MDB ตอนที่ 13 ทำดีแทบตาย สุดท้ายความน้ำเหลว
“เกิดอะไรขึ้นกับหินวิญญาณของผู้ประเมินหลิน? ช่วยอธิบายมาหน่อย” ดงเฮอถามพนักงาน
พนักงานไม่ทันได้คิดเลยตอบไป “ผู้ประเมินหลินจินบังเอิญมาตอนที่หินวิญญาณหมดไปสองครั้งแล้ว ข้าเลยขอให้เขากลับไปอีกครั้ง”
“โอ้ ท่านเห็นไหม ผู้ประเมินราคาหลิน…เรามีงานมากมายที่แผนกพลาธิการที่ต้องทำ ดังนั้นการขาดแคลนสิ่งของจึงเป็นเรื่องปกติ” ดงเฮอกล่าวขณะยิ้มจนถึงไปใบหู
หลินจินไม่รบกวนพวกเขาอีกต่อไปแล้ว ดังนั้นเขาพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า “ข้าเห็นบางคนได้รับหินวิญญาณของพวกเขาในวันนี้ ไม่มีทางที่ของจะหมดอีกใช่ไหม?”
“แน่นอนว่าไม่ ถ้าของในคลังขาดเป็นเวลานาน ข้าจะต้องรับผิดชอบในฐานะผู้จัดการ! ผู้ประเมินราคาหลิน วันนี้ท่านคงไม่ได้ทำให้ข้าต้องลำบากใช่มั้ย ฮ่า ๆๆๆ!” ดงเฮอพูดในขณะที่หัวเราะเสียงดังอย่างเชื่องช้าในขณะที่มีแสงแวบวาบในดวงตาของเขา
ดงเฮอสบถด่าในใจ เนื่องหลินจินฉลาดแกมโกงมากในวันนี้ เขาเกือบจะทำให้ดงเฮอแพ้ภัยตัวเอง เขาเกือบจะตกหลุมพรางของหลินจินเข้าให้แล้ว
“เอาล่ะ ไปตรวจสอบรายการสินค้าคงคลังและมอบหินวิญญาณที่เขาต้องการให้กับผู้ประเมินหลิน!” ดงเฮอสั่งในขณะที่เขามองดูลูกน้องของเขา
ลูกน้องของเขาเข้าใจและหลังจากนั้นไม่นานเขาก็กลับมาพร้อมกับถาด มีหินวิญญาณสิบก้อนอยู่บนถาดแต่ละก้อนมีขนาดแตกต่างกันเมื่อส่องประกายภายใต้แสงแดด
ดงเฮอเหลือบมองไปที่มันและพยักหน้าอย่างพึงพอใจ
แม้เขาอาจจะสัญญาว่าจะมอบหินวิญญาณให้หลินจิน แต่เขารู้สึกอับอายที่หลินจินสร้างเรื่องยุ่งวายครั้งใหญ่นี้ เขาจะไม่สั่งสอนบทเรียนให้หลินจินได้อย่างไร?
ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่เจียเฉียนยังคงเฝ้าดูอยู่
หินวิญญาณที่แสดงออกมาอาจดูสูงทั้งในด้านปริมาณและคุณภาพ ความจริงก็คือหินวิญญาณทุกก้อนมีตำหนิ หากใช้ไปจะเกิดข้อบกพร่องอย่างใหญ่หลวงหรือสูญเสียพลังงานทางวิญญาณของสัตว์วิเศษอย่างรุนแรง
การจะแยกแยะความแตกต่างของคุณภาพคงเป็นเรื่องยาก หากเพียงแค่ตัดสินจากรูปลักษณ์ภายนอก หากผู้ประเมินไม่ได้ทำการตรวจสอบอย่างละเอียด พวกเขาจะลำบากในภายหลัง
'หลินจิน เจ้าคิดว่าการที่เจ้าก่อเรื่องวุ่นวายเช่นนี้และจะออกไปพร้อมกับสิ่งที่เจ้าต้องการงั้นหรือ? ฝันไปเถอะ! ข้าจะให้หินที่ชำรุดแก่เจ้าหนึ่งก้อนและทันทีที่เจ้าเดินออกจากประตูนี้ เจ้าจะไม่สามารถกลับมาแลกเปลี่ยนเป็นหินที่ดีกว่าได้'
เมื่อถึงเวลานั้น แม้ว่าหลินจินจะกลับมาโวยวายแต่ดงเฮอก็สามารถพูดได้ว่าหลินจินพยายามหลอกลวงพวกเขาให้เปลี่ยนของ เมื่อเรื่องนี้ถูกส่งต่อให้หัวหน้า หลินจินจะเป็นคนที่มีปัญหาอย่างมาก
'คิดจะมาเล่นงานข้า? ช่างอ่อนหัดเหลือเกิน!' ดงเฮอว่าตัวเองเป็นฝ่ายชนะ
หลินจินได้เริ่มตรวจสอบหินวิญญาณ ในขณะที่ดงเฮอแอบสังเกตสีหน้าของเขา จากมุมมองของดงเฮอ หินวิญญาณเหล่านี้ดูเหมือนของจริง ไม่มีทางที่เขาจะบอกได้
หลินจินหยิบหนึ่งในนั้นขึ้นมาเป็นประกายแวววาวจากดวงตาของเขา
“ผู้ประเมินหลิน เมื่อท่านได้ในสิ่งที่ท่านต้องการ ท่านช่วยออกไปเร็ว ๆ ได้หรือไม่ ท่านจะได้ไม่รบกวนงานของเราที่นี่” ดงเฮอรีบกล่าวโดยกังวลว่าหลินจินจะมองแผนของเขาออก
หลินจินจ้องมองด้วยความสงสัยที่หินสีแดงทึบในมือของเขา
แม้จะไม่มีเบาะแสเกี่ยวกับวิธีการประเมินหินวิญญาณ แต่เขาได้รับความช่วยเหลือจากพิพิธภัณฑ์ที่เชื่อถือได้ หลังจากสัมผัสหินวิญญาณ เขาเกือบจะร้องอุทานด้วยความตื่นเต้นจากข้อมูลที่พิพิธภัณฑ์มอบให้เขา
ชั้นนอกของหินก้อนนี้ถูกเคลือบด้วยชั้นของหินพลังวิญญาณที่บกพร่องแต่ในแกนชั้นในของหิน แท้จริงแล้วมันคือผลึกวิญญาณอัคคี
ผลึกวิญญาณอัคคีเป็นหนึ่งในห้าหินวิญญาณธาตุและหายากมาก ที่สำคัญกว่านั้น มันคือหินธาตุไฟซึ่งเป็นธาตุเดียวกับเสี่ยวฮัว
หินก้อนเล็ก ๆ นี้มีค่ามากกว่าหินวิญญาณปกติร้อยเท่า
ในขณะที่หลินจินกำลังดีใจ เขาก็รู้สึกงุนงงเช่นกัน เจ้าอ้วนดงใจดีขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?
หลังจากคิดดูแล้ว เขาก็สัมผัสหินวิญญาณคุณภาพต่ำอื่น ๆ และในที่สุดก็เข้าใจ
'ของพวกนี้มีตำหนิ'
มันอาจดูเหมือนหินที่มีตำหนิแต่ในความเป็นจริง มันเป็นเพียงหินธรรมดาที่มีชั้นหินวิญญาณบาง ๆ อยู่ชั้นนอก คนปกติจะไม่สามารถแยกแยะความแตกต่างได้
หลินจินเข้าใจทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นเพียงแค่คิดแผนอย่างรวดเร็ว
คนอ้วนไม่ได้ทำสิ่งนี้เพราะประมาทเลินเล่อแต่เขาตั้งใจวางแผนเล่นงานเขาโดยตรง
ผลึกวิญญาณอัคคีที่เคลือบด้วยหินวิญญาณนั้นไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของแผนของดงเฮอ ทั้งหมดที่ดงเฮอวางแผนไว้คือกลั่นแกล้งเขา
แม้ว่าเขาจะเปิดเผยแผนการของดงเฮอในตอนนี้ เขาก็จะไม่ยอมรับมัน แม้ว่าแผนการจะถูกเปิดเผยโดยสมบูรณ์ เขาจะโทษคนอื่นโดยบอกว่าตัวเขาไม่มีความผิด
แต่มีสิ่งหนึ่งที่หลินจินค่อนข้างมั่นใจเจ้าอ้วนดงไม่รู้ว่าในบรรดาของที่มีตำหนิพวกนี้มีผลึกวิญญาณอัคคีที่หายากเป็นพิเศษอยู่ด้วย ท้ายที่สุดแล้ว ผลึกที่มีคุณสมบัติที่ไม่มีใครเทียบได้นี้ มันเป็นของเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ในเสี้ยววินาทีต่อมา แผนก็ผุดขึ้นมาในใจของหลินจิน
“ข้าต้องขอบคุณเจ้ามาที่สละเวลานำหินวิญญาณมากให้ข้า!” หลินจินยอมรับหินวิญญาณในถาด
ในขณะที่ดงเฮอตอบกลับด้วยรอยยิ้มที่เย็นชาว่า “เชิญท่านดูมันด้วยตัวเอง”
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เขาจบประโยค ช่วงเวลาที่น่าตกใจก็เกิดขึ้น
หลินจินหยิบค้อนเหล็กจากด้านข้าง ทิ้งหินวิญญาณลงบนพื้นแล้วทุบทีละก้อน
*ปัง!*
*ปัง!*
*ปัง!*
หินวิญญาณสามก้อนถูกทุบให้เป็นฝุ่นทันที ดงเฮอเกือบจะกระโดดขึ้นด้วยความตกใจ เมื่อเห็นสิ่งนี้และตะโกนว่า “หลินจิน เจ้ากำลังทำอะไร!”
