King X King เมื่อได้เกิดเป็น องค์รัชทายาทลำดับสุดท้าย ตอนที่ 159 ป้อมหมายเลขหนึ่ง
ตอนที่ 159 ป้อมหมายเลขหนึ่ง
ณ ป้อมเป่าหมายที่ 1
หลังจากเดินทางมาสักพักผมก็มาถึงเป้าหมายจนได้ โดยตอนนี้ผมกำลังบินอยู่เหนือป้อมขนาดใหญ่ของพวกประเทศทาซัส และนี่ก็เป็นเป้าหมายแรกของผมในวันนี้ ขนาดเส้นฝ่าศูนย์ของมันประมาณ 4 - 5 กิโลเมตร ถือว่าใหญ่พอสมควรสำหรับป้อมของทหารที่เป็นป้อมป้องกัน ดูด้วยตาตอนนี้พวกมันคงมีจำนวน 1,000 - 1,500 คน ในสนามป้อมแน่นอน
บรรยกาศตอนนี้มืดสนิทมีแต่เพียงแสงไฟที่ปรากฏออกมาตามกำแพงให้เห็นเป็นจุดๆ และมีพวกทหารเดินไปเดินมาแบบไม่แน่หนานัก ซึ่งก็แน่นอน มันคงไม่คิดหรอว่าจะมีการบุกวันนี้เพราะทั้ง 4 ประเทศมันยังตกลงกันไม่ได้ด้วยซ้ำการป้องกันก็เลยอาจไม่ดีเท่าที่มันสมควรจะเป็น และยังเป็นการป้องกันแบบปกติอยู่ เพราะถ้าอยู่ในโหมดสงครามจริงพวกมันคงรู้ตัวก่อนที่ผมจะบินเข้ามาอยู่เหนือหัวของพวกมันไปแล้ว
แต่นี่แหละโอกาศของผมเลย
ถึงรู้อยู่แก่ใจก็เถอะว่าถ้าโจมตีไปตอนพวกมันไม่ได้ตั้งตัวทหารกว่า 90% ต้องไม่รอดแน่ แต่จะทำยังไงได้เพราะนี่มันต้องทำ แล้วทางผมเองก็เตรียมใจเรื่องนี้มาแล้วด้วยเพราะงั้นคิดยังไงมันก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาอะไรเลยถ้าฆ่าพวกมันไป เฮ้อ~ พอมาคิดใหม่อีกรอบว่าต้องทำแบบนี้กับอีกสี่ที่ก็เริ่มรู้สึกผิดขึ้นมาเลยแหะ
เพราะอย่างน้อยวันนี้เพียงคืนเดียวผมต้องฆ่าคนเกือบหมื่นคน
ซึ่งทหารที่ผมฆ่าวันนี้อาจจะมีครอบครัวอยู่ก็... ไม่สิ! ใช้คำว่าอาจจะไม่ได้หรอก เพราะไม่ว่ายังไงพวกนี้มันก็ต้องมีครอบครัวกันอยู่แล้ว ถ้าเลี่ยงได้ก็อยากจะเลี่ยงการฆ่าแบบพวกกลุ่มต่อต้านที่เจอเมื่อกี้อยู่หรอก แต่ทำแบบนั้นไม่ได้นี่สิ
งั้นก็รีบจัดการรีบจบแล้วกัน!
'เวทย์บอลไฟ'
เมื่อสามารถตัดสินใจได้ผมก็เลยใช้เวทย์บอลไฟขนาดใหญ่ที่ด้านหลังทันที และด้วยตอนนี้ผมกำลังอยู่ในร่างจำแรงอสูรระดับ 4 จึงสามารถใช้มันได้แบบรวดเร็ว พร้อมกับประสิทธิภาพทำลายล้างมหาศาล ขนาดของเวทย์บอลไฟด้านหลังของผมตอนนี้มันใหญ่ประมาณ 500 เมตร เป็นรูปทรงวงกลมเรียกมันว่าพระอาทิตย์ขนาดเล็กเลยตอนนี้ก็ไม่ได้เกินจริงอะไร
เพราะแสงจากที่มันส่องออกมาเป็นแสงที่สว่างมาก
พวกทหารบนกำแพงตอนนี้ต่างก็กำลังยืนอ้าปากค้างกับสิ่งที่พวกมันกำลังเห็นกันอยู่ บ้างก็กำลังพยามวิ่งลงจากกำแพงเพื่อหนี แต่เสียใจด้วยต่อให้แกวิ่งด้วยคามเร็วนาทีละหนึ่งกิโลเมตรมันก็ไม่ได้ช่วยให้รอดจากการโจมตีนี้หรอก เหอะ!
จากนั้นบอลไฟขนาดใหญ่ของผมเมื่อพลังพร้อมแล้วก็พุ่งลงไปที่ป้อมด้านหน้าทันที
บูม!!!!!
หลังจากที่ประทะกับเป้าหมายก็เกิดเสียงพร้อมกับแรงระเบิดขนาดใหญ่ขึ้นมาที่ด้านล่าง ขนาดตัวของผมที่ลอยอยู่สูงประมาณ 1,000 เมตร ยังสัมผัสถึงความร้อนและแรงลมมหาศาลที่กระจายออกมาได้ ตัวป้อม... ไม่สิ! จุดที่เคยเป็นป้อมด้านหน้าของผมตอนนี้มันก็เต็มไปด้วยกลุ่มควันสีดำ และสีน้ำตาลจากเศษฝุ่นจำนวนมากปรากฏออกมาแทน
ถึงแม้ว่าตอนนี้จะไม่สามารถมองเห็นได้ก็ตาม
แต่ทางผมเองก็มั่นใจไปแล้วกว่า 100% ว่าเวทย์บอลไฟเมื่อกี้สัมผัสกับเป้าหมายที่ตั้งใจเอาไว้แน่นอน แล้วจากการระเบิดเมื่อครู่ พวกสิ่งมีชีวิตในป้อมทั้งหมดก็อาจจะโดนเผาไปหมดแล้วก็ได้ หึหึ!
...
.....
.......
หลังจากที่เวลาผ่านไปสักพักกลุ่มควันก็เริ่มจางหายไป แล้วก็ปรากฏทะเลเพลิงด้านหน้าของผมแทนในจุดที่เคยเป็นป้อม พร้อมกับหลุมขนาดใหญ่ที่กินพื้นที่ของป้อมไปเกือบทั้งหมด และหลุดด้านหน้าก็เกิดจากแรงระเบิดเมื่อครู่มันทำลายล้างมากกว่าที่ผมคิดเอาไว้ตอนแรกสะอีก
อื้ม!
ถือว่าใชได้ที่สามารถกวาดล้างได้รวดเดียวแบบนี้ ในการที่ทำแบบนี้มันจะได้ช่วยทำให้พวกทหารตายในทันทีแบบไม่ทรมานดะ-
เอ่ะ!?!?!
ขณะที่ผมกำลังชื่นชมกับผลงานของตัวเองอยู่โดยกรอกสายตาไปมารอบทะเลเพลิงด้านล่าง ผ่านไปได้ไม่นานก็ได้เจอกับเรื่องเหลือเชื่อขึ้น ส่วนสิ่งที่ผมกำลังเห็นและแปลกใจอยู่ตอนนี้ก็คือ เวทย์ป้องกัน!
มันเป็นเวทย์ป้องแบบบาเรียสีม่วงแบบที่ผมเคยตอตอนที่มาครั้งก่อน และกำลังมีกลุ่มคนประมาณ 10 คน ยืนอยู่ในวงของมัน ไม่คิดเลยว่ามันจะสามารถใช้ได้เวลาอันสั้นแบบนี้ เป็นเวทย์ตัวปัญหาสะจริง!
ชิ!
แต่เมื่อมาลองสังเกตให้ดีอีกครั้ง ผมก็พอเข้าใจแล้วว่าทำไมพวกนั้นถึงได้รอดกัน และทำไมถึงได้รอดเพียง 10 คน แบบนั้น ซึ่งก็เพราะว่าระดับพลังเวทย์ขั้นสูงของพวกมันอย่างน้อยก็น่าจะเป็นคนคุมป้อมนั่นแหละ เมื่อดูจากชุดเกราะที่พวกมันใส่ก็ยิ่งยืนยันได้ แถมพลังเวทย์ของแต่ละคนก็อยู่ขั้นสูงกันทั้งนั้น จะรอดจากการโจมตีเมื่อครู่ก็ไม่แปลกอะไร
ถ้างั้นตอนนี้ก็สามารถยืนยันอะไรเพิ่มได้อีกอย่าง
ซึ่งก็คือ
คนที่จะสามารถใช้เวทย์บาเรียแบบนั้นได้พลังต้องอยู่ขั้นสูงถึงจะสามารถใช้มันได้ หรือถ้าคิดอีกอย่าง บาเรียรอบตัวพวกมันเป็นเพียงอุปกรณ์เวทย์มนต์ที่ผลิตขึ้นมายาก หรือไม่ก็มีจำนวนน้อยมาก จึงสามารถให้เพียงพวกระดับสูงเท่านั้นเพื่อป้องกันตัวเองเท่านั้น
อืม......
ยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัว ปล่อยพวกมันไปก็แล้วกันเพราะยังไงเป้าหมายของผมมันก็มาเพื่อแค่ทำลายป้อมเท่านั้น ไม่ได้มาเพื่อสู้และฆ่าคนสักหน่อย อย่าทำอะไรเกินหน้าที่ดีกว่า
ต่อให้พวกทหารระดับสูงของมันมันรอดแต่ป้อมถูกทำลายทุกอย่างมันก็จบอยู่ดีนั่นแหละ เพราะผมเคยเดินทางมาทำลายป้อมเพื่อเปิดทางเท่านั้น
เมื่อสามารถคิดได้ผมก็เริ่มบินต่อทันทีเพื่อตรงไปยังเป้าหมายที่สองที่ได้ตั้งใจไว้ ตามจริงก็อยากลงไปจัดการกับพวกมันอยู่หรอก เพราะผมเองก็ไม่ชอบใจระบบกองทัพแบบนี้ที่ปล่อยให้ทหารของตัวเองตายแต่พวกทหารยศสูงรอด
แต่ตอนนี้มันยังไม่ใช่เวลา แล้วตอนนี้ผมก็ไม่ใช่ราชาแล้ว เรื่องพวกนี้พยามไม่เข้าไปยุ่งดีสุดเพราะเดี๋ยวยังไงเมื่อกองทัพทั้งสี่ประเทศบุกเข้ามาพวกนี้มันก็จะโดนฆ่ากันเอง!