ตอนที่แล้วKing X King เมื่อได้เกิดเป็น องค์รัชทายาทลำดับสุดท้าย ตอนที่ 24 สถาณการณ์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปKing X King เมื่อได้เกิดเป็น องค์รัชทายาทลำดับสุดท้าย ตอนที่ 26 การต่อสู้

King X King เมื่อได้เกิดเป็น องค์รัชทายาทลำดับสุดท้าย ตอนที่ 25 ขวานศึก


ว้าาาว~ สมแล้วที่เป็นเดฟีเรียของแบบนี้ก็มีอยู่ในเวทย์มิติด้วย ผมมองขวนศึกด้านหน้าของผมตอนนี้ด้วยความแปลกใจ และขณะเดียวกันก็กำลังดีใจที่ได้จับมันด้วย ขวานศึกด้านหน้าของผมตอนนี้ที่มือขวาของผมจับอยู่ เป็นขวานที่ด้ามจับพอดีกับตัวผมอย่างมาก ซึ่งความสูงของมันก็ประมาณเลยหัวชองผมไปนิดหน่อย 5 - 10 เซน

ด้านทั้งสอถูกติดไปด้วบใบมีด โดยด้านหนึ่งเป็นใบมีดของขวานขนาดใหญ่ แล้วอีกด้านเป็ใบมีอของขวานที่เล็กลงมาประมาณ 3 เท่า เพื่อให้สามารถแกว่งได้สะดวย และที่ปลายบนสุดของด้ามจับเองก็มีเหล็กแหลมติดเอาไว้อยู่

ช่างเป็นอาวุธที่สมบูรณ์แบบจริงๆ!

" ทำไมกันน่า~ ปกติถ้าให้เลือกคนต้อเลือกพวกดาบ หรือไม่ก็ธนูไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมนายถึงได้เลือกขวานศึกแบบนี้กัน??? "

เดฟีเรียถามออกมาด้วยน้ำเสียงสงสัย ซึ่งที่เธอพูดออกมามันก็ถูกต้องนั่นแหละ เพราะคนปกติจะเลือกอาุธอย่างดาบ หรือไม่ก็พวกธนูที่สามารถโจมตีจากระยะไกลได้ แต่ว่าสำหรับผมนั้นไม่ใช่เพราะเมื่อซาติที่แล้วผมก็ใช้ขวานศึกเป็นอาวุธในการรบเหมือนกัน ถ้าจะให้พูดละก็ คงต้องถามกลับมาทำไมคนถึงเลือกดาบไม่ก็ธนูกันต่างหาก

1. ถ้าพูดถึงดาบก็เพื่อให้มันดูดีเท่านั้นแหละ เพราะคนส่วนมากที่ใช่ดาบในการต่อสู้ก็คือพวกขุนนางหรือชนชั้นสูง

2. ธนู อาวุธชนิดนี้ยิงแล้วใหญ่ เพราะส่วนมากที่ใช่มันก็เพราะกลัวการต่อสู้ระยะประชิดกันทั้งนั้น หรือจะให้เรียกง่ายๆ ก็คือพวกกลัวตายนั่นเอง แต่ในสงครามต้องยอมรับจริงๆ ว่าการโจมตีระยะไกลมีประโยชน์มาก

แต่ถ้าเอาขวานศึกมาเปรียบเทียบกับอาวุธพวกนี้ละก็มันต่างออกไปมาก อย่างที่หนึ่งเลยก็คือระยะโจมตีของมัน แล้วก็การโจมตีที่หลากหลาย อย่างที่ 2 ก็คือความทนทานของมัน เพราะเราสามารถเอามันฟันดาบให้หักได้แบบสบายๆ และก็ความใหญ่ของมันสามารถเอามาใช่เป็นโล่ได้อีกด้วย-

" งั้นวันนี้เราก็มาเริ่มการฝึกออกล่ากันเลยแล้วกัน "

ระหว่างที่ผมกำลังคิดถึงเรื่องอาวุธอยู่เดฟีเรียก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงเหนื่อยๆ

" เริ่มออกล่า? วันนี้เลยเหรอครับ... "

" ใช่! เพราะถึงจะบอกว่าฝึกให้นายฉันเองก็คงฝึกได้แค่เดือนละ 5 - 10 วันเท่านั้น เพราะตอนนี้ฉันเองก็ต้องเดินทางไปทั่วโลกเหมือนกัน เพราะตำแหน่งของฉันละนะ "

ออ~ เข้าใจเลยละ ว่าการมีตำแหน่งค้ำคออยู่มันเป็นยังไง ถ้าเป็นแบบนี้จะว่าเธอก็ไม่ได้หรอก แล้วอีกอย่างตอนนี้เราก็พร้อมหมดแล้ว ทั้งพลังเวทย์และอาวุธไม่จำเป็ต้องได้รับการฝึกอะไรจากเะอตอนนี้หรอก เพราะเวทย์ชั้นต่ำเราก็สามารถใช่ได้หมดแล้ด้วย-

" อาละเพื่อจะได้ไม่เสียเวลานายลองใช้เวทย์ตรวจสอบดูสิ ว่าตอนนี้มีพลังของพวกสัตว์อสูรอยู่แถวนี้ไหม "

" ครับ! "

เมื่อตอบออกไปผมก็เริ่มใช้เวทย์จรวจสอบทันที ซึ่งเวทย์ตัวนี้เป็นเวทย์ที่เดฟีเรียสอนให้ผมเมื่อประมาณ 1 เดือนที่แล้ว เพราะมันจำเป็นอย่างมากในการตรวจสอบพลังของสิ่งมีชีวิตที่อยู่ใกล้ๆ และการตรวจสอบแบบนี้เราสามารถรู้พลังเวทย์ของสิ่งที่เราตรวจสอบได้คร่าวๆ อีกด้วย

...

.....

......

" เจอแล้วครับ! ทางทิศเหนือ 1 กิโลเมตร สัตว์อสูรธาตุไฟพลังเวทย์ประมาณ 100 - 150 จุด "

" เอ่ะ! "

หลังจากที่ผมตรวจเจอสัตว์อสูรที่สัมผัสได้ผมก็พูดออกไปทันที ด้วยน้ำเสียงมั่นใจ แต่ทางเดฟีเรียกลับตอบรับโดยการร้องออกมาด้วยน้ำเสียงแปลกใจสะงั้น แล้วเธอทำไมต้องตกใจด้วยละเมื่อกี้ก็ยังให้เราหาอยู่เลยไม่ใช่หรือยังไง???

" มีอะไรครับท่านอาจารย์ "

" มะ- ไม่มีอะไร... "

เดฟีเรียตอบออกมาด้วยน้ำเสียงตระกุกตระกัก ตอบมาแบบนี้มันต้องมีอะไรน่าตกใจแน่ หรือเมื่อกี้เราพูดอะไรที่มันเกินกว่าพลังของเวทย์ตรวจสอบจะสามารถตรวจสอบได้ไป ไม่สิ! เราก็พูดตามที่เธอสอนเราตอนนั้นนิ???

' ให้ตายเถอะ! ามารถตรวจสอบไ้ดภายในเวลาแค่นี้ แล้วแถมยังามารถระบุธาตุออกมาได้แม่นยำ แถมยังแทบจะระบุจำนวนพลังเวทย์ได้อีก ในตอนนั้นเราก็แค่จัดฉากเอาไว้แล้วใช้เวทย์ตรวจสอบให้ดูเป็นตัวอย่าง แต่ไม่คิดเลยว่าเจ้าเด็กนนี้จะสามารถทำแบบนั้นได้ทั้งหมด เราในตอนนี้ก็ัมผัสได้แค่ตัวตนของมันเท่านั้นอย่าว่าแต่พลังเวทย์เลย แค่ธาตุเองก็ยังไม่รู้ ' เดฟีเรียคิดในใจ ขณะที่มองดรารอน์อยู่ แล้วก็เริ่มพูดต่อ

" เจ้าหนูเจ้ารู้วิธีใช้อาวุธนั่นใช่ไหม "

เดฟีเรียถามออกมา แล้วเธอก็ชี้นิ้วมานังขวานศึกที่ผมถืออยู่

" ครับ! "

" เยี่ยม! งั่นพวกเราก็ไปกันเลย " ' ถึงจะยังสงสัยอยู่ก็เถอะไปเรียนวิธีใช่มาจากไหน แต่อย่าถามเลยดีกว่าเดี๋ยวจะได้ตกใจจนหัวใจวายก่อน '

" ครับ! "

เมื่อผมตอบออกไปด้านใต้รองเท้าของผมทั้ง 2 คู่ ก็มีวงเวทย์สีเขียวขนากเล็พอดีกับขนาดเท้าออกมา ส่วนทางด้านเดฟีเรียก็มีวงเวทย์แบบผมปรากฏออกมาเหมือนกัน วงเวทย์ที่ปรากฏออกมามันก็ค่อยๆ ดันตัวผมขึ้นไปบนอากาศเ็กน้อย อะไร? นี่มันเกิดอะไรขึ้น ผมคิดในใจแล้วก็หันหน้าซ้ายขวาไปมาด้วยท่าทางร้อนรน ในระหว่างนั้นเดฟีเรียก็หัวเราะออกมาแบบชอบใจ

" ฮาๆๆๆๆ แบบนี้สิถึงสมกับเป็นเด็กหน่อย สิ่งที่กำลังทำให้ตัวของเจ้าลอยได้อยู่ตอนนี้เรียกว่าเวทย์บิน เป็นเวทย์ที่ต้องอยู่ในขั้นสูงถึงจะสามารถใช่ได้ และก็ต้องเป็นจอมเวทย์ธาตุลมเท่านั้นด้วย "

เมื่อผมจบตัวผมก็ลอยตามเธอไปเองทันที

...

....

.....

1 นาทีต่อมา

ตอนนี้ทั้งผมแล้วก็เดฟีเรียพวกเราทั้งสองคนกำลังอยู่เหนือพื้นประมาณ 50 เมตร และกำลังมองลงไปด้านล่างยังสัตว์อสูรที่ผมสามารถสัมผัสได้เมื่อกี้อยู่

" เจ้าหนูตัวนั้นใช่ไหมที่นายสามารถสัมผัสพลังของมันได้ "

เดฟีเรียพุดออกมา แล้วก็ชี้นิ้วไปยังสัตว์อสูรปะเภกซาลาแมนเดอร์ ธาตุไฟด้านหน้าออกมาด้วยน้ำเสียงสงสัย

" ก็ที่นี้มันมีสัตว์อสูรธาตุไฟตัวเดียวไม่ใช่เหรอครับ? "

เธอกำลังสับสนอะไรอยู่เนี่ย ก็บริดเวณนี้มีมันตัวเดียวไม่ใช่เหรอที่เป็ยสัตว์อสูรธาตุไฟ อีก 200 เมตร ไปทางซ้ายก็ธาตุดิน แล้วอีก 500 เมตาทางขวาก็ธาตุลม ธาตุไปบริเวณนี้ก็มีมันอยู่ตัวเดียวยังจะถามอีก???

" งั้นนายก็ไปเลย! "

" ....อะไรนะครับ? "

" ไปจัดการมันเลย เพราะยังไงอีก 1 ปี นายก็ต้องจัดการมันอยู่แล้ว "

เอ๋~ ให้เด็ก 3 ขวบ แบบเรา ไปสู้กับสัตว์อสูร 10 - 15 ปี เนี่ยนะ นี่เธอกำลังคิดบ้าอะไรอยู่ ในระหว่างทร่ผมกำลังคิดอยู่เวทย์ลมของเธอก็พาผมลอยตรงเข้าไปหาซาลาแมนเดอร์ธาตุไฟด้านหน้าทันที เอาจริงเหรอเนี่ย!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด