King X King เมื่อได้เกิดเป็น องค์รัชทายาทลำดับสุดท้าย ตอนที่ 163 เรื่องอะไรกันแน่
ตอนที่ 163 เรื่องอะไรกันแน่
หลังจากที่เทเลอร์พาผมเดินมาสักพัก พวกเราทั้งสองคนก็เดินมาถึงด้านหน้าห้องรับแขกขนาดใหญ่ของคฤหาสน์ที่เป็นห้องเอาไว้เจอกับคนที่เดินทางมาหา
ซึ่งในวันนี้ก็เหมือนว่าทารอน หรือกริมเทอร์เองจะไม่อยู่ที่นี่กันด้วย เพราะต้องไปเตรียมตัวเรื่องการตอนรับราชินีภูติที่จะเดินทางมาที่พระราชวัง เท่ากับว่า คนที่กำลังรอผมอยู่ในห้องต้องมาจอผมแบบที่เทเลอร์มันบอกจริงๆ
แต่ใครกัน?
“เธอรออยู่ด้านในครับท่านดรารอน์”
เทเลอร์พูดออกมาพร้อมกับยิ้มเล็กน้อย แบบชอบใจ
ถึงแม้ว่าตอนนี้ผมจะพอประเมินสถานการณ์ได้บางส่วนแล้วก็จริง แต่ก็ยังไม่เข้าใจท่าทางของเทเลอร์ที่มันแสดงออกมาอยู่ดี เพราะอะไรทำไมมันถึงได้ดีใจด้วยถ้าคนข้างในเดินทางเพื่อมาพบกับผม
“ใครอยู่ด้านใน?”
“บะ.. บอกตอนนี้ไม่ได้ครับ ข้าอยากให้ท่านไปเจอเอง”
เบื่อจริงไอหมอนี่มันจะมีความลับกับเรื่องแค่นี้ จากความสนุกเมื่อกี้มันเริ่มกลายเป็นความรู้สึกรำคาญสะแล้วสิ ถ้าเป็นคนที่ต้องเจรจาด้วยอย่างคนจากประเทศภูติมาหาฉันก็ลำบากนะสิ
ถ้าไม่มีแผนรับมือเอาไว้ เฮ้อ~
แต่ก็เอาเถอะ เพราะถามยังไงหมอนี่มันก็ไม่ยอมบอกอะไรมีแต่ต้องเข้าไปดูด้านในเองเท่านั้น ถึงจะเป็นใครก็ทำอะไรผมในตอนนี้ไม่ได้หรอก หึหึ!
เมื่อคิดได้ผมก็ดันประตูเพื่อเข้าไปห้องทันที
เอ่ะ?????
เมื่อเห็นคนที่กำลังนั่งอยู่ตรงเก้าอี้กลางห้อง กำลังหันมองมาทางผมที่เปิดประตูเข้ามาผมก็รู้สึกแปลกใจหน่อยๆ
ส่วนเธอก็หันหน้ามองมาทางผมทันทีด้วยแววตาที่กำลังดีใจ ผมยาวสีเหลืองอ่อน หน้าอกที่ดูไม่ใหญ่มากเหมาะสมกับร่างกายขนาดเล็กของเธอ ผิวสีขาวสะอาด ดวงตากลมโตนัยน์ตาสีฟ้าอ่อนเหมือนกับท้องฟ้าอยู่ด้านใน และผมที่ยาวประมาณครึ่งหลังหยิกลอนช่วงปลายอีก
หว่า~
เทเลอร์มันไปเอาผู้หญิงคนนี้มาจากไหนกันเนี่ย???
แต่จะว่าไปดูไปดูมาหน้าตาของเธอมันก็คุ้นๆ ยังไงไม่รู้เหมือนกับแหะ เหมือนกับว่าเคยเจอที่ไหนมาก่อนเลยแต่ถึงแม้ว่าตอนนี้ผมจะพยามนึกถึงเรื่องของเธอคนที่อยู่ด้านหน้าเท่าไหร่ แต่ก็ยังนึกไม่ออกว่าผมไปเคยเจอมาที่ไหนกันแน่
แล้วก็จำไม่ได้ด้วยว่าไปเคยเจอผู้หญิงที่สวยดูดี มีสง่าแบบนี้ที่ไหน
ความสวยของเธอขนาดเฮน่ายังไม่เท่าเลย ถึงจะมีหน้าอกเป็นอาวุธก็ตาม
อื้ม! นี่แหละที่เขาเรียกว่าของจริง
ระหว่างที่ผมกำลังคิด
“เชิญนั่งเลยครับองค์ชาย ท่านเองก็ตกใจใช่ไหม?”
เทเลอร์มันก็เดินนำหน้าของผมไป และพูดออกมาหลังจากที่นั่งลงบนเก้าอี้ข้างผู้หญิงที่กำลังนั่งมองมาทางผมอยู่ด้วยท่าทางสบายๆ เพราะตัวเก้าอี้เป็นเก้าอี้ขนาดใหญ่ทำให้สามารถนั่งได้สองคนแบบไม่ลำบากอะไรนัก
แต่ที่ผมกำลังตกใจก็คือ เทเลอร์ทำไมมันถึงไม่นั่งแบบนั้นได้ละ???
“พี่อย่าพูดแบบนั้นสิ ข้าก็รู้สึกกดดันเหมือนกันนะ”
เห่ะ
พี่งั้นเหรอ???
หลังจากที่ได้ยินเธอพูดออกมาสมองของผมมันก็เลยเริ่มประมวลผลตามสิ่งที่กำลังได้เห็นและได้ยินตอนนี้ และหลังจากพยามคิดไปคิดมาว่าผมเคยเห็นผู้หญิงคนนี้ที่ไหน มันก็ออกมาว่าผู้หญิงคนนี้ก็คือ ลาฟเชียร์!
“เป็นยังบ้างครับท่านดรารอน์ ไม่เจอเพียงไม่กี่ปีลาฟเชียร์เปลี่ยนไปเยอะเลยใช่ไหมครับ ฮาฮาฮา”
หลังจากที่ผมนั่งลงฝั่งตรงข้ามของทั้งสองคนเทเลอร์มันก็เริ่มพูดออกมาด้วยท่าทางมั่นใจโดยยืดอกแบบผู้ชนะขณะที่พูดมา อะไรกันคนที่สวยขึ้นมันลาฟเชียร์ไม่ใช่หรือไง แล้วทำไมแกต้องแสดงท่าทางมั่นใจแบบนั้นออกมาด้วย เหอะๆ
ส่วนทางลาฟเชียร์ตอนนี้ก็กำลังก้มหน้าเพราะความอายหรือกังวลอะไรสักอย่าง เพราะหน้าของเธอแดงเหมือนกับลูกแต่งโมไปแล้ว แต่มาเห็นใกล้ๆแบบนี้ก็ยังละสายตาไม่ได้เลยจริงๆ นั่นแหละ
นี่อายุเพียงยังไม่ถึง 15 ปี ด้วยซ้ำ ไม่อยากคิดเลยว่าถ้าอายุ 18หรือ20 ปี จะสวยเพิ่มขึ้นขนาดไหน แล้วไหนจะยังท่าทางความน่ารักแบบนี้อีก
สุดยอด!
“ฮาฮาฮา ขนาดท่านดรารอน์เมื่อเห็นเธอยังพูดอะไรไม่ออกเลยเหรอเนี่ย ข้าเองตอนแรกก็เหมือนกันเพราะลาฟเชียร์สวยขึ้นยิ่งกว่าแม่อีก”
ยังอีก! นี่แกจะพูดบ้าอะไรนักหนา แกดูหน้าของน้องตัวเองก่อนไหมว่าตอนนี้ถ้ามุดดินหนีไปได้ก็คงมุดลงไปแล้วละ เฮ้อ~
ช่วยไม่ได้!
งั้นเราเองก็ต้องตอบอะไรกลับไปบ้างเหมือนกัน เพราะไม่อยากกลายเป็นคนโรคจิตที่เอาแต่มองเธอโดยไม่พูดอะไรด้วย
“ไม่ได้เจอกับนานเลยนะครับ ตั้งแต่งานวันเปิดตัวของข้าเลย”
“คะ… ค่ะ …อะ องค์ชาย”
หลังจากที่ผมพูดไปพร้อมกับใบหน้าปั้นยิ้มแบบสดใส ลาฟเชียร์ก็ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงเกร็งๆ พร้อมกับดวงตาทั้งสองที่พยามเงยหน้ามามองหน้าของผมอย่างช้าๆ แค่เพียงเห็นก็รู้ว่าเธอกำลังอายขนาดไหน
ตัวผมเองก็ไม่ต่างกันหรอกเพราะถึงจะอยู่มานานเจอเด็กผู้หญิงดาเมจทำลายรุนแรงแบบนี้ก็ทนไม่ไหวเหมือนกันแหละ
ไหนจะยังความพยามที่จะมองหน้าผมทั้งๆ ที่กำลังอายอยู่อีก ถ้านับความน่ารักเต็มร้อยของลาฟเชียร์ก็คงพุ่งไป 110% ไปแล้ว ถึงจะน้อยกว่าเอ็ดเน่ก็เถอะ!
“ท่านดรารอน์ก็ยังเหมือนดะ-”
“ข้าว่าเรื่องลำลึกความหลังพอแค่นี่เถอะ เพราะยังไงตอนนี้ท่านดรารอน์ก็ไม่มีเวลาแล้ว พวกเรารีบมาคุยเรื่องที่ลาฟเชียร์ต้องการจะบอกกับท่านดีกว่า!”
ระหว่างที่ลาฟเชียร์กำลังจะพูดออกมาเทเลอร์ก็พูดขัดออกมาก่อน ผมคิดว่ามันต้องพูดเพื่อขัดผมแน่นอน ชิ! อย่างน้อยก็รู้ให้เธอพูดประโยคเมื่อกี้ให้มันจบหน่อยไม่ได้หรือไง
เดี๋ยวก็ไล่กลับไปปกครองอณาเขตบ้านนอกเหมือนเดิมสะหรอก
ไอบ้านี่!
“อ่า… งั้นเรามาพูดเรื่องที่ลาฟเชียร์ต้องการก่อนก็แล้วกัน”
ผมตอบด้วยน้ำเสียงใจเย็น แต่ตอนนี้ ความรู้สึกที่โกรธเทเลอร์ที่มันขัดคำพูดของลาฟเชียร์เมื่อครู่มันก็ยังไม่ได้หายไปหรอก แต่มันก็น่าแปลกอยู่อย่าง นั่นก็คือเรื่องขอร้องผม เพราะตัวเธอก็ไม่ได้สนิทอะไรขนาดนั้น ถึงจะน่ารักก็จริงแต่ทางผมก็คงไม่ทำตามเพราะแค่ความน่ารักหรอก
ซึ่งทางเทเลอร์ก็น่าจะเข้าใจนิสัยของผมดี ว่าไม่น่าจะทำตามคำขอของใครง่าย ถึงจะเอาความสวยความน่ารักมา… ไม่สิ อาจจะทำตามก็ได้ถ้าเหตุผลมันสมเหตุสมผลกับสิ่งที่ขอมา
แต่ยังไงมันก็ต้องฟังดูก่อนว่าเธอจะพูดอะไรออกมา เพราะทางผมเองก็ไม่ได้จะหลงอะไรเธอขนาดนั้นด้วย ถึงจะมีนิดหน่อยก็เถอะ
แต่ถ้าขอเรื่องไม่มีเหตุผลทางผมก็ไม่ทำให้หรอก
จากนั้นลาฟเชียร์ที่พยามรวบรวมพลังในการพูดสักพักก็ใช้ดวงตาทั้งสองของเธอมองตรงเข้ามาที่ตาของผมด้วยสีหน้าจริงจัง แล้วก็พูดออกมาว่า “ข้าขอเดินทางไปประเทศภูติกับท่านด้วยคนนะคะ!”