King X King เมื่อได้เกิดเป็น องค์รัชทายาทลำดับสุดท้าย ตอนที่ 9 คริสตันเวทย์

ทารอนที่เดินออกมาก็เดินตามทางเดินของวังทันที โดยในระหว่างทางเองก็มีทหารที่กำลังยืนตามเดินทำความเคารพตลอดเวลาเมื่อทารอนเดินผ่าน

...

....

.....

หลังจากที่ทารอนเดินมาได้สักพัก ก็มาหยุดอยู่ที่ด้านหน้าของประตูห้องขนาดใหญ่ ' ได้เวลาเริ่มงานของเราอีกแล้วสินะ ถ้าเป็นไปได้ก็อยากอยู่เล่นกับดรารอน์ให้มันนานกว่านี้อยู่หรอก เห้อ~ ' ทารอนคิดในใจขณะที่กำลังยืนอยู่ด้านหน้าประตู จากนั้นก็ได้เปิดประตูเข้าไปด้านใน

" ท่านอัครเสนบดีมาแล้วสินะครับ "

ชายสวมเสื้อผ้าแบบทารอนที่เป็นชุดสีดำขนาดใหญ่กว่าตัวคลุมร่างกายเอาไว้ แต่เสื้อของเขาเป็นลายสีเหลือคาดแทนต่างจากของทารอนอยู่นิดหน่อย เป็นผู้ชายอายุประมาณ 50 ปี มีนวดเคราสีขาวปรากฏออกมาให้เห็นเล็กน้อย รูปร่างสมส่วนเหมือนคนปกติทั่วไป แล้วก็กำลังก้มหัวให้กับทารอนที่เปิดประตูเข้ามาอยู่ ชื่อว่า ดันเต้ย เป็นเสนบดีการคลังของปะเทศ เมซัส

" ท่านทารอนตอนนี้แย่แล้วครับ "

ชายอีกคนสวมชุดเกราะแบบอัศวินพูดออกมา ขณะที่มองมายังทารอนที่อยู่ด้านหน้าประตูด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล อีกคนที่พูดออกมาก็เป็นผู้ชายอายุปะมาณ 50 ปี เหมือนกับดอนเต้ย แต่แตกต่างกันอย่างชัดเจนในเรื่องของร่างกาย และก็ท่าทางการยืน เพราะชายอีกคนที่กำลังใส่ชุดเกราะอยู่ตอนนี้กำลังยืนกอดอกตัวตรง มองไปทางทารอนอยู่ เขาคนนี้มีชื่อว่า อากอร์ เป็นแม่ทัพใหญ่ของประเทศ เมซัส

ภายในห้องที่ทารอนเปิดเข้ามาก็เจอกับทั้งสองคนยืนอยู่ และในห้องก็เป็นห้องที่เงียบสนิทมีเพียงแค่แสงไฟจากเทียนเท่านั้น ที่ทำให้เห็นสิ่งที่อยู่ภายในได้ และด้านหน้าของทั้งสองคนยืนอยู่ก็มีโต๊ะขนาดใหญ่ที่มีแผนที่ของประเทศเมซัส เขียนเอาไว้อยู่

" เกิดอะไรขึ้นอากอร์? "

ทารอนถามออกมาด้วยน้ำเสียงสงสัย แล้วก็เดินเข้าไปยังจุดที่ทั้งสองคนกำลังยืนอยู่

" ดยุคสตรอป์กำลังเริ่มเคลื่อนไหวแล้วครับ! "

" เริ่มแล้วสินะ "

" ใช้ครับ- เชิญท่านดูตรงนี้ ตอนนี้กองทัพที่นำโดยดยุคสครอป์กำลังนำกำลังบุกเข้ามาโดยไล่จากทางใต้ของประเทศขึ้นมาทางเหนือเพื่อมาที่นี้อยู่ครับ "

อากอร์พูดออกมา แล้วใช้นิ้วชี้ลงไปยังแผนที่ด้านหน้า และเริ่มอธิบายออกมา

' ไม่คิดเลยว่ามันจะเริ่มเคลื่อนไหวเร็วขนาดนี้ ทั้งๆที่ตอนนี้กำลังเข้าใกล้ฤดูหนาวมากแล้วแท้ๆ ถ้าไม่รีบทำให้จบก่อนหมดฤดูหนาวมาถึงละก็ มันต้องมีกาแซกแซงจากประเทศอื่นแน่ และมันก็จะเป็นเรื่องใหญ่เอา ' ทารอนคิดในใจหลังจากที่ได้ฟังอากอร์อธิบายออกมา จากนั้นก็ได้พูดออกมาโดยหันไปทางดอนเต้ย

" ดอนเต้ยงบประมาณของเราตอนนี้สามารถทำสงครามให้จบไวได้ไหม? "

" ถ้าถามว่าไ้ไหมมันก็ได้นั้นแหละครับ แต่ว่าฤดูหนาวพวกเราต้องอยู่กันอย่างประหยัดเลยละถ้าเอางบประมาณจำนวนมากทุ่มให้กับการจัดการดยุคสตรอป์แบบนั้น เพราะถ้าจะจบเร็วเราต้องสั่งผลิตอาวุธจำนวนมาก และก็จ้างพวกทหารับจ้างอีก- "

" เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วง "

ทารอนพูดขัดออกมาระหว่างที่ดอนเต้ยกำลังพูดอยู่ แล้วก็ได้เริ่มพูดต่อด้วยน้ำเสียงหนักใจเล็กน้อย

" ยังไงเราก็ต้องจบสงครามให้เร็วที่สุด เพราะอาจจะมีมือที่ 3 เข้ามาแทรกกลางตอนไหนก็ไม่รู้ และสัญญาสงบศึกในตอนนี้เองจะโดนทำลายเมื่อไหร่ก็ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น เพราะตอนนี้หลายประเทศก็กำลังเตรียมกำลังทหารเอาไว้กันแล้ว "

." ครับ! "

" ครับ "

ดอนเต้ย และอากอร์ตอบออกมา แล้วทั้ง 3 คนก็เริ่มวางแผนกันต่อภายในห้อง

3 วันต่อมา

ณ ห้องของดรารอน์

ตอนนี้ผมกำลังฝึกตามที่เวโรนิก้าสอนอยู่ เพราะผมพึ่งมารู้ความจริงเอาว่า การเพิ่มจุดพลัเวทย์นั้นต้องใช้คริสตันเวทย์เพื่อช่วยในการฝึก ซึ่งวิธีนี้ที่มันไม่มีอยู่ในหนังสือ ก็เป็นเพราะว่ามันเป็นความรู้ที่รู้ได้เฉพราะชนชั้นสูง หรือไม่ก็พวกขุนนางเท่านั้น และพวกสามัญชนที่มีเงิน หรือมีอาจารย์ที่เป็นคนระดับสูงถึงจะเรียนรู้เทคนิคพวกนนี้ได้

ด้วยเหตุนี้เวทย์มนต์ก็เลยเป็นการฝึกที่เป็นความลับ จากคนธรรมดารวมถึงข้อมูลของคริสตันเวทย์ด้วย

คริสตันย์เวทที่ผมกำลังถืออยู่ตอนนี้เป็นคริสตันเวทย์ธาตุไฟ สำหรับคริสตันพลังเวทย์นั้นจะแบ่งออกเป็นทั้ง 6 ประเภท เหมือนกันเวทย์มนต์ที่ใช้กัน และการที่จะเพิ่มพลังจุดของเวทย์มนต์ก็ต้องดูดซับตามธาตุของตัวเอง แต่ตัวผมมันเป็นข้อยกเว้นก็เพราะว่ามีธาตุทั้งหมด ธาตุ

แต่จากคำแนะนำของเวโรนิก้าบอกมา เธอพูดเอาไว้ว่า ควรทำให้ธาตุเวทย์ในตัวแข็งแกร่งกว่าธาตุอื่นสัก 1 ธาตุ เพื่อความสามารถในการต่อสู้ระดับสูง ผมก็เลยเลือกธาตุไฟก่อนอันดับแรกแบบนี้

ซึ่งคริสตันเวทย์พวกนี้ก็จะได้มาจากมอนเตอร์ต่างๆ อย่างเช่นคริสตันเวทย์ที่ผมกำลังถืออยู่ตอนนี้เป็นคริสตันที่มีพลังจุดอยุ่ที่ 100 จุด ได้มาจากมอนเตอร์อายุ 10 ปี มันจะมี 10 จุด ต่ออายุ 1 ปี ของพวกมอนเตอร์ และการดูดกลืนเราก็ต้องดูดกลืนพวกมันเพื่อเพิ่มจุดพลังเวทย์ให้กับตัวเรา แต่ว่าการดูดกลืนเองมันก็มีข้อเสียอยู่ทั้งหมด อย่างด้วยกัน นั้นก็คือ...