King X King เมื่อได้เกิดเป็น องค์รัชทายาทลำดับสุดท้าย ตอนที่ 117 คู่แรก
ณ จุดรับชมของขุนนาง
หลังจากที่ผมลงเดิมพันและเดินหนีมากจากเรเดียร์ได้ ผมก็เดินกลับมาที่เดิมทันทีเพื่อรอดูการแข่งขัน แล้วในตอนนี้เดียโรผู้เป็นพิธีกรของสนามประลองก็กำลังเดินขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อหยุดอยู่กลางสนามหมอนั่นก็เริ่มพูดออกมาว่า " ถ้างั้นพวกเราก็มาพบกับนักสู้ทั้งสองคนที่จะเป็นนักสู้เปิดสนามของวันนี้กันเลยครับ "
หลังจากที่เดียโรพูดจบก็มีสองคนเดินขึ้นมาบนสนามประลองกันทันที เอาจริงดิ! เป็นสิ่งที่ผุดขึ้นมาในหัวของผมหลังจากที่เห็นทั้งสองคนเดินมาอยู่บนสนามประลองด้านหน้า เพราะคนท่ี่เดินขึ้นมาเป็นเอลฟ์ 1 คน ภูติ 1 คน และเอลฟ์คนนั้นก็ดันเป็นเรเดียร์อีกต่างหาก ส่วนอีกคนก็เป็นสวมชุดถูกทำขึ้นมาด้วยบไม้สีเขียวสดใส ร่างกายเหมือนกับเฮน่าไม่มีผิดโดยเฉพราะตรงหน้าอก ผิวสีขาวออกไปทางเหลืองนิดหน่อย ใบหน้าสวยงาม แววตากลมโตนัยตาสีเขียว ในมือถือเพียงคฑาเวทย์อยู่ไม่มีอาวุธอื่น
ส่วนเรเดียร์ก็สวมชุดเกราะหนักสีทองทั่วร่างกาย เรียกได้ว่าทั่วจริงๆ ขนาดตัวและความสูงของหมอนั่นเพิ่มขึ้นมาเเยอะเหมือนกันระหว่างที่กำลังสวมชุดเกราะอยู่แบบนั้น ในมือซ้ายก็ถือโล่เหล็กขนาดใหญ่เอาไว้ ส่วนทางมือขวาก็มีดาบขนาดพอเหมาะอยู่ในมือ
ตรวจสอบ!
โห่ว! ไม่คิดเลยว่าจะมีพลังขนาดนี้ เมื่อผมใช้เวทย์ตรวจสอบเพื่อตรวจสอบพลังของภูติที่ยืนอยู่บนสนามผลปรากฏที่ได้มาก็คือ ธาตุลม 93,000 จุด เรียกได้่ว่าพลังอยู่ในช่วงปลายของชั้นต่ำ ถ้าวัดกันตามพลังเวทย์ตัวของเรเดียร์ชนะก็จริง แต่ภูติคนนั้นเองพลังก็ใกล้เข้าชั้นกลางแล้วเช่นกัน ด้านเวทย์ก็คงไม่ต่างอะไรกันมากนัก
ยิ่งถือคฑาแบบนั้นด้วยแล้วแน่นอนว่าเธอต้องถนัดเวทย์มนต์แน่!
" เอาละครับถ้าเช่นนั้นพวกเราก็มาทำความรู้จักนักสู้ทั้งสองคนกันเลยดีกว่า คนแรกก็คือองค์ชายเรเดียร์ของประเทศเอลฟ์ พลังเวทย์อยู่ชั้นกลาง ธาตุความมืด เรียกได้ว่าเป็นผู้มีพรสวรรค์มากที่สุดในประเทศของเอลฟ์ในตอนนี้ "
เดียโรพูดออกมาโดยชี้นิ้วตรงไปทางเรเดียร์ จากนั้นก็เริ่มพูดต่อโดยชี้นิ้วไปทางภูติที่ยืนอยู่อีกฝั่งว่า " ส่วนตัวแทนจากประเทศภูติที่ส่งมาเพียงคนเดียวมีชื่อว่า เฮสเฟียร์ พลังเวทย์อยู่ชั้นต่ำ แต่ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าองค์ชายมากนัก เรียกได้ว่าสุดยอดไม่ต่างจากองค์ชายเลยแม้แต่น้อยเลย ส่วนธาตุพลังเวทย์ของเธอนั่นก็คือธาตุลม!!!! "
" โอววว!!! "
" โอวววว!!!! "
" โอวววววว!!! "
ทันทีที่เดียโรพูดจบเสียงของพวกเอลฟ์ตามจุดที่นั่งคนดูก็พากันตะโกนออกมาอย่างสุดเสียง ทำให้สนามประลองตอนนี้รู้สึกคึกคักอย่างมาก
เมื่อผ่านไปสักพัก
" เช่นนั้นพวกเราก็มาเริ่มกันเลยดีกว่า "
เดียโรก็เริ่มพูดต่อโดยถอยหล่นลงไปเล็กน้อยประมาณ 10 เมตร เพื่อทิ้งระยะห่างจากทั้งสองคน จากนั้นทั้งสองคนก็เริ่มหันหน้าเข้ามาหากันทันเพื่อเตรียมตัวสู้ เฮสเฟียร์ เริ่มยกคฑาขึ้นมาเล็กน้อยเพื่อเตรียมพร้อมสู้ ส่วนทางเรเดียร์ก็ยกดาบกับโล่ขึ้นมาเช่นกัน แต่ตาของหมอนั่นกลับมองมาทางผมด้วยแววตาไม่พอใจ แทนที่จะมองเฮสเฟียร์ที่เป็นคู่ต่อสู้ของตัวเองอยู่
เฮย เฮย เฮย อย่ามามองกันแบบนั้นสิ เมื่อกี้นายยังหัวเราะกับฉันอยู่เลยนะ แล้วอีกอย่าง ฉันลงเดิมพันนายไปเยอะนะ อย่าแพ้ให้เฮสเฟียร์ตั้งแต่รอบแรกสะละ เหอะๆ
" เริ่มสู้ได้!!! "
เสียงของเดียโรตะโกนออกมาเพื่อเป็นสัญญาณเริ่มต่อสู้
เมื่อการต่อสู้เริ่มขึ้นเฮสเฟียร์ก็ใช้เวทย์ลมกับเท้าทั้งสองข้างของเธอเพื่อเพิ่มระยะห่างทันที โดยถไหลขาทั้งสองข้างไปกับพื้นอย่างรวดเร็วเหมือนไหลบนน้ำแข็ง ที่ต้องทำแบบนี้ก็น่าจะเป็นเพราะว่า ในตอนนี้เธอยังไม่สามารถใช้เวทย์บินได้ ทางเลือกอย่างการทิ้งระยะห่างทันทีหลังเริ่มต่อสู้ มันก็ถือว่าเป็นความคิดที่ดีที่สุด เพียงไม่กี่วินาทีจากระยะห่างไม่กี่เมตรมันก็ไปไกลกว่า 10 เมตรเข้าไปแล้ว
แต่ดูเหมือนว่าทางเรเดียร์เองก็ไม่แพ้กันเพราะหมอนั้นเข้าใจถึงความเร็วของเวทย์ลมดีก็เลยไม่วิ่งไล่ตาม แถมกำลังเริ่มใช้เวทย์บอลไฟสีดำขนาดเท่าหัวคนที่เป็นเวทย์โจมตีระยะไกลแทน ตอนนี้รอบตัวของเรเดียร์เต็มไปด้วยเวทย์บอลไฟนับสิบลูกี่ด้านหลัง จากนั้น
" โจมตี!!!
เรเดียร์ก็เริ่มสั่งเวทย์บอลไฟดำเริ่มโจมตีทันทีโดยขยับมือเล็กน้อยเพื่อสั่งให้มันวิ่งไปด้านหน้า ลูกบอลไฟทั้งหมดก็พุ่งตรงเข้าไปยังจุดทีเฮสเฟียร์กำลังยืนอยู่ตามคำสั่ง
ถึงตอนนี้แม้เธอสามารถใช้เวทย์เพื่อเพิ่มความเร็วให้ได้ก็จริง แต่ถ้ายังอยู่บนพื้นก็ไม่สามารถหลบเวทย์ไฟขนาดนั้นทันแน่นอน ทางเลือกของเธอตอนนี้มีทางเดียวเท่านั้นก็คือ ป้องกัน!
แต่ระหว่างที่ผมกำลังคิดว่าเธอต้องป้องกันอยู่นั้น เธอก็ทำสิ่งตกใจให้เห็นจนได้ ซึ่งสิ่งที่เธอกำลังทำอยู่ตอนนี้ก็คือ....
เกล็ดความรู้ : เวทย์ไฟของเรเดียร์ที่เขียน!
เวทย์ไฟของเรเดียร์เป็นเวทย์ไฟสีดำนะครับ จะเรียกว่าบอลความมืดฟังดูแล้วยังไงอยู่ ผมก็เลยเปลี่ยนเป็นบอลไฟแทน อาจจะมีคนสงสัยกันบ้าง แต่ให้เข้าใจว่ามันเป็นบอลไฟสีดำคล้ายกับไฟของ ซาสึเกะตอนใช้เนตรวงแหวนนะครับ!