King X King เมื่อได้เกิดเป็น องค์รัชทายาทลำดับสุดท้าย ตอนที่ 98 ขวาน?
" เดี๋ยวก่อน "
ตัวป่วนมาอีกแล้ว
ทันทีที่ได้เห็นท่าทางของกริมเธอร์ที่กำลังเดินเข้ามาในตอนนี้ ผมก็เข้าใจได้ทันทีว่าหมอนนี้ต้องมีปัญหากับขวานศึกของผมอีกคนแน่
" ขวานนั้นมันหมายความว่ายังไงดรารอน์ "
เป็นแบบที่คิดเอาไว้ไม่มีผิด!
" สู้ไงครับ "
" สู้? เอาขวานแบบนั้นมาสู้? "
เออ... แบบนั้นแหละ จะถามให้มันยุ่งยากอีกทำไม
" มีกฏห้ามใช้ขวานสู้ด้วยเหรอครับ? "
ผมยิงคำถามที่ตอบยากออกไป หลังจากที่โดนผมเล่นไปกริมเธอร์ก็ทำสีหน้าแปลกใจ จนผ่านไปสักพักก็ " เฮ้อ~" กริมเธอร์ก็ถอนหายใจออกมาด้วยอาการเหนื่อยใจ
ท่าทางการถอนหายใจแบบเหนื่อยใจพร้อมกับส่ายหัวไปมาแบบนั้น ผมละสะใจจริงๆ เพราะตามกฏการประลองก็ไม่มีมีระบุเอาไว้สักหน่อยว่าห้ามใช้ขวานสู้ มีแต่ห้ามธนู หรือหน้าไม้เท่านั้น
ผมก็เลยใช้จุดอ่อนตรงนั้นไป
" เอาเถอะยังไงก็ ใช้มันสู้ไปก็แล้วกัน "
" ครับ "
ทันทีที่กริมเธอร์ตัดสินใจให้เริ่มต่อสู้เขาก็เดินออกไปจากเขตที่กั้นเชื่อกอยู่ทันที เทเลอร์เองก็รีบวิ่งออกไปเหมือนกัน ทำให้ตอนนี้เหลือผมก็ชายสวมชุดเกราะด้านหน้าสองคน ที่สีหน้าของหมอนั่นกำลังเต็มไปด้วยความไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด ใบหน้าแดงก่ำ จมูกชี้ขึ้นบนเล็กน้อย กัดฟันเอาไว้แน่น
ให้ตายสิอย่างน้อยก็ช่วยเก็บอาหารหน่อยเถอะ อาการของแกมันแสดงออกมาชัดเกินไปแล้ว
ปุก!
" ท่านจะได้เสียใจที่ถูกข้าคนนี้ "
ชายสวมเกราะดึงดาบทีีปังอยู่กับพื้นขึ้นมา แล้วพูดต่อโดยชี้ปลายดาบตรงมาทางผม
ว้าาว~อยากจะรู้จังเลยมันเป็นยังไง ตามจริงก็อยากรู้สึกแบบนี้อยู่หรอก แต่พลังหมอนนี้มันน้อยเกินไป ผมคงตั้งความหวังอะไรแบบนั้นไม่ได้หรอก เวทย์ธาตุดิน 30,000 จุด
น้อยไป!
" เสริมกำลัง "
" เสริมความทนทาน "
" เสริมความเร็ว "
ผมเริ่มใช้เวทย์กับร่างกายของตัวเองเพื่อเพิ่มค่าพลังนร่างบกายของตัวเองให้สูงขึ้น โดยระหว่างที่ใช้ก็มีแสงปรากฏรอบร่างกายต่างกันออกไปสักพักแสงทั้งหมดก็หายไป
แล้ว
" ไมคิดเลยว่าท่านจะสามารถใช้เวทย์เสริมพลังได้ติดต่อกันแบบนี้ "
ชายสวมเกราะก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงเกร็งๆ พร้อมกับท่าทางสั่นกลัวเล็กน้อย
เฮย เฮย เฮย อย่าพึ่งมากลัวตอนนี้สิฉันแค่ใช้เวทย์เสริมพลังเองนะ ความมั่นใจเมื่อกี้มันหายไปไหนหมด
" ถ้าเช่นนั้นก็เริ่มเลยแล้วกัน "
" เวทย์กะสุนดิน "
ชายสวมเกราะเริ่มใช้เวทย์กระสุนดินที่ทำให้ดินจากรอบตัวของเขาพุ่งตรงเข้ามาที่ตัวของผม ดินที่พุ่งเข้ามาเป็นดินประมาณกำปั้นคน ซึ่งมันมีจำนวนเยอะก็จริงแต่เพราะผู้ใช้มีพลังเวทย์ที่น้อยเกินไป ความเร็วของพวกมันที่พุ่งเข้ามาก็เลยไม่เท่าไหร่นัก
ปัง!
ปัง!
ปัง!
ผมสามารถใช้ขวานศึกฟันพวกมันให้แตกอย่างง่ายดาย จากนั้นชายสวมเกราะด้านหน้าของผมก็พุ่งตรงเข้ามา พร้อมกับอาวุธที่เตรียมตัวสู้
ไม่อยากเสียเวลาแล้ว เอาให้มันจบเลยก็แล้วกัน
เมื่อคิดได้
" มาจบกันในการโจมตีเดียวกันเถอะ ."
ผมก็พูดออกไปด้วยใบหน้าที่มีลอยยิ้มแบบอ่อนๆ พร้อมกับขนวาศึกที่โดนอัดพลังเวทย์ธาตุไปลงไปอยู่ ทันใดนั้น ชายสวมเกราะที่กำลังวิ่งเข้ามาก็พยามหยุดตัวเองทันทีพร้อมกับสีหน้าตกใจ แต่มันก็สายเกินไป ถึงหมอนั้นหยุดผมก็วิ่งเข้าไปฟันอยู่ดี
ตูม!!!!
ผลจากแรงโจมตีทำให้ร่างกายของชายสวมเกรากระเดนไปไกลกว่า 10 เมตร ออกนอกเขตกันไปเลยด้วยซ้ำ
เรียบร้อย!
#############
หลังจากที่จบงานเลี้ยงผมก็โดนกริมเธอร์เรียกพบทันที ภายในห้องตอนนี้เป็นห้องขนาดใหญ่ที่จัดตกแต่งเอาไว้อย่างดี แต่ก็มีโต๊ะไม้สวยงานพร้อมกับกองเอกสารขนาดใหญ่ตั้งเอาไว้อยู่กลางห้อง และตอนนี้ผมก็กำลังนั่งหันหน้าเข้ากับกริมเธอร์อยู่
" มีอะไรครับ? "
ถึงจะรู้อยู่แล้วก็เถอะว่าหมอนนี้เรียกเรามาทำอะไร
เพราะคงจะเรียกเรามาคุยเรื่องของการต่อสู้ในงานี่เกิดขึ้นแน่นอน เพราะเราเล่นอัดพลังเวทย์ไปในอาวุธแบบนั้นแถมยังเป็นธาตุไฟที่ให้ผลการโจมตีสูงอีก จะโดนเรียกมาคุยมันก็ไม่แปลก
" คิดว่าเรื่องอะไรละ "
" เรื่องการต่อสู้ของผมกับผู้ชายคนนั่นเหรอ "
" ไม่! "
อ่าว!
ถ้าไม่ใช้เรื่องนั่นแล้วมันเรื่องอะไรอีก นี่เราไปทำอะไรผิดเอาไว้ท่าทางคุยจริงจังแบบนี้มันคงไม่ใช่เรื่องปกติอย่างแน่นอน
แล้ว
" เห็นกองเอกสาร และบัตรเชิญด้านหน้าไหม "
กริมเทอร์ก็พูดออกมา แล้วชี้นิ้วลงไปยังกองเอกสารด้านหน้าที่วางอยู่บนโต๊ะ แต่พอลองสังเกตุดูก็เหมือนจะเห็นบัตรเชิญไปงานด้วย แต่ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าจะให้ผมดูของพวกนี้เพื่ออะไร
" เห็นครับ แล้วมันทำไม? "
" มันเป็นของเจ้าทั้งหมด พวกเอกสารเป็นเอกสารการขอรวมกลุ่มเพื่อไปจัดการกับพวกสัตว์อสูร หรือไม่ก็เอกสารขอซื้อพื้นที่ที่เจ้าพาทหารไปจัดการกับสัตว์อสูร ส่วนพวกบัตรเชิญก็เป็นของพวกขุนนาง หรือพ่อค้าที่ร่ำรวยที่เชิญเจ้าไปงานที่พวกนั้นจัดขึ้น "
เป็นแบบที่คิดเอาไว้ ! การกำจัดพวกสัตว์อสูรมันเป็นเรื่องยุ่งยากในภายหลังจริงๆ
" งั้นท่านตาก็จัดการเลยครับ สิ่งที่ผมต้องการจากป่ามีเพียงคริสตันเวทย์เท่านั้น ไม่ได้ต้องการขยายพื้นที่ หรือว่าไปงานเลี้ยงอะไรใครหรอก ส่วนพวกงานเลี้ยงก็ให้ตัวแทนของตระกูลจัดการไปแทนก็แล้วกันครับ "
" จะบอกว่า... ยกอณาเขตให้กับตระกูล สโลน วินทอร์ หมดเลยงั้นเหรอ? "
คิดว่าฉันจะยกแบบฟรีๆ ได้ยังไง เรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่องของธุรกิจ ของซื้อของขายไม่มีให้ฟรีหรอก
" ป่าวครับ แต่ผมมีข้อเสนอให้กับท่านตา "
" โห่ว! ลองพูดมา " ' แบบนี้ก็หมายความว่าเจ้านี่มันว่างแผนเอาไว้แล้ว ไม่ใช่เพียงแค่เก่งเรื่องการต่อสู้ การใช้สมองในเรื่องธุรกิจ หรือเรื่องกาเมืองเอง หมอนี่มันก็เก่งจนน่ากลัวเหมือนกัน น่าเอามาเป็นผู้นำตระกูลคนต่อไปจริงๆ! '