King X King เมื่อได้เกิดเป็น องค์รัชทายาทลำดับสุดท้าย ตอนที่ 60 เอเนเชียร์&กอลิล่า
" โอกกกกก!!! "
ตุบ! ตุบ! ตุบ!
เสียงกอลิล่าร้องลั่นออกมาพร้อมกับใช้มือของมันทุบที่หน้าอกของตัวเองอย่างต่อเนื่อง เหมือนกับว่าในตอนนี้มันกำลังจะขู่เอเนเชียร์ที่กำลังวิ่งตรงเข้าไปหามันอยู่ แต่ว่าเสียใจด้วยนะเจ้ากอลิล่าของแค่นั้นทำให้เธอกลัวไม่ได้หรอก
ในตอนนี้เอเนเชียร์ก็ได้เข้าไปใกล้กับกอลิล่าแล้วจากนั้นเธอก็ใช้ดาบที่อยู่ในมือขวาของเธอฟันเข้าไปทันทีโดยเล็งส่วนหัวของมัน
อื้ม! เลือกจุดได้ดีเพราะการสู้กับสัตว์อสูรประเภทนี้ปิดเร็วเท่าไหร่ก็ดีเท่านั้น เพราะถ้ายือเยื้อละก็ยิงเสียเปรียบด้านพละกำลังเพราะแรงของมันเหลือๆ
ฟุบ!
กอลิล่าใช้มือซ้ายของมันจับดาบของเอเนเชียร์ได้อย่างง่ายดาบ จากนั้นมันก็ใช้กำปั้นในมือขวาของมันต่อยลงไปยังจุดที่เอเนเชียร์ยืนอยู่ ส่วนทางเอเนเชียร์ก็กระโดดหลบมันของมันทันทีโดยปล่อยดาบในมือของเธอไป
ตูม!!!
กำปั่นขนาดใหญ่ของกอลิล่าชนเข้ากับพื้นดินอย่างจัง ไม่อยากคิดเลยว่าถ้าโดนกำปั่นนั่นโจมตีจะเป็นยังไง เหอะๆ
สำหรับพวกสัตว์อสูรประเภทกอลิล่าแบบนี้ มันก็จริงอยู่ที่ความสามารถในการโจมตีอย่างของพวกมันไม่ค่อยมีของแหลมคมเหมือนสัตว์อสูรประเภทอื่น แต่ความสามารถในการต่อสู้ของมันนี่อย่าพูดถึงเลย น่ากลัวแบบสุดๆ ทั้งความอึดทนและพละกำลัง
เอาละเมื่อทิ้งดาบไปแล้วเธอจะทำยังไงต่อ เวทย์ก็ใช่ไม่ได้ ผมคิดในใจขณะที่กำลังมองเอเนเชียร์ด้านหน้าอยู่ และดูเหมือนในตอนนี้สีหน้าของเธอจะเริ่มมีความกังวลเกิดขึ้นมาแล้ว
" แกมันขี้โกงนิ!!! "
เอเนเชียร์ตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจแล้วก็ใช้นิ้วชี้ข้างขวาของเธอตไปยังเจ้ากอลิล่าด้านหน้า เอ๋~ เอาแบบนี้เลยเหรอ ไปบอกว่าสัตว์อสูรขี้โกงแบบนั้นนี้เธอคิดว่าพวกมันฟังรู้เรื่องหรือยังไง?
" โฮกกกก "
ตุบ!
กอลิล่าร้องออกมาด้วยน้ำเสียงดังลั่นอีกครั้งราวกับว่าตอนนี้มันต้องการที่จะขู่เอเนเชียร์ จากนั้นมันก็โยนดาบที่อยู่ในมือออกไป ดาบที่ถูกโยนลอยไปไกลประมาณ 10 เมตร จากนั้นกอลิล่ามันก็กระโจนเข้าในเอเนเชียร์ต่อแบบทันที ด้วยท่าทางกำลังบ้าคลั่ง
ตุบ ตุบ ตุบ
เสียงกอลิล่าวิ่งด้วยความเร็ว โดยใช้ทั้งแขนและขาสัมผัสพื้นเพื่อเพิ่มความเร็วให้ตัวมันเอง
คงถึงเวลาของเราแลัว- ผมคิดในใจเมื่อเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด แต่ในระหว่างนั้นก็ต้องพบกับเรื่องแปลกใจ เพราะตอนนี้เอเนเชียร์กำลังกำหมัดทั้งสองข้างขึ้นมาเพื่ออยู่ในท่าทางพร้อมสู้แบบนักมวย
เอาจริงดิ!
คิดจะวัดกำลังกับเจ้ายักษย์นั้นนะเหรอ ก็รู้อยู่หรอกว่าเอลฟ์มีพลังกายมากกว่าของมนุษย์หรือเผ่าพันธ์อื่นที่คล้ายกัน แต่นั้นมันก็เหมือนกับเอาต้นไม้อ่อนไปชนกับต้นไม่ใหญ่- ไม่สิ! เรียกว่ามดกับช้างดีกว่าแถมเอเนเชียร์เป็นลูกของหมดอีก ไม่ไหว ไม่ไหว สงสัยคงต้องช่วยแล้ว
เมื่อตัดสินใจได้ผมก็โยนขวานศึกของผมที่มีปลายแหลมตรงหัวขวานพุ่งตงเข้าไปหากอลิล่าที่กำลังกระโจนใส่เอเนเชียร์ทันที โดยความเร็วที่ผมโยนไปยังไงมันก็สามารถไปถึงมัน ก่อนที่มันจะถึงตัวขอฝเอเนเชียร์แน่นอน แต่ในระหว่างที่ขวานศึกของผมกำลังตรงเข้าไปเอเเชียร์ก็เริ่มวิ่งไปทางดาบของเธอที่วางอยู่ทันที
ส่วนทางกอลิร่าที่มันกระโจนเข้ามาอย่างเต็มที่ ก็ดูเหมือนว่ามันจะไม่สามารถหยุดได้ โห่ว! แบบนี้เองสินะเธอคิดจะล่อให้มันวิ่งเข้ามาหา แล้วก็ใช้โอกาศมันอยู่ในความเร็วที่ไม่สามารถเปลี่ยนทิศทางได้ทันที วิ่งตรงไปหยิบดาบ อื้ม! ถึงจะอันตรายแต่สำหรับเด็กอายุ 10 ปีก็ถือว่าเป็นการวางแผนที่ดีมาก
ฉวบ!
" โฮกกก!!!! "
ปลายขวานศึกของผมเสียบเข้าไปกลางตัวของกอลิล่าที่กำลังวิ่งเข้ามา ทำให้มันตะโกนออกมาเป็นเสียงที่ดังกว่าเดิมหลายเท่าเพราะความเจ็บปวด ตามจริงผมจะปิดชีวิตของมันเลยก็ได้ เช่น โจมตีไปที่หัวหรือไม่ก็ส่วนหัวใจ แต่ว่าถ้าแบบนั้นเอเนเชียร์อาจจะโกรธผมอีกเพราะงั้นให้เธอจัดการเองดีกว่า
ตุ๊บ! ตุ๊บ! ตุ๊บ!
เสียงกอลิล่าใช้มือที่กำเป็นกำปั้นทั้งสองอมือ ทุบลงไปที่พื้นดินบริเวณนั้นอย่างต่อเนื่อง และในปากของมันก็มีลูกไฟขนาดใหญ่ของมันปรากฏออกมา ดวงตาทั้งสองของมันมีแสงแดงกล่ำเหมือนกับสีเลือดมองตรงมาทางผม ซึ่งแววตาแบบนี้ผมเข้าใจดีเลยมันหมายถึงเรื่องอะไร นั่นเป็นการเดิมพันครั้งสุดท้ายของมันให้กาโจมตีครั้งสุดท้ายสามารถจัดการกับผมได้อย่างแน่นอน งั้นก็ดีอย่างลองเวทย์ไฟที่เป็นเวทย์ป้องกันอยู่เหมือนกัน เพราะงั้นปล่อย-
ฉับ!
ตุ๊บ! ตุ๊บ...
ในระหว่างที่ผมกำลังจะรายเวทย์กำแพงไฟที่คิดค้นมาอยู่นั้น ดาบของเอเนเชียร์ก็ฟันเข้าที่ด้านหลังของกอลิล่าที่เตรียมการโจมตีอยู่ ในเพียงการโจมตีเดียวหัวของกอลิล่ามันก็หลุดออกจากส่วนตัวทันที
เฮ้อ~ ทำแบบนั้นมันก็อดทอสอบพลังนะสิ! ผมยืนคิดในใจด้วยความเสียดาย จากนั้นก็เดินตรงเข้าไปยังจุดที่เอเนเชียร์ยืนอยู่ด้วยอารมณ์เซ็งๆ
...
....
......
" เป็นยังไงละดาบเดียวจบเลย! "
เอเนเชียร์พูดออกมาด้วยท่าทางภูมิใจแล้วก็ยืดอกขึ้นมา ครับ ครับ สุดยอดมากครับดาบสุดท้ายนะ แต่ที่เหลือไม่ได้เรื่องสักอย่างเลย ผมละอยากจะพูดออกไปแต่ต้องทนเอาไว้ก่อน เพราะยังไงมันก็ถือว่าเป็นผลงานของเธอในการจัดการมัน เหอะๆ
" อ่า... สุดยอด "
ผมตอบออกไปด้วยน้ำเสียงปกติแล้วก็มองไปยังจุดที่หัวของกอลิล่าที่กำลังตั้งอยู่กับพื้น พร้อมกับกองเลือดขนาดใหญที่ไหลออกมาจากตัวแล้วก็หัวของมัน และผมก็เริ่มเจาะหัวของมันทันทีเพื่อเอาคริสตันออกมา
ฉวบ!
" เห็นกี่ครั้งก็อยากจะอวก นายทำแบบนั้นได้ยังไง "
เอเนเชียร์พูดออกมาพร้อมกับใบหน้าขยะขแยงกับสิ่งที่ผมกำลังทำอยู่ เธอไม่เข้าใจหรอกว่าคริสตันเวทย์มันสำคัญขนาดไหนตอนนีี้เธอยังดูดซับได้แค่วันละ 100 เองนิ เดี๋ยวอีกไม่นานเธอก็เป็นแบบฉันเองนั่นแหละ ยัยลูกคุณหนู!
เกล็ดความรู้ : การล่าสัตว์อสูรในตอนนี้!
สำหรับดรารอน์ในตอนนี้การล่าสัตว์อสูรจะได้ผลประโยชน์อยู่ทั้ง 2 อย่าง ก็คือ 1. ได้คริสัตนเวทย์จากพวกมัน 2. ได้เงินค่ากำจัดสัตว์อสูรจากขุนนางที่ปกครองพื้นที่ ซึ่งคนที่ปกครองพื้นที่ก็คือ แลนด์กรีส ซึ่งมีตำแหน่งเป็นดยุคของประเทศเอลฟ์ที่มีเขตปกครองติดอยู่กับประเทศเมซัสของดรารอน์ และในเขตก็มีเมืองใหญ่หลายต่อหลายเมืองตั้งอยู่พร้อมกับพวกสัตว์อสูรจำนวนมากอยู่ด้วย การกำจัดสัตว์อสูรในเขตของแลนด์กรีสก็เลยได้เงินด้วย เพราะจำนวนมันเยอะมากชนิดที่ว่าออกจากเมืองก็คืออันตรายทั้งกลางวันและกลางคืน
ส่วนเหตุผลที่มีสัตว์อสูรเยอะมันก็เป็นเพราะว่ามีป่าเยอะ เผ่าพันธ์เอลฟ์นั้นต่างจากมนุษย์ที่จะทำลายป่าและสร้างที่อยู่อาศัย แต่พวกเขากลับสร้างบ้านเอาไว้กับต้นไม้ แลัมีเพียงบ้านเอลฟ์ที่มียศขุนนางเท่านั้นที่จะสร้างเป็นคฤหาสน์หรือไม่ก็บ้านขนาดใหญ่ ทั้งนี้มันก็รวมถึงการกินของเผ่าเอลฟ์ด้วยที่กินพืชผักเป็นส่วนใหญ่อีก ก็เลยทำให้มีสัตว์ป่าจำนวนมากที่เป็นอาหารชั้นดีของสัตว์อสูร