22
Ep.22
ภายใต้แรงกดดันนี้ เหล่าผู้ใช้พลังและซอมบี้เลเวลสูงที่เหลือทั้งหมดร่วงจากฟ้า มองไกลๆเหมือนเกี๊ยวที่กำลังถูกหย่อนลงในกระทะ มีเพียงหลิงหวู่ซวงเท่านั้นที่ยังฝืนยืนหยัดได้
“นี่ .. นี่มันเป็นไปได้ยังไง!”
หลิงหวู่ซวงมองฉู่เซวียนด้วยความสยดสยอง เอ่ยพึมพำด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
แค่แรงกดดันที่แพร่ออกมาจากร่างกาย กลับทำให้เทพสงครามขั้นต้นเช่นเขาแทบต้านทานไม่อยู่ เช่นนั้นแล้วพลังรบที่แท้จริงของคนๆนี้ต้องมากมายขนาดไหนกัน?
เป็นไปได้ไหม ว่าเด็กหนุ่มตรงหน้าที่ดูมีอายุอยู่แค่ในช่วงวัยรุ่นจะมีพลังรบมากกว่าเขา?
เมื่อฉุกคิดได้แบบนี้ ในหัวใจของหลิงหวู่ซวงเริ่มบังเกิดความคิดที่จะหลบหนีแทรกซึมเข้ามา
“กำลังคิดหนีใช่ไหม?” มองลึกเข้าไปในดวงตาที่เกิดความลังเลของหลิงหวู่ซวง ฉู่เซวียนหัวเราะเบาๆ
“แน่ใจหรอว่าจะหนีไปได้?”
ความคิดในใจหลิงหวู่ซวงถูกฉู่เซวียนเปิดโปง ม่านตาเขาหดลีบลงอย่างกะทันหัน
ความห่างชั้นระหว่างพลังรบของทั้งสองนั้นชัดเจน หรือก็คือความเร็วของเขาย่อมเชื่องช้ากว่าวัยรุ่นลึกลับผู้นี้อย่างแน่นอน แล้วอีกอย่าง ตอนนี้ข้างล่างมีผู้ใช้พลังอีกหลายคนกำลังเฝ้าดูอยู่
สำหรับเหล่ามนุษย์ผู้รอดชีวิตแล้ว ศักดิ์ศรีในขอบเขตเทพสงครามนั้นยิ่งใหญ่ไม่อาจถูกโค่นล้มได้!
“ไอ้ซอมบี้สารเลว! ฉันขอสู้ตายกับแก!”
ในที่สุด หลังจากสีหน้าเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาหลายครั้ง หลิงหวู่ซวงก็ตัดสินใจเด็ดขาด ร้องคำรามด้วยความโกรธเกรี้ยว
เห็นแค่เพียงคู่ปีกเปลวเพลิงลุกโชนขึ้นบนแผ่นหลังเขา พร้อมกระบี่ยาวที่ทอประกายเย็นเยียบยื่นออกมาจากชุดเกราะ
ในทางกลับกัน ฉู่เซวียนไม่ได้ทำอะไรเลย เขาแค่ยืนเฉย เฝ้ามองไปยังการโจมตีของ หลิงหวู่ซวงที่กำลังใกล้เข้ามา
“สุดยอดเลยพี่ใหญ่หลิง! ฆ่าไอ้หมอนั่นซะ!”
เบื้องล่าง เหล่าผู้ใช้พลังที่ยังไม่เข้าใจสถานการณ์ร้องตะโกนด้วยความตื่นเต้น
เพราะท้ายที่สุดแล้ว ในมุมมองของพวกเขา มีเพียงฉู่เซวียนและหลิงหวู่ซวงสองคนเท่านั้นที่อยู่บนฟ้า แต่ฉู่เซวียนกลับนิ่งงันคล้ายกำลังหวาดกลัว ขณะที่หลิงหวู่ซวงพุ่งเข้าจู่โจมอย่างอาจหาญ
ทว่าสิ่งที่เกิดขึ้นต่อจากนี้กลับทำให้ทุกคนต้องตกตะลึง เห็นแค่เพียงหลิงหวู่ซวงผู้อาจหาญ จู่ๆก็ชะงักงันอย่างกะทันหัน
“จงกักขัง” เสียงแผ่วเบาเปล่งจากปากฉู่เซวียน จากนั้นร่างของหลิงหวู่ซวงพลันหยุดกึกกลางอากาศอย่างน่าเหลือเชื่อ
หากสังเกตดีๆจะพบว่าเวลานี้ใบหน้าของเขาแดงก่ำ คล้ายกำลังดิ้นรนสุดกำลัง แต่ทำยังไงก็ไม่สามารถขยับตัวได้เลย
จนในที่สุด หลังจากดิ้นรนอยู่หลายครั้งแต่ไม่เป็นผล หลิงหวู่ซวงก็สงบลง
เห็นแค่เพียงสายตาที่เขามองมาทางฉู่เซวียนกลายเป็นไร้ความรู้สึก เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ คล้ายตัดสินใจเด็ดขาดแล้ว เอ่ยอย่างช้าๆว่า “ฉันไม่อยากใช้ท่านี้เลย แต่เป็นแกเองที่บังคับให้ฉันทำ”
ว่าจบ หลิงหวู่ซวงค่อยๆปิดตาลงอย่างช้าๆ
ฝั่งฉู่เซวียน เขาเฝ้ามองการกระทำของหลิงหวู่ซวงด้วยความสนอกสนใจอย่างเงียบๆไม่รีบร้อน เพราะเมื่ออยู่ต่อหน้าพลังรบอันไร้ที่สิ้นสุด ต่อให้อีกฝ่ายงัดสิ่งใดออกมาก็ล้วนเปล่าประโยชน์
คลื่นอันร้อนแรงเล็ดลอดออกมาจากบริเวณรอบตัวของหลิงหวู่ซวง รอยแตกอันไร้ที่มาเริ่มปรากฏขึ้นบนผิวหนังเขา และสามารถมองเห็นได้รางๆ ว่ามีเปลวเพลิงกำลังแผดเผาอยู่ภายใต้รอยแตกนั้น
หลิงหวู่ซวงกัดฟันซักพักก็ทนไม่ไหว แหกปากร้องคำรามด้วยความเจ็บปวด พลังงานอันรุนแรงทะลักออกมาจากทั่วร่างเขาอย่างต่อเนื่อง
“แจ้งเตือนเจ้าของร่าง เหลือเวลาอีกแค่ 1 นาทีก่อนสถานะฟิวชั่นจะสิ้นสุดลง”
ขณะนี้ เหลือเวลาอีกแค่ครึ่งเดียวก่อนพลังรบในขอบเขตลอร์ดขั้นสูงของฉู่เซวียนจะหายไป
บรึ้มมมม!
วินาทีถัดมา ร่างของหลิงหวู่ซวงพลันระเบิดออก กลายเป็นเปลวเพลิงลุกท่วมไปทั่วฟ้า
“ระเบิดตัวเอง? ไม่สิ ไม่ใช่”
เห็นฉากนี้ ตอนแรกฉู่เซวียนอดตกใจไม่ได้ แต่ภาพต่อมาที่เกิดขึ้น มันได้สร้างความประหลาดใจต่อเขา
มองไปยังเปลวเพลิงบนท้องฟ้าที่เมื่อเกิดการระเบิดแล้ว พวกมันกลับไม่ลุกลามออกไป ตรงกันข้าม ดันค่อยๆไหลมารวมตัวกันแทน สุดท้ายกลายเป็นยักษ์เพลิงที่มีความสูงถึง 100 ฟุต!
“ระบบ เกิดอะไรขึ้นกับเจ้าหมอนี่?”
“หลังจากผู้ใช้พลังธาตุได้ก้าวสู่ขอบเขตเทพสงครามแล้ว พวกเขาจะสามารถจุดชนวนอบิลิตี้ในร่างกายออกมาได้ เพื่อแลกกับความแข็งแกร่งมหาศาลในช่วงระยะเวลาสั้นๆ กายเนื้อจะแปรสภาพเป็นธาตุ พลังรบเพิ่มพูนขึ้นหลายเท่า”
หรือกล่าวอีกอย่างนึงก็คือ ชายคนนี้พร้อมที่จะสู้ตายกับฉันใช่ไหม?
ฉู่เซวียนหรี่ตาลงเล็กน้อย รอยยิ้มหยามผุดขึ้นตรงมุมปากเขา ด้วยพลังรบของอีกฝ่ายที่แสดงออกมาในตอนนี้ เมื่อเทียบกับเขาแล้ว มันก็ยังมีช่องว่างขนาดใหญ่ขวางกั้นไว้อยู่ดี!