หลินจินทุบหินอย่างต่อเนื่องในขณะที่เขาพูด “เมื่อเจ้าให้ข้ามาแล้ว มันก็เป็นของข้า ข้าจะทำอะไรกับมันก็ได้ ตามที่ข้าต้องการและไม่มีใครหยุดข้าได้ หินวิญญาณเหล่านี้ดูค่อนข้างแปลก ดูเหมือนว่าชั้นหินวิญญาณจะอยู่ด้านนอกเท่านั้นแต่ว่าภายในว่างเปล่า ไม่ว่าจะมองพวกมันอย่างไร มันก็ดูเหมือน…หินธรรมดา!”
“ผู้ประเมินหลิน ได้โปรดหยุดเดี๋ยวนี้!” ใบหน้าของดงเฮอหน้าซีดเผือด เขาไม่ได้คาดหวังให้หลินจินทุบหินวิญญาณต่อหน้าฝูงชน
อาจเป็นเรื่องยากที่จะระบุได้ว่าหินวิญญาณเป็นของจริงหรือของปลอม แต่เมื่อมันแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย มันก็แทบจะบอกได้อย่างแน่นอน แม้ว่าพวกเขาจะสามารถบอกได้ด้วยวิธีนี้ พลังงานจิตวิญญาณของหินวิญญาณก็จะสลายไปหลังจากที่มันถูกทุบ
ถึงจะมั่นใจเพียงใดก็ไม่มีใครคิดจะใช้วิธีนี้
ไม่มีใครคาดคิดว่าหลินจินจะทุบหินให้ทุกคนได้เห็น พนักงานขนลุกขณะที่เขาสั่นด้วยความกลัว เขารู้ว่าถ้าหลินจินเปิดเผยเรื่องนี้ ดงเฮอคงจะใช้เขาเป็นแพะรับบาปและเขาจะมีปัญหาใหญ่
“หลินจิน เราสามารถพูดคุยเรื่องนี้ได้ ได้โปรดหยุดเดี๋ยวนี้!” ดงเฮอที่หมดความอดทน เขาดูร้อนรนอย่างมาก เนื่องจากแผนการที่เขาจะใช้สั่งสอนหลินจินกลับกลายเป็นว่า มันย้อนกลับมาเล่นงานตัวเขาเอง เขาไม่คิดเลยว่าหลินจินจะกล้าทำถึงขนาดนี้
แต่คำถามต่อไปคือ หลินจินมั่นใจได้อย่างไรว่าหินวิญญาณเหล่านี้เป็นของปลอม?
หลินจินไม่ฟังพวกเขาเลยในขณะที่เขาทุบหินต่อไป ผู้คนในห้องโถงต่างจ้องมองด้วยความตกใจ ในขณะที่บางคนสามารถบอกได้ว่าวันนี้จะเกิดเรื่องใหญ่โต
แผนกพลาธิการของสมาคมได้จัดสรรหินวิญญาณปลอมและมีตำหนิ นี่ไม่ใช่เรื่องเล็ก หากไม่จัดการให้ดี ดงเฮออาจถูกไล่ออกจากตำแหน่งผู้จัดการได้
ทุกเส้นเลือดในร่างกายของดงเฮอเริ่มเดือดพล่าน เขาต้องลงมือทำอะไรสักอย่างแต่เขารู้ว่าเขาทำไม่ได้ อย่างไรก็ตามเขาคิดหาทางออกได้อย่างรวดเร็ว หากเห็นว่ามันยากเกินกว่าจะจัดการกับเรื่องนี้ เขาก็ก้มลงและแสร้งทำเป็นมองทันที
“เกิดอะไรขึ้นกับหินวิญญาณเหล่านี้? ทำไมถึงมีข้อบกพร่องในหมู่พวกมัน? ผู้ประเมินหลิน ท่านทำถูกต้องแล้ว!” หลังจากพูดแบบนี้ ดงเฮอก็พุ่งเข้าใส่ทันทีและตะโกนว่า “ขอให้คนที่รับผิดชอบการประเมินหินวิญญาณและผู้ดูแลคลังวันนี้ออกมาเดี๋ยวนี้!”
