King X King เมื่อได้เกิดเป็น องค์รัชทายาทลำดับสุดท้าย ตอนที่ 155 ไม่หรอกน่า~
" เหมือนว่าจะเคยได้ยินท่านพ่อบอกเอาไว้ ว่่าถ้าไม่สามารถเปิดได้อีก 60 ปี ข้างหน้าเรื่องด้านในกล่องมันก็ไม่จำเป็นแล้ว! "
อืม... มีประโยชน์จริงๆ เมื่อกี้ให้มันทำท่าเหมือนกับว่านึกอะไรออกก็เผลอดีใจไปนิดนึง ไม่คิดเลยว่ามันจะกลายเป็นข้อมูลที่ไร้ประโยชน์แบบนี้ไป... แต่เดี๋ยวก่อน! เมื่อกี้รู้สึกว่าจะได้ยินว่า 60 ปี ไม่หรอกน่า~
ช่วยไม่ได้ยังไงก็ลองถามเพื่อให้แน่ใจหน่อยก็แล้วกัน
" ท่านพูดว่าท่านพ่อของท่านพูดถึงเรื่อง 60 ปี ใช่ไหม? "
" ก็ใช่! แล้วมันทำไม...? "
ตามจริงก็ไม่อยากคิดหรอกว่าเรื่องที่ผมกำลังคิดอยู่ตอนนี้มันจะเป็นเรื่องจริง แต่ถ้าคิดในอีกมุมว่าตามที่เคยคิดเอาไว้ตอนแรกเรื่องมันก็ยิ่งลงตัวเข้าไปอีก
" อันดับแรกข้าขอยืนยันหน่อยว่าตอนนี้ท่านอายุเท่าไหร่ ขอแบบไม่คาดเคลื่อนนะครับ "
" 60 เกือบที่จะได้ 61 ปี อีกไม่ก็เดือนก็น่าจะอายุครบ 61 ปีแล้ว "
เป็นแบบที่คิดเอาไว้ไม่ผิด ช่วงเวลาแบบนี้เท่ากับว่าตอนนี้เหลือเวลาอยู่อีก 10 ปี ก็จะถึงเวลาที่พ่อของกริมเทอร์ได้พูดเอาไว้ ซึ่งเวลาสิบปีที่พูดถึงมันก็ไปตรงกับช่วงที่เราจะอายุ 20 ปี แบบที่โอทารอสบอกเอาไว้ก่อนที่จะหลับไปอีกครั้ง ในตอนแรกก็ผมก็คิดว่าตัวผมคิดเรื่องนี้มากเกินไป เพาะกังวลเกี่ยวกับเฮาร์แมนและพลังมหาศาลของมันจนคิดหนัก
แต่เมื่อเรื่องมันเป็นแบบนี้ผมคงไม่ได้คิดไปเองแล้ว เพราะเรื่องนี้มันเป็นเรื่องที่ลงตัวกันเกินไปแถมยังไมรู้แน่ชัดกับตัวตนของพ่อกริมเทอร์ที่มาจากไหนอีก คิดยังไงตอนนี้มันก็แปลก!
" สรุปเจ้าถามข้าทำไมเรื่องอายุ? "
กริมเทอร์ถามด้วยน้ำเสียงสงสัย "
" ข้าต้องการที่จะยืนยันให้แน่ใจหน่อยนะครับ แล้วตอนนี้ข้าก็คิดว่าข้ารู้วิธีในการเปิดกล่องลับด้านหน้านี่แล้ว "
จากนั้นผมก็เริ่มหันไปทางกล่องด้านหน้าอีกกครั้ง ถ้าสิ่งที่ผมคิดมันเป็นเรื่องจริงครั้งนี้ต้องสามารถเปิดมันได้แน่นอน แต่ใจจริงผมก็ไม่อยากให้มันเป็นเรื่องจริงหรอก เพราะถ้าเป็นแบบนั้นมัน เฮ้อ~ไม่อยากที่จะคิดเลยว่าถ้าพ่อของกริมเทอร์เดินทางมาจากที่เดียวกับที่พวกสามสัตว์เทพเดินทางมา เรื่องต่อจากนี้มันจะเป็นยังไง
ระหว่างนั้นผมก็เริ่มปล่อยพลังเวทย์ของสัตว์เทพเข้าไปในกล่องสมบัตรด้านหน้า จากนั้น
แปล็ก!
แปล๊ก!
กุญแจล็อคกล่องที่ผมไม่ว่าจะทำยังไงก็ไม่สามารถเปิดพวกมันออกมาได้เมื่อคู่มันก็เปิดออกมาได้อย่างง่ายดาย ราวกับว่าพลังของสัตว์เทพเป็นตัวในการปลดผนึกมัน งานเข้าแล้วไง! เอาตามตรงตอนนี้ไม่อยากเปิดดูของที่อยู่ด้านในเลย ถ้าเกิดมันเป็นข้อความวันสิ้นโลกแบบที่ผมคิดเอาไว้ตอนแรกมันจะเป็นยังไง ไม่น่าคิดแบบนั้นเลยเรา...
แต่ยังไงมันก็ต้องเปิด!
เมื่อตัดสินใจได้ผมก็เริ่มใช้มือทั้งสองเปิดกล่องด้านหน้าทันที และก้มหน้าลงไปดูภายในกล่องเพื่อตรวจสอบด้านใน ทางด้านของกริมเทอร์เองที่ตอนแรกยืนห่างจากผมประมาณ 2 เมตร ก็รีบเดินเข้ามาด้านหลังทันที แต่ก็ช่วยไม่ได้หรอกขนาดผมเองยังลุ้นของที่อยู่ด้านในขนาดนี้เชื่อว่าทางมันเองก็คงอยากรู้ไม่ต่างกัน... ไม่สิ! กริมเทอร์คงต้องอยากรู้มากกว่าผมอยู่แล้วเพราะพยามเปิดมันมาทั้งชีวิต ส่วนสิ่งที่ผมเห็นด้านในกล่องตอนนี้ก็คือ ม้วนกระดาษ!
" นี่มันกระดาษอะไร? "
กริมเทอร์พรึมพรัมออกมาจากทางด้านหลังของผมด้วยน้ำเสียงสงสัย ทางนี้เองก็อยากรู้เหมือนกันนั่นแหละว่ามันเป็นกระดาษอะไร แต่ดูจากสีของกระดาษแล้วมันเป็นกระดาษของประเทศภูติไม่ผิดแน่ ส่วนที่เลือกใช้มันเพื่อบันทึกก็เพราะรู้อยู่แล้วว่าอีกหลายปีกว่าทีี่จะมีคนมาเปิดอ่าน เพราะโดยปกติแล้วกระดาษของประเทศมนุษย์และก็เอลฟ์มันจะไม่ทนมากนัก ระยะเวลาอยู่อย่างมากก็ 20 ปี มันจะเริ่มสลาย หรือไม่ก็ต้วหนังสือหายไป แต่กระดาษของประเทศภูตินั้นต่างออกไปเพราะมันสามารถอยู่ได้อย่างน้อยก็ 100 ปี แถมทนน้ำได้อีกถ้าเป็นผมจะเก็บข้อมูลที่ต้องใช้เวลานานหรือข้อมูลมีค่า ก็ต้องกระดาษประเทศภูตินั่นแหละ
" ข้าจะลองเอาขึ้นมาอ่านนะครับ "
" มันก็ต้องเป็นแบบนั้นแหละ เอาขึ้นมาเลยข้าจะได้หายคาใจ "
จากนั้นผมก็หยิบเอากระดาษที่ม้วนเอาไว้อยู่ขึ้นมา แต่หลังจากที่หยิบขึ้นมาก็สังเกตุถึงความผิดปกติของมันอีกอย่าง นั้นก็คือขนาดของมันใหญ่กว่ากระดาษข้อความปกติทั่วไปมาก ดูยังไงมันก็คงไม่ใช่ข้อความวันสิ้นโลกแบบที่ผมคิดเอาไว้แล้วละ หรือถ้ามันใช้ก็คงยาวสะขี้เกียจอ่านเลย แล้วผมก็เริ่มคลายมันออกจากม้วนทันทีด้วยท่าทางที่กำลังลุ่นสิ่งที่อยู่ด้านในกับกริมเทอร์ด้านหลังที่คงรู้สึกไมไ่ด้ต่างอะไรจากผมมากนัด
ส่วนสิ่งที่อยู่ในกระดาษด้านหน้าหลังจากที่เปิดออกมา ก็คือ แผนที่! แต่แผนที่ด้านหน้าของผมตอนนี้มันต่างออกจากจากแผนที่ของทวีปนี้มาก เรียกว่าขนาดใหญ่กว่า หรือจะเรียกว่าแบ่งประเทศเยอะกว่าดีละ เพราะมันมีแบ่งนับร้อยเส้นที่เขียนชื่อเอาไว้เยอะมาก
" นี่มันแผนที่อะไร นี่นะเหรอของที่ข้าพยามดูทั้งชีวิต! "
กริมเทอร์ตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงเจ็บใจหลังจากที่เห็น ซึ่งมันก็น่าโมโหนั่นแหละตอนแรกผมเองก็คิดว่าเป็นอะไรแต่มันกลับเป็นแผนที่ของอะไรก็ไม่รู้ แถมยังเขียนชื่อประเทศสะเยอะแบบนี้มันก็เหมือนกับเด็ก... เอ่ะ! ระหว่างที่ผมกำลังหมดหวัง และรู้สึกเจ็บใจกับแผนที่ด้านหน้า สายตาของผมก็เหลือกไปไปเห็นสิ่งที่ไม่คิดว่าจะเห็นได้ในแผนที่ด้านหน้าตอนนี้ ที่เป็นจุดขวาสุดทางใต้ของแผนที่ทั้งหมด แล้วสิ่งเขียนเอาไว้ก็คือ...