King X King เมื่อได้เกิดเป็น องค์รัชทายาทลำดับสุดท้าย ตอนที่ 88 อากอร์
หลังจากที่ผมเดินเข้ามาด้านใน ก็เจอกับทหารกำลังเดินไปมาอยู่จำนวนมาก ทหารที่กำลังเดินอยู่นั่น ต่างสงมชุดเกราะหนักเอาไว้ทุกคน บ้างก็ถือเอกสาร บ้างก็เดินไปมาแบบไม่มีอะไร
" -อะ.. องค์ชายมา!!! "
เสียงหนึ่งในทหารที่ยืนอยู่ตะโกนออกมา เออ! ฉันมาแล้วมันทำไมต้องตกใจขนาดนั้นเลยหรือไง และหลังจากชายคนนั่นพูดออกมาพวกทหารที่กำลังเดินไปมาอยู่ก็หยุดกันทันที และพวกทหารก็วิ่งมาตั้งแถวหน้ากระดานที่ด้านหน้าของผมกับทารอนกันในท่ายืนตรงตามองไปด้านหน้า
มีวินัยกันจัง! ไม่คิดเลยว่าทหารของประเทศเราจะขนาดนี้
" แม่ทัพใหญ่อากอร์อยู่ไหน "
ทารอนถามออกไป เมื่อถามไปก็มีทหาร 1 คน ก้าวออกมาด้านหน้าของแถวพวกทหารที่กำลังยืนอยู่ และเริ่มพูดออกมา
" ตอนนี้ท่านแม่ทัพกำลังออกไปตรวจรอบเมืองครับ "
" อีกนานไหมถึงกลับมา "
" ไม่ครับ แต่ถ้าท่านต้องการพบทางเราจะติดต่อให้ท่านกลับมาครับ "
" อ่า! จัดการเลย "
" ครับ "
หลังจากที่ทหารรับคำสั่งจากทารอน เขาก็เดินออกไปจากกลุ่มทันที แต่พวกทหารที่เหลือก็ยังยืนอยู่ไม่มีใครขยับอะ
แต่ว่าเรื่องของพวกทหารนะช่างมันเถอะ ที่เป็นปัญหาตอนนี้ก็คือ ทำไมทารอนต้องพาเรามาหาแม่ทัพใหญ่อย่างอากอร์ต่างหาก???
" ท่านลุงท่านจะให้ข้าทำอะไรกันแน่? "
ผมถามทารอนที่ยืนอยู่ด้านหน้า
" อันดับแรกต้องทำความรู้จักกับแม่ทัพของประเทศนี้ก่อน แล้วเราถึงจะเริ่มเรื่องต่อไปได้ "
มันจะมีความลับอะไรนักหนา กะอีแค่บอกว่าจะให้ทำอะไรก็ไม่บอก เฮ้อ~
เก็บเป็นความลับราวกับว่ามันเป็นรหัสนิวเคลียร์! ผมเริ่มรู้สึกอารมณ์เสียเล็กน้อยหลังจากที่ได้ยินคำตอบ แล้วทารอนด้านหน้าก็หันไปพูดกับทหารที่ยืนกันต่อ
" พวกเจ้าเองก็ไปทำงานกันได้ "
" ครับ!!? "
เสียงทหารตอบรับพร้อมกัน และก็เริ่มพากันเดินแยกย้ายไป
" เอาละงั้นพวกเราก็ไปนั่งรอที่ห้องรับแขกดีกว่า "
" ครับ "
ทารอนหันมาพูดกับผม และผมก็ตอบกลับไปพรางคิดในใจไปด้วย เริ่มรำคาญหมอนี่แล้วสิ!
...
....
.....
ณ ห้องรับแขก
ภายในห้องที่ผมนั่งอยู่ในตอนนี้เป็นห้องสี่เหลียมขนาดใหญ่ ภายในประดับไปด้วยรูปขนาดใหญ่ของดิวนีสันที่ใส่ชุดเกราะติดผนังห้องเอาไว้ แล้วรอบห้องเองก็เต็มไปด้วยอาวุธที่ถูกทำขึ้นมาอย่างสวยงามตั้งเอาไว้อยู่ ส่วนผมตอนนี้ก็กำลังนั่งอยู่บนชุดเก้าอี้ขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางห้อง ด้านข้างมีทารอนนั่งอยู่ โต๊ะด้านหน้าก็เป็นโต๊ะวงกลมที่สามารถหมุนได้
แทนที่จะเรียกมันว่าห้องรับแขกเรียกมันว่าห้องวางแผนรบน่าจะถูกกว่า เหอะๆ
" ดรารอน์นายอย่าพูดเรื่องการไม่อยากแย่งชิงตำแหน่งกับคนอื่นให้อากอร์ และท่านพ่อ- ไม่สิ! ตาของนายฟังเด็ดขาดเลยนะเพราะหลังจากที่คุยกับอากอร์แล้ว พวกเราต้องไปที่บ้านตระกูล สโลน วินเทอร์ กันต่อ "
แล้วทารอนรู้เรื่องนี้ได้ยังไง จำได้ว่าเราไม่ได้เลยว่าเคยบอกไปด้วย แต่ตอนนี้ก็ตอบให้มันผ่านๆ ไปก่อนก็แล้วกัน!
