King X King เมื่อได้เกิดเป็น องค์รัชทายาทลำดับสุดท้าย ตอนที่ 118 สุดยอด
เวทย์หอกสายลม! เป็นเวทย์ใหญ่ที่ราชิณีภูติใช้เมื่อสงครามครั้งที่แล้ว และมันก็สามารถกวาดล้างทหารนับ 10,000 คน ได้ในครั้งเดียว ผมก็เลยสามารถจำขึ้นใจได้เมื่อเห็นมันในครั้งแรกแบบนี้
ปลายหอกขนาดใหญ่ที่จับตัวเป็นก้อนของลมแบบนั้น แล้วยังมีจำนวนมากกว่าบอลไฟสีดำของเรเดียร์อีก สุดยอดจริงๆ! ที่สามารถร่ายเวทย์ออกมาได้รวดเร็วขนาดนี้ สมแล้วที่ใช้แค่คฑาเป็นอาวุธสูู้
จากนั้นหอกลมของเฮสเฟียร์และบอลไฟของเรเดียร์ก็เข้าปะทะกัน
ตูม!!!!!
" ถึงอนุภาพการทำลายเวทย์หอกสายลมจะไม่เท่ากับราชิณีภูติ แต่ก็ยังสามารถใช้เวทย์แบบนั้นได้ เด็กคนนั้นไม่ธรรมดาจริงๆ "
" ข้าก็คิดแบบนั้นเหมือกัน เพราะยังไงเวทย์นั่นขนาดข้าเองก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่ามันต้องเป็นเวทย์ชั้นอะไรถึงใช้ได้ แต่เห็นแบบนี้ก็แปลว่าทหารนับ 10,000 คน ที่โดนเวทย์หอกสายล้มกวาดล้างวันนั้นตายเพราะเวทย์ชั้นต่ำของราชิณีภูติแน่นอน! "
แลนด์กรีสพูดขึึ้นมาก่อน แล้วจากนั้นก็ตามด้วยเดฟีเรียที่นั่งอยู่ข้างกัน
สิ่งที่ทั้งสองคนนี้พูดออกมามันก็ถูกอยู่หรอก เพราะขนาดผมเองก็ไม่คิดว่าเธอจะใช้เวทย์หอกสายลมได้แบบนี้ น่ากลัวจริงๆ! ไม่อยากคิดเลยว่าอีก 5 ปี 10 ปี พลังของเธอจะไประดับไหน เท่านี้ก็เข้าใจแล้วว่าทำไมเผ่าภูติถึงได้ส่งเธอมาสู้เพียงคนเดียวแบบนี้ ไม่แปลกใจเลย
ชักเป็นห่วงเรเดียร์เพราะเงิน 1,000 เหรียญทอง สะแล้วสิ!...
หลังจากเกิดการปะทะกันของเวทย์ทั้งสองก็เหมือนกับว่าเวทย์จะสลายไปเพราะอนุภาพการทำลายไม่ต่างกันมากนัก เรเดียร์เองตอนนี้ก็กำลังทำสีหน้าแปลกใจมองไปที่เฮสเฟียร์ หมอนั่นต้องกำลังตกใจที่เวทย์ของตัวเองโดนลบหายไปแน่ แล้วเฮสเฟีย์ยังสามารถร่ายเวทย์ได้เร็วบบนั้นอีกไม่ตกใจสิแปลก
" องค์ชายการต่อสู้มันพึ่งเริ่มเองนะ "
เฮสเฟียร์พูดออกมาแล้วสบัดคฑาไปยังจุดที่เรเดียร์ยืนอยู่ หลังจากที่เธอสบัดคฑาก็เริ่มมีลมจับตัวกันเป็นกลุ่มก้อนพลังเวทย์ เหมือนกับใบมีดพุ่งตรงเข้าไปยังจุดที่เรเดียร์อยู่ทันที
เมื่อเห็นแบบนั้นทางเรเดียร์ก็ยกโล่ในมือซ้ายของตัวเองขึ้นมาเพื่อเตรียมป้องกัน
เคล้ง!!!!
เสียงเหมือนกับเหล็กกระทบกันดังไปทั่วสนามประลอง ผลจากการปะทะกันทำให้ร่างกายของเรเดียร์ถไหลไปกับพื้นประมาณ 1 เมตร เป็นพลังทำลายที่รุนแรงจริงๆ ถ้าเป็นคนปกติคงโดนเวทย์ลมที่เธอสบัดมาเมื่อกี้ฟันขาดเป็น 2 ท่อนไปแล้ว
" ไม่คิดเลยว่าจะสามารถใช้เวทย์ได้ชำนาญขนาดนี้ "
เรเดียร์พูดชมเฮสเฟียร์ด้วยบหน้ายิ้มแบบอ่อนๆ
" ท่านกำลังดูถูกเผ่าภูติอยู่นะองค์ชาย ท่านคิดว่าทำไมเผ่าภูติถึงได้ส่งข้ามาลงแข่งการประลองนี่เพียงคนเดียวกันละ "
" รู้สึกว่าจะมั่นใจในพลังของตัวเองจังเลยนะ แล้วถ้าเจอแบบนี้ละ "
เมื่อเรเดียร์พูดจบทั้งโล่และดาบของหมอนั้นก็ถูกเคลือบไปด้วยไฟสีดำเหมือนกับเวทย์ไฟที่ใช้โจมตีเมื่อคู่ ตามจริงก็แปลกใจกับไฟสีดำของหมอนี่มาตั้งแต่เห็นครั้งแรกแล้วไม่คิดเลยว่ามันจะมีวิธีใช้แบบนี้ด้วยรู้สึกว่าแบบนี่ต้องลองศึกษามันดูหน่อยสะแล้วสิ เวทย์ไฟสีดำของธาตุความมืด หึหึ!
" อัดพลังลงไปในอาวุธสินะ "
เฮสเฟียร์พรึมพรัมออกมาหลังจากที่เห็นเหตุการณ์ด้านหน้าของเธอ แต่ระหว่างที่เธอกำลังพูดอยู่ผมก็ยังรู้สึกสงสัยอยู่ดี เพราะตอนนี้เธอไม่ได้มีท่าทีกังวลหรือว่าหวาดกลัวพลังของเรเดียร์เลยแม้แต่น้อย อัดพลังแบบนั้นคนที่จะสามารถทำได้มันก็มีเพียงจอมเวทย์ชั้นกลางเท่านั้น ทั้งพลังทำลาย พลังป้องกัน มันเพิ่มขึ้นมากอย่างแน่นอน
แต่มันอาจจะด้วยเธอไม่ได้โจมตีด้วยดาบอยู่แล้วเลยไม่กังวล แต่ศักยภาพด้านร่างกายของเรเดียร์ในตอนนี้ก็เหนือกว่าเธอไปหลายขั้น ไม่ต่างอะไรกับเด็กสู้กับผู้ใหญ่ และทำไมเธอยังทำสีหน้าอย่างนั้นได้อีก
" มันจบแล้วเฮสเฟียร์ถ้าเจ้ายอมแพ้ข้าตอนนี้ข้าจะไม่ทำอะไร "
เรเดียร์เริ่มพูดด้วยใบหน้าที่มีรอยยิ้มแบบอ่อนๆ ไอหมอนั่นมันไม่อายบ้างหรือไงที่ใช้พลังที่เหนือกว่าในการประลอง ในการสู้แบบนี้ นี่มันประเทศของแกนะ เหอะๆ แต่ก็นั่นแหละกฏไม่ได้บอกเอาไว้สักหน่อยว่าห้ามทำ เพราะงั้นเฮสเฟียร์คงจะแพ้แล้วละ
" เจ้าคิดเหมือนกับข้าไหมเดฟีเรีย ถึงท่าทางและพลังของเด็กนั่น คิดยังไงมันก็ใช่อย่างแน่นอน "
แลนด์กรีสเริ่มพูดขึ้นมาเหมือนกับว่ารู้อะไรบางอย่าง โดยดวงตาทั้งสองก็มองตรงไปยังเฮสเฟียร์ที่กำลังยืนอยู่ แต่มันเรื่องอะไร?
" ข้าก็คิดแบบนั้น! รู้สึกว่าราชิณีภูติจะใช้เวทย์อะไรบางอย่างเพื่อป้องกันการตรวจสอบเอาไว้ แต่ความรู้สึกแบบนี้เจ้ากับข้าน่าจะรู้ดีว่ามันเป็นสัมผัสของอะไร "
เดฟีเรียก็ตอบกลับด้วยน้ำเสียงเหมือนกับรู้อะไรบางอย่าง สรุปพวกนี้ทั้งสองคนกำลังพูดถึงเรื่องอะไรกันเนี่ย? ตอนนี้คนที่สงสัยเรื่องที่ทั้งสองคนคุยกันไม่ได้มีแค่ผมเท่านั้น เฮน่ากับเอเนเชียร์ก็กำลังมองทั้งสองคนด้วยแววตาสงสัยเช่นกัน จากนั้นผมก็ได้เริ่มถามออกไปว่า " พวกท่านทั้งสองคนกำลังพูดเรื่องอะไรอยู่ครับ??? "