บทที่ 28 มาถึงสำนักงานใหญ่
วันรุ่งขึ้น 08.00 น.
เครื่องบินเจ็ตที่ครอบครัวส่งไปรับเฟลิกซ์จอดอยู่ที่สนามบิน เฟลิกซ์ยืนอยู่ใกล้ ๆ กับแจ็คและไลลาที่มีน้ำตาคลอเบ้า
“ผมกำลังจะกลับไปหาครอบครัวเพื่อทำการประเมิน ผมจะทิ้งทุกอย่างไว้ให้พวกคุณจัดการ ผมไม่รู้ว่าจะกลับเมื่อไหร่ แต่ถ้าผมกลับมาผมจะเอาของขวัญมาให้”
เฟลิกซ์พูดด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน ขณะที่เขามองไปยังลูกน้องที่ทำให้เขาพอใจกับความภักดีและประสิทธิภาพในการทำงานของพวกเขา
“นายน้อย คุณสามารถออกจากเกาะได้อย่างสบายใจ ทิ้งทุกอย่างไว้ในมือของเรา เราจะไม่ทำให้คุณผิดหวัง สิ่งเดียวที่คุณควรมุ่งเน้นคือการแสดงความสามารถของคุณให้ดีที่สุดในระหว่างการประเมิน” แจ็คทุบหน้าอกด้วยกำปั้นและให้สัญญาอย่างแน่วแน่
“นายน้อย ฉันอยากจะพูดอะไรซักอย่างแต่ไม่เคยกล้าที่จะพูดมาก่อน”
ไลลาปาดน้ำตาและเงยหน้าขึ้น จากนั้นเธอก็จ้องเข้าไปในดวงตาของเขาด้วยความมุ่งมั่นและพูดเสียงดังว่า
"ฉันชอบคุณค่ะ เฟลิกซ์ ฉันแอบชอบคุณมาตลอด ฉันพยายามยั่วยวนให้คุณสนใจแต่ก็ไม่เคยได้ผล มีอะไรที่คุณไม่ชอบเกี่ยวกับฉันรึเปล่า ฉันสามารถเปลี่ยนแปลงมันได้ แค่บอกฉันมา"
เฟลิกซ์แปลกใจเล็กน้อย แต่ไม่ตกใจ เพราะเขารู้อยู่เสมอว่าเธอมีใจให้เขา เขาแค่ไม่อยากยอมรับ
เขาเชื่อว่าการแอบชอบใครสักคนเป็นความรู้สึกชั่วขณะหนึ่งที่จะผ่านไปหลังจากชั่วขณะหนึ่ง สำหรับบางคน อาจใช้เวลาเพียง 2-3 สัปดาห์ก่อนที่พวกเขาจะเปลี่ยนคนที่เขาชอบไปเป็นอีกคน แต่สำหรับบางคน อาจใช้เวลาหลายปี
เขาไม่คิดเลยว่าไลลาจะเป็นคนประเภทหลัง
“ไลลาคุณไม่ผิด คุณสวย ฉลาด ช่างคิด และแข็งแกร่งเมื่อคุณต้องการ คุณสมบูรณ์แบบ ดังนั้น คุณไม่ควรเปลี่ยนตัวเองเพื่อผมหรือเพื่อคนอื่น”
เขากอดเธออย่างอ่อนโยน โดยไม่สนใจว่าชุดสูทของเขาจะเปื้อนน้ำตาที่ไหลรินของเธอ และยังคงปลอบเธอต่อไป
“เหตุผลที่ผมไม่ยอมรับความรู้สึกของคุณทั้งที่รู้ ก็เพราะผมเห็นคุณเป็นเพื่อน ลูกน้องที่ซื่อสัตย์ และที่สำคัญที่สุดคือคุณเป็นคนใกล้ชิดของผม และผมไม่อยากให้คุณเสียเวลาชีวิตของคุณไปเปล่า ๆ เพื่อไล่ตามผม หรือรอผม ผมไม่ใจร้ายกับเพื่อนขนาดนั้น”
เขาใช้นิ้วเช็ดน้ำตาจากแก้มของเธอและพูดอย่างจริงใจ "ได้โปรดไลลา ช่วยผมและตัวคุณเองด้วย และหยุดชอบผมเถอะ หาผู้ชายดี ๆ ที่สามารถอยู่เคียงข้างคุณได้เสมอ คุณสมควรได้รับมัน"
สักพัก เขาก็ปล่อยเธอจากอ้อมกอดของเขาและยิ้มอย่างอบอุ่น “ผมจะไปแล้ว โทรหาผมเพื่อแจ้งสถานการณ์บนเกาะ โอเคไหม?”
“ค่ะนายน้อย เดินทางดี ๆ นะคะ” ไลลาสูดจมูกขณะที่เธอตอบโดยก้มหัวให้เฟลิกซ์ ความรู้สึกของเธออาจจะยังไม่หายไปในตอนนี้ แต่ความรู้สึกเหล่านั้นจะค่อย ๆ ถูกลบไปตามกาลเวลา จนกว่าจะเหลือเพียงความรู้สึกของมิตรภาพเท่านั้น
“อืม ดูแลตัวเองดีๆ นะ ผมจะพยายามโทรหาให้บ่อยที่สุด”
“บาย” เฟลิกซ์กล่าวอำลาและเข้าไปในเครื่องบิน
สจ๊วตปิดประตูตามหลังเขาและส่งสัญญาณให้นักบินบินขึ้น
นี่เป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับทั้งสองฝ่าย เฟลิกซ์ไม่เปิดรับความคิดที่จะมีความสัมพันธ์กับใครก็ตามในปัจจุบัน เพราะเขาเข้าใจความจริงง่ายๆ ข้อหนึ่ง หนทางข้างหน้าของเขายากอยู่แล้ว และเขาไม่ต้องการมีภาระที่ต้องดูแลเพิ่มอีก
เขามีภาระที่หนักหนาสาหัสที่สุดแล้ว นั่นคือแอสน่า
ดังนั้นเขาจึงวางแผนที่จะเติมเต็มความปรารถนาของเขาหากจำเป็นด้วยวันไนท์สแตนด์ ไม่มีอะไรมากไปกว่านี้ และไม่น้อยไปกว่านั้น
....
ตึกระฟ้าของตระกูลแมกซ์เวลล์ ชั้นที่ 20
เฟลิกซ์มองดูลูกพี่ลูกน้องของเขาที่มาถึงเร็วกว่าเขาอย่างหวาดกลัว
ทุกคนมีสีหน้างุนงงจากนั้นก็ดูถูกเหยียดหยาม ขณะจ้องไปที่เฟลิกซ์ที่เพิ่งออกมาจากลิฟต์
บรรยากาศนี้ดำเนินไปเป็นเวลา 5 นาทีแล้ว เฟลิกซ์ไม่กล้าหายใจหรือขยับแม้แต่นิ้วเดียว เนื่องจากลูกพี่ลูกน้องของเขาราวๆ 40 คนกำลังจ้องมองเขาด้วยสายตาอาฆาต เห็นได้ชัดว่าพวกเขาต้องการทุบตีเขาให้ตาย
ความคิดที่จะแกล้งพวกเขาก่อนหน้านี้หายไปเหมือนควัน สิ่งเดียวที่เขาอยากทำตอนนี้คืออยู่ให้ห่างจากสุนัขบ้าที่กำลังจะจู่โจมเขาให้มากที่สุด
ทันใดนั้นลิฟต์ที่อยู่ด้านหลังเฟลิกซ์ก็เปิดออก เขาหันหัวไปมองช้า ๆ กังวลว่าจะถูกญาติของเขาประกบ แต่หลังจากเห็นว่าใครออกมาจากประตู เขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“ไอ้เด็กเวร แกซ่อนตัวอยู่ที่นี่ขณะที่ฉันตามหาแกไปทั่วอาคารงั้นเหรอ” ปู่ของเฟลิกซ์เริ่มดุเขาทันที
“มานี่แล้วบอกรายละเอียดให้ชัดเจนว่าแกจัดการฟื้นฟูโรงแรมรีสอร์ทได้ยังไง นั่นเป็นโครงการที่ไม่มีใครกล้าทำ” เขาพูดด้วยแววตาที่ซ่อนเร้น
'ฮิฮิ แกกล้าซ่อนข้อมูลจากฉันและทำให้ฉันตาบอด พวกนั้นเริ่มแสดงความยินดีกับฉันเมื่อฉันกลับมาที่สำนักงานใหญ่'
'มันน่าอับอายมากที่ได้รับคำชมในขณะที่ไม่รู้ว่าคนพวกนั้นกำลังพูดถึงอะไร มาดูกันว่าแกจะจัดการกับกลุ่มคนที่โกรธแค้นที่ถูกทรมานจนตายเพราะแกได้ยังไง'
เฟลิกซ์รู้ว่าคุณปู่เขากำลังทำร้ายเขาหลังจากเห็นท่าทีของลูกพี่ลูกน้องเริ่มเย็นชาเป็นพิเศษ เมื่อพวกเขาได้ยินปู่พูดถึงโรงแรม
เขาไม่รู้ว่าทำไมพวกเขาถึงโกรธเคืองเขา แต่เขาเดาว่าพวกเขาถูกลงโทษโดยครอบครัวเมื่อเขาแสดงได้อย่างน่าทึ่งระหว่างความโกลาหล ในขณะที่พวกเขาไม่ได้ทำอะไรเลย
เขาไม่รู้ว่าการลงโทษอะไรทำให้พวกเขากลายเป็นแบบนี้
“แค่ก ๆ ปู่ ปู่มาทันเวลาพอดีเลย ไปกันเถอะ ผมจะอธิบายเกี่ยวกับการปรับปรุงเกาะใหม่ของผมให้ปู่ฟังระหว่างทาง”
ทันทีที่เฟลิกซ์พูดจบ เขาก็รีบตรงไปที่บันได ไม่กล้าใช้ลิฟต์ เขารู้ดีว่าเมื่อถึงเวลาที่มันเปิดออก เขาจะจมกองเลือด
ลูกพี่ลูกน้องและปู่เขาได้แต่อึ้งมองเขาหนีไปอย่างไร้ยางอาย โดยไม่มีร่องรอยของความสำนึกผิด และทิ้งปู่ของเขาไว้ข้างหลัง
เป็นเรื่องตลกที่ปู่ของเขาริเริ่มสิ่งนี้เพื่อแก้แค้นเขา แม้เฟลิกซ์จะไม่เข้าใจ แต่เขาก็มีความรู้สึกว่าปู่ของเขาน่าจะมีส่วน
ยังไงซะปู่ก็ไม่เคยโทรหาเขาเพื่อแจ้งให้เขาทราบเกี่ยวกับรางวัลของเขา และกลุ่มคนโกรธที่รอคอยอย่างสิ้นหวังเพื่อจะทุบตีเขามาก่อน
'ตุบ!'