แผนกพลาธิการเกิดความโกลาหลทันที
หลินจินเหลือเพียงหินวิญญาณก้อนสุดท้ายซึ่งเป็นผลึกวิญญาณอัคคี เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะใช้ค้อนทุบหินเต็มแรง
คราวนี้ได้ยินเสียงแตกและเสาเพลิงก็ปะทุขึ้น ในเวลาเดียวกัน พลังงานจิตวิญญาณแห่งเพลิงบริสุทธิ์เริ่มกระจายออกไปและทำให้ทุกคนในห้องโถงตื่นตระหนก
ผลึกวิญญาณงอัคคีแผ่ออกมาและแผ่วเบาลงบนมือของหลินจิน
“ผลึกวิญญาณอัคคี!”
ใครบางคนที่มีตาแหลมเห็นและตะโกนออกมา
นั่นมันช่วยไม่ได้ที่จะตำหนิบุคคลนั้นสำหรับปฏิกิริยาดังกล่าวเพราะผลึกวิญญาณอัคคีนั้นอยู่จุดสูงสุดเมื่อเทียบกับหินวิญญาณ ในหมวดหินวิญญาณห้าธาตุ มันเกิดขึ้นโดยธรรมชาติเท่านั้น ดังนั้นมันจึงหายากยิ่ง
สายตาทุกคู่ในห้องจับจ้องไปที่ผลึก ทุกคนต่างน้ำลายไหลด้วยความตกใจและความโล�
ความหายากของสิ่งนี้ไม่คุ้มที่จะแลกเปลี่ยนกับหินวิญญาณคุณภาพสูงสองสามก้อน
เจียเฉียนซึ่งยังคงดูอยู่ก็ตกตะลึงเช่นกัน รูม่านตาขยายออกอย่างไม่เชื่อ ในทางกลับกัน ดงเฮอตัวสั่น เขาเพิ่งพบว่าตัวเองกำลังเดินไปหาหลินจินโดยยื่นมือออกไปแต่หลินจินรีบหดฝ่ามือเข้าหากำปั้นทันที
“ผู้จัดการดง เจ้ากำลังจะทำอะไร?” หลินจินกล่าวพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
ดงเฮอผละออกจากมันและพูดอย่างตื่นเต้น “หลินจิน นั่นเป็นผลึกวิญญาณอัคคี เจ้าเอามันออกไปไม่ได้!”
หลินจินส่ายหัวอย่างทะนงและกล่าวว่า “ตามกฎแล้ว หินวิญญาณเป็นของข้า ดังนั้นสิ่งที่อยู่ในนั้นก็เป็นของข้า รวมทั้งผลึกวิญญาณอัคคีด้วย”
ดงเฮออ้าปากค้างแต่ไม่มีคำพูดใดออกมา
สิ่งที่หลินจินพูดนั้นถูกต้อง กฎก็คือกฎแต่เขารับมันไม่ได้ นั่นคือผลึกวิญญาณอัคคี!
“เอาล่ะ แค่นี้ก็พอแล้ว ถึงเวลาที่ข้าต้องกลับแล้ว” หลินจินรู้ว่างานของเขาเสร็จสิ้นแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาทำ ตั้งแต่การทุบหินเพื่อเปิดเผยการฉ้อโกงของแผนกพลาธิการ ไปจนถึงการเปิดเผยผลึกวิญญาณอัคคี ทั้งหมดนี้อยู่ในแผนของเขา
แม้จะไม่มีเหตุการณ์หินวิญญาณปลอม เจ้าอ้วนดงก็จะมีวันที่ยากลำบากอยู่สองสามวันข้างหน้าอย่างแน่นอน
การเปิดเผยผลึกวิญญาณอัคคีก็เพียงพอแล้วที่ดงเฮอจะเสียใจกับการกระทำของเขาจนถึงก้นบึ้งของหัวใจ
อย่างน้อยความหงุดหงิดของเขาก็ได้รับการปลดปล่อยออกมา