ตอนที่แล้วKing X King เมื่อได้เกิดเป็น องค์รัชทายาทลำดับสุดท้าย ตอนที่ 165 ใบหน้าแสนชั่วร้าย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปKing X King เมื่อได้เกิดเป็น องค์รัชทายาทลำดับสุดท้าย ตอนที่ 167 มหาเมนูไข่

King X King เมื่อได้เกิดเป็น องค์รัชทายาทลำดับสุดท้าย ตอนที่ 166 บททดสอบแรก


ตอนที่ 166 บททอสอบแรก

ณ ห้องครัวของคฤหาสน์

หลังจากที่ผมเดินตามเอ็ดเน่มาสกพักเธอก็พาลาฟเชียร์ดินมาถึงห้องครัว โดยมีพวกผมสามคนกำลังยืนดูอยู่ห่างๆ ภายในห้องตอนนี้ก็มีพวกเมดรับใช้ที่กำลังทำอาหารอยู่ต่างก็พากันมองด้วยความสงสัยกัน

ระหว่างนั้นเทเลอร์ถามขึ้นมาพร้อมกับแววตาที่กำลังมองไปทางลาฟเชียร์ด้วยท่าทางเป็นห่วงว่า “ท่านดรารอน์ปล่อยเอาไว้แบบนี้จะดีเหรอครับ?”

“แล้วนายคิดว่าฉันจะเข้าไปหยุดได้ยังไง”

“นะ… นั่นสินะครับ”

ยังไงตอนนี้ก็ปล่อยให้เอ็ดเน่ทำตามใจไปก่อนก็แล้วกัน เพราะยังไงสะมันก็คงไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอกถ้าเธอทำแบบนี้อย่างมากมันก็แค่การทดสอบทำอาหารเท่านั้นแหละ

ทางด้านของลาฟเชียร์ ตอนนี้ก็กำลังมองซ้ายมองขวาด้วยความสงสัยอะไรบางอย่างกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเองตอนนี้ด้วย แต่ก็แอบยิ้มอ่อนๆ ออกมาเล็กน้อยด้วยเช่นกัน

เหมือนดับว่ากำลังชอบใจอยู่

“ท่านเอ็ดเน่ ท่านกำลังจะทดสอบอะไรคะ???”

“เธอต้องทำอาหารให้ข้าดู และจะมีคนกำหนดเมนูอาหารให้”

“อาหาร”

“ถูกต้อง เพราะเธอบอกเองไม่ใช่หรือไงว่าสามารถทำงานบ้านได้ทั้งหมด เพราะงั้นเรื่องของอาหารเองก็ต้องทำเป็นเหมือนกัน”

เอ็ดเน่พูดพร้อมกับใบหน้ายิ้มอ่อนๆ

ตามจริงสิ่งที่เอ็ดเน่จะทำมันก็ดีเหมือนกันเพราะถ้าลาฟเชียร์สามารถทำอาการได้คนที่จะได้รับผลประโยชน์มันก็เป็นผมนี่แหละ

เพราะอยู่ที่นั่นผมจะได้มีเวลาในการฝึกและดูดซับพลังแบบเต็มที่ ไม่ต้องมาเสียเวลากับเรื่องอาหารเอง เพราะยังไงสะการมีคนของตัวเองทำอาหารให้มันก็สบายใจและถูกปากว่าคนของราชินีภูติทำให้แน่นอน

แล้วอีกอย่าง ก็เคยได้ยินมาด้วยว่าอาหารประเทศภูติ มันไม่อร่อยเลย!

อื้ม!

ถ้างั้นก็ไม่ต้องเข้าไปหยุดดีกว่า จะได้เห็นวิธีทำอาหารของเธอด้วย

“เรื่องอาหารก็พอเข้าใจนะคะ แต่ท่านต้องการให้ข้าทำอาหารแบบไหน แบบขุนนาง แบบสามัญชน แบบอาหารต้อนรับ แบบอาหารชีวิตประจำวัน แบบอาหารหน้าหนาว หรือแบบอาหารประเทศอื่น หรือจะเอา-”

“ยะ… หยุดก่อน”

ระหว่างที่ลาฟเชียร์กำลังถาม เอ็ดเน่ก็หยุดเอาไว้ก่อนพร้อมกับใบหน้าเจ็บใจเล็กน้อยหลังจากที่ได้ชนิดอาหารที่ลาฟเชียร์ถามตนอยู่ จบกัน! ตอนแรกจะมาทดสอบเขาแต่ตอนนี้กลับมีความรู้ด้านอาหารไม่เท่าสะนิ

เฮ้อ~

“หะ… หัวหน้าเมด”

“ค่ะ องค์หญิง”

“ฝากจัดการทดสอบผู้หญิงคนนี้ด้วย เอาแบบที่สามารถแต่งงานได้เลย”

“รับทราบคะ”

เอ๋~

สุดท้ายก็ให้หัวหน้าเมดมารับผิดชอบเหรอเนี่ย

เรื่องแบบนี้ถ้าเป็นคนอื่นก็คงโดนบ่นไปแล้วละ แต่นี่เป็นเจ้าหญิงไงทุกคนก็เลยไม่มีใครพูดออกมา ขนาดทางลาฟเชียร์ยังยิ้มอ่อนๆ ออกมาเลย

พวกเมดรับใช้ที่กำลังทำอาหารกันก็กำลังหัวเราะกันออกมาด้วย เหอะๆ

สำหรับหัวหน้าเมดที่เอ็ดเน่เรียกเข้ามาช่วยนั้นเป็นผู้หญิงอายุประมาณ 50 ปี ผมสีดำ ร่างกายสมส่วน สวมชุดเมดเหมือนกับคนอื่นแต่ผ้ากันเปื้อนคาดเอวเป็นสีดำแสดงความแตกต่างจากเมดรับใช้คนอื่น และก็เป็นคนที่เชียวฉานเรื่องการทำอาหารที่สุดในคฤหาสน์นี้ด้วย

จากนั้น

“ท่านลาฟเชียร์สินะคะ”

“ค่ะ คุณหัวหน้าเมด”

“ดิฉันก็ไม่ได้มีความแค้นอะไรกับท่านหรอกนนะคะ แต่วในเมื่อมันเป็นคำสั่งของท่านเอ็ดเน่แบบนี้ทางดิฉันเองก็ไม่สามารถออมมือให้ได้ เตรียมใจเอาไว้ด้วยคะ”

มันยิ่งใหญ่ขนาดนั้นเลยเหรอ?

“เรื่องนั้นไม่ต้องกังวลคะ ทางฉันเองก็ไม่ได้หวังให้ออมมือให้อยู่แล้วเช่นกัน”

หว่า~

ไม่คิดเลยว่าลาฟเชียร์จะแสดงด้านแบบนี้ออกมาได้ด้วย คำพูดแบบนี้ผมเข้าใจดีเลยเพราะเคยเจอมาบ่อยในชาติก่อน มันเป็นคำพูดของคนที่มั่นใจในตัวเองมาก อย่างเช่นตอนนี้ ลาฟเชียร์ก็คงมั่นใจตัวเองมากว่าเธอจะสามารถทำอาหารได้ แล้วผ่านตามที่เอ็ดเน่เสนอไปเมื่อครู่ แถมยังพูดกับหัวหน้าเมดอบบธรรมชาติแบบนั้นอีก

ชักสนุกขึ้นมาแล้วสิ!

จากนั้นทั้งหัวหน้าเมดและลาฟเชียร์ก็เดินตรงไปที่ครัว และหยุดอยู่ที่ด้านหน้าตู้เก็บวัตถุดิบกันสองคน ส่วนทางเอ็ดเน่ก็กำลังมองไปทางลาฟเชียร์ด้วยท่าทางแบบผู้ชนะ ซึ่งหน้าตาแบบนั้นมันก็ไม่ได้เกินจริงไปหรอกกับกฏที่ตั้ง ที่ว่าต้องทำอาหารที่ทุกคนในห้องยอมรับ

เท่าที่ดูคนในห้องนี้ก็มีเกือบ 20 คน

แล้วอีกอย่าง

หัวหน้าเมดของคฤหาสน์แห่งนี้มีฉายาที่เรียกกันว่า ‘เจ้าแม่แห่งการทดสอบ’ เพราะก่อนที่ใครจะเข้าทำงานในคฤหาสน์แห่งนี้ต้องผ่านเธอก่อน เพื่อตรวจสอบทั้งหมดทุกเรื่องว่ามีความสามารถพอไหม

อย่างเมื่อเดือนก่อน

มีคนเดินทางเข้ามาสมัครทำงาน 100 คน เธอก็ทดสอบจนรับมาแค่ 1 คน เพียงเท่านั้น

ส่วนหนึ่งคนที่รับเข้ามาทำงานก็เก่งมากด้วย ทั้งเรื่องอาหาร ทำความสะอาด การพูดจาและท่าทางการวางตัวในการทำงาน

“ท่านลาฟเชียร์ต้องการทำอาหารแบบไหนคะ”

“ซุปคะ!”

โห่ว! รู้สึกว่าทางท่านก็ทำการบ้านเกี่ยวกับท่านดรารอน์มาเหมือนกันสินะคะ ที่รู้ว่าท่านดรารอน์ชอบกินซุบช่วงเช้าและช่วงเย็นของทุกวัน”

“แน่นอนคะ”

เอ่ะ!

พวกนั้นกำลังพูดเรื่องอะไรกันอยู่ จำไม่ได้เลยว่าเราไปชอบกินซุปตอนไหน ก็เห็นว่ามันวางใกล้มือเท่านั้นแหละก็เลยเอามากิน และเห็นทุกคนกินด้วยก็เลยกินตามไปบวกกับรสชาติของมันไม่ได้แย่ก็เลยกินเท่านั้นเอง เข้าใจผิดกันขนาดนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ได้ชอบอะไรขนาดนั้นสักหน่อย???

ส่วนทางเอ็ดเน่ตอนนี้ก็กำลังมองมาทางผมด้วยแววตาไม่พอใจอะไรบางอย่าง อะไรมองพี่แบบนั้นมันหมายความว่ายังไงอีก ทางพี่เองก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไรสักหน่อย อันนั้นหัวหน้าเมดกับลาฟเชียร์คิดเองนะ

“ชิ” เนสก้าด้านข้างผมพูดขึ้นมา จากนั้นก็เริ่มพรึมพรำต่อเหมือนกับว่าพูดคนเดียว “ขนาดตัวเราเองยังไม่รู้เลยว่าท่านดรารอน์ชอบกินซุป ทำไมสองคนั้นถึงได้รู้กันขนาดนี้”

ใจเย็นสิเนสก้า

ความคิดของเธอมันดังออกมาจนฉันได้ยินแล้วนะ แล้วอีกอย่า งฉันเองก็ไม่ได้ชอบกินซุปแบบที่ทั้งสองคนเข้าใจกันสักหน่อยเธอก็อย่าเข้าใจผิดตามพวกนั้นไปสิ เฮ้อ~

“เอาละคะท่านลาฟเชียร์ถ้างั้นพวกเราจะมาทำซุปเห็ดกันนะคะ เพราะมันจะช่วยเรื่องของการบำรุงร่างกายได้ ท่านสามารถทำได้ใช่ไหม”

“ตามที่คุณหัวหน้าเมดกำหนดมาเลยคะ ทางฉันสามารถทำได้หมดเมื่อท่านต้องการที่จะทดสอบ พะ… เพราะข้า…ตะ เตรียมตัวทุกอย่างมาก็พะ…เพื่อวะ… วันแบบนี้”

ปัดโถ่!

เกือบจะเทห์สะแล้วสิถ้าไม่ติดขัดตอนท้าย  เมื่อกี้ระหว่างที่กำลังพูดออกมาเมื่อกี้ลาฟเชียร์ก็เบนสายตามองมาทางผมเล็กน้อยขณะที่กำลังพูดประโยคช่วงสุดท้ายด้วยท่าทางเขินอายอีกแล้ว

มันจะอะไรขนาดนั้น

จากนั้นทางเอ็ดเน่ก็พูดขึ้นด้วยท่าทางที่กำลังยืนกอดอกที่เต็มด้วยความไม่พอใจว่า “ห้ามทำซุปอะไรพวกนั้น ต้องทำอาหารจากสิ่งนั้นจนข้าและคนอื่นในห้องนี้ยอมรับได้เท่านั้น ไม่งั้นก็ถือว่าไม่ผ่าน”

ส่วนสิ่งที่นิ้วของเอ็ดเน่กำลังชี้ไปที่ตอนี้ก็คือ ไข่!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด