King X King เมื่อได้เกิดเป็น องค์รัชทายาทลำดับสุดท้าย ตอนที่ 66 ความจริง
ณ ห้องรับแขกในคฤหาสน์แลนด์กรีส
ภายในห้องที่มีชุดโต๊ะไม้ตั้งอยู่ 4 ตัว และก็มีแลนด์กรีส,ทาร์เทียร์,เอเนเชียร์แล้วก็ผมกำลังหันหน้าเข้าหากัน โดยกำลังเล่าเรื่องทั้งหมดของผมให้กับทุกคนฟัง สุดท้ายความลับของเราก็มีคนรู้เพิ่มอีกแล้ว เฮ้อ~
" ถ้างั้นทำไมท่านถึงได้เอาองค์ชาของประเทศเมซัสเข้าประเทศมาแบบนี้ละครับ แบบนี้ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับท่านดรารอน์ละก็พวกเราต้องมีปัญหากับประเทศเมซัสแน่นอน ถึงแม้ว่าตอนนี้จะมีสัญญาสงบศึกอยู่ก็เถอะ แต่ถ้าท่านดรารอน์... "
ทาร์เทียร์พูดออกมาด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงขณะที่กำลังมองไปทางแลนด์กรีสอยู่ โห่ว! แค่รู้ว่าฉันเป็นองค์ชายก็พูดจาให้เกียติว่าท่านเลยเหรอ เป็นคนมีมารยาทจริงๆ ต่างจากเอเนเชียร์ตอนนี้ลิบลับ
ในตอนนี้เอเนเชีร์กำลังทำหน้าบึ้งตรึงใส่ผมแบบไม่พอใจสุดๆ แล้วแก้มทั้งสองข้างก็กำลังป่องออกมาอยู่ ถ้าดูแบบผ่านๆมันก็น่ารักอยู่หรอก หูยาว หน้าเนียล ผมสีเหลืองแล้วก็แก้มที่กำลังป่องออกมา มองยังไงก็น่ารัก แต่ว่าความจริงเธอกำลังโกรธอยู่เพราะเวลาโกรธเธอจะเป็นแบบนั้นตลอด
" มันมีผลประผลผระโยชน์กับประเทศ "
แลนด์กรีสพูดขึ้นมา
" ท่านหมายความว่ายังไงครับ เอาองค์ชายของประเทศมนุษย์มาแบบนี้ท่านยังบอกว่ามีประโยชน์อีกเหรอ "
ทาร์เทียร์โกนออกมาพร้อมกับชี้นิ้วมาทางผม เฮย เฮย เมื่อกี้ยังชมว่ามีมารยาทอยู่เลย และตอนนี้กำลังชี้นิ้วมาทางฉันแล้วพูดแบบนั้นเนี่ยนะ ขอเอาคำชมเมื่อกี้นี้คืนก็แล้วกัน ชิ!
" ท่านคิดว่าถ้าทางนั้นรู้จะทำยังไงครับ เพราะจากที่ผมฟังมาราชาประเทศเมซัสรู้แค่ว่าท่านดรารอน์อยู่กับท่านเดฟีเรียไม่ใช่เหรอ? "
อ่า! นายพุดถุกแล้วทาร์เทียร์ แต่ว่าถึงแม้ว่าจะรู้หมอนั่นก็ไม่กล้าขัดคำสั่ง หรือความคิดเดฟีเรียหรอก เหอะๆ
" ใจเย็นก่อนทาร์เทียร์ ถ้าเจ้าไม่ใจเย็นพวกเราก็คุยกันไม่รู้เรื่องหรอก "
" คะ- ครับ "
แลนด์กรีสพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเหมือนกับว่าในตอนนี้กำลังมีน้ำโหอยู่ แต่กำลังพยามพูดออกมาด้วยน้ำเสียงใจเย็น
ทางทาร์เทียร์เมื่อได้ยินแลนด์กรีสพูดออกมาก็เหมือนจะเข้าใจสิ่งที่แลนด์กรีสต้องการจะสื่อ แล้วเขาก็ก้มหน้าลงเล็กน้อย จากนั้นเสียงของแลนด์กรีสก็พูดออกมาต่อ
" ถ้ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้น ข้าจะเป็นคนรับผิดชอบเองในเรื่องนี้ เจ้าแค่ทำเป็นไม่รู้เรื่องก็พอ แล้วก็ไม่ต้องไปพูดอะไรกับ กาดอน์ เด็ดขาด! เข้าใจไหม? "
" ครับ ถ้าท่านราชารู้มีหวังได้มีเรื่องกับท่านแน่ ท่านน่าจะรู้ดีว่าท่านราชาไม่ชอบมนุษย์ขนาดไหน "
ถึงจะยังสงสัยอยู่ก็เถอะว่าทำไมราชาประเทศเอลฟ์ไม่ชอบมนุษย์ แต่เหตุผลมันก็คงเดาไม่ยากเพราะยังไงมันก็ต้องเกี่ยวข้องกับสงครามอยู่ดีนั่นแหละ สงครามเป็นสิ่งที่ไม่น่าเกิดขึ้นเลยจริงๆ
" ถ้าเช่นนั้นเรื่องวันนี้ที่คุยกันก็เก็บเป็นความลับด้วย ถ้าตัวตนของเจ้านี่ถูกเปิดเผยมันจะเป็นเรื่องใหญ่เอา "
" ครับ "
" ค่ะ "
ทาร์เทียร์กับเอเนเชียร์ตอบออกมาด้วยน้ำเสียงรับคำสั่ง แต่ระหว่างนั้นทาร์เทียร์ก็พูดออกมาอีกด้วยน้ำเสียงที่เหมือนกับว่าคิดอะไรออก และเริ่มพูดต่อโดยหันหน้ามองมาทางผม
" จริงสิ! ถ้าเช่นนั้นท่านก็ไปเข้าร่วมงานประลองประจำปีด้วยสิครับ ท่านดรารอน์ ข้ารู้สึกว่าช่วงนี้จะมีพวกลูกขุนนางเอลฟ์ในเมืองหลวงหยิ่งผยองกันในความสามารถกันมากขึ้นมาก ตามจริงข้าก็อยากจัดการเองแต่ถ้าทำแบบนั้นไปมันก็จะดูไม่ดี- "
เหอะๆ! แม่ทัพใหญ่แห่งประเทศเอลฟ์จะไปจัดการเด็กมันก็คงต้องแบบนั้นแหละ-
" เช่นนั้นท่านช่วยไปจัดการพวกนั้นแทนข้าได้ไหม? "
" ขอเวลาคิดก่อนนะครับ "
ก็ตอบไปแบบนั้นแหละแต่ใจจริงไม่ได้คิดจะไปงานแบบนั้นหรอก เพราะตอนนี้ชีวิตแสนสงบสุขของดรารอน์ ก็กำลังถูกคุกคามหนักพอแล้ว ยังไงก็ไม่เอาอีกเด็ดขาด!
" ดะ- ได้ครับแต่การต่อสู้จัดจัดขึ้นในอีก 3 เดือนถ้าไม่ลงแข่งท่านก็ต้องไปให้ได้นะครับ "
ทาร์เทียร์พูดออกมาด้วยน้ำเสียงมีความหวังมองมาทางผม
หมอนี่ไม่ยอมแพ้สินะ แต่ก็ช่วยไม่ได้ตอบให้มันผ่านๆ ไปก็แล้วกัน !
" ครับถ้าว่างผมจะไป "
เมื่อพวกเราคุยกันจบก็พากันเดินออกจากห้องทันที โดยในระหว่างที่กำลังเดินออกจากห้องผมก็พยามจะคุยกับเอเนเชียร์ด้วย แต่ก็ดูพูดว่า [ เกลียดคนโกหกที่สุด ] ใส่หน้าแล้วเธอก็วิ่งหนีผมไป แต่ผมก็ไม่ได้ตามไปเพราะยังไงมันก็เป็นเรื่องปกติ ที่พึ่่งรู้ความจริงเอาตอนนี้ ทั้งๆที่พวกเราสนิทกันขนาดนั้น แต่ว่าเดี๋ยวก็หายโกรธเองนั่นแหละตอนนี้ต้องปล่อยให้อยู่คนเดียวไปก่อน
...
.....
......
เช้าวันต่อมา
ในตอนนี้ผมกำลังนั่งอยู่ในห้องอาหารของคฤหาสน์ในเวลา 06.00 น. ที่เป็นเวลากินข้าวของทุกวัน และบนโต๊ะอาหารก็มีอาหารทั้งเนื้อหมู เนื้อไก่และปลารวมถึงอาหารหลายต่อหลายชนิดวางเอาไว้อยู่ และโดยรอบห้องเองก็มีคนใช้ที่ผู้ชายใส่ชุดพ่อบ้าน ผู้หญิงใส่ชุดเมดกำลังยืนอยู่รอบห้องหลายสิบคน
ส่วนโต๊ะอาหารก็เป็นโต๊ะยาวขนาดใหญ่ที่มีแลนด์กรีสนั่งอยู่หัวโต๊ะ แล้วมีผมกับทาร์เทียร์นั่งอยู่ข้างๆ คนละด้านทั้งซ้ายและขวา ตอนนี้ทาร์เทียร์กำลังใส่เสื้อสีเขียวแบบหลวงกว่าตัวนิดหน่อย ทำให้เขาดูตัวเล็กกว่าเมื่อวานที่ใส่เกราะมาก แต่ก็ยังมีกล้ามเนื้อปรากฏออกมาให้เห็นอยู่
" งั้นพวกเราก็มาเริ่มกินกันเลย "
" เอ่ะ!
แลนด์กรีสพูดขึ้นมาพร้อมกับเริ่มจับซ้อมกับช้อนที่วางเอาไว้ด้านหน้า แต่ในระหว่างนั้นผมก็ร้องออกไปด้วยน้ำเสียงแปลกใจแล้วก็เริ่มพูดออกไป
" แล้วเอเนเชียร์ละครับ ไม่รอเธอก่อนเหรอ??? "
" เรื่องนั้นไม่จำเป็นตอนนี้เธอเข้าเมืองไปยัง โรงเรียนรีเวอร์เนียร์ ไปแล้ว "
" ทำไมละครับ??? "
" ข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่เห็นบอกว่าอยากไปฝึกดาบที่นั่น ก่อนจะถึงวันประลองประจำปีของประเทศ ข้าก็เลยไม่ได้ถามอะไรมากเพราที่นั่นเองก้มีอาจารย์ที่มีความสามารถด้านดาบหลายคน "
อ่า! ออ! ที่ไปคงเป็นเพราะเรื่องเมื่อวานแน่ๆ เพราะปกติเธอต้องไปเรียนที่โรงเรียนนั่นตั่งแต่อายุ 8 ปี แต่ตอนนั้นก็ไม่ยอมไปเพราะอยากฝึกกับอยู่กับเรา แลนด์กรีสเลยไม่ได้บ่ลอะไรมาก แต่พอหลานสาวตัวเองอยากไปเพื่อเข้าสังคมแบบนี้ก็เลยปล่อยไปสินะ แต่ว่าเธอไม่อยู่มันก็ดีเหมือนกัน เราจะได้มีเวาฝึกเต็มที่และเราเองจะอยู่ที่นี้อีกนานไหมก็ไม่รู้ เพราะตอนนี้ก็เป็นร่างจำแรงระดับ 4 ได้แล้ว ทั้งๆที่ข้อตกลงของเดฟีเรียกับแลนด์กรีสจะแค่ร่างระดับ 3 ก็เถอะ !
เมื่อผมคุยกับแลนด์กรีสรู้เรื่อง พวกเราทั้งสามคนก็เริ่มกินอาหารด้านหน้ากัน
...
....
......
เมื่อเวลาผ่านไปสักพัก หลังจากที่พวกเราก็กินอาหารเสร็จ เสียงทางทาร์เทียร์ก็เริ่มพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าจริงจังมองมทางผม
" ท่านดรารอน์ ข้ามีเรื่องจะข้อร้องหน่อยครับ! "
อะไร! น่าตาจริงจังแบบนั้นจะตอบปฏิเสธมันก็ยังไงอยู่ แต่ถ้าตอบตกลงก็ต้องเจอกับเรื่องยุ่งยากอีกแน่ เฮ้อ~
เกล็ดความรู้ : โรงเรียนรีเวอร์เนียร์!
เป็นโรงเรียนที่ตั้งอยู่ที่เมือง รีเวอร์เนียร์ เป็นเมืองขนาดใหญ่ของอณาเขตทางใต้ของประเทสเอลฟ์ที่แลนด์กรีสปกครองอยู่ มันมีระยะห่างจากคฤหาสน์ของแลนด์กรีสประมาณ 5 ชั่วโมงในการเดินทางด้วยรถม้า [ ไม่ไกลเท่าไหร่ ]
ตัวโรงเรียนเป็นโรงเรียนของชนชั้นสูงอย่างลูกขุนนาง หรือพวกลูกคนรวยอย่างเช่นพวกพ่อค้า ทำให้ได้รับหน้าตาในสังคมอย่างมากเมื่อจบมาจากโรงเรียนแห่งนี้ และที่โรงเรียนเองก็เป็นแหล่งรวมตัวพวกชนชั้นสูงด้วย!