King X King เมื่อได้เกิดเป็น องค์รัชทายาทลำดับสุดท้าย ตอนที่ 46 ห้าเดือนต่อมา!
5 เดือนต่อมา
ณ บ้านของดรารอน์ภายในห้องอาหาร
ตอนนี้ผมกำลังนั่งกินอาหารอยู่ภายในห้อง ซึ่งเป็นเรื่องปกติของทุกวันและในวันนี้กองไฟที่จุดในห้องตลอดก็ไม่ได้จุดแล้ว เพราะตอนนี้มันหมดฤดูหนาวไปแล้วทำให้อากาศอุ่นขึ้นเยอะ และด้านหน้าของผมตอนนี้ก็มีอาหารหลายอย่างทั้งซุป ปลาย่าง เนื้อย่าง และคนที่กำลังนั่งฝั่งตรงข้ามกับผมก็คือเดฟีเรีย!
งับ.... งับ.... 0_0-
" เจ้าหนูนี่เจ้าสนใจในราชบัลลังก์แล้วงั้นเหรอ? "
เดฟีเรียพูดออกมาขณะที่ผมกำลังกินข้าวอยู่ด้วยน้ำเสียงสงสัย คำถามของเะอทำให้ผมหยุดเคี้ยวทันทีเพราะความแปลกใจ
สนใจราชบัลลังก์? นี่เธอถามอะไรของเธอออกมา เราไปสนใจราชบัลลังก์ตอนไหนอีก ผมคิดด้วยความแปกใจหลัจากที่ได้ยินเดฟีเรียถามออกมา เพราะเธออาจจะคิดว่าผมฝึเนสก้าเพื่อการนั้นก็ได้ถึงได้ถามมาแบบนี้ เพราะตอนนี้เนสก้ากเป็นเด็กที่สามาถใช้เวทย์ชั้นต่ำของเวทย์ไฟได้แล้วด้วย
" ผมไม่ได้สนใจนะครับ- ทำไมท่านอาจารย์ถึงได้ถามแบบนั้นกันละ? "
" นี่ไม่รู้หรอกเหรอ? เฮ้อ~ แต่มันก็เป็นความผิดของฉันด้วยแหละที่มันเป็นแบบนีี้ "
เดฟีเรียพูดกับถอนหายใจออกมาด้วยน้ำเสียงเหนื่อยใจ นี่เธอกำลังพูดถึงเรื่องอะไรอยู่แต่มันก้แปลกเหมือนกันที่เธอถามเราออกมาแบบนี้ ผมคิดในใจด้วยความสงสัยจากนั้นเดฟีเรียก็พูดออกมาต่อ
" ก็เจ้าเอาลูกนอกสมรสของขุนนางเจ้าของพื้นที่มาเป็นคนรับใช้ แถมยังให้คริสตันเวทย์กับเธอด้วยไม่ใช่หรือยังไง " ' ถึงตอนแรกที่รู้จะตกใจก็เถอะ ที่เด็กอายุเพียง 6 ปี พลังเวทย์ตื่นมาแต่เมื่อรู้ว่าเวลาเพียง 5 เดือนสามารถใช้เวทย์ไฟชั้นต่ำได้แล้วนี้สิ ที่มันน่าตกใจยิ่งกว่า แต่ว่ามันก็ยังไม่สุดยอดเจ้าเด็กบ้าที่นั่งอยู่ด้านหน้าของเราตอนนี้หรอก เฮ้อ~ '
" อาจารย์กำลังพูดถึงเนสก้าอยู่ใช่ไหม... "
" แล้วมันมีคนอื่นด้วยหรือไง "
เนสก้า! เนสก้าเนี่ยนะเป็นลูกนอกสมรส ไม่สิ! แต่พอมาลองคิดใหม่โอกาศที่มันจะเป็นแบบนั้นก็มีอยู่เหมือนกัน ทั้งพลังและผิวพรรณของเธอ รวมถึงความสามารถในการดูดซับพลังเวทย์มันก็เกินมาตฐานไปแล้วทั้งนั้น ไม่สิ! เรียกแต่เกินมาตฐานมันน้อยไปเพราะเธอมันสุดยอดกว่าเยอะ
" ถ้างั้นวันนี้พวกเราจะไปหาขุนนางเจ้าของพื้นที่ก็แล้วกัน เพราะตอนนี้ข่าวที่เจ้าหายตัวไปก็ลือในหมู่ขุนนางเยอะกันแล้วด้วย การไปทำความรู้จักตอนนี้เป็นสิ่งดีที่สุด "
ตามจริงมันน่าจะไปหาตั้งนานแล้วละ!
" ครับ!
หลังจากที่คุยกันเสร็จพวกเราสองคนก็กินอาหารต่อ แล้วเมื่อกินเรียบร้อยทางเดฟีเรียก็เริ่มใช่เวทย์เคลื่อนย้ายพาผมไปหาขุนนางเจ้าของพื้นที่ทันทีเมื่อพวกเรากินอาหารเสร็จ โดยใช้เวทย์เคลื่อนย้ายของเธอเพื่อเดินทางไปที่นั่น อยากใช้เเวทย์เคลื่อนย้ายแบบนี้ให้ได้เร็วๆจัง! ผมคิดในใจขณะที่มองเธอใช้เวทย์เคลื่อนย้าย
...
....
.....
ณ บ้านขุนนางเจ้าที่
หลังจากที่ผมเดินทางมาด้วยเวทย์เคลื่อนย้ายของเดฟีเรียพวกเราทั้งสองคนก็มาโผ่ลอยู่ที่ด้านหน้าของบ้าน- ไม่สิ! จะเรียกว่าบ้านมันก็ยังไงอยู่ คฤหาสน์? ปราสาท? เรียกแบบไหนดี ตอนนี้ผมกำลังสับสนว่าจะเรียกสิ่งปลูกสร้างด้านหน้ามันว่าอะไรดี เพราะตอนนี้ที่ด้านหน้าของผมเป็นบ้านหลังใหญ่ที่มีกำแพงหินล้อมรอบเอาไว้ ตัวบ้านถูกสร้างขึ้นด้วยไม้ทั้งหมด และบนกำแพงหินก็มีเช่นพวกเครื่องยินหินและอาวุธอยู่มากมาย พร้อมกับพวกทหารที่ยืนห่างกกันประมาณ 5 เมตร บนกำแพงจุดละคนอย่างแน่นหนา จะสร้างป้อมปราการเหรอ? เหอะๆ
" ไปกันเถอะ "
" ครับ "
เดฟีเรียพูดออกมาแล้วเธอก็เริ่มเดินไปยังประตูทางเข้าทันที โดยที่ประตูทางเข้าตอนนี้มีทหารสวมชุดเกราะเหล็กเอาไว้เต็มตัว เห็นเพียงส่วนของช่วงหัว พวกนั้นกำลังยืนตรงมองมายังพวกเราอยู่ ทหารที่ยืนอยู่มีทั้งหมด 2 คน ซึ่งยืนด้านซ้ายและด้านขวาของประตูเอาไว้พร้อมกับดาบคาดเอวอยู่คนละ 1 เล่ม
โดยในระหว่างที่ผมเดินตามเดฟีเรียไปก็ตรวจสอบพลังขอพวกทหารไปด้วย ซึ่งจากการตรวจสอบพลังของทหารพวกนนี้ก็ได้รู้ว่าพลังอยู่ในชั้นกลางกันทั้งสองคน แข็งแกร่งใช่เล่น!
" โปรดหยุดก่อนครับท่านจอมเวทย์! "
ทหารคนที่ยืนด้านขวาพูดออกมาหลังจากที่ผมกับเดฟีเรียเดินถึด้านหน้าประตู ผมจะเรียกเจ้านี้ว่าทหารหมายเลข 1 ก็แล้วกันส่วนคนที่อยู่ทางซ้ายเป็นทหารหมายเลข 2 จำง่ายดี!
" ท่านช่วยบอกจุดประสงค์ที่เดินทางมานี้ด้วยครับ เพราะที่แห่งนี้เป็นบ้านของตระกูล เมอร์ เซกรีพ พวกเราคงให้ท่านผ่านเข้าไปไม่ได้ครับ " ' ผู้หญิงคนนี้ใช้เวทย์เคลือนย้ายมาเมื่อคู่ อย่างน้อยเธอต้องเป็นจอมเวทย์ชั้นสูงอย่างแน่นอน และถ้าเป็นศัตรูละก็พวกเราไม่รอดแน่ '
ทหารหมายเลข 1 พูดออกมาด้วยน้ำเสียงเกร็งๆ ใส่เดฟีเรียด้านหน้า แต่ว่าตระกูล เมอร์ เซกรีพ ฟังแล้วรู้สึกคุ้นเคยยังไงไม่รู้แหะ เหมือนเคยได้ยินที่ไหน?
" ไปบอกบารอนของที่นี่สะว่า เดฟีเรียต้องการเจอ "
" ดะ- เดฟีเรีย! "
หมายเลข 2 พูดออกมาด้วยใบหน้าตกใจและน้ำเสียงค่อยๆ
" ท่านคือท่านผู้นั้นงั้นเหรอ? "
หมายเลข 1 ถามกลับทันทีด้วยน้ำเสียงตกใจหลังจากที่เดฟีเรียพูดจบ
ตอนนี้ทหารทั้งสองคนต่างก็กำลังทำหน้าตกใจเมื่อรู้ว่าเดฟีเรียคือผู้หญิงด้านหน้าของพวกตน แต่มันก็ช่วยไม่ได้เป็นใครมันก็ต้องตกใจกันทั้งนั้นแหละ ถ้าตัวเราอยู่ในสถาณะเดียวกับพวกนี้ก็ไมคิดหรอกว่าจอมเวทย์อันดับ 1 ของประเทศจะเดินทางมาที่นี่ เหอะๆ
หลังจากที่ทหารสองคนทำสีหน้าตกใจกันสักพัก ก็พยักหน้าเข้าหากันระหว่างที่มองหน้ากันจากนั้นก็เริ่มพูดออกมาทันทีโดยเจ้าหมายเลข 1 เป็นคนพูดออกมา
" ถ้าเช่นนั้นเชิญท่านเดฟีเรียตามข้ามาได้เลยครับ "
เชื่อง่ายจังเลย! แต่ถ้าเห็นเดฟีเรียใช้เวทย์เคลื่อนย้ายแบบนั้นมันก็ต้องเป็นแบบนี้แหละ ผมคิดในใจขณะที่มองทหารหมายเลข 1 กำลังชูมือขวาของเขาขึ้นมาเพื่อเป็นสัญลักษณ์อะไรบางอย่าง จากนั้นมันประตูขนาดใหญ่ด้านหน้าของเรามันก็ค่อยๆเปิดออกมา โดยเหมือนกับว่ากำลังถูกดึขึ้นไป
แต่ก็ยังสงสัยอยู่แหะชื่อตระกูล เมอร์ เซกรีพ มันฟังแล้วรู้สึกคุ้นหูยังไงไม่รู้แต่เหมือนตอนนั้นไม่ได้สนใจอะไรมากมายเลยไม่ได้จำแต่เคยได้ยินแน่นอน แต่ว่าก็คงไม่ใช่คนใหนญ่คนโตอะไรก็เพราะเป็นแค่บารอนที่ปกครองเขตแดนแบบี้ แล้วเราไปคุ้นหูได้ยังไง???
...
....
.....
ณ ห้องรับแขก
" ผมละตกใจมากจริงๆ ที่พกวท่านทั้งสองเดินทางมานี้ "
ผู้ชายอายุประมาณ 40 ปี ผมสีเหลืองยาวเล็กน้อย ผิวีขาว รูปร่างท้วมสวมชุดขุนางแบบดูดีพูดออกมาด้วยหน้าตากำลังปั้นยิ้มอยู่
ตอนนนี้ผมกับเดฟีเรียกำลังนั่งอยู่ในห้องสี่เหล่ืยมนาดใหญ่ที่ภายในเต็มไปด้วยของสวยงานมากมาย ทั้งพรมอย่างดีที่ปูเอาไว้กับพื้นถึงจะไม่ดีเท่าไหร่ก็เถอะ และก็พวกของตกแต่งภายในห้องรวมถึงหลอดไฟหลายสิบดวงที่ให้แสงสว่างภายในห้อง และในตอนนี้ผมก็เข้าใจหมดแล้วว่าเรื่องที่ผมคุ้นๆชื่อของตระกูลนี้ มันเป็นเพราะอะไร !
ผู้ชายที่อยู่ด้านหน้าของผมตอนนี้ก็คือ วอเตอร์ เมอร์ เซกรีพ เป็นผู้ชายที่เป็นพ่อของลาฟเชียร์ที่ผมเจอในงานเปิดตัวเมื่อปีที่แล้วนั่นเอง เฮ้อ~ โลกนี้ช่างกลมเหลือเกิน!
" แต่ว่าพวกท่านทั้งสองคนเดินทางมาที่แบบนี้ทำไหมเหรอครับ??? "
" วันนี้ฉันจะพาองค์ชายมาแนะนำกับนาย เพราะตอนนี้พวกเราจะมาใช้ชีวิตในหมู่บ้านมิลล์อีกประมาณ 1 ปี "
" หมู่บ้านมิลล์... "
วอเตอร์พูดออกมาด้วยน้ำเสียงสงสัย
' ทำไมองค์ชายต้องมาอยู่ที่หมู่บ้านแบบนั้น??? ' วอเตอร์คิดในใจด้วยความสงสัย
" ทำไมท่านดรารอน์ไม่มาอยู่ในบ้านของข้าละครับ ข้าจะดูแลท่านอย่างดี- "
" ไมไ่ด้! "
ในระหว่างที่วอเตอร์กำลังพูดออกมาอยู่เดฟีเรียก็พูดขัดออกไปทันทีด้วยน้ำเสียงแข็ง ทำไมละ! ทำไมไม่ได้ละ! ถ้าอยู่นี้ก็สบายแท้ๆ เวลาเธอไม่อยู่ฉันก็มีข้าวอร่อยๆกินด้วย
" ตอนนี้องค์ชายดรารอน์กำลังอยู่ในช่วยฝึกฝน เพราะงั้นตอนนีี้ต้องใช้ชีวิตแบบคนปกติเท่านั้น "
ไอตรรกะความคิดแบบนั้นไปเอามาจากที่ไหน? แล้วทำไมคนที่ต้องใช้ชีวิตลำบากมันต้องเป็นฉันคนเดียวละไอเจ้าพวกหมายเลข 1 - 4 ถึงได้กินดีอยู่สบายแบบนั้น ชิ!
" อะ- อ่าครับ " ' ถึงจะเป็นองค์รัชทายาทลำดับที่ 5 แต่เอามาฝึกแบบมันก็.... '
วอเตอร์ตอบออกมาพร้อมกับใบหน้ายิ้มแบบเฝื่อนๆ แล้วเขาก็พูดออกมาต่อ
" แล้วตอนนี้องค์ชายได้รู้เรื่องน้องสาวหรือยังครับ? "
" น้องสาว? "
ผมพูดออกมาด้วยสีหน้ามึนงง เมื่อได้ยินวอเตอร์พูดออกมา จากนั้นเสียงของเดฟีเรียที่นั่งอยู่ข้างๆผมก็ดังขึ้นมา
" ลืมบอกไปเลยแหะ! "
เดี๋ยวนะ! เรื่องแบบนี้มันลืมกันได้ด้วยเหรอ เรื่องสำคัญขนาดนั้นเลยนะแต่ว่าจะว่าเดฟีเรียก็ไม่ได้ เพราะเราเองก็ยุ่งจนลืมคิดเรื่องของเอรีน่าไปเลยในตอนนี้มันผ่านมาเกือบปีตั้งแต่ที่เราออกมา และในตอนนั้นเธอก็กกำลังท้องอยู่ด้วยคงคลอดออกมาแล้วนั่นแหละ
" น้องผมชื่ออะไร? "
ผมถามพร้อมกับมองไปที่วอเตอร์ที่กำลังนั้งอยู่
" เอ็ดเน โรล์ เดฟีเกีย ครับท่าน! "
" อื้ม! "
ตอนนี้ถึงจะอยากเจอมันก็เจอไม่ได้หรอก เพราะตอนนี้เธอก็พึ่งเกิดมาตามกฏบ้าบ่อของราชวงศ์ก็คืออายุ 3 ปี ถึงจะสามารถออกมาพบผู้คนได้ ถึงจะอยากเจอก็ต้องอดทนเอาไว้!
" คะ- คือว่า.... "
วอเตอร์พูดออกมาด้วยน้ำเสียงหนักใจ พร้อมกับแววตาขึ้นๆลงๆ มองไปยังเดฟีเรียที่นั่งอยู่ แต่ถึงยังไม่ได้พูดออกมาผมก็เดาออกแล้วว่าหมอนนี้มันจะพูดอะไรออกมา ก็โอกาศแบบนี้มาทั้งทีมันก็ต้องรีบคว้าเอาไว้ละนะเป็นเรื่องธรรมดา แต่เสียใจด้วยนะวอเตอร์คำตอบของเดฟีเรียมันแน่นอนอยู่แล้ว เหอะๆ!
เกล็ดความรู้ : ตระกูล เมอร์ เซกรีพ!
ตระกูล เมอร์ เซกรีพ เป็นตระกูลที่มียศขุนางเป็นบารอนที่พึ่งก่อตั้งได้ไม่นานโดยมี วอเตอร์ เมอร์ เซกรีพ เป็นผู้นำตระกูลคนปัจจุบัน และมีภรรยา 2 คน ลูก 2 คน ที่อยู่ภายในบ้าน แต่ว่าก็มีภรรยาอีกคนที่เป็นแม่ของเนสก้าที่ไม่ได้อยู่ภายในบ้านอีก 1 คน เนสก้าอีก 1 คน นั่นเอง