26
Ep.26
ต่อมา หลังจากตามมู่อ้าวซวงออกจากห้อง ฉู่เซวียนก็พบว่าที่แท้พวกเขายังคงอยู่ในตึกสูงหลังเดิม
ช่วงเวลานี้ โลกภายนอกเละเทะไปหมด เต็มไปด้วยซากปรักหักพังจากการต่อสู้
ส่วนซอมบี้เลเวลต่ำที่เดิมมารวมตัวกันหนาแน่น ตอนนี้หายหัวไปหมดแล้ว
“อ้าว แล้วซอมบี้เลเวลสูงที่เหลือไปไหนซะล่ะ?” ฉู่เซวียนคิดยังไงก็ไม่ได้คำตอบ เลยเอ่ยถามออกมา
“ฉันปล่อยให้พวกเขากลับไปยังอาณาเขตเดิมของตัวเองแล้ว เพราะยังไงซะ พวกซอมบี้เลเวลต่ำตัวอื่นๆในเมืองตงเฉิงจำเป็นต้องมีพวกเขาคอยควบคุม” มู่อ้าวซวงอธิบาย
“ส่วนพวกซอมบี้เลเวลต่ำก่อนหน้านี้ พวกมันมารวมตัวกันช่วยป้อนพลังงานแก่อี้อี้ เพื่อฟื้นฟูอาการบาดเจ็บของเธอ”
ได้ยินคำอธิบายเหล่านี้ ฉู่เซวียนขมวดคิ้วทันที
“อี้อี้เป็นซอมบี้ลอร์ดไม่ใช่หรอ ทำไมเธอถึงยังได้รับบาดเจ็บอีก?” ฉู่เซวียนอดถามขึ้นมาไม่ได้
“ฮะ?” มู่อ้าวซวงพอได้ฟังถึงกับหลุดขำ เหลือบมองฉู่เซวียนราวกับคนซื่อบื้อ “น้องชาย นายคิดว่าขอบเขตเทพสงครามหรือซอมบี้ลอร์ดคือจุดสูงสุดของโลกนี้แล้วหรอ?”
“ทำไมเธอถึงพูดแบบนั้น?”
แม้ฉู่เซวียนพอจะเดาได้นิดหน่อยว่าขอบเขตเทพสงครามหรือลอร์ดจะไม่ใช่จุดสูงสุดของความแข็งแกร่ง แต่เมื่อได้ยินจากปากคนอื่น ก็เป็นธรรมดาที่จะอยากรู้
“ตัวนายในตอนนี้ ยังไม่มีคุณสมบัติที่จะรู้เรื่องนี้” มู่อ้าวซวงส่ายหัว เอ่ยตัดบทสนทนาในประโยคเดียว
“รอจนนายไปถึงระดับเดียวกับอี้อี้ แล้วจะรู้เอง ว่าโลกใบนี้ มันไม่ง่ายอย่างที่คิด”
...
หลังจากพักผ่อนต่ออีกสองสามวัน และรวบรวมเสบียงจำนวนมากในบริเวณใกล้เคียง ฉู่เซวียนก็เอ่ยอำลาพวกสาวๆ เพราะอย่างไรเสีย จุดหมายเดิมของเขาคือฐานเทียนหัว
เดิมอี้อี้ก็อยากไปกับฉู่เซวียนเพื่อเที่ยวดูฐานมนุษย์ แต่เมื่อนึกถึงเรื่องที่ว่าพลังรบของเธอยังไม่ฟื้นตัว บวกกับถูกมู่อ้าวซวงคัดค้านก็ต้องยอมตัดใจ
แม้ระดับของอี้อี้จะเหนือกว่า แต่เธอกลับยอมฟังมู่อ้าวซวง ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม อาจเป็นเพราะทั้งสองเหมือนดั่งพี่สาวน้องสาว มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาก อีกทั้งส่วนใหญ่จะเป็นมู่อ้าวซวงที่คอยดูแลเธอ ดังนั้นยอมทำตาม
...
ท่ามกลางพื้นที่รกร้าง พืชกลายพันธุ์นับไม่ถ้วนปกคลุมหนาแน่น สิ่งมีชีวิตบางอย่างที่ซ่อนอยู่ในพงหญ้าย่อตัว จากนั้น .. กระโจนออกมาอย่างรวดเร็ว!
ก๊าซซ!
เหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว เห็นแค่เพียงกระต่ายขนาดเท่าลูกวัวโผล่มาทางด้านหลัง มันอ้าปากกว้างหมายจะกลืนเป้าหมายลงท้องในคราเดียว
ขนาดของกระต่ายไม่เพียงใหญ่โตผิดปกติ แต่ในปากยังเต็มไปด้วยเขี้ยวแหลม นัยน์ตาสีแดงวาววับเผยให้เห็นถึงความบ้าคลั่ง ชัดเจนว่ามันเกิดการกลายพันธุ์
แต่ในวินาทีถัดมา เสียงแหวกอากาศพลันดังขึ้น ทุกสิ่งเกิดขึ้นรวดเร็วจนกลายเป็นภาพติดตา
ฟัฟฟฟ!
เสียงคมแหลมตัดผ่านเนื้อดังขึ้น รอยสีแดงเลือดเป็นเส้นยาวผุดซึมบนคอกระต่าย หัวของมันกลิ้งหล่นลงกับพื้น
ฉู่เซวียนหดใบมีดกระดูกกลับเข้ามาในแขน ก้มลงมองศพที่กระตุกอยู่บนพื้น กล่าวอย่างเฉยเมยว่า “ตัวที่สิบห้าแล้ว ... ระบบ ทำการฟิวชั่น”
ศพกระต่ายกลายพันธุ์เปลี่ยนเป็นจุดแสง ไหลมารวมเข้ากับร่างของฉู่เซวียน
แม้ด้วยความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายจะไม่ช่วยเพิ่มค่าสเตตัสใดๆ แต่อย่างน้อยมันช่วยขจัดความเหนื่อยล้าในการเดินทางครั้งนี้ได้
ช่วงเวลานี้ ฉู่เซวียนออกจากเมืองตงเฉิงมาได้ซักพักแล้ว เขาได้รู้ข้อมูลในวันสิ้นโลกเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย ว่าพื้นที่รกร้าง มันต่างจากในเมือง --ซอมบี้ไม่ใช่เจ้าถิ่นอีกต่อไป!
แต่ผู้ที่ควบคุมอาณาเขตนี้ คือเหล่าสัตว์กลายพันธุ์และพืชกลายพันธุ์!
ก่อนหน้านี้ ฉู่เซวียนเผลอประมาทนิดเดียว บังเอิญเฉียดเข้าไปใกล้ต้นไม้สีเลือดที่มีความสูงสิบเมตร เกือบเอาชีวิตไม่รอด
ต้นไม้สีเลือดนั้น ทั้งกิ่งและใบปกคลุมไปด้วยฟันแหลม อีกทั้งยังมีเถาวัลย์น้อยใหญ่ห้อยลงมา
แต่สิ่งที่ทำให้ ฉู่เซวียนตกใจมากที่สุดก็คือ เจ้าพืชบ้านั่นดันมีพลังรบอยู่ในเลเวล 5!
มันเลยสามารถควบคุมเถาวัลย์จากต้นอื่นๆช่วยโจมตีเป้าหมายได้
ถ้าไม่ได้เปิดใช้งานอบิลิตี้คลุ้มคลั่งเพื่อหนีเอาตัวรอด เกรงว่าฉู่เซวียนคงไม่ใช่แค่เฉียดประตูนรก แต่คงถูกโยนเข้าไปแล้ว