King X King เมื่อได้เกิดเป็น องค์รัชทายาทลำดับสุดท้าย ตอนที่ 100 เหตุผลที่ไม่อาจหลีกหนี
" ตอนนี้ข้าสั่งให้ทหารตามหาในเมืองแล้ว- "
" เพื่อ? "
ผมขัดออกไป
สรุปเจ้านี่มันจับฉลากได้ตำแหน่งมาใช่ไหม แล้วก็เขียนประวัติว่าตัวเองแย่งชิงมา ถ้าเรื่องแค่นี้ยังคิดไม่ได้ก็ไม่สมควรเป็นราชาหรอก
หลังจากผมที่ขัดไปผมก็เริ่มพูดต่อ
" ป่านนี้ยังคิดว่าพวกมันอยู่ในเมืองหลวงอีกเหรอ ท่านพ่อ ท่าน- "
" เรื่องนั้นข้ารู้ดี!!! ตอนนี้พวกมันคงจับตัวทั้งสองคนไปอยู่ที่ประเทศทอซัสกันแล้ว"
" แล้ว? "
ผมประชดออกไป ทำให้ดิวนีสันเริ่มตะโกนออกมาอีกว่า " เจ้าจะให้ข้าทำยังไง ตอนนี้ถ้าข้าเคลื่อนไหวอะไร ประเทศทั้งสองได้เกิดสงครามขึ้นแน่ "
อื้ม!
ที่หมอนี่พูดออกมามันก็ถูก เพราะดูเหมือนว่าทางนั้นอยากให้เกิดสงครามยังไงไม่รู้ และอีกอย่างถ้าเกิดว่าดิวนีสันเริ่มเคลื่อนไหวมันจะเป็นปัญหาตามมา พันธมิตร 5 ประเทศคงถูกทำลายลงด้วย เมื่อถึงตอนนั้นประเทษเมซัสก็จะโดนตราหน้าอีก
" มีทางอยู่่ "
กริมเธอร์พูดขึ้นมา ขณะที่เอามือจับคางของตัวเองด้วยท่าทางเหมือนกำลังคิดหนักอยู่ ผมจึงรีบถามทันที " อธิบายด้วยครับ "
" ถ้าพวกเราให้คนที่ไม่มีตำแหน่งไปจัดกาเรื่องนี้ก็จะไม่กลายเป็นปัญหาใหญ่ "
" จะบอกว่าให้คนที่ไม่ใช่ทั้งทหาร หรืออัศวินไปจัดการสินะครับ "
" ใช่ "
ไม่ต้องมาใช่เลย นายเข้าใจไหมพูดอะไรออกมาคนแบบนั้นมัน-
" เอ่ะ! "
ผมอุทานออกไป
หลังจากที่คิดตามสิ่งที่กริมเธอร์ต้องการจะสื่อออกมา เอาจริงดิ! หมอนี่กำลังจะบอกให้เราสละตำแหน่งทั้งหมด และไปช่วยสองคนนั้นเหรอ แบบนี้ก็-
" เรื่องนั้นข้าไม่อนุญาต! "
ดิวนีสันที่เหมือนจะรู้สิ่งที่กริมเธอร์ต้องการจะบอก พูดเสียงแข็งออกมา
" ท่านพ่อ... ท่านกำลังเข้าใจอะไรผิดอยู่หรือป่าว สิ่งที่ข้าจะทำต่อไปนี้มันไม่ได้ขออนุญาตจากใครอยู่แล้ว ตามกฏขุนนางที่ปฏิเสธการรับคำสั่งจากราชาต้องโดนปลดยศออกให้กลายเป็นคนปกติใช่ไหม? "
" ใช่ "
" ถ้าเช่นนั้น รัชทายาทไม่รับคำสั่งก็ไม่ต่างกันถูกต้องสินะครับ "
ระหว่างที่ผมกำลังพูดกับดิวนีสันอยู่เทเลอร์ก็วิ่งเข้ามาพร้อมกับขวานศึกสีทองของผม เมื่อเทเลอร์เดินมาถึงก็หยุดชงักลงเพราะบรรยกาศที่พวกเราคุยกันอยู่ ผมจึงพูดไป " เอาขวานมาให้ข้า "
เมื่อผมพูดจบเทเลอร์ก็เดินมาทางผมทันทีด้วยท่าทางเกร็งๆ ด้วยดวงตาที่มองไปทางดิวนีสันที่กำลังทำหน้าเครียดอยู่ แต่สุดท้ายก็เอาขวานมาถึงมือของผมจนได้
ทันทีที่ผมรับขวานศึกกริมเธอร์ก็พูดขึ้น
"เอาจริงใช่ไหมดรารอน์?"
กริมเธอร์พูดมาเพื่อยืนยันคำตอบของผมอีกครั้ง ผมที่ได้ยินก็พยักหน้าให้กับกริมเธอร์ทันที มันแสดงให้เห็นว่าตัวผมยืนยันแบบไม่ต้องพูดอะไร
จากนั้นกริมเธอร์ก็เริ่มใช้เวทย์เพื่อเปิดประตูเคลื่อนย้ายทันที แต่ในระหว่างที่ผมกำลังจะก้าวเข้าไปในประตูเคลื่อนย้ายเสียงของดิวนีสันก็พูดออกมา
" ที่นั้นมีทหารที่มีพลังเวทย์ชั้นสูงกว่า 300 คน แล้วก็ชั้นสูงสุด 1 คน ที่เป็นแม่ทัพใหญ่ของประเทศ แถมราชาประเทศทอซัสยังได้ชื่อว่าเป็นตำนานที่ยังมีชีวิตอีก เจ้าแน่ใจใช่ไหมที่จะไป "
น้ำเสียงของดิวนีสันฟังแล้วก็รู้ได้เลยว่ากำลังเป็นห่วง
แต่ว่าถึงจะรู้ว่ามันมีจำนวนนักสู้เยอะขนาดไหนผมก็ไม่สนใจ เพราะเป้าหมายมีเพียงตามหาตัวเอรีน่ากับเอ็ดเน่เท่านั้น เพียงเขาไปถึงเมืองหลวงและตรวจหาพลังเวทย์ของเอรีน่าก็น่าจะจบ
" เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วงข้าแค่ไปพาตัวท่านแม่กับเอ็ดเน่กลับมาเท่านั้น ไม่ได้ไปทำลายประเทศของพวกมัน "
" ถ้าพูดแบบนั้นข้าก็คงต้องไปด้วยแล้วละ "
กริมเธอร์เสนอตัวเองเพื่อไปกับผม
" ท่านกริมเธอร์! "
ดิวนรสันตะหวาดเสียงเพื่อเรียกสติของกริมเธอร์ทันที แต่กริมเธอร์ก็ส่ายหัวไปมาแบบช้าๆ
จากนั้นก็เริ่มพูดออกมาต่อโดยสีหน้าที่จริงจังมองไปที่ดิวนีสัน
" ท่านก็ได้ยินที่เจ้าดรารอน์บอกแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าจะไปแค่พาทั้งสองคนนั้นกลับมา แล้วถ้าสามารถช่วยได้ใครจะเป็นคนเปิดประตูเคลื่อนย้ายให้ละ? "
โห่ว!
เล่นเอาแปลกใจเหมือนกันแหะ ไม่คิดเลยว่าจะเป็นคนแบบนี้ ตอนแรกก็คิดว่าไม่ได้สนใจเอรีน่ากับเอ็ดเน่เท่าไหรสะอีก แต่ว่าถ้าให้หมอนนี่ไปด้วยได้มีปัญหาตามมาแน่ ขอโทษด้วยนะกริมเธอร์
" เรื่องนั้นข้ามีหนทางอยู่ "
ผมเริ่มเสนอความคิดออกไป ทั้งสองคนจากที่กำลังคุยกันอยู่ก็พากันหันมา
ส่วนผมก็เริ่มพูดต่อโดยมองไปที่กริมเธอร์ที่กำลังทำหน้าสงสัย
" ข้าต้องการให้ท่าน เปิดประตูเคลื่อรย้ายค้างเอาไว้สัก 10 นาที "
" 10 นาที??? "
ภายในใจของกริมเทอร์ตอนนี้ก็คงกำลังแปลกใจมากอยู่แน่
เพราะโดยปกติแล้วเวลา 20 นาทีมันไม่สามารถช่วยออกมาได้หรอก ถ้าเป็นคนปกติ แต่ว่าเรามีเวทย์ตรวจสอบสายดรารอน์อยู่เรื่องการหาตำแหน่งไม่ถึงนาทีก็หาเจอ 2 นาทีเดินทาง 5 นาทีสู้ 2 นาทีเดินทางกลับ คิดยังไงมันก็ลงตัวที่ 10 นาที
ถึงแม้ว่ามันฟังดูเหมือนเป็นไปไม่ได้กเถอะ แต่ว่ถ้าทำไม่ได้ตัวเรานั้นแหละที่จะแย่เอง!
" เจ้าคิดว่า 10 นาที จะสามารถช่วยสองคนนั้นได้เหรอ? "
ดิวนีสันถามเพราะแคลงใจออกมา
ก็คิดนะสิ! ถ้าไม่คิดฉันจะพูดออกไปเพื่ออะไร เหอะๆ!
ผมที่ได้บอกข้อเสนอไปก็ได้ถามกริมเธอร์ที่กำลังทำสีหน้าคิดหนักอีกครั้งว่า " สามารถทำได้ไหมครับ "
กริมเธอร์ก็เงยหน้าขึ้นมาเล็กน้อย และมองมายังผมพร้อมกับพูดออกมาด้วยน้ำเสียงไม่มั่่นใจนัก
" น่าจะได้ "
น่าจะ? คิดว่ากำลังเล่นอยู่หรือไง ถ้าแกทำไม่ได้ฉันกับพวกเอรีน่าได้ตานที่นั่นแน่ ผมอยากจะพูดอออกไปแบบนี้ แต่ต้องทำตัวให้ใจเย็นเอาไว้ก่อน
แล้ว
" อย่าน่าจะสิครับ "
น้ำเสียงไม่พอใจนักของผมออกไปจากปากแบบไม่ทันรู้ตัว
" ถ้างั้นก็ได้ "
" ครับ "
ทันทีที่ผมได้ยินคำยืนยันจากกริมเธอร์ผมก็เดินเข้าไปในประตูมิติทันที พร้อมกับขวานศึกของผม
ถ้ามีเวลาก็อยากเล่นเมืองหลวงของมันสักครึ่งเมืองให้พังอยู่หรอก จะได้ทำให้มันรู้ว่าที่พวกมันทำบบนี้มันหมายความว่าพวกมันต้องเจอกับอะไร แต่ว่าการช่วยเหลือสำคัญสุด ความปลอดภัยของเอรีน่ากับเอ็ดเน่ต้องมาก่อนเมื่องเอาไว้ค่อยถล่มก็ได้
เกล็ดความรู้ : เวทย์เคลื่อนย้าย!
ตัวเวทย์เป็นเวทย์ของคนที่มีพลังชั้นสูงขึ้นไปที่สามารถใช้ได้ แต่มันก็ไม่ได้สามารถใช้ได้ทุกคนเพราะงั้นเวทย์เคลื่อนย้ายจึงเป็นเวทย์ที่หาผู้ใช้ยากมาก แถมมันยังกินพลังมากอีกด้วย ยิ่งถ้าเปิดค้างเอาไว้ก็จะสูบพลังมากกว่าเดิมที่กริมเธอร์บอกว่าสามารถเปิดได้ 10 นาที ก็ถือว่าสุดยอดมากแล้ว
ตามจริงจะให้เปิดอีก 10 นาที หลังจากที่ส่งดรารอน์ไปก็ได้ แต่ว่าเพื่อป้องกันเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเลยต้องเปิดเอาไว้ตลอด และต้องเปิดให้ไกลจากเมืองหลวงของประเทศทอซัสพอประมาณด้วย เพื่อหลีกเลี่ยงเวทย์ตรวจจับ