เทพสงครามหวนคืน ตอนที่ 6 โล่ลมปราน
จากนั้นเมื่อเธอพูดจบ ก็กระโดดเข้าไปหาหยางเฉินทันทีโดยใช้มือซ้ายง้างเอาไว้เตรียมโจมตีใส่ ส่วนทางด้านของหยางเฉินตอนนี้ก็ยืนมองเธอที่กระโดดเข้ามา แล้วคิดในใจไปด้วย ' เป็นแบบที่เราคิดเอาไว้จริงด้วย โลกนี้มีการนับระดับต่างจากแดนศักดิ์สิทธ์เพราะเมื่อกี้เธอพูดออกมาว่าระดับกลาง '
ตุ๊บ! ตุ๊บ!
เสียงของหวังหลินโจมตีใส่หยางเฉินที่ยืนอยู่แต่ว่าทุกการโจมตีของเธอกลับเข้าไม่ถึงตัวของหยางเฉินแม้แต่น้อย ' นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย ' หวังหลินคิดขณะที่โจมตีอยู่ ตุ๊บ! ตุ๊บ! ตุ๊บ!
แต่ไม่ว่าหวังหลินจะโจมตีเท่าไหร่การโจมตีของเธอมันก็เข้าไม่ถึงตัวของหยางเฉิน ' รู้สึกว่าที่โลกจะไม่รู้จักโล่ลมปรานสินะ ' หยางเฉินคิดขณะที่มองหวังหลินโจมตีใส่ตนอยู่พร้อมกับใบหน้าที่ยิ้มออกไปเล็กน้อย
สาเหตุที่หวังหลินโจมตีไม่โดนหยางเฉินอยู่นั้น ตอนนี้เป็นเพราะว่ารอบตัวของหยางเฉินมีโล่ลมปรานอยู่สิ่งที่เรียกว่าโล่ลมปรานจะสามารถป้องกันการโจมตีของคนที่มีระดับพลังน้อยกว่าของตัวเองได้ ก็เท่ากับว่าพลังของหยางเฉินตอนนี้เยอะกว่าพลังของผู้ฝึกต้นระดับกลางไปแล้ว มันก็เลยทำให้การโจมตีของหวังหลินทั้งหมดไม่ได้ผล
" เธอเหลือเวลาอีก 20 วินาที " หยางเฉินพูดออกมาพร้อมกับใบหน้ายิ้มเล็กน้อยมองใส่หวังหลินที่กำลังโจมตีตนอยู่ด้วยร่างกายที่เต็มไปด้วยเหงื่อท้วมตัว
จนเวลาผ่านไปประมาณ 10 วินาที เธอก็ได้ตะโกนออกมา " ไม่เอาแล้ว นี่มันพลังบ้าอะไรกัน "
" แบบนี้หมายความว่ายอมแพ้แล้วใช่ไหม? "
" ชิ!!! " หวังหลินพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเจ็บใจ แล้วก็หันหลังกลับเดินตรงไปยังจุดที่ปู่ของเธอหวังเฟ่ยกำลังยืนอยู่ " คุณปู่นั้นมันอะไรกันทำไมหนูทำอะไรไม่ได้เลย " เธอพูดออกมา แล้วก็ชี้ไปยังจุดที่หยางเฉินกำลังยืนอยู่
" ปู่ก็บอกไปแล้วไม่ใช่หรือไง ขนาดเสี่ยวไป่ยังทำอะไรปรมจารย์หยางไม่ได้เลย เห้อออ~ " หวังเฟ่ยพูดแล้วก็ถอนหายใจออกมาด้วยท่าทางเหนื่อยใจ จากนั้นก็เดินเข้าไปหาหยางเฉินที่ยืนอยู่ แล้วพูดขึ้นพร้อมกับทำท่าขอบคุณ " ขอบคุณท่านปรมจารย์มากที่ช่วยชี้แนะหลานสาวของข้า "
" ช่วยเอาเคล็ดวิชาที่พวกคุณฝึกมาให้หน่อย เมื่อกี้ผมรู้แล้วว่าควรแก้ตรงไหน "
"....คะ ครับ- " หวังเฟ่ยพูดออกมาด้วยน้ำเสียงตกใจ จากนั้นก็หันไปทางหวังหลินที่ยืนอยู่และพูดออกไป " ไปเอาเคล็ดวิชามาเร็ว "
" เอ่ะ!- นี่ปู่เอาจริงเหรอ นั้นมันเคล็ดวิชาประจำตระกูลของเราเลยนะจะมาให้คนนอกเห็นแบบนี้- "
" ก็บอกให้ไปเอามา!!! " หวังเฟ่ยขึ้นเสียงใส่หลินที่กำลังพูดอยู่ แล้วเธอก็หยุดพูดทันที และก็เดินออกไปจากห้องส่วนหวังเฟ่ยที่ยืนอยู่ก็มองไปที่หยางเฉินแล้วคิดในใจไปด้วย 'เป็นพลังที่น่าเหลือเชื่อมากที่สามารถบอกว่าจะแก้ข้อผิดพลาดได้เพียงแค่เห็นการโจมตีหลานของเรา แถมความสามารถที่แม้แต่ผู้ฝึกตนระดับกลางยังทำอะไรไม่ได้อีก เขาเป็นใครกันแน่ ' ในระหว่างที่หวังเฟ่ยกำลังยืนสงสัยอยู่นั้นหยางเฉินก็พูดขึ้น
" คุณหวัง "
" ...ครับ "
" คุณช่วยบอกหน่อยว่าโลกนี้นับพลังของผู้ฝึกต้นแบบไหน เมื่อกี้ผมได้ยินว่าหลานของคุณบอกว่า ผู้ฝึกตนระดับกลางด้วย "
หยางเฉินถามออกไปด้วยความสงสัย เพราะถ้ายังไม่รู้ระดับพลังของโลกเอาไว้ละก็มันอาจจะเป็นปัญหาภายหลังก็ได้ เพราะถึงหยางเฉินอยากกลับไปที่แดนศักดิ์สิทธิ์เพื่อแก้แค้นแต่ว่าถ้าโดนคนที่มีพลังมากกว่าตนที่โลกฆ่าก่อนแผนมันก็จะร่มทันที จากนั้นเมื่อหยางเฉินถามออกไปหวังเฟ่ยก็เริ่มอธิบาย " สำหรับโลกเราแบ่งพลังออกเป็นทั้งหมด 5 ขั้น
1.ขั้นเริ่มต้น มีระดับ 1 - 9
2.ขั้นสูง มีระดับ 1 - 9
3.ขั้นสูง มีระดับ 1 - 9
4.ขั้นสูงสุด มีระดับ 1 -5
5.ขั้นเทพ มีระดับ 1 - 5
6.ขั้นเทพสงคราม ไร้ระดับ
ระดับขั้นของโลกก็แบ่งออกตามนี้ครับ แต่ขั้นเทพสงครามยังไม่เคยมีใครไปถึงมาก่อนขนาดขั้นสูงสุดเอง บนโลกนี้ก็มีอยู่เพียงไม่กี่คนเท่านั้น "
' แบบนี้นี่เอง การนับขั้นต่างกันจริงด้วยแต่สุดท้ายก็ไปจบที่ขั้นเทพสงครามเหมือนกันถ้านับตามที่บอกมา ตอนนี้เราก็คงอยู่ขั้นกลางช่วงปลายสินะ ' หยางเฉินคิดหลังจากที่ได้ยินหวังเฟ่ยบอกระดับขั้นให้ฟัง
....
.....
.......
เวลาผ่านไปสักพักหยางเฟ่ยก็แก้เคล็ดวิชาเรียบร้อยและส่งมันคืนให้กับหวังเฟ่ย " เรียบร้อยเท่านี้พวกคุณเวลาฝึกก็ไม่ต้องกลัวเส้นบมปรานจะเสียหายอีกต่อไป- งั้นผมขอตัวก่อน " เมื่อหยางเฉินพูดจบก็หันหน้าไปยังประตูทางออกทันที แต่ในระหว่างนั้นหวังเฟ่ยก็พูดออกมาก่อน
" เดี๋ยวก่อนครับปรมจารย์หยาง "
" อะไรอีก? " หยางเฉินหันกลับไปตอบด้วยท่าทางเริ่มมีความไม่พอใจ ' คิดว่าใช้เราแล้วเรายอมช่วย จะสามารถใช้ได้ตลอดหรือไงเทพสงครามอย่างเราลดตัวลงมาช่วยพวกมันก็บุญขนาดไหนแล้ว นี้ยังจะมาขอให้เราช่วยอีกแบบนี้ต้องทำให้รู้จุดยืนกันหน่อย '