื่องดีมากกับผู้คนทั้งห้าประเทศมาก ทั้งสามัญชนและขุนนาง

ไม่เข้าใจมันเลยว่าทำไมถึงได้ต้องการสงครามอีก???

“หมอนั่นเป็นขุนนางผู้ส่งลูกสาวเข้าชิงตำแหน่งผู้สืบทอดเหมือนกัน แต่ว่าหลังจากที่ราชินีประกาศตัวว่าให้ฉันเป็นผู้สืบทอดมันก็เริ่มเคลื่อนไหวแปลกๆ”

ออ! สาเหตุมาจากความไม่พอใจในตัวราชินีนี่เอง แต่ถึงขั้นอย่างทำให้เกิดสงครามอีกครั้งเพราะเรื่องแค่นี้มันก็ไร้เหตุผลไปหน่อยนะ เหอะๆ

เอาตามตรงถึงยังไม่รู้ว่าชิงตำแหน่งประเทศภูติระบบมันเป็นแบบไหน แต่ถ้านับทางด้านความสามารถเฮสเฟียร์คงไม่ได้เป็นลองใครหรอกภายในรุ่นไม่เกิน 15 ปี …ในประเทศภูติละนะ

“แต่ไม่คิดเลยว่ามันจะกล้าทำขนาดนี้ แบบนี้ถ้าข่าวรู้ถึงหูพวกกลุ่มเลือดบริสุทธิ์มันไม่รอดแน่”

เฮสเฟียร์พรึมพรำแบบแปลกใจ

อย่างเธอไม่ต้องมาทำแบบนั้นเลย คนที่ต้องแปลกใจมันทางฉันต่างหาก อีกอย่างเป็นถึงดยุคมันไม่ได้อยู่ในกลุ่มกับเขาหรือไง เฮ้อ~

“ขอถามอะไรหน่อยได้ไหม เกี่ยวกับการชิงตำแหน่งของเธอกับคนอื่นมันเป็นยังไง?”

ผมถามไปเพราะสงสัยมานานแล้ว

ตามจริงก็สงสัยตั้งแต่ที่ราชินีภูติเอาไว้เมื่อครั้งที่ต่อสู้กันแล้วที่ว่า [มีผู้สืบทอดคนอื่นอยู่] แต่คิดว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่ได้สำคัญอะไรกับผมมากเท่าไหร่นัก เลยไม่ได้สนใจอะไรกับการชิงตำแหน่งอะไรของประเทศนี้เพราะแค่ตัวผมเองจะสะบัดตำแหน่งองค์ชายออกจากตัวเองก็ลำบากแล้ว ก็เลยไม่อยากแกว่งเท้าหาเสี้ยน

แต่ในเมื่อเรื่องมันเป็นแบบนี้ก็คงต้องลองฟังสักหน่อย อย่างน้อยตอนนี้มันก็มาเกี่ยวกับผมทางอ้อมนิดๆ แล้วเหมือนกัน  เรื่องการลักพาตัวลาฟเชียร์เพื่อสร้างปัญหาให้กับผมเป็นเครื่องยืนยันได้อย่างดีว่ามันเกี่ยวกับผมแล้ว อีกอย่างเมื่อเรื่องมันเป็นแบบนี้ การตัดไปตั้งแต่ต้นลมเป็นเรื่องที่ต้องทำให้เร็วที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้

“ตามจริงมันเป็นความลับของประเทศห้ามบอกใคร แต่บอกหมอนี่ไปก็ไม่น่าจะเป็นอะไร!”

เฮสเฟียร์พรึมพรำออกมา ด้วยหน้าตากำลังคิดหนักแบบจริงจัง

ใจเย็นสิ! ความคิดของเธอมันกลายเป็นคำพูดออกมาแล้วนะ เหอะๆ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด