King X King เมื่อได้เกิดเป็น องค์รัชทายาทลำดับสุดท้าย ตอนที่ 121 แชงค์!
" ถูกต้องแล้ว ข้าได้ข่าวมาว่าราชาประเทศทาซัสจะให้หมอนั่นมีสิทธิ์ในราชบัลลังค์ด้วย ถึงแม้จะโดนพวกขุนนางต่อต้านก็เถอะ! "
เดฟีเรียตอบโดยที่สายตายังมองไปทีี่แชงค์อยู่
ถึงตอนนี้จะจับใจความได้นิดหน่อยก็เถอะ แต่ฟังไปแล้วหมอนั่นมันต้องมีความสามารถพอตัวอยู่เหมือนกันแน่ ถ้าไม่อย่างงั้นก็คงไม่โดนราชาเอาเข้าเป็นผู้มีสิทธิิ์ทั้งๆ ที่เป็นลูกนอกสมรสหรอก
" ว่าไงแลนด์กรีสยังอยากให้เอเนเชียร์สู้อยู่อีกไหม? "
หลังเดฟีเรียถามจบแลนด์กรีสก็ทำสีหน้าเหมือนกับว่าคิดหนักทันที ราวกับว่ามันเป็นเรื่องที่ตัดสินใจยากมาก
" ให้สู้ต่อไปแบบนั้นแหละ ยังไงถึงข้าบอกว่าหมอนั่นมันเก่งเอเนเชียร์ก็คงไม่ยอมหยุดสู้หรอก "
ถูกต้องที่สุด! มันเป็นอย่างที่แลนด์กรีสพูดออกมาแบบไม่ต้องสงสัย ขนาดผมอยู่กับเอเนเชียร์ไม่กี่ปีก็รู็นิสัยของเธอแล้วเพราะเธอเองก็มีฝีมือดาบที่ไม่ได้เป็นรองใครเหมือนกัน ถึงจะไม่เคยชนะขวานของผมเลยก็เถอะ แต่นิสัยอยากสู้กับคนเก่งยังไงมันก็แก่ไม่หายหรอกสำหรับเธอ
เคล้ง!
ระหว่างที่กำลังคุยกันการต่อสู้ของทั้งสองคนด้านล่างก็เริ่มขึ้นแล้ว โดยคนที่เข้าโจมตีก่อนก็คือเอเนเชียร์ที่ใช้ดาบเรเปียร์ขนาดเล็กของเธอแทงเข้าไปยังจุดกลางตัวของแชงค์ แต่ก็โดนเอาดาบในมือขวามาป้องกันเอาไว้ได้อย่างง่ายดาย
สุดยอด! ใช่คำนี้ก็ไม่ได้แปลกอะไรเลยกับความสามารถของแชงค์ที่แสดงออกมาให้เห็นตอนนี้ เพราะมันมีไม่มากหรอกทีี่เด็กอายุเท่านี้จะสามารถรับดาบเล็กขนาดนั้นด้วยตัวดาบของตัวเองที่เล็กอยู่แล้วแบบได้อย่างตอนนี้
จากนั้นแชงค์ก็เริ่มใช้ดาบในมืดซ้ายโจมตีใส่เอเนเชียร์ด้านหน้าทันที แต่เธอก็สามารถหลบได้และตีลังกากลับหลังประมาณ 2 ครั้ง ทิ้งระยะห่างอยู่ประมาณ 3 - 4 เมตร นับว่าการตัดสินใจของเอเนเชียร์เป็นเรื่องที่ดีไม่น้อยเพราะตอนนี้ถ้ายังสู้ประชิดตัวต่อ โอกาศที่เธอจะแพ้มีอยู่สูงมาก เพราะฝ่ายตรงข้ามมีดาบสองมือ
" ผู้ชายอะไรกันใช้อาวุธสองมือสู้กับผู้หญิงท่ีมีดาบอยู่เล่มเดียว! "
หลังจากที่เอเนเชียร์ทิ้งระยะหางเธอก็เริ่มพูด้วยน้ำเสียงไม่ชอบใจ แต่ทว่าทางแชงค์ก็ยังคงนิ่งเชย และเข้าท่าพร้อมสู้เหมือนครั้งแรกโดยไม่ได้ตอบกลับอะไรเอเนเชียร์ ผู้คนโดยรอบเองตอนนี้ก็ไม่ได้ส่งเสียงร้องอะไรออกมา ทุกสายตาในสนามต่างกำลังจับจ้องไปที่การต่อสู้ของทั้งสองคนหมด
" อะไรเป็นใบ้หรือไง? "
เอเนเชียร์ยังคงพูดอย่างต่อเนื้องกับแชงค์ที่ยืนอยู่ด้านหน้าของเธอ แต่ทางแชงค์ก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับเหมือนเดิม แต่ยังคงยืนนิ่งเตรียมต่อสู้ ' เจ้าบ้านี่มันอะไรกันเราพูดด้วยก็ไม่พูดด้วย?!?! ' เอเนเชียร์คิดด้วยอารมณ์ไม่พอใจ ใบหน้าของเธอเริ่มปรากฏอารมณ์ไม่พอใจเล็กน้อยออกมาให้เห็น แต่เมื่อผ่านไปไม่กี่วินาที่ก็เหมือนกับว่าเธอจะตั้งสติได้ แล้วก็พุ่งเข้าใส่แชงค์อีกครั้งในท่าเตรียมโจมตี
" เวทย์นัยตาแห่งแสง "
ระหว่างที่เธอกำลังพุ่งตัวเข้าใส่แชงค์เอเนเชียร์ก็เริ่มใช้เวทย์ โดยดวงตาทั้งสองของเธอก็มีแสงสีทองส่องออกมา เหมือนกับมีดวงอาทิตย์อยู่ในตา ส่วนความสามารถของเวทย์ [ นัยตาแห่งแสง ] ที่เธอกำลังใช้อยู่นั้น ก็คือมันจะสามารถอ่่านการเคลื่อนไหวได้เร็วขึ้นกว่าปกติ 20% เท่ากับว่าเธอจะมีความสามารถเพิ่มขึ้นทางด้านความเร็วนั่นเอง
เคล้ง!
เคล้ง!
เคล้ง!
เสียงเอเนเชียร์ใช้ดาบเรเปียร์ของเธอแทงเข้าไปยังจุดที่แชงค์ยืนอยู่อย่างต่อเนื้อง ถึงแม้ตัวดาบเรเปียร์พลังทำลายจะไม่เท่าไหร่ก็จริง แต่ถ้าโดนโจมตีต่อเนื้องแบบนี้มันก็อันตรายเหมือนกััน ' เรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย? หมอนี่มันสามารถปัดการโจมตีของเราออกไปได้ทั้งหมดเลยงั้นเหรอ ' เอเนเชียร์คิดในใจและมีสีน่าตกใจออกมาอยากชัดในตอนนี้ เพราะไม่ว่าเธอจะแทงเข้าไปหลายสิบครั้งและเพิ่มความเร็วด้วยเวทย์นัตตาแห่งแสงแล้วก็ตาม มันก็ยังไม่สามารถทำอะไรแชงค์ด้านหน้าของเธอได้เลย เพราะแชงค์สามารถปัดหลบออกไปได้หมด
และระหว่างที่เอเนเชียร์กับแชงค์กำลังสู้กันอยู่
ฉวบ!
ก็มีเสียงดังขึ้นมาระหว่างทั้งสองคน ซึ่งเสียงที่มันเกิดขึ้นก็คือ...