King X King เมื่อได้เกิดเป็น องค์รัชทายาทลำดับสุดท้าย ตอนที่ 190 [บันทึกของลาฟเชียร์] ขอร้อง
ตอนที่ 190 [บันทึกของลาฟเชียร์] ขอร้อง
‘พวกนั้นมาทำอะไรหน้าบ้านกัน???’ ลาฟเชียร์ยืนคิดด้วยความสงสัย หลังจากที่เดินกลับมาจากหมู่บ้าน
เพราะเมื่อเดินมาถึงก็เจอกับกลุ่มภูติทั้ง 6 คน กำลังยืนล้อมทางเข้าบ้านด้านหน้าอยู่ ซึ่งพวกที่กำลังยืนอยู่ก็คือพวกภูติที่เฮสเฟียร์กับดรารอน์ช่วยเอาไว้นั่นเอง
เมื่อเดินถึงหน้าบ้านลาฟเชียร์ก็เริ่มถาม “พวกเธอมีอะไรกันงั้นเหรอ มาล้อมทางเข้าบ้านขององค์ชายแบบนี้ทำไม???” หลังจากถามทั้งหกคนก็หันหน้าตรงไปที่ลาฟเชียร์
จากนั้นหนึ่งในทั้งหกคนที่เป็นภูติธาตุไฟที่เป็นลายสีแดงก็เดินตรงไปยังลาฟเชียร์ แล้วเริ่มพูดว่า “พวกข้าต้องการมาช่วยงานท่านลาฟเชียร์คะ …พวกเรารู้ตัวดีถ้ายังทำตัวแบบนี้ต่อไปมันจะแย่ได้ เพราะงั้นให้พวกเราช่วยทำงานเถอะคะ!” เธอพูดออกมาด้วยสีหน้าที่ตั้งใจ ส่วนอีกทั้งห้าคนที่เหลือก็มองตรงไปยังลาฟเชียร์ด้วยสีหน้าตั้งใจเช่นกัน
‘ทำงานงั้นเหรอ! ตามจริงก็เข้าใจความรู้สึกของพวกเธออยู่หรอกว่าเวลาแบบนี้มันรู้สึกยังไง แต่ว่า… เราก็ไม่รู้จะให้ทำงานอะไรนี่สิเพราะช่วงแรกที่มาใหม่อาจจะเหนื่อยก็จริง แต่ตอนนี้งานทั้งหมดก็ลงล็อกไปหมดแล้ว เพราะงั้นเราทำคนเดียวก็เกินพอ’ ลาฟเชียร์เริ่มคิด เพราะตอนนี้งานทั้งหมดในบ้านเธอก็สามารถทำคนเดียวได้หมดแล้ว แต่ระหว่างที่กำลังเงียบเพราะคิดอยู่ภูติธาตุไฟก็เริ่มพูดออกมาอีกด้วยสีหน้าเกรงใจ “มะ เมื่อครู่พะ พวกเราพยามที่จะไปขอช่วยงานพวกคนงานก่อสร้างแล้ว แต่ว่าก็อย่างที่ท่านรู้เมื่อไม่นานมานี่พวกเราพึ่งเจอเรื่องแบบนั้นมา เวลาเข้าไปใกล้ผู้ชายก็เลยกลัวแล้วรีบเดินหนีออกมา”
‘งั้นก็คงช่วยไม่ได้แล้วละ ถึงงานจะมีไม่ถึงกับขนาดทั้งหกคนทำแต่ถ้าแบ่งกันทำนิดแบ่งกันทำหน่อยก็น่าจะได้ อีกอย่างทางเราเองก็วางแผนเรื่องการปลูกพืชเอาไว้ใช้เองด้วย’ ลาฟเชียร์คิดในใจเพราะถึงงานจะไม่ได้มากอะไร แต่ถ้าแบ่งให้ทำก็พอได้อยู่บ้าง “ตกลง!”
สีหน้าของทั้งหกคนแสดงอาการดีใจออกมาทันทีเมื่อได้ฟังคำตอบตกลงของลาฟเชียร์ แต่ระหว่างนั้นลาฟเชียร์ก็เริ่มพูดต่ออีก “แต่มีข้อแม้อยู่เรื่องพวกเธอทั้งหมดต้องตื่นเวลาเดียวกับฉัน แล้วทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด และห้ามมีการพูดจาว่าร้ายกันเด็ดขาดถ้าใครไม่สามารถทำได้ข้าเองก็ไม่มีงานให้ทำ ร่วมถึงการให้ค่าแรงการทำงานจะให้ตามแรงงานทั่วไปเช่นกัน”
หลังจากที่ลาฟเชียร์พูดจบพวกภูติทั้งหกคนก็กำลังส่งสายตามองเธอด้วยความแปลกใจอะไรบางอย่าง ‘อะไรแววตาพวกนั้น นี่เมื่อกี้เราพูดอะไรผิดไปด้วยหรือไง???’ ลาฟเชียร์คิดด้วยความสงสัยหลังจากที่เห็นแววตาพวกภูติกำลังมองตัวเอง “มีเรื่องอะไรน่าแปลกใจหรือไง ทำไมถึงได้ทำสีหน้าแบบนั้นกัน???”
“ก็เรื่องที่ท่านกำลังบอกอยู่นี่ไงคะ” ภูติธาตุไฟคนเดิมกล่าวออกมา
“แล้วมันเรื่องอะไรละ เมื่อกี้ฉันพูดอะไรผิดไปหรือไง” ลาฟเชียร์ตอบกลับด้วยท่าทางไม่พอใจ เพราะคำตอบที่ได้มันไม่ตรงประเด็นเลยสักนิด
“มะ มันก็เรื่องค่าแรงไงคะ สำหรับพวกเราแล้วการที่ได้กินอาหารอิ่มท้อง หรือได้ที่พักจากท่านมันก็เกินพอแล้วไม่จำเป็นต้องหะ-”
“ไม่ได้! คนทำงานยังไงก็ต้องได้เงิน” ลาฟเชียร์ขัดก่อนที่เธอกำลังจะพูดจบ ‘ให้ตายสิ! คิดว่าเราจะใช่แรงงานพวกเธอฟรีหรือไง ถึงตอนนี้จะยังไม่รู้ราคาที่ต้องจ่ายแต่เอาไว้ถามองค์ชายก็แล้วกันเพราะถ้าให้มากไปก็ไม่ดี น้อยไปก็ไม่ได้!’
ระหว่างที่กำลังคุยกันอยู่ “คือว่า… ถ้ารู้เรื่องกันแล้วก็ช่วยจ่ายค่าแรงพวกเราด้วยนะครับ” เสียงที่พูดออกมาก็คือเสียงของผู้ชายดังมาจากด้านหลังของลาฟเชียร์
เมื่อได้ยินเธอก็หันหลังกลับทันทีแล้วก็พบกับผู้ชายเผ่าภูติที่เป็นธาตุแตกต่างกัน ไฟ น้ำ ดิน กำลังแบกพวกอาหารอยู่ด้านหลัง ซึ่งคนที่พูดออกมาก็เป็นภูติธาตุไฟที่เป็นเหมือนกับผู้ใหญ่ ส่วนอีกสองคนก็เป็นเพียงเด็กน้อยวัยรุ่นเท่านั้น ทั้งสองนอกจากภูติไฟต่างก็กำลังแสดงท่าทางไม่พอใจออกมาอยู่โดยเบนหน้าหนีลาฟเชียร์
ทางพวกภูติผู้หญิงก็ก้าวถอยหลังเล็กน้อยเพราะความกลัว โดยแอบอยู่ด้านหลังของลาฟเชียร์
“ราคาทั้งหมดเท่าไหร่คะ?” ลาฟเชียร์ถามภูติธาตุไฟด้านหน้าจากนั้นก็เอาถุงเงินที่อยู่ใต้เสื้อของเธอออกมา
“ตามจริงทั้งหมด 15 เหรียญทองแดง ครับ ถ้าตามที่คนไปบอกพวกเราบอกเอาไว้ แต่พวกเราขอเพียงสิบเหรียญทองแดงพอครับ เพราะมันทำให้เรามีชีวิตอยู่ได้หลายวันแล้ว”ภูติธาตุไฟตอบและเบนสายตามองไปทางภูติผู้หญิงด้านหลังของลาฟเชียร์ ‘พวกนี้สินะที่เขาพูดถึงกัน ยังเด็กทั้งนั้นเลยไม่น่าโดนเรื่องแบบนั้นกันเลย แต่ยังไงพวกนี้ก็คงไม่อดตายหรอกถ้าอยู่กับมนุษย์คนนี้’ ที่กำลังคิดอยู่เป็นเพราะภูติที่ขนของมายืนฟังลาฟเชียร์คุยสักพักแล้วก็ได้ยินเรื่องที่ลาฟเชียร์คุยทั้งหมดเมื่อครู่
“พี่ทำไมต้องลดให้ด้วยนี่เรามาทำงานนะ!”
“ใช่แล้วพี่! แค่รู้ว่าทำงานให้มนุษย์ข้าก็ไม่อยากทำแล้ว เก็บราคาสิบห้าเหรียญทองแดงตามที่ตกลงกันเอาไว้แหละดีแล้ว”
ภูติขนของทั้งสองคนกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ จากนั้น “พวกเจ้าสองคนเงียบไปเลย ส่วนที่ลดไปมันก็เป็นในส่วนข้าแรงของข้าไม่ใช้ของพวกเจ้าทั้งสองคน แล้วอย่ามาพูดจาแบบนี้ต่อหน้าท่านลาฟเชียร์อีกพวกเจ้าก็เข้าใจไม่ใช่หรือไงว่าถ้าไม่มีท่านลาฟเชียร์หมู่บ้านจะเป็นยังไง” ภูติไฟก็เริ่มตะโกนด้วยน้ำเสียงไม่พอใจใส่ทั้งสองคน
เมื่อพูดจบทั้งสองคนก็มีสีหน้าสลดลงทันทีแบบรู้สึกผิด
ทางด้านของลาฟเชียร์ก็กำลังคิดด้วยความสงสัย ‘นี่เราไปช่วยอะไรหมู่บ้านขนาดนั้นเลยหรือไง แค่การซื้อของเนี่ยนะ??? ….แต่ช่างเถอะ’ หลังจากที่พยามคิดว่าตัวเองทำอะไรลงไปลาฟเชียร์ก็ตัดใจเพราะมันไม่จำเป็น
จากนั้นก็เอาเงินสิบห้าเหรียญทองแดงออกมาจากถุงแล้วส่งมันให้ภูติไฟด้านหน้า “เอาราคาปกติแบบที่ตกลงกันไว้ก็แล้วกัน เพราะยังไงก็เสียเวลาพวกคุณแล้ว”
“คะ ครับ”
ภูติไฟตอบด้วยความเกรงใจ จากนั้นก็หยิบเหรียญทั้งหมดไปจากมือของลาฟเชียร์แล้วทั้งสามก็เดินทางกลับกันทันที
ส่วนทางลาฟเชียร์ก็หันไปมองพวกภูติผู้หญิงด้านหลัง ‘ถ้างั้นก็ต้องเริ่มจากการสอนงานพวกนี้ก่อนละนะ แล้วก็ต้องให้พวกนี้เข้าหมู่บ้านไปซื้อของด้วยเพื่อรักษาจิตใจของพวกเธอที่กลัวผู้ชายถ้าไม่แบบนี้เวลาที่ไม่มีเราพวกเธอก็คงอยู่ไม่ได้แน่!’ ท่าทางของพวกเธอตอนนี้ถึงจะดีขึ้นแล้วบ้างก็จริง แต่เมื่อครู่ทันทีที่เห็นผู้ชายก็พากันเดินถอยแล้วหลบด้านหลังของลาฟเชียร์ทันทีเพราะความกลัว เพราะงั้นการทำให้กลับมาใช้ชีวิตปกติได้จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เมื่อตัดสินใจได้ลาฟเชียร์ก็เริ่มพูดกับพวกเธอ “งั้นก็มาเริ่มเรียนรู้งานกันเลย!”
“ค่ะ!!!” ทั้งหมดตอบรับพร้อมกัน