King X King เมื่อได้เกิดเป็น องค์รัชทายาทลำดับสุดท้าย ตอนที่ 71 ต่างชั้น
เคล้ง!
เคล่ง!
เคล้ง!
เสียงดาบประทะกันระหว่างเอเนเชียร์กับชายชุดดำที่ถือดาบขนาดใหญ่สู้กับเธออยู่ และบริเวณโดยรอบเองตอนนี้นักเรียนส่วนมากก็โดนกลุ่มโจรหมาป่าต้อนให้ไปรวมกันอยู่ยังกลางห้องแล้ว ถึงแม้ว่าจะเกิดการต่อสู้อยู่บ้าง แต่ด้วยความสามารถของเด็กในโรงเรียนที่ยังเด็กอยู่ จึงสามารถใช้ได้เพียงเวทย์ชั้นต่ำ และขาดอาวุธทำให้โดนจับตัวได้อย่างง่ายดาย
' แบบนี้แย่เหมือนกันแหะ ' เอเนเชียร์กวาดสายตามองไปรอบๆ ขณะที่กำลังสู้อยู่ แล้วก็เห็นพวกที่โดนจับไปรวมตัวกัน แต่ถึงตอนนี้จะผ่านมาประมาณ 5 นาที เข้าไปแล้ว แต่พวกอาจารย์ก็ยังไม่เข้ามาช่วย. ทำให้เธอร้อนใจอย่างมาก
ตุ๊บ!
อ้วก!
เสียงของชายชุดดำต่อยเข้าไปที่ท้องของเวฮาจน์ แล้วเขากองร้องออกมาด้วยความจ็บปวด พร้อมกับร่างกายที่กระเดนไปไกลกว่า 5 เมตร เพราะแรงต่อย
" -เรียบร้อยสะทีเสียเวลาตั้งนาน หึหึ! "
ชายที่ต่อยเวอานจ์พูดออกมาแล้วด็เดินตรงไปทางยังจุดที่เวฮาจน์กำลังนอนออยู่ ด้วยท่าทางที่กำลังเอามือทั้งสองข้างกดท้องของตัวเองเอาไว้
" -ถ้าแกยอมให้จับตั้งแต่แรกก็ไม่ต้องการเจ็บตัวแล้ว- งั้นฉันไปก่อนนะ รีบจัดการแล้วก็รีบตามมาละ "
ชายคนนึงพูดออกมาเมื่อเดินถึงจุดที่เวฮาจน์นอนอยู่ แล้วเขาก็เริ่มดึ้งตัวของเวฮาจน์ขึ้นมาจากพื้นทันที จากนั้นก็หันไปคุยกับคนที่กำลังสู้กับเอเนเชียร์อยู่ ทางชายที่อยู่ด้านหน้าของเอเนเชียร์ก็ตอบกลับทันที
" ได้! เดี๋ยวเล่นพอแล้วจะตามไป "
เมื่อคุยกันจบชายที่กำลังอยู่ด้านหน้าของเอเนเชียร์เสร็จ เขาก็เริ่มเดินต่อทันทีโดยลากแขนของเวฮาจน์ 1 ข้างเดินไปด้วย
' ขอโทด้วยนะเวฮาจน์ที่ไม่ได้ไปช่วย แต่ว่ายังไงก็สามารถยืนยันได้ว่าพวกมันจะไม่ฆ่า เพราะงั้นนายก็ไปกับมันก่อนแล้วกัน ' เอเนเชียร์คิดในใจ ขณะที่กำลังมองหน้าชายที่กำลังอยู่ที่ด้านหน้าของตนอยู่ แบบตาไม่กนะพริบ
" เอาละแม่กระต่ายน้อย พวกเราก็มาต่อกันเถอะ! "
ชายด้านหน้าเอเนเชียร์พูดขึ้นมา จากนั้นก็พุ่งใส่เอเนเชียร์ต่อทันที โดยในครั้งนี้เอเนเชียร์ได้แต่รับดาบของชายที่พุ่งเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
' พลังระดับนี้คงไม่ใช่โจรธรรมดาอย่างที่คิด ' เอเนเชียร์ที่กำลังรับการโจมตี รู้ทันทีเลยว่าความสามารถของชายที่อยู่ด้านหน้าของเธอตอนนี้ไม่ใช่โจรปกติแน่นอน
ซึ่งหากไม่ใช่โจรก็ต้องเป็นทหาารในกองทัพของมนุษย์ ซ่ึ่งผลมันก็ออกมาตั้งแต่แรกอยุ่แล้ว ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นอัจฉริยะก็ตาม แต่ก็เป้นเพียงแค่เด็กเท่านั้น แถมชายที่อยู่ด้านหน้าของเธอก็ให้ความรู้สึกน่ากลัวออกมาด้วย ถึงจะไม่เท่าสัตว์อสูรก็ตาม
เคล้ง!
เคล้ง!
" สวนมาสิ สวนมาสิ! "
ชายด้านหน้าตะโกนออกมาอย่างต่อเนื้อง ขณะที่กำลังใชช้ดาบของตน ฟันทางซ้าย แล้วก็ฟันทางขวาของเอเนเชียร์
' ไม่ไหว! แค่รับแรงโจมตีของมันก็ลำบากมากแล้ว ' เอเนเชียร์คิดในใจขณะที่เธอกำลังเอียงดาบของเธอซ้ายที ขวาที ตามวิถีดาบของชายผ้าคลุมด้านหน้าที่กำลังโจมตีอยู่
แต่ในระหว่างที่ชายด้านหน้าขอเธอกำลังฟันอย่างต่อเนื่องอยู่นั้น เขาก็ได้หยุดไป แล้วก็เริ่มถอยห่างจากเอเนเชียร์เล็กน้อย พร้อมกับพูดออกมาด้วยใบหน้าสแยะยิ้ม
" ถ้ากำลังถ่วงเวลาเพื่อให้พวกอาจารย์ของเธอมาช่วย เลิกหวังดีกว่า เพราะตอนนี้พวกมันก็คงโดนหัวหน้าของฉันจัดการไปหมดแล้ว หึหึ! "
เอเนเชียร์ที่ได้ยินชายด้านหน้าพูดออกมา ก็อยู่ในใบหน้าตกใจทันที พรางคิดในใจไปด้วย ' ล้อเล่นใช่ไหม อาจารย์ที่โรงเรียนแห่งนี้ทุกคนต่างก็เป็นจอมเวทย์ชั้นสูง หรือไม่ก็ร่างจำแรงอสูรระดับ 3 กันทั้งนั้น- ไม่สิ! ที่มันพูดมาอาจเป็นเรื่องจริงก็ได้ เพราะขนาดตัวมันยังมีพลังขนาดนี้ ถ้าหัวหน้ามันมีพลังเวทย์อยู่ชั้นสูงสุดมันก็ไม่แปลกอะไร '
เมื่อเอเนเชียร์ประเมินสถาณการณ์ได้ เธอก้เริ่มตั้งท่าต่อสู้ใหม่ทันทีโดยอยู่ในท่าที่หันปลายดาบตรงเข้าไปยังจุดที่ชายด้านหน้ายืนอยู่ แล้วก็ขยับขาซ้ายไปด้านหน้าเล็กน้อยเพื่อเตรีมพรุ่งเข้าไป
' ตอนนี้เราเสียเปรียบทั้งพลังและความสูง สิ่งที่พอจะได้เปรียบมันก็มีเพียงความเร็วเท่านั้น การที่จะจัดการกับพวดมันได้แทบไม่มีทางเลย แต่ยังก็ต้องสู้เท่านั้น ' เอเนเชียร์คิดในใจ พร้อมกับกวาดสายตามองชายด้านหน้าเพื่อประเมินความสามารถไปด้วย
ซึ่งในตอนนี้สิ่งที่เธอได้เปรียบชายที่อยู่ด้านหน้ามีเพียงเรื่องความเร็วเท่านั้น แต่ว่ามันก็ยังตัดสินไม่ได้ว่าเธอได้เปรียบจริงไหม เพราะชายด้านหน้าของเธอยังไม่ได้ใช้เวทย์ออกมาให้เห็น และถ้าเกิดว่าเวทย์เป็นธาตุลมเอเนเชียร์ก็จะเสียเปรียบเรื่องความเร็วทันที
" ให้มันได้แบบนั้นสิ! "
ชายด้านหน้าพูดออกมาด้วยน้ำเสียงดีใจ แล้วก็พุ่งตัวเข้าใสเอเนเชียร์ทันทีอีกครั้ง โดนง้างดาบที่อยู่ในมือขวาของตนแบบเต็มที่ ส่วนทางเอเนเชียร์ก็พุ่งตัวเข้าหาเช่นกันโดยเตรียมตัวแทงเข้าไป
' ถ้าเป็นความเร็วที่มันโจมตีเข้ามาแบบเมื่อกี้ละก็ เราสามมารถหลบได้แน่นอน ' เอเเนเชียร์คิดในใจขณะที่กำลังพุ่งตัวเข้าไป
แต่เมื่อเธอเข้าใกล้ชายที่กำลังพุ่งเข้ามา ชายด้านหน้าของเธอก็เอามือขวาออกมาจากมาคลุม พร้อมกับบอลไฟขนาดประมาณหัวคนที่อยู่ในมือ
' แย่ละสิ! ' เอเนเชียร์คิดในใจ เมื่อเห็นเวทย์บอลไฟที่อยู่ในมือซ้ายของชายด้านหน้า แล้วเธอก็ทิ้งดาบที่กำลังแทงเข้าไปทันที และก็เอามือทั้งสองข้างของเธอมาป้องกันด้านหน้าเอาไว้ โดยก้มหน้าลงเล็กน้อยเพื่อหลบไปด้วย
ตูม!!!
เสียงเวทย์ไฟปะทะเข้ากบร่างกายของเอเนเชียร์เข้าอย่างจัง ทำให้เกิดกลุ่มควันสีดำออกมายังจุดที่ปะทะกัน และร่างของเธอก็กระเดนไปประมาร 10 เมตร จนเกือบที่จะตกเวทีประลองไป
บนร่างกายของเธอตอนนี้เต็มไปด้วยร้อยไหม้จากไฟ แล้วก็รอยถลอกจากการที่กระเดนถไหลกับพื้นเมื่อคู่
" เกินคาดจริงๆ สามารถป้องกันเอาไว้ได้ทันแบบนี้ ที่เธอโดนไปเมื่อกี้เป็นพลังของเวทย์บอลไปของจอมเวทย์ชั้นกลางเลยนะ "
ขรูด...
เสียงผู้ชายที่สู้กับเอเนเชียร์อยู่ดังออกมาจากกลุ่มควันสีดำด้านหน้าของเธอ พร้อมกับเสียงดาบที่กำลังขูดกับพื้นปูนอยู่ ค่อยๆดังออกมาจากกลุ่มควันสีดำด้านหน้าเช่นกัน
' แบบนี้ไมไหวแน่ ดรารอน์คุณปู่ช่วยดะ- '
ตูม!!!
ในระหว่างที่เอเนเชียร์กำลังคิดอยู่ ก็ได้มีเสียงอะไรสักอย่างที่ตกลงมาจากฟ้า พังหลังคาด้านบนของสนามประลองเข้ามา ทำให้ตอนนี้จุดที่สิ่งนั้นตกงมาเต็มไปด้วยกลุ่มควันเพราะแรงกระทบเมื่อคู่ ทำให้ตอนนี้ทั้งสนามประทองต่างพากันหันไปมองสิ่งที่ตกลงมาจากฟ้าเมื่อครู่เช่นกัน ทั้งกลุ่มโจรหมาป่า และพวกเด็กนักเรียน
" บ้าอะไรอีกวะเนี่ย??? "
ชายด้านหน้าของเอเนเชียร์ตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ ขระที่กำลังมองเงาดำที่กำลังยืนอยู่ในกลุ่มควันด้านหน้า แต่เมื่อกลุ่มควันหายไปและเห็นสิ่งที่อยู่ในกลุ่มควันเขาก็มีสีหน้าซีดเหมือนกันต้อมทันที และก้าวถอยหลังแบบช้าๆ พร้อมกับพูดออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นๆ
" ระ- ร่างจำแรงอสูร ระ- ระดับสะ- สูง "
ซึ่งร่างอสูรที่ตกมาจากฟ้า และกำลังยืนอยู่ตอนนี้ก็คือ ดรารอน์!
เกล็ดความรู้ : การเรียกชื่อร่างอสูร!
การจำแรงร่างอสูนนั้นมันก็จริงอยุ่ที่ผู้ใช้สามารแบ่งแยกแยะได้ ว่าตัวเองอยู่ร่างจำแรงอสูรเท่าไหร่ แต่การแบ่งแยกมันก็สามารถแยกได้น้อยคนเพราะการที่จะตรวจพลังได้พลังของตัวเองก็ต้องสูงเช่นกัน ด้วยเหตุนี้การเรียกร่างงจำแรงอสูรในแบบทหารธรรมดา หรือใช้ในกองทัพเพื่อให้ทหารเข้าใจง้ายจะแบ่งเป็น
1,2 ระดับต่ำ
3 ระดับกลาง
4,5 ระดับสูง
ซึ่งระดับต่ำร่างกายจะมีบางอย่างที่เป็นร่างอสูรเท่านั้น แบบดรารอน์ที่มีเล็บและเกล็ด ส่วนระดับกลางจะเกือบเป็นอสูรโดยทั้งร่างกายเป็นอสูรไปแล้ว แต่ส่วนหัวยังเป็นหน้าของมนุษย์อยู่ ส่วนระดับสูงจะเป็นสัตว์อสูรทั้งตัวทำให้ไม่สามารแบ่งแยกได้ว่าเป็นร่างระดับ 4 หรือ 5 ส่วนมากจะดูตามขนาดตัวของสัตว์อสูรชนิดนั้นๆ เพราะถ้าอยู่ระดับ 5 ขนาดตัวจะเท่าสัตว์อสูรแบบโตเต็มวัยนั่นเอง