King X King เมื่อได้เกิดเป็น องค์รัชทายาทลำดับสุดท้าย ตอนที่ 14 สื่อสารทางจิต
[ ได้ยินเสียงขอฉันใช่ไหม }
เสียงของเดฟีเรียพูดออกมาด้วยน้ำเสียงต้องการคำตอบจากผม โดยที่เธอไม่ต้องขยับปากแม้แต่น้อย
แล้วเราจะตอบออกไปยังไงละเนี่ย?
งั้นก็ลองตอบแบบปกติไปก่อนก็แล้วกัน เพราะว่าเราก็ไม่ได้เรียนวิธีใช่มันด้วย รู้แค่ว่าเวทย์ โลว์ เป็นเวทย์ที่สื่อสารทางจิต และการที่จะใช้มันได้ก็ต้องเป็นคนที่มีพลังเวทย์อยู่ชั้นสูงขึ้นไปเท่านั้น
ผมก็รู้มาแค่นี้แหละ!
" ครับ "
ผมตอบออกไปด้วยน้ำเสียงสงสัยเล็กน้อย แล้วก็กระพริบตาทั้งสองไปมาแสดงออกให้เธอได้รู้ว่ากำลังสงสัยอยู่นะ
[ นายไม่ต้องพูดออกมานายแค่มองมาทางฉัน แล้วก็คิดสิ่งต้องการพูดออกมาก็พอ
งั้นก็หมายความว่าถ้าไม่มองเธอ เธอก็จะไม่รู้สิ่งที่เราคิดสินะ! ค่ายยังชั่วนึกว่าคิดอะไรจะได้ยินหมดสะอีก
[ แบบนี้ใช่ไหมครับ ]
[ ถูกต้อง! ....ในเมื่อเข้าใจแล้วพวกเราก้มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า ]
เข้าเรื่อง?
เธอกำลังจะพาเราเข้าเรื่องอะไร ตอนนี้เราไปรู้เรื่องอะไรด้วยเหรอ ผมคิดด้วยความสงสัยหลังจากที่ได้ยินเธอพูดออกมา แล้วก็ได้ถามออกไป
[ เข้าเรื่องอะไรครับ? ]
[ เรื่องที่ 1 พลังเวทย์ของนายมันตื่นขึ้นมาตั้งแต่ตอนไหน และคริสตันเวทย์แสงใต้เตียงนั่นเอามาจากไหน ]
เดฟีเรียถามออกมา พร้อมกับชูนิ้วชี้ข้างขวาขึ้นมา 1 นิ้ว
มองออกจริงด้วย ไม่คิดเลยว่าความสามารถของเธอจะเหนือกว่าของเวโรนิก้าขนาดนี้ ไม่ใช่แค่รู้ว่าพลังเวทย์ของเราตื่นแต่ยังรู้อีกว่ามีคริสตันเวทย์แสงใต้เตียง แต่นี้มันคำถาม 2 คำถามไม่ใช่หรืยังไง จะพูดว่าเริ่องที่ 1 เพิ่ออะไร แถมยังชูนิ้วขึ้นมา 1 นื้วอีก???
จากนั้นเมื่อสงสัยกับสิ่งที่เธอพูดกับท่าทางของเธอสักพัก ผมก็พูดออกไป
[ ก่อนจะตอบคำถามพวกนั้นผมขอถามอะไรก่อนได้ไหม ? ]
[ ว่ามา } ' พึ่งเคยเจอเด็กที่อายุยังไม่ถึง 3 ควบ สามารถใช้เวทย์โลว์กับเราได้ครั้งแรกนี่แหละ แถมยังใช้คุยกับเราได้นานขนาดนี้ด้วย แล้วอีกอย่างยังถามคำถามเราคนนี้ด้วย หึหึ! น่าสนใจจริงๆ
[ ทำไมเราต้องใช่เวทย์โลว์คุยกันด้วย ?]
[ เพื่อป้องกันคนภายนอกดักฟัง ]
งั้นก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพลังของเราสินะ ตอนนี้เธอคงรู้แค่พลังเวทย์ของเราตื่นขึ้นมาแล้ว เท่านั้น ผมคิดในใจหลังจากที่ได้คำตอบมา แล้วก็พูดออกไปต่อ
{ พลังเวทย์ของผมตื่น เมื่อ 6 เดือน ก่อนหน้านี้ แล้วหินพลังเวทย์ก็ได้มาจากเวโรนิก้าสาวใช่ของผม ]
[ ตอบออกมาได้คล่องเลยนะ! ]
เดฟีเรียพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเหมือนกับกำลังจะจับผิดผม แต่เสียใจด้วยไม่ได้กินหรอก
[ เรื่องปกติ! ผมถูกสอนมาอย่างนี้อยู่แล้ว เพระยังไงก็เป็นถึงองค์รัขทายาท และอีกอย่างพลังเวทย์ของผมตอนนี้ก็มีคนรู้ไม่กี่คนเท่านั้น คุณไปเอาข้อมูลมาจากไหน ? ]
[ กำลังดูถูกฉันอยู่หรือยังไง? ....แค่เห็นพลังในตัวนายฉันก็ดูออกหมดแล้ว อย่าเอาไปเทียบกับคนรับใช้ของนายสิ! ]
เดฟีเรียพูดออกมาเหมือนกับอารมณ์เสียเล็กน้อย
พูดออกมาแบบนั้นแปลว่ารู้พลังของเวโรนิก้าด้วยสินะ! งั้นก็อุ่นใจได้หน่อย เพราะยังไงผู้หญิงคนนนี้คงไม่กล้าทำอะไรบู่มบ่ามแน่
[ งั้นอีกคำถามก็แล้วกัน ]
เดฟีเรียพูดออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง แล้วเธอก็เดินเข้ามาหาผมอย่างช้าๆ และก็จ้องผมไปจ้องผมมาสักพัก จากนั้นเธอก็พูดออกมา
[ เวทย์ไฟ 1700 จุด เวทย์น้ำ 200 จุด เวทย์ลม 243 จุด เวทย์ดิน 234 จุด เวทย์แสง 182 จุด เวทย์ความมืด 174 จุด และรวมร่างกับอสูรไปแล้ว ]
เดฟีเรียที่มองผมอยู่พูดออกมา
รู้หมดแล้วจริงๆ ด้วย แต่ไม่ตกใจหน่อยหรือยังไง ตอนนี้-
[ พอละๆ ฉันคงเหนื่อยมากไป เด็กอะไรมันจะไปมีพลังเยอะขนาดนี้ เห้อ~ ]
เดฟีเรียพูดออกมาด้วย้ำเสียงไม่เชื่อ แล้วเดินตรงไปที่ประตูทางออกทันที
[ เล่นละครเก่งจังนะครับ? ]
ผมพูดออกไปขณะที่เธอกำลังเดินตรงไปที่ประตูทางออก จากนั้นเสียงของเธอก็ดังขึ้นมาด้วยน้ำเสียงมั่นใจอะไรบางอย่าง พร้อมกับใบหน้าที่ยิ้มแบบมีนัย
{ เอาเป็นนายก็แล้วกัน คงดีกว่าอีก 4 คน ที่เหลือ!!! ]
ทันทีที่ผมเห็นใบหน้าของเธอผมก็รู้ตัวทันทีเลยว่า เรื่องยุ่งยากกำลังจะเข้ามาหาผมอีกแล้ว แต่อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิดนั่นแหละ แล้วเธอก็รู้ความลับของเราไปขนาดนั้นแล้ว ถ้าข่าวเรื่องของเราไปเข้าหูคนอื่นเข้าละก็มีหวังได้ถูกเลือกเป็นองค์รัชทายาทลำดับ 1 แน่
พอถูกเลือก เราก็ต้องเป็นตัวเกะกะของพี่หมายเลข 1 - 4 เพราะงั้นเราไม่อยากให้เป็นแบบนั้นก็ต้องเจรจากับเธอให้รู้เรื่อง เพราะทางเธอเองก็ดูเหมือนต้องการอะไรจากเราเหมือนกัน แล้วผมก็พูดออกไปด้วยน้ำเสียงจริงจัง พร้อมกับมองเข้าไปในดวงตาของเธอทั้งสองข้างแบบตาไม่กระพริบ
[ ช่วยอธิบายคำพูดเมื่อกี้เพิ่มด้วยครับ ! ]