" ครับ "
" ดีมาก!!! "
แต่ว่ามันก็อดสงสัยไม่ได้ว่าทารอนรู้เรื่องของเราได้ยังไงแหะ และอีกอย่างผู้นำตระกูล สโลน วินเทอร์ ก็พอเข้าใจอยู่ เพราะเขาก็คือตาของเรา และยังเป็นนักรบที่มีชื่อเสียงอีก ถ้าเราพูดว่าไม่ต้องการตำแหน่งก็ต้องมีน้ำโหกันบ้างมันก็เป็นเรื่องกติ
แต่ปัญหามันอยู่ที่อากอร์ต่างหากว่าทำไมเราถึงห้ามพูดด้วย???
" ท่านลุงทำไมท่านแม่ทัพใหญ่อากอร์ถึงมะ- "
ปัง!!!
" ข้ามาแล้วท่านอัครเสนบดี ท่านผู้นั้นอยู่ที่ไหน!!!! "
ระหว่างที่ผมกำลังหันหน้าไปถามทารอนด้วยความสงสัย เสียงประตูก็เปิดออกมาก่อน โดยมันถูกผลักออกมาอย่างเต็มแรงจนชนเข้ากับผนังของห้อง ทำให้เกิดเสียงที่ดังมาก พร้อมกับเสียงผู้ชายตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงดีใจ และตื่นเต้นปนกันอยู่
นี่เราเจอพวกบ้าอีกแล้วเหรอ!
เมื่อได้ยินเสียงประตูและคนตะโกนออกมาผก็พอเดาได้ว่าเป็นใคร แต่ไม่คิดเลยว่าแม่ทัพใหญ่ของประเทศจะมีนิสัยแบบนี้อิมเมจในความคิดของผมคิดว่าจะเป็นแบบทาร์เทียร์สะอีก
หลังจากที่ได้ยินเสียงคนด้านหน้าประตูผมก็หันหน้าไปมองที่ประตูทันที ด้านหน้าประตูตอนนี้ทีผู้ชายตัวใหญ่ สวมชุดเกราะสีน้ำเงินเงาที่มีเลือดสีแดงติดกับเกราะบนแขนขวาอยู่ ดูเหมือนเป็นชายมีอายุเพราะผมเริ่มมีผมสีขาวปรากฏออกมาให้เห็นประปราย ใบหน้าเองก็มีรอยเหี่ยวย่นให้เห็นเหมือนกัน แต่มีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ประตูที่เสียงดังเมื่อกี้ก็หัดเป็น 2 ส่วน เพราะแรงมหาศาลที่ผลักมันไปชนกับกำแพงเมื่อคู่
" อะไรกันประตูพังอีกแล้วเหรอ พวกนี้ชอบใช้ของไม่ได้คุณสะจริง "
อากอร์พูดออกมาด้วยน้ำเสียงไม่ชอบใจ ขณะที่เอียงสายตามองประตูที่หักเป็น 2 ชิ้นอยู่ ไม่หรอกของมันก็มีคุณภาพดีนั่นแหละ ถ้านายเปิดมันแบบคนปกติเปิดมันก็ไม่พังแบบนั้นหรอก
หลังจากที่อากอร์มองไปที่ประตูสักพักก็หันมองมาทางผมต่อ แล้วก็เริ่มเดินตรงเข้ามาทันที
" ยะ- ยินดีที่ได้พบครับองค์ชายข้ารอเจอท่านมาหลายปีแล้ว "
เมื่ออากอร์เดินมาอยู่ด้านหน้าของผมเขาก็คุกเข่าลงพร้อมกบก้มหน้าเล็กน้อย จากนั้นก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงกำลังดีใจ
หลายปี?
เมื่อได้ยินอากอร์พูดออกมาผมก็รีบหันหน้าไปทาฝทารอน์ทันที และพูดออกไป
" ท่านลุงเป็นคนบอกเหรอ? "
" ไม่ใช่ข้านะ! "
ทารอนตอบปฏิเสธออกมา พร้อมกับสบัดมือทั้งสองไปด้วย ถ้างั้นก็ต้องเป็นเดฟีเรียแน่ ให้ตายสิยัยแก่นั่นบอกเรื่องของเราให้ใครรู้บ้างเนี่ย? คงไม่ได้รู้แล้วทั้งประเทศหรอกนะ เฮ้อ~
" ลุกขึ้นเถอะครับ แล้วไปนั่งคุยกันก่อน "
" ครับท่าน! "
ผมพูดใส่อากอร์ที่กำลังคุกเข่าอยู่ แล้วเขาก็ตอบออกมาทันทีด้วยน้ำเสียงรับคำสั่งแบบจริงจังมาก
จากนั้นก็เดินตรงไปยังเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามของผม อะไรจะจริงจังขนาดนั้น ท่าทางแบบนี้เราคุ้นเคยดีเลย มันเป็นท่าทางและคำพูดของคนที่จะไม่มีวันคิดทรยศเราเด็ดขาด เพราะชาติที่แล้วก็มีลูกน้องแบบนี้ 1 คน แต่หมอนั้นก็เอาตัวมาบังศรธนูให้เราจนตายไป ไม่คิดเลยว่าจะได้มาเจอกับคนแบบหมอนั้นอีกในชีวิตนี้
ไม่สิ!
จะเรียกว่าในชีวิตนี้ไม่ได้ เพราะนี้มันเป็นชีวิตใหม่ของเราแล้ว!