บทที่ 29 1 ต่อ 38
เฟลิกซ์หนีไปบนหลังคาตึกโดยที่เหงื่อไม่ออก ดูเหมือนว่าการขึ้นบันไดโรงแรมจะค่อนข้างมีประโยชน์
อย่างไรก็ตาม แม้ว่า Stamina ของเขาจะเยอะ แต่มันก็ไม่สามารถทนกับการวิ่งหนีเป็นเวลา 3 วันติดต่อกันได้ เนื่องจากการประเมินมีกำหนดจะจัดขึ้นในอีก 3 วันข้างหน้า
วิธีเดียวที่สามารถพาเขาออกจากความยุ่งเหยิงนี้ได้คือผู้เฒ่าและรุ่นพี่ของครอบครัว แต่พวกเขาจะไม่ทำ นรก พวกเขาอาจจะกำลังดูฉากนี้ด้วยความสนุกสนาน
พวกเขาจะไม่เข้าไปยุ่งจนกว่าเขาจะตกอยู่ในอันตรายหรือกำลังจะตายจริง ๆ นอกจากนั้นรุ่นน้องสามารถทำได้ทุกอย่าง
ซึ่งหมายความว่าทางเลือกเดียวที่เฟลิกซ์มีคือเล่นซ่อนหากับเหล่าลูกพี่ลูกน้อง เพื่อที่พวกเขาจะได้แบ่งกำลังคนเพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่ที่ใหญ่ขึ้น หากพวกเขาทำเช่นนั้น เขาก็มั่นใจในความสามารถในการต่อสู้ของเขา ที่จะเอาชนะพวกเขาอย่างน้อย 5 คนด้วยตัวคนเดียว
'ฉันยังต้องกิน เข้าห้องน้ำ และนอนในช่วง 3 วันนี้'
เขาขมวดคิ้วกับปัญหานี้ซึ่งทำให้การเอาตัวรอดของเขายากขึ้น เขาเข้าใจว่าลูกพี่ลูกน้องของเขาไม่ใช่คนโง่ที่จะมองไม่เห็นปัญหานี้
นั่นแสดงว่าพวกเขาจะทิ้งกองกำลังบางส่วนเพื่อปกป้องด่านสำคัญเหล่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งห้องครัวและโรงอาหาร เนื่องจากพวกเขามีกำลังไม่เพียงพอที่จะปกป้องห้องน้ำทั้งหมดในอาคาร
'ฉันต้องการคนวงในเพื่อรายงานตำแหน่งของพวกเขา'
เขานึกถึงสีหน้าซีด ๆ ของโอลิเวียเมื่อเธอมองมาที่เขาแล้วส่ายหัว
'ช่างมันเถอะ ไม่ว่าเธอจะอ่อนหวานสักแค่ไหน แต่ในเวลานี้ เธอก็คงอยากจะทุบตีฉันเหมือนกัน ฉันไม่สามารถวางใจเธอได้'
สิ่งเดียวที่เขาทำได้คือตรงไปที่โรงอาหารซึ่งอยู่บนชั้น 40 และขโมยอาหารที่จะสามารถประทังชีวิตเขาไปอีก 3 วันก่อนที่ลูกพี่ลูกน้องของเขาจะเข้าไปปกป้องมัน
เขาเริ่มเพิ่มความเร็วในการปีน ผ่านทีละชั้น จนกระทั่งถึงชั้นที่ 40
ทันทีที่เขาเปิดประตู เขาถูกซุ่มโจมตีจากทั้ง 3 ด้านด้วยหมัดและหน้าแข้ง
เฟลิกซ์หลบการโจมตีมุ่งไปยังศีรษะและน้องชายเขาอย่างใจเย็น และปล่อยให้ส่วนอื่น ๆ โดนโจมตี เขาไม่เคยลดความระมัดระวังลง เพราะเขาคิดเสมอว่าลูกพี่ลูกน้องของเขาอาจใช้ลิฟต์เพื่อไปยังด่านสำคัญเหล่านั้น และป้องกันไม่ให้เขาได้รับอาหาร
หลังจากป้องกันการโจมตีได้สำเร็จ เขาพยายามหนีออกจากวงล้อม โดยเล็งไปที่ลูกพี่ลูกน้องหญิงซึ่งเคยใช้รองเท้าบูททหารของเธอเล็งไปที่น้องชายของเขามาก่อน
เขาตั้งการ์ดแขนและพุ่งเข้าหาเธอ เธอพยายามป้องกันตัวเองด้วยการเตะเขาอีกครั้ง แต่คราวนี้เฟลิกซ์เตรียมพร้อมแล้ว
เขาหลบการโจมตีของเธออย่างง่ายดาย จากนั้นเขาก็จับขาที่เธอเตะออกมา และใช้กำลังของเขาซึ่งใช้เวลาหลายเดือนในการเสริมสร้าง โยนเธอใส่ลูกพี่ลูกน้องอีก 2 คนที่ตามมาข้างหลังเขา
"อ๊าาาา เฟลิกกกกกซ์!" เธอทำได้เพียงกรีดร้องอย่างเกลียดชัง ขณะที่เธอชนกับ 2 คนนั้น
“อั๊ก!” "อ๊าก!!"
เสียงคร่ำครวญอันเจ็บปวดเล็ดลอดออกมาจากปากของพวกเขา ขณะที่คนหนึ่งถูกตบหน้าด้วยรองเท้าบูทหนักจนดั้งหัก ขณะที่อีกคนกล่องดวงใจแตกเป็นเสี่ยง ๆ เมื่อหัวผู้หญิงคนนั้นบินตรงไปหามัน
บางคนอาจสงสัยว่าเธอเป็นปฏิปักษ์กับกล่องดวงใจของผู้ชายหรือไม่
“หยุดร้องได้แล้ว พวกนายกำลังทำให้พ่อแม่ตัวเองที่อาจกำลังดูอยู่อับอาย” เขาเดินเข้าไปหาพวกเขาช้า ๆ แล้วหยิบโทรศัพท์ของพวกเขามาขึ้นก่อนจะพูดว่า "ฉันจะคืนให้หลังจากเรื่องนี้จบลง บาย"
จากนั้นเขาก็มุ่งหน้าไปยังโรงอาหารหลังจากทำสัญลักษณ์สันติภาพให้กล้องวงจรปิด
...
ที่ชั้นบนสุดของสำนักงานใหญ่ รุ่นพี่และผู้เฒ่าหลายสิบคนกำลังดูทีวีจอใหญ่ ที่แสดงภาพรุ่นน้องที่กำลังออกค้นหาไปทั่วอาคาร และเฟลิกซ์ที่เอาชนะรุ่นน้อง 3 คนได้อย่างง่ายดาย
“ฮ่าฮ่าฮ่า อับราฮัม หลานชายนายคงจะไม่มีลูกอีกต่อไปแล้ว ดูจากเสียงเขาคร่ำครวญของเขา น่าอายจริง ๆ ขอบคุณพระเจ้าที่เขาไม่ใช่หลานชายฉัน ไม่งั้นฉันคงไม่กล้าแบกหน้ามาให้คนอื่นเห็น” อัลเบิร์ตหัวล้านหัวเราะเยาะ ขณะชี้ไปที่เด็กที่ขดตัวเหมือนหอยทากด้วยมือทั้งสองข้าง
อับราฮัมผู้เฒ่าผมขาวไม่กล้าเถียง เขาจะพูดอะไรออกไปตอนนี้ก็เปล่าประโยชน์ เพราะหลานชายของเขากำลังคร่ำครวญเหมือนหมูถูกเชือด
สิ่งเดียวที่เขาทำได้คือก้มหน้าลงด้วยความอับอาย ขณะฟังเสียงเยาะเย้ยจากคนรอบข้าง
‘ฉันจะหักขาอีกสองข้างของแกด้วย เวรเอ้ย แล้วฉันก็จะหักขาที่สามของพ่อแกที่ทำให้ฉันอับอายขายหน้า ทุกคนรู้ว่ามันเจ็บปวดหากกล่องดวงใจถูกทุบ แต่ทำไมแกถึงร้องไห้คร่ำครวญเหมือนมีคนตัดมันออก!’ เขาคิดกับตัวเอง
“กลับกัน เฟลิกซ์น้อยกำลังเบ่งบานจริง ๆ ในตอนนี้ ฉันอยากรู้จริง ๆ ว่าเขาประสบอะไรบนเกาะถึงเปลี่ยนเขาให้กลายเป็นเด็กหนุ่มที่มีความมั่นใจได้แบบนี้”
“เพื่อให้สามารถป้องกันคน 3 คนที่ซุ่มโจมตีเขาและถึงขนาดโต้กลับได้สำเร็จ ปฏิกิริยาตอบสนองของเขาต้องได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี”
ด้วยความยินดี หญิงวัยกลางคนที่สง่างามพยักหน้าขณะมองเฟลิกซ์ที่กำลังใส่อาหารลงในกระเป๋าเป้ราวกับสัตว์ป่า
เปลือกตาของเธอกระตุกหลังจากเปลี่ยนสายตามามองลูกสาว ที่กำลังสัมผัสใบหน้าของเธอขณะมองภาพสะท้อนในกระจกบานเล็ก เธอคงกลัวว่าเครื่องสำอางจะพัง
'ความแตกต่างจะมากขนาดนี้ได้ยังไง? ถ้าเธอยังทำแบบนี้ต่อไป เธอคงไม่รอดจากค่ายฝึกที่เราเตรียมไว้ให้พวกเขา' เธอยิ้มอย่างขมขื่น
“เฮ้ คิดจริง ๆ เหรอว่าเฟลิกซ์น้อยของฉันจะถูกลูกทาสของพวกคุณทุบตี?” โรเบิร์ตเย้ยหยันและพูดต่อไปโดยไม่สนใจแววตาคมกริบที่มองมา “ลองคิดดูสิ เฟลิกซ์คงจะใช้เวลาหนึ่งปีครึ่งบนเกาะนั้น ไม่ทำอะไรเลยนอกจากฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ ทั้งหมดนี้เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการป้องกันตัวเองจากการรังแกของลูกๆ หลาน ๆ พวกคุณ พวกคุณควรรู้สึกละอายใจในตัวเองบ้าง ปล่อยให้พวกเขารุมเขาอยู่ได้ ไม่เคยต่อสู้กับเขาแบบ 1 ต่อ 1 อย่างสุภาพบุรุษเลย”
“แม้กระทั่งตอนนี้เขาก็ยังถูกรุมทำร้ายจากรุ่นน้อง 38 คน เพื่อให้เห็นว่าเขาสมควรได้รับสร้อยข้อมือ AP หรือไม่ แต่ตอนนี้ เขาพิสูจน์ให้พวกคุณเห็นแล้วว่าเขาสมควรได้รับมันมากกว่าใครๆ”
โรเบิร์ตบิดเบือนข้อเท็จจริงเก่า ๆ โดยไม่เปลี่ยนสีหน้าทำให้เฟลิกซ์กลายเป็นเหยื่อ ในขณะที่ลูกพี่ลูกน้องที่ต้องตกนรกในวัยเยาว์ด้วยน้ำมือของเขากลายเป็นผู้ร้าย
พ่อแม่ของรุ่นน้องเหล่านั้นอยากจะเถียง คนหนึ่งพูดว่า “ตาเฒ่า เรามีขีดจำกัดว่าเราจะฟังเรื่องไร้สาระของคุณมากแค่ไหน คุณบอกว่าลูก ๆ ของเรารุมรังแกเขา แต่ถ้าเขาไม่แกล้งพวกเขาตั้งแต่แรก พวกเขาก็คงจะไม่แตะต้องเขาด้วยซ้ำ”
ผู้ปกครองอีกคนเข้ามาแทรกและพูดเสริมอีกว่า “คุณบอกว่าเรากำลังทดสอบว่าเขาสมควรได้รับสร้อยข้อมือ AP นั่นหมายความว่ายังไง” เธอเยาะเย้ย “ถ้าเราไม่เห็นด้วย เขาคงไม่สามารถแตะต้องมันได้เลยในชีวิตเขา และเมื่อเราตกลงกันแล้วก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องทดสอบเขา เหตุผลเดียวที่พวกเด็ก ๆ ตั้งเป้าไปที่เขาก็เพราะความเกลียดชังของพวกเขา มันเกี่ยวข้องกับเราตรงไหน?”
“เรากำลังเตรียมจัดการต่อสู้แบบ 1 ต่อ 1 เพื่อดูว่าพวกเขามีพลังต่อสู้แข็งแกร่งแค่ไหน แต่มันก็กลายเป็นเทศกาลที่เรากำลังดูกันอยู่ตอนนี้ไปแล้ว ดังนั้น หยุดพยายามทำให้เขากลายเป็นเหยื่อเสียที เขาจะไม่ได้รับรางวัลอีกต่อไป ไม่ว่าคุณจะพูดอะไรก็ตาม”
โรเบิร์ตคลิกลิ้นและเพิกเฉย หลังจากแผนการช่วยให้เฟลิกซ์ได้รับบราวนี่พิเศษล้มเหลว
ดังนั้นเขาเลยเชียร์หลานชายที่กำลังตีรุ่นน้องอีก 2 คนที่มาดักรอเขาอยู่ในห้องน้ำอย่างสนุกสนาน “ทุบมันซะ! นั้นแหล่ะเฟลิกซ์ หักขามันเพื่อพ่อคนนี้”
บรรดาผู้อาวุโสต่างกำมือขณะมองดูโรเบิร์ต•แม็กซ์เวลล์ในตำนาน ส่งเสียงเชียร์ราวกับเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ให้หลานชายทุบตีเด็กคนอื่น ๆ เพื่อระบายความหงุดหงิด
.....
2 วันต่อมา เฟลิกซ์สวมชุดนอนอยู่ในห้องครัวของสำนักงานใหญ่ และทำอาหารเช้าในขณะที่ฮัมเพลงอย่างสบาย ๆ
ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา เขาสามารถเอาชนะรุ่นน้องที่ไร้สติได้กว่า 36 คน จนทำให้คนอื่น ๆ กลัวที่จะเข้าใกล้เขาอีก
พวกผู้อาวุโสมองดูลูกพี่ลูกน้อง 2 คนสุดท้ายอย่างดุเดือด หวังว่าพวกเขาจะกอบกู้สถานการณ์นี้ แต่พวกเขากลับซ่อนตัวอยู่ในห้องน้ำจากเฟลิกซ์
เมื่อถึงจุดนี้พวกเขาต้องการให้นรกนี้จบลงเสียที และต้องการให้ผู้อาวุโสเร่งการประเมินเข้ามา พวกเขามีแรงกดดันว่าเฟลิกซ์จะหาพวกเขาเจอและเอาชนะพวกเขามากพอแล้ว
พวกเขาไม่มีความคิดที่จะแก้แค้นอีกต่อไป พวกเขาเพียงแค่ต้องการอยู่อย่างสงบสุข
ในที่สุดระดับบนของครอบครัวที่รู้สึกอับอายมากพอแล้ว จึงได้ตัดสินใจหยุดเทศกาลนี้ พวกเขาถูกดูหมิ่นโดยโรเบิร์ตและอัลเบิร์ตมากพอจนสร้างการผสมผสานสีหน้าที่น่าสะพรึงกลัว
เมื่อวานนี้เองผู้เฒ่าคนหนึ่งกระอักเลือดด้วยความโกรธ ขณะที่เขาถูก 2 คนนั้นดูหมิ่น เมื่อหลานชายของเขาร้องไห้หาแม่ขณะที่เขากำลังหนีจากเฟลิกซ์
อันธพาลคู่นั้นไม่ปล่อยให้ใครรอด ทุกคนต่างถูกดูหมิ่นอย่างโหดร้ายโดยไม่มีวิธีโต้กลับ เนื่องจากลูก ๆ ของพวกเขาทำตัวน่าขายหน้าเมื่อเทียบกับเฟลิกซ์
การเปรียบเทียบเป็นสิ่งที่แย่จริง ๆ
“พอแล้ว เราได้เห็นมามากพอที่จะตัดสินได้แล้ว เฟลิกซ์เป็นต้นกล้าระดับสูงซึ่งเราจะลงทุนมหาศาลหากเขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับองค์ประกอบที่ดี ในขณะที่คนอื่น ๆ จะถูกลงโทษเนื่องจากการแสดงที่ไร้ค่านี้”
"การที่คน 38 คนแพ้คน 1 คนเช่นนี้ ฉันคงได้ยินคนทั้งโลกหัวเราะเยาะครอบครัวเรา ถ้าเราส่งพวกเขาไปเป็นตัวแทนครอบครัว" อับราฮัมถอนหายใจด้วยความผิดหวัง และสั่งคนรับใช้ที่อยู่ข้างๆ เขา “ไปประกาศบอกพวกเขาให้ขึ้นไปรวมกลุ่มที่ชั้น 35”
"เราจะเริ่มการประเมินองค์ประกอบธาตุ ฉันหวังว่ามันจะไม่เลวร้ายเท่ากับประสบการณ์การต่อสู้ของพวกเขา"
“บ้าเอ้ย เราสอนพวกเขาต่อสู้ตั้งแต่อายุยังน้อยแท้ ๆ เสียเวลาและความพยายามมาก” เขาสบถ
-------------------------------