King X King เมื่อได้เกิดเป็น องค์รัชทายาทลำดับสุดท้าย ตอนที่ 179 ผลกาทดสอบ
ตอนที่ 179 ผลกาทดสอบ
เมื่อรับคริสตันมาจากราชินีภูติผมก็เริ่มทำการดูดซับมันทันทีแบบดูดซับคริสตันปกติอย่างที่เคย แต่ว่าก็พบกับเรื่องแปลกบางอย่างเมื่อลองดูดซับมัน เพราะตอนนี้พลังของมันแยกออกเป็นสองทางเป็นพลังเวทย์ไฟ และพลังเวทย์ความมืดซึ่งพลังจุดของมันก็มีอยู่ในปริมาณเท่ากันเปะ
แบบนี้ก็แปลว่าสามารถดูดซับได้ทั้งคนที่มีพลังธาตุความมืดและธาตุไฟสินะ
ถ้างั้นก็ลองขั้นต่อไปเลยแล้วกัน
เมื่อรู้เรื่องเกี่ยวกับคริสตันผสมนิดหน่อยผมก็เริ่มดูดซับพลังทั้งสองธาตุเข้ามาในร่างกายทีละอย่าง โดยเริ่มจากธาตุไฟก่อนถึงแม้ว่าตอนนี้จะรู้สึกว่ามันต่างจากการดูดซับปกติอยู่บ้างก็จริง แต่มันก็ไม่ได้แตกต่างอะไรขนาดนั้นมันก็เหมือนกับดูดซับยากกว่ากันนิดหน่อยเพียงเพราะต้องแยกธาตุอีกธาตุเวลาดูดชับ
แต่ก็ไม่มีปัญหาอะไร
หลังจากที่ผมดูดซับทั้งสองธาตุเข้าร่างกายก็สามารถมั่นใจได้เลยว่ามันไม่ได้อันตรายแบบที่คิดเอาไว้ เพียงแค่มันดูดซับยากกว่าปกตินิดหน่อยเท่านั้น ถ้าเป็นแบบนี้ต่อให้คนปกติก็สามารถดูดซับมันได้แถมมันยังให้ประสิทธิภาพสูงกว่าคริสตันปกติเยอะด้วย
เพราะดูเหมือนว่า
หนึ่งจุดของมันจะประมาณสามจุดของคริสตันปกติ แล้วไหนจะยังการพบพาที่ง่ายอีก เพราะสามารถใช้ได้ทั้งสองธาตุในชิ้นเดียวนับว่าเป็นของที่มีประสิทธิภาพสูงมากจริงๆ แต่ถึงอยากจะพูดแบบนั้นว่ามันเป็นเรื่องที่ได้สำหรับการค้นพบ
แต่ทว่า
เรื่องนี่มันกลับทำให้ผมลำบากใจเพิ่มเข้าไปอีกนี่สิ เพราะคริสตันนี้คิดยังไงก็น่าจะเป็นของเฮาร์แมนแน่ เท่ากับว่าตอนนี้ทางมันมีวิทยาการที่เหนือกว่าทั้งห้าประเทศในทวีปแห่งนี้มาก รวมถึงพลังของมันด้วย!
แย่เลยนะแบบนี้
ถ้าวัฒนธรรมที่สูงกว่าเจอกับวัฒนธรรมที่ต่ำกว่า เรื่องที่จะเกิดขึ้นก็คือการหาผลประโยชน์ การยึดครองเพื่อปกครอง การกวาดล้างเพื่อทรัพยากร เรื่องพวกนี้เราเห็นมาจากชาติก่อนนับครั้งไม่ถ้วน เชื่อว่าโลกใบนี้เองก็คงไม่ได้ต่างอะไรกันมากหรอก
“เป็นอะไรไปทำไมทำสีหน้าเครียดแบบนั้น ผลมันออกมาหรือยัง”
ราชินีภูติเริ่มถาม
ยังไงตอนนี้คิดเรื่องอนาคตไปก็ยังไม่ได้อะไร สนใจเรื่องตรงหน้าก่อนดีกว่า อีกอย่างถ้าสามารถตามเฮาร์แมนไปได้ต้องได้ข้อมูลมหาศาลมากแน่กับเรื่องที่มันพูดถึงก่อนจะจากไปเมื่อวันนั้น แถมยังคิดหาทางรับมือเอาไว้ได้ด้วย
“สามารถดูดซับได้ครับ ทั้งสองธาตุไม่ได้มีผลเสียอะไร”
“แล้วคนปกติสามารถดูดซับได้ไหม?”
“ได้ครับ เพียงแค่ว่าต้องแยกพลังออกจากกันเวลาดูดซับซึ่งสำหรับผู้ที่เคยดูดซับมาแล้วมันก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร แล้วทางผมเจอเรื่องน่าสนใจเกี่ยวกับประสิทธิภาพของมันด้วย”
“เจ้าหมายความว่ายังไง”
ราชินีภูติถามกลับพร้อมแววตาไม่เชื่อใจมองมาทางผม ซึ่งเธอก็คงกำลังคิดว่าผมอาจจะโกหกเพื่อให้เธอทุ่มงบประมาณเพื่อตามรอยเฮาร์แมนแน่ถึง ได้ส่งสายตามองมาแบบนั้นมา แต่ก็ช่วยไม่ได้ ทางผมเองก็มีความคิดแบบนั้นจริงๆ
แต่ถึงยังไงเรื่องประสิทธิภาพของมันก็ของจริงอยู่ดี เท่ากับว่าทางนี้ไม่ได้โกหกอะไร จากนั้นผมก็ตอบไปพร้อมกับชูคริสตันในมือขึ้นมาประมาณความสูงที่ราชินีภูติสามารถมองลงมาได้อย่างชัดเจน “จำนวนพลังจุดของมันแบ่งออกเป็นธาตุไฟพันจุด ธาตุความมืดพันจุด ท่านก็คงจะรู้เรื่องนี้ใช่ไหมครับ”
“แล้วยังไง???”
“เมื่อครู่ข้าลองดูดซับดูอย่างละ 10 จุด เข้าร่างกายตามที่บอกให้ทดสอบ แต่ผลที่ออกมาก็คือพลังในร่างกายเพิ่มขึ้นมาเวทย์ละ 30 จุด ซึ่งก็หมายความว่าประสิทธิภาพของมันสูงมาก ทางเฮาร์แมนต้องมีวิธีเพิ่มประสิทธิภาพหรือไม่ก็มันเอามาจากที่ไหนที่ไม่ใช้ในดินแดนที่พวกเรารู้จักแน่”
หลังพูดไป
ราชินีภูติที่มองผมด้วยแววตาสงสัยท่าทางของเธอก็เลี่ยนไปเล็กน้อย เป็นเหมือนกับว่าคนกำลังคิดนักดวงตาเบนลงต่ำ มือก็เอามาจับคางเอาไว้พร้อมด้วยกัดฟันของตัวเองค่อยๆ
“แบบนี้ก็เท่ากับว่าน่าลงทุนสินะคะ”
เฮสเฟียร์พูดขึ้นมา
ถูกต้องแล้วนี่แหละสิ่งที่ฉันอยากจะได้ยิน เมื่อกี้ก็พยามจงใจบอกว่า [ดินแดนที่ไม่รู้จัก] ออกไปด้วย ซึ่งเป็นคำที่พยามจะสื่อให้เธอลงทุนกับมันสะเพราะมันคุ้มค่ามาก ถึงแม้ว่าใจจริงผมเพียงแค่ต้องการไปทวีปลึกลับนั้นก็เถอะ แผนที่เองก็มีอยู่แล้ว ถึงจะเชื่อไม่ได้ไม่แน่ใจว่าเป็นแผนที่จริงไหม แต่ทวดของผมก็คงไม่เอาของปลอมที่เขียนขึ้นมาเล่นๆ แล้วเอามันไปเป็นสมบัติของตระกูลหรอก เหอะๆ
จากนั้นไม่นาน
“ตอนนี้ข้ายังไม่สามารถตัดสินใจได้ เอาไว้หลังจากยึดประเทศทอซัสคืนมาได้ก่อนจะลองคิดดูก็แล้วกัน เพราะต้องทุ่มกำลังทหารไปทางนั้นก่อน”
ราชินีภูติตอบด้วยน้ำเสียงหนักใจ
แต่ก็ถูกของเธอนั่นแหละ การจับปลาสองมือผลมันออกมาไม่ดีอยู่แล้ว การที่ทำให้เรื่องมันจบไปทีละอย่างเป็นทางออกที่ดีที่สุด แล้วจากการคำนวณของผมกว่าที่จะเกิดอะไรขึ้นอย่างน้อยก็ต้องช่วงผมอายุ 20 ปี แบบที่โอทารอสสั่งให้มีพลังขั้นตำนานก่อนที่จะหลับไปอีกครั้ง พอมาลองคิดแบบนี้ก็เซ็งเหมือนกันที่มันหลับไปอีก ถ้ามันยังอยู่ผมคงรู้ข้อมูลมากกว่านี้หลายขุม เฮ้อ~
ไม่น่าเลยเรา
แต่เรื่องมันผ่านไปแล้วจะทำอะไรได้ละ
“เอาละ ในเมื่อเรื่องนี้จบแล้วข้ามีงานให้เจ้าทำต่อเจ้าหนู”
“งานอะไรครับ”
ราชินีภูติกล่าวออกมาโดยมองมาทางผม ส่วนผมก็ถามกลับไปทันทีเพราะเมื่อครู่เหมือนว่าจะเจาะจงผมแค่คนเดียวด้วย
“ที่ทางเหนือจากจุดนี้ไม่สามารถยืนยันตำแหน่งได้ มีกลุ่มโจรของพวกเอลฟ์กำลังสร้างค่ายกันอยู่ พวกมันแอบเข้ามาป่วนประเทศของภูติเรามาหลายเดือนแล้ว แต่ทางข้าส่งคนมาจัดการก็หาพวกมันไม่เจอ เพราะงั้นเรื่องที่เจ้าต้องทำในวันนี้ก็คือต้องไปกำจัดพวกมันแทนคนของข้าสะ!”
นี่มันการใช้แรงงานชัดๆ
“องค์ราชินะ-”
“เจ้าเงียบไปก่อนเฮสเฟียร์ ครั้งนี้ข้าจะให้ดรารอน์นำไปก่อน ส่วนเจ้าอยู่คุยกับข้าเพราะพวกเรามีเรื่องต้องคุยกัน!”
เฮสเฟียร์ยังไม่ทันพูดอะไรออกมาก็โดนขัดก่อน ซึ่งสิ่งที่เธอพูดมาต้องเกี่ยวกับโจรพวกนั้นแน่เพราะสีหน้าของเอแสดงความกังวลออกมาชัดเจน แต่ก็ช่วยไม่ได้ที่ตัวราชินีภูติให้เราไปก่อนแบบนี้คงมีเรื่องสำคัญคุยกับเฮสเฟียร์จริงๆ
“ถ้างั้นผมไปเลยนะครับ”
“อ่า”
เมื่อคุยจบเวทย์ลมของราชินีภูติมันก็หายไปกลายเป็นเพียงป่าปกติธรรมดา จากนั้นผมก็เริ่มลอยไปทิศเหนือตามที่ได้ข้อมูลมาทันที