King X King เมื่อได้เกิดเป็น องค์รัชทายาทลำดับสุดท้าย ตอนที่ 113 องค์ชายเรเดียร์
เอลฟ์! แบบที่คิดเอาไว้ไม่มีผิด... ไม่สิ! ต้องพูดว่าผิดคาดนิดหน่อยเพราะที่กำลังยืนอยู่ที่ด้านหน้าของผมตอนนี้เป็นเอลฟ์ผู้ชายสวมเสื้อสีขาว ผ้าคลุมสีทอง ผิวสีขาวหน้าตาเรียกว่าหล่อแต่ปกติพวกเอลฟ์มันก็หล่อสวยกันอยู่แล้ว ที่ด้านหลังของหมอนั่นก็มีทหารสวมชุดเกราะหนักสีแดงยืนอยู่ด้านหลังสองคน
" องค์ชายเรเดียร์ "
เอเนเชียร์พรึมพรัมออกมา แต่ก็นั่นแหละ แค่ดูก็รู้แล้วว่าหมอนี่มันเป็นองค์ชายเพราะผ้าคลุมที่เป็นสัญลักษ์สีทองด้านหลังนั่นเป็นผ้าคลุมของราชวงศ์เอลฟ์ ส่วนทหารอีกทั้งสองคนด้านหลังต่างก็มีพลังเวทย์ขั้นสูงทั้งสองคน มีธาตุไฟและธาตุน้ำ
" เอเนเชียร์เจ้าทำกับข้าอย่างนี้ได้ยังไง "
เรเดียร์เบนหน้าไปทางเอเนเชียร์แล้วก็พูดออกมาเหมือนกับว่ากำลังเจ็บใจอะไรบางอย่างอยู่ ตกลงหมอนี่มันจะมาหาเรื่องเราหรือว่ามาหาเรื่องเอเนเชียร์กันละเนี่ย???
" องค์ชายกำลัพูดเรื่องอะไรคะ ชิ!
ชิ! เมื่อกี้ผมได้ยินไม่ผิดแน่ เอเนเชียร์ที่ตอบด้วยน้ำเสียงน่ารำคาณชิออกมาทำให้ทางเรเดียร์ตอนแรกดูเหมือนไมพอใจอยู่แล้ว ทวีคูณความไม่พอใจเข้าไปอีก และที่แปลกก็คือกำลังมองมาทางผมแทนเอเนเชียร์สะแล้ว
" เจ้าออกห่างจากเอเนเชียร์เดียวนี้นะ! "
หมับ!
สิ้นเสียงคำพูดกำลังโมโหของเรเดียร์ เอเนเชียร์ก็ใช้มือทั้งสองข้างของเธอเกราะแขนขวาของผมทันที แล้วก็เริ่มพูดต่อ " ไม่ได้! ท่านคิดว่าท่านเป็นใครถึงได้มาสั่งดรารอน์แบบนี้ "
กัดฟัน! กำหมัด! หน้าเหมือนเส้นเลือดจะระเบิด! นี่เป็นอาการของเรเดียร์ในตอนนี้ ดูยังไงหมอนี่ก็กำลังโมโหแบบสุดขีดเหมือนกำลังจะระเบิดออกมาอยู่แล้ว แต่ระหว่างที่ผมกำลังมองเรเดียร์ในท่าทางกำลังจะระเบิดความโกรธอยู่ เสียงของพวกเอลฟ์ที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่ก็พากันพูดออกมา
" -องค์ชายเรเดียร์เห็นว่าชอบท่านเอเนเชียร์มากเลย เห็นว่าตามจริงต้องได้มั่นกันไปแล้วแต่ท่านเอเนเชียร์ไม่ยอมมั่นก็เลยทำให้วุ่นวายกันไปหมด "
" -ข้าเองก็เคยได้ยินมาเหมือนกัน ดูเหมือนว่าทั้งสองคนต่างก็โดนกำหนดเอาไว้แล้ว แต่เมือไม่นานมานี่ท่านเอเนเชียร์กับไม่ยอมมั่นด้วย ก็เลยทำให้องค์ชายอารมณ์เสียมาก "
" -ว่ากันว่าสาเหตุมันมาจากองค์ชายของประเทศมนุษย์คนที่ท่านเอเนเชียร์กำลังยืนอยู่ด้วยคนนั้น "
เข้าใจแล้ว! เพียงแค่ฟังพวกเอลฟ์ที่กำลังยืนดูเหตุการณ์อยู่ผมก็สามารถเข้าใจได้ทันทีว่าทำไมเรเดียร์มันถึงได้มีท่าทางแบบนั้น เหอะๆ ส่วนทางเอเนเชียร์ที่กำลังเกราะแขนของผมอยู่ตอนนี้เธอก็กำลังจ้องมองไปที่เรเดียร์ด้วยสีหน้าแบบชั่วร้าย ดูเหมือนยัยนี้จะสะใจมากสินะที่ทำแบบนี้ รู้ไหมคนที่ลำบากมันฉันคนนี้นะ เฮ้อ~
" ยอมได้! ....ถ้าเจ้าเป็นคนเลือกทางแบบนี้เองข้าเองก็จะข้าสู้แบบสมเกียติ "
เรเดียร์พรึมพรัมออกมาโดยชักดาบออกมาจากฟักด้วย อะไร? สู้แบบสมเกียติหมอนี่มันกำลังพูดเรื่องอะไรอยู่ นี่เราทำความผิดไปแล้วงั้นเหรอแล้วเอาดาบออกมาแบบนั้นอย่าบอกนะว่า...
" ข้าองค์ชายอันดับสองของประเทศเอลฟ์ขอท้าดวลกับเจ้า องค์ชายดรารอน์แห่งประเทศเมซัส "
เป็นแบบที่คิด! เรเดียร์ชี้ดาบมาทางผมแล้วก็พูดออกมาซึ่งแบบนี้ทางประเทศเอลฟ์จะเรียกว่า ท้าดวลชนชั้นสูง! ซึ่งความหมายของมันก็ตรงตามชื่อนั่นก็คือ เมื่อมีการทำอะไรแบบนี้ก็หมายความว่าต้องต่อสู้กันตามกฏของประเทศเอลฟ์ เพราะมันก็คล้ายกับกฏประจำประเทศของประเทศเมซัสที่เชสเตอร์ท้ากับผมเมื่อไม่กี่เดือนก่อน
แต่กฏของเอลฟ์นั้นเคร่งและมีเงื่นไขเยอะกว่านิดหน่อย โดสแบ่งออกได้ 3 ข้อดังนี้
1. ผู้แพ้ต้องยอมรับแต่โดยดีและไม่สามารถท้าสู้กับใครได้อีก
2. เมื่อแพ้ต้องเสียยศทั้งหมดของตัวเองทันทีซึ่งก็หมายความว่าหมอนี่มันเอายศองค์ชายของมันมาประลองกับผม
3. ต้องทำตามคำสั่งของผู้ชนะต้องการ 3 อย่าง ซึ่งที่หมอนี่ต้องการจากผมก็เป็นกฏข้อที่ 3 แน่นอน มันคงจะสั่งให้ผมเลิกยุ่งกับเอเนเชียร์แน่ๆ
แต่ก็ไม่คิดเลยว่าใจมันจะกล้าแบบนี้ หึหึ!
บรรยกาศในห้องตอนนี้ต่างก็เงียบสงบและไม่มีใครกล้าพูดอะไรออกมา เพราะทุกคนไม่ว่าจะเป็นเผ่าไหนก็เข้าใจดี กับสิ่งที่เรเดียร์ท้าผมอยู่ตอนนี้ จากนั้นผมก็ตอบออกไปว่า...