ตอนที่แล้ว12 - รักแรกพังทลาย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป14 - ไม่มีอะไรมากก็แค่แขนหัก

13 - ฉันแค่ทำให้แน่ใจว่าเขาจะตั้งใจเรียน


13 - ฉันแค่ทำให้แน่ใจว่าเขาจะตั้งใจเรียน

ในตอนนี้นักเรียนเกเรของโรงเรียนมัธยมกลางที่ 3 ก็คุยกันในกลุ่มแชทของพวกเขา พวกเขามีสมาชิกเพียงสิบคนในกลุ่มนี้

พวกเขาทั้งหมดถือได้ว่าเป็นหัวโจกเรื่องความเกเรของโรงเรียน

พวกเขาสนุกกับการกลั่นแกล้งเพื่อนนักเรียน แม้ว่าการกลั่นแกล้งเพื่อนนักเรียนของพวกเขาอาจจะทำให้พวกเขาเรียนไม่จบ แต่พวกเขาก็ไม่เคยสนใจอยู่แล้ว

“เฉินหยางปี 3 ห้อง 2 มีใครรู้จักเขาหรือเปล่า?”

“ฉันรู้ ไอ้กะเทยนั่นน่ะเหรอ?”

“ตอนเที่ยงไอ้เหม็นถังเจี๋ยถูกเฉินหยางตี ฉันได้ยินจากเพื่อนของฉันว่าเฉินหยางทุบกำแพงตรอกหน้าโรงเรียนของเราด้วยหมัดจนกำแพงแตกเป็นรู ไอ้เหม็นถังเจี๋ยเกือบจะฉี่ราดแหน่ะ”

“เชี่ย! จริงดิ?”

"คนบ้าอะไรมันจะต่อยกำแพงเป็นรูได้แกฟังมาผิดหรือเปล่า"

"แกถูกต้มแล้วเพื่อน!"

“ไม่ใช่แน่นอน ไม่ว่ายังไงพวกเราก็ไม่ควรไปยั่วโทสะไอ้บ้านั่นอีก”

“ไร้สาระน่า ถ้าเฉินหยางแข็งแกร่งขนาดนี้ เขาจะถูกพวกเรารังแกมาหลายปีขนาดนี้ได้ยังไง”

"เรื่องไร้สาระอยู่แล้ว"

“พวกนายกำลังพูดถึงกำแพงนี้หรือเปล่า”

นักเรียนเกเรคนหนึ่งโพสต์รูปลงในกลุ่ม

“???”

"???"

"..."

“ไอ้เวร...”

แชทกลุ่มหยุดกะทันหัน ราวกับว่าโทรศัพท์ของทุกคนถูกไวรัสพร้อมกัน

“บ้านของฉันอยู่ที่หน้าโรงเรียน หลังจากที่ได้ยินพวกแกพูดฉันก็เดินไปถ่ายรูปนี้มา!”

ยังคงเงียบสนิทไม่มีใครสามารถตอบสนองต่อความตกใจนี้

ตามปกติแล้วคนกลุ่มนี้ทำตัวเป็นเด็กเหลือขอในโรงเรียน พวกเขากลั่นแกล้งกลุ่มผู้ด้อยโอกาสเพื่อความบันเทิงส่วนตัว

แต่ที่บ้าน พวกเขาส่วนมากก็เป็นเครื่องระบายอารมณ์ให้กับพ่อแม่ที่ไม่เคยเอาใจใส่

การรังแกคนอื่นจึงเป็นเรื่องสนุกและการระบายอารมณ์ไปในตัวของพวกเขา แต่เมื่อพวกเขาเจอตอที่แข็งหน่อย พวกเขาก็จะกลัวโดยธรรมชาติ

ในช่วงบ่ายหลินฟ่านรับเงินจากหญิงวัยกลางคนในขณะที่เขาเดินไปรอบๆร้านค้าใกล้ๆโรงพยาบาลโดยไม่รู้ว่าจะซื้ออะไรไปเยี่ยมไข้

แม้ว่าเงิน 200 หยวนจะสามารถซื้อของได้มากมาย แต่เพื่อนนักเรียนกว่า 40 คนอยู่ในโรงพยาบาล ดูเหมือนว่าเงิน 200 หยวนนี้จะห่างไกลจากคำว่า “พอ” เป็นอย่างมาก

เจ้าของร้านเห็นเขาเดินไปเดินมาจึงถามว่า

“น้องชาย เธอมาซื้อของฝากไปเยี่ยมไข้เหรอ?”