ทันใดนั้นพวกเขาก็ได้สติเมื่อกระเป๋าเดินทางของเฟลิกซ์ล้มลงกับพื้น
“เวรเอ้ย อย่าปล่อยให้เขาหนีไปได้ ถ้าฉันไม่ได้ทุบตีเขาเพื่อระบายอารมณ์ที่ต้องถูกขังไว้กับแมลงสาบนับร้อย ฉันจะไม่มีวันลบอัปยศครั้งนั้นออกไปได้” เด็กสาวผมทองชี้นิ้วไปที่บันได
“ใช่! ฉันถูกขังอยู่ในห้องที่เต็มไปด้วยผึ้ง เสียงพวกมันทำให้ฉันฉี่รดกางเกงหลายครั้งต่อหน้าพ่อกับแม่ ความอัปยศอดสูแบบนี้สามารถลบออกได้ด้วยการหักแขนขาของเขาเท่านั้น”
“บอกตามตรง ฉันไม่รู้ว่าพวกนายจะโกรธไปทำไม ฉันกลัวงู แต่เนื่องจากการลงโทษที่ฉันได้รับ ฉันสามารถเอาชนะมันได้ และยังได้รู้จักเพื่อนคนหนึ่งด้วย ทักทายสิชาร์ลี” ชายหนุ่มผมสั้นสีเข้มพูดในขณะที่มีงูขาวขดอยู่ที่แขน มันมองทุกคนอย่างเย็นชาและทำเสียงขู่ฟ่อ
เมื่อทุกคนได้ยินเขาพูดเช่นนี้ ทุกคนก็คำราม “หุบปากไปเลยเคนนี่!”
“เราทุกคนรู้ว่าการกลัวงูของนายเป็นเรื่องโกหก เหตุผลเดียวที่ไม่มีใครใส่ใจกับการลงโทษนายเพราะไม่มีใครรู้ว่าจริงๆ แล้วนายกลัวอะไรกันแน่ ดังนั้น ออกไปไกล ๆ และปล่อยให้เราจัดการเรื่องของเรา ไม่งั้นเราจะทุบตีนายก่อนเป็นการวอร์มอัพ” เธอขู่เคนนี่อย่างร้ายกาจ
มีเพียงพระเจ้าที่รู้ว่าเธอผ่านอะไรมาบ้างจนทำให้เธอกลายเป็นคนพาลได้ขนาดนี้
รอยยิ้มที่อ่อนโยนของเคนนี่หยุดลงหลังจากเห็นการจ้องมองที่โหดร้ายของลูกพี่ลูกน้องคนอื่น ๆ เขาถอยห่างแล้วพูดว่า “พวกนายไม่ต้องสนใจฉัน ฉันแค่พูดจาไร้สาระ ไปไล่ตามเฟลิกซ์เถอะ เขาอาจจะหนีไปแล้วก็ได้”
“ฮึ่ม ดี ทุกคนแยกย้ายกันค้นหาทั้งสำนักงานใหญ่ เขาไม่ออกไปไหนหรอก และถึงเขาจะออกไปจากอาคาร เราก็ไม่อนุญาตให้เขากลับเข้ามาได้อย่างปลอดภัย”
"ไป!" หญิงสาวผมทองสะบัดแขนไปข้างหน้า
ทุกคนแยกกันไปตามหาเขา บางคนใช้ลิฟต์ บางคนใช้บันได วันนี้เฟลิกซ์จะต้องโดนถล่มแน่นอน
----------------------------------