"ใช่."หลินฟ่านพยักหน้า

เจ้าของร้านพูดอย่างกระตือรือร้นว่า “ถ้าอย่างนั้นน้องชายก็ซื้อนมสักสองกล่องใหญ่สิ”

หลินฟ่านมองไปที่สองร้อยหยวนอีกครั้ง มันเพียงพอที่จะซื้อนม 2 กล่องใหญ่จริงเหรอ?

“ซื้อนม 2 กล่องใหญ่ ถ้าเงินเหลือก็เอาไส้กรอกทั้งหมด”

หลินฟ่านวางเงินสองร้อยหยวนไว้บนเคาน์เตอร์ เขารู้สึกว่าการแจกจ่ายแบบนี้ดีที่สุด

เจ้าของร้านหลินฟ่านด้วยความชื่นชมเล็กน้อย ลูกค้าแบบนี้ค่อนข้างหายาก

เธอเดินกลับเข้าไปหลังร้านก่อนจะห่อของทุกสิ่งทุกอย่างใส่ถุงกระดาษออกมาให้เขา

หลินฟ่านกอดนมสองกล่องกับไส้กรอกหลายชิ้นและเดินจากไป

“ช่างเป็นนักเรียนที่แปลกอะไรเช่นนี้”

เจ้าของร้านรู้สึกว่าหลินฟ่านมีพฤติกรรมแปลกอยู่บ้าง แต่เธอก็ไม่เข้าใจว่าแปลกตรงไหน

……..

โรงพยาบาล.

หลินฟ่านไม่รู้ว่าเพื่อนนักเรียนของเขาเข้าพักอยู่วอร์ดไหน เขายืนครุ่นคิดอยู่นานที่ชั้นล่างในห้องผู้ป่วยใน

จากนั้นเขาก็กอดสิ่งของและเริ่มเดินขึ้นไปจากชั้นแรก โดยตั้งใจจะสำรวจทุกชั้น

ตราบใดที่เขาเริ่มเดินหาอย่างละเอียด เขาจะได้พบเพื่อนๆอย่างแน่นอน

จนกระทั่ง ชั้นที่สิบแปด

ในที่สุดเขาก็พบทุกคน

ภายในวอร์ด เพื่อนนักเรียนหลายคนกำลังคุยกัน พวกเขายังมึนงงอยู่เล็กน้อย จนถึงตอนนี้พวกเขายังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น มีเพียงข้อสันนิษฐานจากหมอที่บอกว่าพวกเขาถูกไฟฟ้าช็อต

คำพูดดังกล่าวเป็นเรื่องยากที่จะทำให้นักเรียนพอใจ แต่พวกเขาก็จำอะไรไม่ได้ พวกเขาจำได้แต่เพียงว่าพวกเขาเห็นเพื่อนร่วมชั้นกำลังเต้นอยู่ พวกเขาก็เลยเข้าไปร่วมสนุกด้วย

หลังจากนั้นความทรงจำของพวกเขาก็ดำมืดไป

“หลี่หยวนฮ่าว ในตอนที่ฉันสัมผัสตัวนายฉันก็หมดสติทันที นายเป็นคนทำเรื่องนี้หรือเปล่า”

“โจวหยวน อย่าใส่ร้ายคน”

“เลิกพูดเรื่องไร้สาระได้แล้ว เฉินหยางบอกว่าเขากำลังจะมาที่นี่ พวกเราทำห้องมาอยู่ในโรงพยาบาล แล้วทำไมเขาถึงไม่เป็นอะไรเหมือนคนอื่น?”

“มีแต่ผีเท่านั้นแหละที่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา”

ในขณะที่นักเรียนกำลังพูดคุยกันก็มีเสียงฝีเท้าดังมาจากประตูของวอร์ด

“สวัสดีเพื่อนๆ ฉันมาเยี่ยมพวกนายแล้ว” หลินฟ่านยืนอยู่ที่ประตูโดยกอดนมกล่องใหญ่และไส้กรอกจำนวนมาก

ทันทีที่เขาปรากฏตัวขึ้นภายในห้องก็เงียบสนิท!

เพื่อนนักเรียนที่กำลังพูดอยู่จู่ๆร่างกายของพวกเขาก็หยุดชะงัก สำหรับพวกเขา สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือพวกเขาทั้งหมดอยู่ในโรงพยาบาล มีเพียงเฉินหยางเท่านั้นที่ยังปกติสุขอยู่

มิหนำซ้ำยังเอาของมาเยี่ยมไข้พวกเขาอีกด้วย

เรื่องนี้ดูน่ากลัวเล็กน้อย!

“อาการของพวกนายเป็นยังไงบ้าง? ครั้งต่อไปถ้าพวกนายเหนื่อยพวกนายก็ขออาจารย์กลับไปที่บ้านไม่ต้องนอนอยู่บนพื้นแบบนั้น”

หลินฟ่านวางนมและไส้กรอกลงบนเตียงที่อยู่ใกล้ๆ เขาหยิบแก้วที่อยู่ในตู้หัวเตียงออกมาพร้อมกับรินนมที่เขาซื้อมาแจกจ่ายให้กับเพื่อนๆ

"ดื่มนมก่อน"

หลินฟ่านมีรอยยิ้มจางๆบนใบหน้า ซึ่งเป็นรอยยิ้มที่เป็นเครื่องหมายการค้าของเขา

เพื่อนนักเรียนมองไปที่หลินฟ่านด้วยความประหลาดใจ เขาต้องการที่จะปฏิเสธ แต่บางสิ่งบางอย่างบอกกับเขาว่าหากเขาปฏิเสธเฉินหยางจะรู้สึกไม่พอใจมาก

และนั่นเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำอย่างเด็ดขาด!

"ขอบคุณ."

“ไม่เป็นไร ฉันมักจะให้ความช่วยเหลือคนอื่นอยู่เสมอ ตัวอย่างเช่นตอนที่ฉันอยู่ในชิงซาน…”

หลินฟ่านหยุดพูดอย่างกระทันหัน เขาตระหนักว่าเขาไม่ควรพูดมากเกินไป ทุกคนที่อยู่ที่นี่ล้วนเป็นคนปกติซึ่งแตกต่างจากเขาอย่างสิ้นเชิง

1 คน นม 1 แก้ว ไส้กรอกคนละชิ้น

แค่นั้นแหละ.

เขาส่งไปทีละคน

" ทานให้อร่อยนะ " หลินฟ่านมอบสิ่งของให้จางฮ่าว

จางฮ่าวรีบประสานมือขอบคุณอย่างมีมารยาท

“ขอบคุณ ขอบคุณจริงๆพี่เฉิน มันจริงหรือเปล่าที่วันนี้พี่เอาชนะถังเจี๋ยตอนเที่ยง เพื่อนๆในกลุ่มของฉันเล่าให้ฟัง”

"เพื่อนนักเรียนจางนายกำลังเข้าใจผิด ฉันไม่ได้ทุบตีเขา ฉันแค่ทำให้แน่ใจว่าเขาจะตั้งใจเรียนในอนาคต" หลินฟ่านพูดอย่างเฉยเมย

แน่นอนว่าถังเจี๋ยถูกทุบตีอยู่แล้ว! นี่คือข้อสรุปจางฮ่าว

จางฮ่าวพยายามบอกตัวเองให้เชื่อคำพูดของเฉินหยาง เขาพยักหน้าหงึกหงักอย่างรวดเร็ว

มันไม่มีประโยชน์อะไรที่จะต่อต้านคนที่แข็งแกร่งกว่าและทำให้ตัวเองได้รับความเจ็บปวดโดยไม่จำเป็น

เฉินหยางทุบตีถังเจี๋ยอย่างน่าสังเวช แม้ว่าเขาจะไม่ได้เห็นด้วยตาตัวเอง แต่ภาพผนังที่ถูกส่งเข้ามาในกลุ่มก็ทำให้เขารู้สึกโชคดีที่ไม่ได้หาเรื่องเฉินหยางมากไปกว่านี้

“พี่เฉิน ฉันอยากจะแข็งแกร่งเหมือนพี่ มันพอจะมีโอกาสเป็นไปได้ไหม” จางฮ่าวถาม

หลินฟ่านทำหน้าสงสัยก่อนจะฉีกยิ้มด้วยความยินดี

“ยอดเยี่ยมไปเลย ฉันจะฝึกฝนให้นายแข็งแกร่งเหมือนฉันอย่างแน่นอน”

จางฮ่าวที่ได้ยินแบบนั้นก็ตื่นเต้นมาก

พี่เฉินจะเปิดเผยความลับที่อยู่เบื้องหลังความแข็งแกร่งของเขา

แต่สิ่งที่เขาไม่รู้คือเขากำลังพบเจอกับ..

การฝังเข็มแบบทางช้างเผือก!

การบำบัดด้วยไฟฟ้าช็อต!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด